วิเคราะห์ GBPUSD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 16 มิถุนายน 2025

วิเคราะห์ GBPUSD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 16 มิถุนายน 2025
Table of Contents

พบกับวิเคราะห์ GBPUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค อีกทั้งแนวทางในการเข้าออกออเดอร์ ไปจนถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการเทรดคู่เงินแบบละเอียด เรียกได้ว่าครบจบในบทความเดียว!

บทวิเคราะห์ Forex วันนี้ : คู่เงิน GBPUSD

บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน

ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) คาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 4.25% ในการประชุมวันที่ 19 มิถุนายนนี้ หลังจากที่เพิ่งลดดอกเบี้ยลง 0.25% ไปเมื่อเดือนพฤษภาคม ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของวงจรผ่อนคลายทางการเงินอย่างระมัดระวังค่ะ ผู้กำหนดนโยบายกำลังพยายามชั่งน้ำหนักระหว่างสัญญาณเศรษฐกิจที่หลากหลาย โดยเฉพาะความกังวลด้านเงินเฟ้อและภาวะอ่อนแอในตลาดแรงงาน กับภาพรวมเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว หลังจากที่อัตราการว่างงานของสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นเป็น 4.6% และแม้ว่าอัตราการเติบโตของค่าจ้างภาคเอกชนจะยังอยู่ในระดับสูงที่ 5.1% แต่ก็มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องค่ะ

ด้านแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงอยู่ แม้ว่าจะเริ่มเห็นสัญญาณผ่อนคลายบ้าง โดย CPI ทั่วไปประจำเดือนเมษายนถูกปรับลงมาอยู่ที่ 3.4% และคาดว่าจะลดลงอีกเหลือ 3.3% ในเดือนพฤษภาคม ขณะที่เงินเฟ้อในภาคบริการก็เริ่มชะลอลงเช่นกัน อย่างไรก็ดี ความคาดหวังเงินเฟ้อในระยะกลางยังคงสูง โดยคาดการณ์ล่าสุดอยู่ที่ 3.6% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2019 ส่งผลให้ธนาคารกลางอังกฤษมีข้อจำกัดในการลดดอกเบี้ยเชิงรุก เพราะอาจส่งผลให้เงินเฟ้อยังฝังตัวอยู่ในระบบได้

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ต่างคาดว่า BoE จะยังไม่ปรับดอกเบี้ยในรอบนี้ ขณะที่ BoE เองคาดการณ์ว่าจะลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในเดือนสิงหาคมและพฤศจิกายน ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยสิ้นปีอยู่ที่ 3.75% อย่างไรก็ดี ความไม่แน่นอนด้านเงินเฟ้อระยะยาวและปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ อาจยังคงส่งผลกระทบต่อจังหวะการดำเนินนโยบายได้ค่ะ

ด้านเศรษฐกิจของอังกฤษเริ่มชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด โดย GDP เดือนเมษายนหดตัว 0.3% ซึ่งเป็นการลดลงรายเดือนที่แรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 และสวนทางกับการเติบโต 0.7% ในไตรมาสแรก ภาคการผลิตและบริการหดตัวลง ขณะที่ดุลการค้าอังกฤษขาดดุลเพิ่มขึ้นเป็น 5.4 พันล้านปอนด์ โดยเฉพาะการส่งออกไปสหรัฐฯ ที่ลดลงถึง 2 พันล้านปอนด์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกสถิติ แรงกดดันจากภายนอก โดยเฉพาะนโยบายภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตและส่งออกรถยนต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ GDP ลดลง โดย BoE คาดว่า GDP จะเติบโตเพียง 1% ในปี 2025 และอาจถูกปรับลดลงอีกหากความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างประเทศยังคงมีอยู่ค่ะ

นอกจากนี้ ธนาคารกลางอังกฤษยังต้องเผชิญกับความท้าทายจากพัฒนาการด้านการคลัง โดยหากเศรษฐกิจยังโตช้าต่อเนื่อง อาจส่งผลให้เกิดช่องว่างงบประมาณสูงถึง 2 หมื่นล้านปอนด์ภายในปี 2026 ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีการคลัง Rachel Reeves กำลังเดินหน้าด้วยแผนการใช้จ่ายภาครัฐมูลค่า 2 ล้านล้านปอนด์ ซึ่งรวมถึงการลงทุนในที่อยู่อาศัย โครงสร้างพื้นฐาน กลาโหม และพลังงานสะอาด แม้จะมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่แนวทางการคลังที่ขยายตัวมากเช่นนี้ อาจทำให้ภาคส่วนอื่น ๆ ต้องถูกบีบงบประมาณลงค่ะ

อย่างไรก็ดี ภาคก่อสร้างยังคงเติบโตในเดือนเมษายน โดยเพิ่มขึ้น 0.9% ท่ามกลางตลาดอสังหาริมทรัพย์ของอังกฤษที่เริ่มส่งสัญญาณอ่อนแรง โดย RICS รายงานดัชนีราคาบ้านต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2024 ความต้องการซื้อและยอดขายชะลอลงจากภาษีธุรกรรมอสังหาฯ ใหม่และความไม่แน่นอนด้านดอกเบี้ย

ด้านฝั่งสหรัฐฯ เผชิญกับความท้าทายทางการเงินและการคลังเช่นกัน โดยหนี้สาธารณะของรัฐบาลกลางแตะระดับ 36.22 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 100% ของ GDP และอาจพุ่งไปถึง 120% ภายใน 10 ปี หากขาดดุลงบประมาณยังคงดำเนินต่อไป โดยหนี้ที่เพิ่มขึ้นทำให้ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้น และสร้างความกังวลต่อเงินเฟ้อและการลงทุนภาคเอกชนค่ะ

ในขณะเดียวกัน พรรครีพับลิกันกำลังผลักดันแผนการใช้จ่ายขนาดใหญ่ มูลค่า 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโดนัลด์ ทรัมป์ แผนนี้รวมถึงการลดภาษีและเพิ่มงบกลาโหม โดยสำนักงานงบประมาณรัฐสภาและ Moody’s เตือนว่าแผนดังกล่าวอาจทำให้ขาดดุลงบประมาณพุ่งขึ้น และส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือด้านการคลัง แม้ผู้นำพรรครีพับลิกันจะยืนยันว่าแผนนี้จะไม่ทำให้สถานะการคลังแย่ลงก็ตาม

ทั้งนี้ การวิเคราะห์จาก UBS ระบุว่า การปฏิรูปภาษีตามแผนอาจกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยคาดว่า PCE จะเติบโตเฉลี่ย 3% ต่อปีในช่วงปี 2025–2028 แต่อาจถูกหักล้างด้วยการตัดงบสวัสดิการของรัฐและการปฏิรูปนโยบายกู้ยืมเพื่อการศึกษา อีกทั้งผลกระทบจะแตกต่างกันไปตามกลุ่มรายได้ โดยครัวเรือนรายได้น้อยอาจมีรายได้สุทธิลดลงถึง 5.7% ขณะที่กลุ่มรายได้สูงอาจได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น 2.1% ซึ่งกลุ่มหลังนี้ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการบริโภคค่ะ

ในขณะเดียวกัน BCA Research ก็เตือนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จากปัญหาดุลบัญชีเดินสะพัด แม้จะมองในระยะยาวว่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่า แต่ก็แนะนำให้นักลงทุนถือสถานะ long แบบระยะสั้นตามสัญญาณทางเทคนิค สำหรับนักลงทุนสายกลยุทธ์นั้น BCA แนะนำให้ “ขายเมื่อราคาดีดตัวขึ้น” ในช่วงที่ดอลลาร์แข็งค่า เพราะคาดว่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าต่อเนื่องในระยะยาวจากปัจจัยเชิงโครงสร้างค่ะ

ท้ายนี้ ตลาดการเงินทั่วโลกยังคงตอบสนองไวต่อสัญญาณเศรษฐกิจมหภาคและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) คาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมถัดไป แต่ข้อมูลยอดค้าปลีกที่กำลังจะประกาศ รวมถึงแนวโน้มคำแถลงในอนาคต จะมีบทบาทสำคัญต่อการคาดการณ์เรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปี โดยเฉพาะในบริบทที่ทรัมป์กำลังพิจารณาบุคคลที่จะมาเป็นประธาน Fed คนถัดไปค่ะ

ทั้งนี้ ในเชิงมหภาค หาก BoE คงดอกเบี้ย แต่ส่งสัญญาณผ่อนคลายในเดือนสิงหาคมหรือพฤศจิกายน ก็อาจทำให้ GBPUSD หลุดระดับ 1.3500 และมีโอกาสลงไปทดสอบ 1.3420 ได้ โดยหากปิดรายสัปดาห์ต่ำกว่า 1.3400 จะเป็นการลบล้างโครงสร้างขาขึ้นล่าสุด และเปิดทางไปสู่ช่วง 1.3250–1.3300

ในทางกลับกัน หากสามารถฝ่าแนวต้านและปิดรายวันเหนือ 1.3620 ได้ ก็จะเป็นการยืนยันแนวโน้มขาขึ้นต่อ โดยมีเป้าหมายต่อไปที่ 1.3700 และอาจไปถึง 1.3820

บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค

ในทางเทคนิค คู่สกุลเงิน GBPUSD กำลังเข้าใกล้แนวต้านสำคัญ พร้อมส่งสัญญาณถึงแรงซื้อที่เริ่มอ่อนแรงลง หลังจากฟื้นตัวขึ้นจากแรงหนุนของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง และการปิดสถานะ short ก่อนการประชุม BoE วันที่ 19 มิถุนายน แม้ราคาในตอนนี้จะกำลังชนแนวต้านหลายจุดที่อาจจำกัด upside ได้ค่ะ

แนวต้านสำคัญอยู่ที่ช่วง 1.3580–1.3620 อินดิเคเตอร์โมเมนตัมแสดงถึงแรงส่งที่เริ่มลดลง โดย RSI บนกราฟรายวันเข้าใกล้ระดับ 65 และ MACD ก็เริ่มอ่อนแรง ขณะที่ฝั่งแนวรับใกล้เคียงคือบริเวณ 1.3480–1.3500 ใกล้กับเส้นค่าเฉลี่ย EMA 21 วัน หากหลุดลงไปอีก แนวรับต่อไปจะอยู่ที่ช่วง 1.3400–1.3420 ค่ะ โดยนักลงทุนอาจเลือกขายเมื่อราคาดีดขึ้นเข้าใกล้แนวต้าน 1.3600–1.3620 เว้นแต่จะสามารถฝ่าแนว 1.3700 ได้พร้อมปัจจัยบวกจาก BoE หรือเศรษฐกิจมหภาคค่ะ

📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค

  • แนวรับสำคัญ : 1.3541, 1.3539, 1.3534
  • แนวต้านสำคัญ : 1.3551, 1.3553, 1.3558

ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลต่อคู่เงิน GBPUSD

ที่มา : Forexfactory

⭐ คุณน้าแนะนำโบรกเกอร์คุณสมบัติเด่น!

การเลือกโบรกเกอร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ สำหรับการเทรด Forex ค่ะ

เพราะโบรกเกอร์จะพัฒนาระบบและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเทรดของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นให้ได้มากที่สุด

สำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มั่นใจว่า โบรกเกอร์ Forex แบบไหนดี?

คุณน้าได้รวบรวมการจัดอันดับของโบรกเกอร์ในทุกคุณสมบัติ เช่น สเปรดต่ำ, เทรดทอง หรือโบนัสฟรี


มือใหม่หัดเทรดที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? คุณน้าได้รวบรวมเนื้อหาสำคัญที่ถือเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับการเทรด Forex มาไว้ให้แล้วที่นี่!


สรุปวิเคราะห์ GBPUSD

จุดน่าเข้า Buy

  • Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3529 – 1.3541 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 1.3541 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3551 และ SL ที่ประมาณ 1.3523 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
  • Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3551 – 1.3563 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3568 และ SL ที่ประมาณ 1.3535 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

จุดน่าเข้า Sell

  • Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3551 – 1.3563 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้าน 1.3551 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3538 และ SL ที่ประมาณ 1.3569 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
  • Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 1.3529 – 1.3541 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3524 และ SL ที่ประมาณ 1.3557 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

คำเตือน

การให้ข้อมูลการวิเคราะห์คู่เงิน Forex ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค เป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจการลงทุน


สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

Picture of คุณน้า
คุณน้า
Recent Post
วิเคราะห์ GBPUSD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 16 มิถุนายน 2025
วิเคราะห์ GBPUSD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 16 มิถุนายน 2025

พบกับวิเคราะห์ GBPUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

บทวิเคราะห์คู่เงิน USDCHF 14 มิถุนายน 2025
บทวิเคราะห์ USDCHF วันที่ 14 มิถุนายน 2025

พบกับวิเคราะห์ USDCHF ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

บทวิเคราะห์คู่เงิน AUDUSD 13 มิถุนายน 2025
บทวิเคราะห์ AUDUSD วันที่ 13 มิถุนายน 2025

พบกับวิเคราะห์ AUDUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

[elfsight_cookie_consent id="1"]

ทางเว็บไซต์ คุณน้าพาเทรด
ได้มีการใช้คุกกี้เพื่อช่วยปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้เว็บไซต์ของเราดียิ่งขึ้น


Privacy Policy