สวัสดีค่ะ เป็นอย่างไรกันบ้างคะนักเทรดทั้งหลาย หลายคนอาจจะยังลังเลกับการเริ่มต้นลงทุน หรืออาจจะยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะใช้โบรกเกอร์ไหนในการเทรดดี
ดังนั้น ในวันนี้คุณน้าจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับอีกหนึ่งโบรกเกอร์ที่ชื่อว่า Pepperstone ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่เทรดเดอร์รายย่อยไปจนถึงนักลงทุนในสถาบันการเงิน เรามาดูไปพร้อม ๆ กันดีกว่าค่ะว่า โบรกเกอร์ Pepperstone มีความน่าสนใจอย่างไร? และที่สำคัญอย่าลืมติดตามผลคะแนนรีวิวโบรกเกอร์จากคุณน้าด้วยนะคะ
ข้อมูลเบื้องต้น Pepperstone
Pepperstone เป็นโบรกเกอร์สัญชาติออสเตรเลีย มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเมลเบิร์น ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2010 โดยกลุ่มนักเทรดที่มีประสบการณ์ ซึ่งทางโบรกเกอร์ Pepperstone ได้ให้บริการส่งคำสั่งซื้อ-ขายผลิตภัณฑ์ CFD หลากหลายชนิดด้วยกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Forex, สินค้าโภคภัณฑ์, ETF, หุ้น และสกุลเงินดิจิทัล เป็นต้น
สำหรับการส่งคำสั่งซื้อขายแต่ละครั้ง ทางโบรกเกอร์จะใช้หลักของ No-Dealing Desk (NDD) ซึ่งมีการส่งคำสั่งไปที่ตลาดกลางโดยตรงไม่ผ่านเซิร์ฟเวอร์กลางของตัวโบรกเกอร์เอง อีกทั้งทางหน้าเว็บไซต์ยังให้บริการในหลายภาษา ได้แก่ ภาษาไทย, อังกฤษ, สเปน, โปรตุเกส, แมนดาริน, เวียดนาม, ตุรกี, อิตาลี, ฝรั่งเศส และอารบิก เป็นต้น รวมทั้งยังให้บริการครอบคลุมถึง 176 ประเทศอีกด้วยค่ะ
นอกจากนี้ ทางโบรกเกอร์ Pepperstone ยังได้รับใบอนุญาตและการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือทั้งหมด 7 หน่วยงานด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น SCB, CMA, DFSA, CYSEC, ASIC, BAFIN และ FCA
ประเภทบัญชี Pepperstone
โบรกเกอร์ Pepperstone มีบัญชีทั้งหมด 2 ประเภทด้วยกัน คือ 1. บัญชี Razor และ 2. บัญชี Standard โดยบัญชี Razor จะคิดค่าคอมมิชชันอยู่ที่ $3.5 Per Lot, Per side ส่วนบัญชี Standard ไม่คิดค่าคอมมิชชันค่ะ
สำหรับการให้ Leverage สูงสุด ทางโบรกเกอร์ Pepperstone ให้ Leverage ในบัญชี Razor และบัญชี Standard เหมือนกันค่ะ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- นักลงทุนรายย่อย : Leverage สูงสุดอยู่ที่ 1:200
- นักลงทุน Pro* : Leverage สูงสุดอยู่ที่ 1:500
นอกจากนี้ ทาง Pepperstone ยังรองรับการซื้อขายใน 10 สกุลเงิน ได้แก่ AUD, USD, JPY, GBP, EUR, CAD, CHF, NZD, SGD และ HKD
* หมายเหตุ: ในกรณีที่นักลงทุนรายย่อยต้องการอัปเกรดเป็นนักลงทุน Pro สามารถทำได้ผ่านกระบวนการรับรองตนเอง โดยเข้าไปที่ Secure Client Area และตอบคำถามที่ทางโบรกเกอร์กำหนด เพื่อแสดงให้เห็นว่า คุณมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดค่ะ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- มีประสบการณ์ในการซื้อขายอนุพันธ์ทางการเงิน CFD หรือ OTC
- มีเงินฝากและพอร์ตการซื้อขายเกิน $500,000
- มีประสบการณ์การทำงานในสถาบันการเงิน
⭐ สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า Pepperstone
🔍 สำหรับนักลงทุนรายย่อย
– Leverage 1:200 และระดับ Stop out ของคุณจะถูกกำหนดไว้ที่ 50% – โปรแกรมแนะนำเพื่อน : คุณและเพื่อนสามารถซื้อขาย โดยไม่มีค่าคอมมิชชันได้จำนวน 20 ครั้ง เมื่อคุณแนะนำเพื่อนผ่านโปรแกรมที่ทางโบรกเกอร์กำหนด (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข) |
🔍 สำหรับนักลงทุน Pro
– Leverage 1:500 และระดับ Stop out ของคุณจะถูกกำหนดไว้ที่ 20% – โปรแกรมแนะนำเพื่อน : คุณและเพื่อนสามารถรับโบนัสสูงสุด $1,000 เมื่อคุณแนะนำเพื่อนผ่านโปรแกรมที่ทางโบรกเกอร์กำหนด (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข) – สำหรับลูกค้าที่มีการซื้อขายกับ Pepperstone อยู่แล้ว ยิ่งคุณซื้อขายมากเท่าไหร่ คุณก็จะได้รับ Rebate มากขึ้นเท่านั้น – สามารถเทรดได้ทั้ง 4 แพลตฟอร์มที่ทางโบรกเกอร์นำเสนอและสามารถใช้ EAs ได้ |
* หมายเหตุ: การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดี ก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้งนะคะ และเงื่อนไขการรับสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า Pepperstone ก็เป็นไปตามที่เงื่อนไขที่ทางโบรกเกอร์กำหนด โดยคุณสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
ค่าสเปรดของ Pepperstone
ทางโบรกเกอร์ Pepperstone คิดค่า Spread แปรผันเริ่มต้นอยู่ที่ 0.0 pips และมีการคิดค่า Swap ค่ะ ซึ่งคุณน้าขอยกตัวอย่างเป็น 3 คู่สกุลเงินยอดนิยม โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
คู่เงินยอดนิยม | ค่า Spread เฉลี่ย ในบัญชี Razor | ค่า Spread เฉลี่ย ในบัญชี Standard |
---|---|---|
EURUSD | 0.20 pips | 0.77 pips |
GBPUSD | 0.40 pips | 1.40 pips |
USDJPY | 0.30 pips | 1.30 pips |
⭐ สำหรับการคิดค่าสเปรดเริ่มต้นของทางโบรกเกอร์ Pepperstone นั้น คุณน้ามองว่า ค่าสเปรดค่อนข้างต่ำ โดยเฉพาะในบัญชี Razor ค่ะ ซึ่งเทรดเดอร์สามารถเทรดผ่าน Social Trading ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเทรดผ่าน MetaTrader และ Myfxbook ทำให้เพิ่มช่องทางเลือกในการเทรดที่หลากหลายมากขึ้นนั่นเอง
ช่องทางการฝาก – ถอนของ Pepperstone
สำหรับช่องทางการฝาก-ถอนของ Pepperstone นั้น มีหลากหลายช่องทางด้วยกันค่ะ อีกทั้งยังไม่มีการฝาก-ถอนเงินขั้นต่ำอีกด้วย โดยช่องทางการฝาก-ถอนเงินมีรายละเอียด ดังนี้
- Visa
- Mastercard
- การโอนผ่านธนาคาร
- UnionPay
- PayPal
- Skrill
- Neteller
- Bpay
- USDT
📌สำหรับระยะเวลาการฝาก-ถอนเงินของ Pepperstone จะใช้เวลาดำเนินการไม่เกิน 1 วันทำการ
Platform ที่รองรับสำหรับ Pepperstone
สำหรับ Platform ที่รองรับการเทรด ทางโบรกเกอร์มีทั้งหมด 4 แพลตฟอร์ม ได้แก่
- MetaTrader 4
- MetaTrader 5
- cTrader
- TradingView
ผลิตภัณฑ์ที่ Pepperstone ให้บริการ
โบรกเกอร์ Pepperstone มีผลิตภัณฑ์ CFD สำหรับการเทรดกว่า 1,200 รายการ โดยมีสินทรัพย์ CFD ยอดนิยม ดังนี้
- Forex
- สินค้าโภคภัณฑ์
- ETF
- หุ้น
- สกุลเงินดิจิทัล
- ดัชนีสกุลเงิน
- Futures
📢 คำแนะนำจากคุณน้า
หลังจากทำความรู้จักกับโบรกเกอร์ Pepperstone กันพอสมควรแล้ว จะเห็นว่าโบรกเกอร์นี้เริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่เทรดเดอร์ชาวไทยเป็นอย่างมากค่ะ เพราะทางโบรกเกอร์มีผลิตภัณฑ์ CFD ที่ให้บริการหลากหลาย อีกทั้งยังเป็นโบรกเกอร์ที่มีเครื่องมือการซื้อขายถึง 28 เครื่องมือ เช่น MetaTrader, cTrader Automate, Autochartist และ Code-free automation with Capitalise.ai เป็นต้น
อย่างไรก็ดี เทรดเดอร์ควรศึกษารายละเอียดของตัวโบรกเกอร์ให้ดี ก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง เพราะทุกการลงทุนมีความเสี่ยงและเพื่อให้การเลือกโบรกเกอร์นั้นเหมาะกับสไตล์การเทรดของคุณที่สุด และที่สำคัญไปกว่านั้น ก็เพื่อป้องกันการสูญเสียเงินทุนของเรานั่นเอง ซึ่งคุณน้าขอนำเสนอจุดเด่น-จุดด้อยของ Pepperstone สำหรับใครที่กำลังสนใจโบรกเกอร์นี้อยู่ค่ะ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
จุดเด่น
- มีค่าคอมมิชชันต่ำ
- ไม่มีขั้นต่ำในการฝาก-ถอน
- เป็นโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ
- ไม่มีค่าธรรมเนียมหากไม่มีการเคลื่อนไหวบัญชี
- ได้รับรางวัลระดับโลกจาก TradingView มากมาย สำหรับการเป็นโบรกเกอร์แห่งปี
- มีความเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขายอยู่ที่ 30 Milliseconds
- มี Customer Support ให้บริการตลอด 24/5
- ค่าสเปรดค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับหลาย ๆ โบรก
- รองรับหลายแพลตฟอร์ม
จุดด้อย
- มีประเภทบัญชีในการเลือกเทรดค่อนข้างน้อย
- ไม่มีโบนัส แต่มีโปรแกรมแนะนำเพื่อน
- เลเวอเรจค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่น ๆ
- มีค่า Swap
⭐ สรุปคะแนนจากคุณน้า : 8 / 10 ⭐
⚠️ รีวิวจากผู้ใช้งาน Pepperstone
Link: https://www.trustfinance.com/companies/pepperstone
สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge