พบกับวิเคราะห์ USDJPY ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค อีกทั้งแนวทางในการเข้าออกออเดอร์ ไปจนถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการเทรดคู่เงินแบบละเอียด เรียกได้ว่าครบจบในบทความเดียว!
บทวิเคราะห์ Forex วันนี้ : คู่เงิน USDJPY
บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน
ค่าเงินเอเชียเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยบรรยากาศการซื้อขายถูกกดดันจากข้อมูลเงินเฟ้อของจีนที่อ่อนแอและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ–จีน ก่อนถึงเส้นตายสำคัญ ขณะที่ความตึงเครียดทางการค้ายังคงอยู่ จากมาตรการเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และการเตรียมหารือระหว่างรัสเซีย–สหรัฐฯ เรื่องระดับภาษีนำเข้าของอินเดียและจีนค่ะ
ดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัว ขณะที่นักลงทุนรอเหตุการณ์สำคัญ ได้แก่ การประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนกรกฎาคมของสหรัฐฯ เส้นตายข้อตกลงภาษีระหว่างสหรัฐฯ–จีน และการพบปะระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ขณะที่การปรับขึ้นของดัชนีดอลลาร์ถูกจำกัดด้วยความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน โดยตลาดให้น้ำหนักความเป็นไปได้เกิน 90% และอาจมีการปรับลดเพิ่มอีก 2 ครั้งภายในสิ้นปี
ทิศทางนโยบายของ Fed ยังคงซับซ้อนจากข้อมูลการจ้างงานและการผลิตที่อ่อนแอ บ่งชี้ถึงตลาดแรงงานที่ชะลอตัว แม้อัตราเงินเฟ้อยังอยู่เหนือเป้าหมาย 2% นักวิเคราะห์คาดว่า Core CPI เดือนกรกฎาคมจะเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน อย่างไรก็ตาม ผลกระทบด้านเงินเฟ้อจากภาษีนำเข้า อาจทำให้ Fed ต้องระมัดระวังมากขึ้น โดยมีการคาดการณ์ว่า Headline CPI จะอยู่ที่ 2.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งมอร์แกน สแตนลีย์ ชี้ว่า ผลกระทบจากภาษีมักปรากฏชัดหลังผ่านไป 3–5 เดือน เนื่องจากปัจจัยด้านการขนส่งและการบริหารสินค้าคงคลัง โดยในบางอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์ จะเลื่อนการขึ้นราคาจนกว่าจะมีการเปิดตัวรุ่นใหม่
ในตลาดพันธบัตร ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี และ 10 ปี ลดลงราว 25 จุดพื้นฐาน ตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม แต่คาดว่าจะมีทิศทางต่างกันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เส้นอัตราผลตอบแทนอาจชันขึ้นจากอัตราระยะสั้นที่ลดลง ขณะที่อัตราระยะยาวยังคงสูงจากการออกพันธบัตรจำนวนมาก ความกังวลทางการคลัง และพรีเมียมระยะยาวที่สูงขึ้น โดยนักวิเคราะห์คาดว่าผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีจะอยู่ใกล้ 4.30% และพันธบัตรอายุ 2 ปีจะลดลงใกล้ 3.50% ในปีหน้า
ในญี่ปุ่น การใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นเพียง 1.3% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก โดยการซื้ออาหารลดลงเป็นครั้งแรกในรอบสามเดือน ค่าจ้างที่แท้จริงลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่หก สะท้อนการบริโภคที่ซบเซา แม้ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะรักษาอัตราเงินเฟ้อให้อยู่เหนือเป้าหมาย 2% มานานกว่าสามปี แต่ความต้องการภายในประเทศที่อ่อนแอและการปรับลดคาดการณ์ GDP เหลือ 0.7% อันมีสาเหตุจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยกดดัน ท่ามกลางการเติบโตของค่าจ้าง แม้จะแตะระดับสูงสุดในรอบ 34 ปีที่ 5.25% แต่ก็ยังไม่ทันต่อการปรับขึ้นของราคา ทำให้ความหวังต่อการฟื้นตัวที่ขับเคลื่อนด้วยการบริโภคลดลงค่ะ
ขณะเดียวกัน ความไม่แน่นอนทางการเมืองทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากพรรคร่วมรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชิเกรุ อิชิบะ พ่ายแพ้อย่างหนักในการเลือกตั้ง ทำให้เกิดเสียงเรียกร้องภายในพรรค LDP ให้เขาลาออก โดยการเปลี่ยนผู้นำอาจส่งผลต่อนโยบายการคลัง การกำหนดงบประมาณ และการตัดสินใจของ BOJ ที่แม้จะมีการคาดว่าจะไม่มีการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกันยายน แต่นักวิเคราะห์มองว่า มีความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นภายในปีนี้ ขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจและผลกระทบจากภาษีนำเข้า ขณะที่ตำแหน่งที่อ่อนแอของอิชิบะอาจเอื้อต่อการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น
ด้านนักลงทุนญี่ปุ่นในเดือนกรกฎาคม ทำการขายหุ้นต่างประเทศต่อเนื่องเป็นเดือนที่สามเพื่อทำกำไรหลังราคาปรับขึ้นแรง พร้อมทั้งเข้าซื้อพันธบัตรต่างประเทศจำนวนมากท่ามกลางเงินเยนที่อ่อนค่า ขณะที่ในการประชุมเดือนกรกฎาคม BOJ ได้หารือถึงโอกาสการขึ้นดอกเบี้ย โดยฝ่ายที่มีท่าทีเข้มงวดให้เหตุผลจากเงินเฟ้อที่สูงและมุมมองเชิงบวกหลังข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ–ญี่ปุ่น ท่ามกลางสมาชิกสภาเศรษฐกิจที่เตือนว่านโยบายการเงินมีความเสี่ยงที่จะล่าช้ากว่าทิศทางเศรษฐกิจ เนื่องจากเงินเฟ้อที่สูงกว่ากรอบเป้าหมายยังคงบั่นทอนค่าจ้างที่แท้จริง
ด้านการเจรจาการค้ากับวอชิงตันมีความคืบหน้า หลังสหรัฐฯ เห็นชอบเรื่องการแก้คำสั่งประธานาธิบดีเพื่อป้องกันการเก็บภาษีซ้ำซ้อนต่อสินค้าญี่ปุ่นและคืนภาษีที่เก็บเกิน พร้อมลดภาษีนำเข้ารถยนต์เหลือ 15% ตามข้อตกลงทวิภาคี ซึ่งช่วยกระตุ้นบรรยากาศตลาด ส่งผลให้ดัชนี Topix ขึ้นเหนือ 3,000 จุด ขณะที่ญี่ปุ่นยังคงให้คำมั่นลงทุนในสหรัฐฯ สูงสุด 550 พันล้านดอลลาร์ผ่านเงินกู้และการค้ำประกันจากภาครัฐ
ทั้งนี้ การคาดการณ์เศรษฐกิจล่าสุดของโตเกียวชี้ว่า GDP ปีงบประมาณหน้าจะเติบโตที่ 0.9% จากแรงหนุนค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนทางการเมืองและความเป็นไปได้ของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังอาจเปลี่ยนแนวโน้มดังกล่าว แม้รัฐบาลจะยังคงตั้งเป้าการเกินดุลทางการคลังขั้นต้นในปี 2026 แต่เสียงเรียกร้องให้ลดภาษีและแจกเงินสดเพิ่มอาจกระทบต่อเป้าหมายดังกล่าว
สำหรับคู่เงิน USDJPY คุณน้าเห็นว่ากำลังแสดงสัญญาณของการเคลื่อนไหวในกรอบแคบอย่างต่อเนื่อง หลังจากอ่อนตัวจากจุดสูงสุดในรอบหลายเดือน ปัจจัยพื้นฐานยังคงถูกขับเคลื่อนด้วยความแตกต่างของนโยบายการเงินระหว่าง Fed และ BOJ โดยท่าทีระมัดระวังของ Fed ที่มีต่อการลดดอกเบี้ย ท่ามกลางเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ยังคงสูง ยังเป็นแรงหนุนต่อค่าเงินดอลลาร์ ขณะที่นโยบายการเงินผ่อนคลายของญี่ปุ่นและการปรับตัวของเงินเฟ้อที่ล่าช้ายังคงกดดันค่าเงินเยน อย่างไรก็ดี ความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการขาดดุลการค้าของญี่ปุ่น และความเป็นไปได้ที่ทางการญี่ปุ่นจะออกมาส่งสัญญาณแทรกแซงเพื่อสกัดเงินเยนอ่อนค่า อาจสร้างความไม่แน่นอนให้กับแนวโน้ม นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ยังสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนอย่างใกล้ชิด โดยหากอัตราผลตอบแทนกลับมาลดลงอีกครั้ง ก็มีโอกาสที่เยนจะกลับมาแข็งค่าได้ คุณน้าประเมินว่าโดยรวมแล้ว แนวโน้มพื้นฐานของ USDJPY ยังคงค่อนข้างเป็นบวกในระยะสั้น แต่ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายหรือการแทรกแซงจากฝั่งญี่ปุ่นอาจจำกัดโอกาสการปรับขึ้นต่อไปได้ค่ะ
บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค

คู่เงิน USDJPY ล่าสุด ซื้อขายโดยมีลักษณะการเคลื่อนไหวที่ยังคงอยู่ในช่วงสะสมกำลังต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบสี่เดือนเล็กน้อย ราคายังคงเคลื่อนไหวเหนือแนวรับสำคัญในโซน 147.20–147.40 ซึ่งบ่งชี้ว่าโครงสร้างระยะสั้นยังคงมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นอยู่ค่ะ
ตราบใดที่คู่สกุลเงินนี้ยังสามารถยืนเหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันที่อยู่ราว ๆ 146.50 ได้ ทิศทางขาขึ้นยังคงเป็นไปได้ โดยแนวต้านถัดไปที่ควรจับตาอยู่ที่ 148.20 หากสามารถทะลุผ่านระดับนี้ได้อย่างชัดเจน ก็อาจเปิดทางไปสู่ระดับจิตวิทยาที่ 149.00 และต่อเนื่องไปยังโซน 150.00 ซึ่งเป็นบริเวณที่มีความอ่อนไหวต่อการแทรกแซงจากทางการญี่ปุ่นค่ะ
ในด้านของโมเมนตัม อินดิเคเตอร์ยังคงอยู่ในแดนบวก แต่ดัชนี RSI กำลังเข้าใกล้ระดับที่บ่งชี้ว่าอาจมีภาวะซื้อมากเกินไป ซึ่งเป็นสัญญาณว่าอาจมีการย่อตัวในระยะสั้น หรือเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ก่อนที่จะพยายามปรับตัวขึ้นอีกครั้งค่ะ
อย่างไรก็ตาม หากราคาหลุดระดับ 147.20 ลงไป ก็อาจเห็นการปรับฐานต่อเนื่องไปยัง 146.50 และอาจลึกถึง 145.80 ซึ่งเป็นบริเวณที่คาดว่าจะมีแรงซื้อเข้ามารองรับมากขึ้นค่ะ
โดยรวมแล้ว มุมมองทางเทคนิคยังคงให้น้ำหนักกับการค่อย ๆ ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่แรงส่งฝั่งขาขึ้นอาจชะลอตัวลง หากไม่มีปัจจัยพื้นฐานใหม่ ๆ เข้ามาหนุน ส่งผลให้ค่าเงินคู่นี้อาจเผชิญกับการอ่อนตัวชั่วคราวค่ะ
📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค
- แนวรับสำคัญ : 147.59, 147.36, 146.99
- แนวต้านสำคัญ :148.33, 148.56, 148.93
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลต่อคู่เงิน USDJPY

ที่มา : Forexfactory

⭐ คุณน้าแนะนำโบรกเกอร์คุณสมบัติเด่น!
การเลือกโบรกเกอร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ สำหรับการเทรด Forex ค่ะ
เพราะโบรกเกอร์จะพัฒนาระบบและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเทรดของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นให้ได้มากที่สุด
สำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มั่นใจว่า โบรกเกอร์ Forex แบบไหนดี?
คุณน้าได้รวบรวมการจัดอันดับของโบรกเกอร์ในทุกคุณสมบัติ เช่น สเปรดต่ำ, เทรดทอง หรือโบนัสฟรี

💡 คัมภีร์เริ่มต้น มือใหม่หัดเทรด
มือใหม่หัดเทรดที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? คุณน้าได้รวบรวมเนื้อหาสำคัญที่ถือเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับการเทรด Forex มาไว้ให้แล้วที่นี่!
🔍 ตัวอย่างเนื้อหา มือใหม่หัดเทรดต้องรู้!
สรุปวิเคราะห์ USDJPY
จุดน่าเข้า Buy
- Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 146.89 – 147.59 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 147.59 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 148.35 และ SL ที่ประมาณ 146.54 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 148.33 – 149.03 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 149.34 และ SL ที่ประมาณ 147.24 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดน่าเข้า Sell
- Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 148.33 – 149.03 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 148.33 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 147.38 และ SL ที่ประมาณ 149.38 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 146.89 – 147.59 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 146.41 และ SL ที่ประมาณ 148.68 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
คำเตือน
การให้ข้อมูลการวิเคราะห์คู่เงิน Forex ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค เป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจการลงทุน
สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge