พบกับวิเคราะห์ USDJPY ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค อีกทั้งแนวทางในการเข้าออกออเดอร์ ไปจนถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการเทรดคู่เงินแบบละเอียด เรียกได้ว่าครบจบในบทความเดียว!
บทวิเคราะห์ Forex วันนี้ : คู่เงิน USDJPY
บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน
เศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาสที่สองเติบโตเร็วกว่าที่คาดไว้ค่ะ โดย GDP ขยายตัว 1% เมื่อเทียบกับปีก่อน และ 0.3% จากไตรมาสก่อนหน้า การส่งออกที่แข็งแกร่งและการใช้จ่ายเพื่อลงทุนที่สูงขึ้น ช่วยชดเชยผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐได้พอสมควรค่ะ ท่ามกลางบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ที่เลือกดูดซับต้นทุนภาษีด้วยการลดราคา ส่วนการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนยังคงมีเสถียรภาพ ทำให้มีการคาดการณ์ว่า BOJ อาจกลับมาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งภายในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงก็ยังมีอยู่ค่ะ เช่น อุปสงค์โลกที่เริ่มอ่อนตัวลง และแรงกดดันจากภาษีนำเข้าที่กำลังดำเนินอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลญี่ปุ่นเองก็สะท้อนความกังวลนี้ด้วยการปรับลดคาดการณ์การเติบโตแบบปรับเงินเฟ้อลงจาก 1.2% เหลือ 0.7% ค่ะ
ในช่วงเดียวกันนั้น ก็มีถ้อยแถลงจากรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ Scott Bessent ที่วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมาว่า BOJ ล่าช้าเกินไปในการรับมือกับเงินเฟ้อ โดยคำพูดดังกล่าวถูกมองว่าเป็นแรงกดดันให้ญี่ปุ่นเข้มงวดนโยบายการเงินมากขึ้น และเพื่อให้เงินเยนแข็งค่า อย่างไรก็ดี ฝ่ายญี่ปุ่นก็ออกมาปฏิเสธความคิดที่จะเข้าแทรกแซงนโยบาย ขณะที่ตลาดการเงินกลับตอบสนองทันที ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรและค่าเงินเยนพุ่งสูงขึ้นจากความคาดหวังว่า BOJ อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็ว ๆ นี้ โดยตลาด Swap ในขณะนี้ให้โอกาสราวสองในสามว่า BOJ จะขยับอัตราดอกเบี้ยภายในเดือนธันวาคม ท่ามกลางการประชุมสำคัญในเดือนกันยายนและตุลาคมที่จะถึงนี้ค่ะ
ด้านแนวโน้มเงินเฟ้อของญี่ปุ่นยังคงหลากหลายค่ะ ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ยังคงสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของ BOJ มานานกว่า 3 ปี โดยได้รับแรงหนุนจากราคาสินค้าอาหาร พลังงาน และค่าแรงที่สูงขึ้น แม้ว่าข้อมูลล่าสุดจะบ่งชี้ถึงแรงกดดันเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลงในระดับราคาขายส่งและราคาผู้ผลิต แต่ราคาสินค้าอาหารก็ยังคงปรับขึ้น ท่ามกลางภายในของ BOJ ที่มีการถกเถียงกันเข้มข้นขึ้น ผู้ว่าการ Kazuo Ueda ยังเน้นความระมัดระวัง โดยเห็นว่าเงินเฟ้อพื้นฐานที่สะท้อนอุปสงค์ในประเทศยังไม่เพียงพอ ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งต้องการให้เน้นตัวเลขเงินเฟ้อที่เห็นชัดมากกว่า เช่น ดัชนีราคาทั่วไป
ทางฝั่งสหรัฐฯ ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลงเล็กน้อย โดยตลาดจับตามองการประชุมของประธานาธิบดีทรัมป์กับผู้นำรัสเซียและยูเครน ส่งผลให้ตลาดตอบสนองอย่างระมัดระวังค่ะ ขณะเดียวกัน ความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยขนาดใหญ่ของเฟดในเดือนกันยายนก็เริ่มลดลง เพราะข้อมูลเงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิตและยอดขายปลีกยังออกมาแข็งแรง อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนสิงหาคมกลับลดลง เนื่องจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อเริ่มกลับมาอีกครั้ง ขณะที่ราคาสินค้าคงทนมีการปรับตัวสูงขึ้น จนกลายเป็นภาระสำหรับผู้บริโภคค่ะ
ด้านยอดสินค้าคงคลังของธุรกิจในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 0.2% โดยเฉพาะในภาคยานยนต์ หลังจากเคยเป็นตัวถ่วง GDP ในช่วงต้นปี ส่งผลให้การเติบโตของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่สองดีดกลับมาอยู่ที่ 3.0% ท่ามกลางการผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนกรกฎาคมที่ยังคงทรงตัว แม้ว่าการผลิตในกลุ่มอากาศยาน อุปกรณ์ไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์ จะช่วยพยุงสถานการณ์ไว้บ้าง แต่การผลิตโดยรวมลดลง 0.1% และอัตราการใช้กำลังการผลิตก็ลดลงเล็กน้อย สะท้อนถึงความตึงเครียดในภาคอุตสาหกรรมที่ยังไม่คลี่คลายค่ะ
ทั้งนี้ ราคานำเข้าในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 0.4% นำโดยราคาพลังงานและสินค้าบริโภค ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาษีนำเข้ากำลังซึมซับเข้าสู่ระดับราคาสินค้าโดยรวม ส่วนยอดขายปลีกในเดือนเดียวกันเพิ่มขึ้น 0.5% ได้แรงหนุนจากยอดขายรถยนต์และส่วนลดจากห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ โดยถึงแม้ยอดขายจะดูดีในภาพรวม แต่ความคาดหวังเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นก็อาจลดโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยลง ท่ามกลางตลาดบางส่วนที่ยังคงคาดว่าอาจมีการปรับลดในเดือนกันยายน โดยตลาดจะจับตาสุนทรพจน์ของประธานเฟด Jerome Powell ที่งาน Jackson Hole อย่างใกล้ชิดค่ะ
ด้านความต้องการสินทรัพย์สหรัฐฯ จากนักลงทุนต่างชาติยังคงแข็งแกร่ง ยอดถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ทำสถิติใหม่ที่ 9.13 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน โดยญี่ปุ่นยังเป็นผู้ถือครองรายใหญ่ที่สุด ขณะที่สหราชอาณาจักรแซงหน้าจีนขึ้นมา เนื่องจากจีนทยอยลดการถือครองเพื่อลดแรงกดดันต่อเงินหยวน ท่ามกลางตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มีเงินไหลเข้าจากต่างประเทศถึง 163 พันล้านดอลลาร์ในเดือนเดียวกัน แม้ว่าการไหลเข้าโดยรวมจะลดลงเมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคมค่ะ
ในตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชน มีการคาดการณ์ว่าจะมีการออกพันธบัตรจำนวนมากในเดือนกันยายน เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ต้องการใช้โอกาสจากความต้องการผลตอบแทนที่ยังสูง แม้แนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดจะไม่ชัดเจน แต่แผนการระดมทุนก็ยังคงเดินหน้าตามความจำเป็น โดยนักวิเคราะห์คาดว่าตลาดจะยังเห็นการออกพันธบัตรอย่างต่อเนื่องจนถึงฤดูใบไม้ร่วงค่ะ
โดยรวมแล้ว ค่าเงินเยนยังคงเผชิญแรงกดดันจากความแข็งแกร่งของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ความแตกต่างด้านนโยบายระหว่างเฟดกับ BOJ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์ต่อเยนยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในระดับบน ขณะที่ความต้องการพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ จากนักลงทุนต่างชาติก็ยังช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์อยู่ เว้นแต่ว่าจะมีความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์เข้ามากระทบ จนนักลงทุนหันไปถือเงินเยนเพื่อความปลอดภัยแทนค่ะ
บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค
ในมุมมองเชิงเทคนิค คู่เงิน USDJPY กำลังเคลื่อนไหวสะสมตัวใกล้ระดับ 147.46 หลังจากขึ้นไปทดสอบแนวต้านด้านบนของกรอบการซื้อขายล่าสุด โดยยังติดอยู่แถวแนวต้านบริเวณ 148.00–148.20 ค่ะ หากสามารถทะลุผ่านแนวต้าน 148.20 ได้อย่างชัดเจน ก็มีโอกาสเปิดทางขึ้นไปสู่บริเวณ 149.50 โดยมีระดับจิตวิทยาสำคัญที่ 150.00 ค่ะ
อินดิเคเตอร์ด้านโมเมนตัมยังแสดงสัญญาณเชิงบวก โดยราคายังยืนอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มที่ยังคงเป็นขาขึ้นในระยะกลางค่ะ
ด้านแนวรับนั้นเบื้องต้นจะอยู่ที่บริเวณ 146.50 และแนวรับที่แข็งแกร่งกว่าคือแถว 145.80 หากมีการหลุดแนวรับ 145.80 อย่างต่อเนื่อง ก็อาจเห็นการปรับตัวลงไปยังโซน 144.50 ได้ค่ะ แต่กรณีนี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อมีการส่งสัญญาณผ่อนคลายจากเฟดอย่างชัดเจน หรือมีความต้องการถือเงินเยนเพื่อเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์เสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ค่ะ
ในระยะนี้ คุณน้าคิดว่ารูปแบบทางเทคนิคยังคงสนับสนุนการเคลื่อนไหวแบบสะสมตัว โดยมีแนวโน้มเอียงไปทางขาขึ้นมากกว่า และการกลับไปทดสอบแนวต้านที่ 148.20 ดูมีความเป็นไปได้มากกว่าการปรับฐานลึก เว้นเสียแต่ว่าจะมีเหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนบรรยากาศของตลาดอย่างมีนัยสำคัญค่ะ
📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค
- แนวรับสำคัญ : 147.32, 147.27, 147.17
- แนวต้านสำคัญ : 147.52, 147.57, 147.67
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลต่อคู่เงิน USDJPY
ที่มา : Forexfactory
สรุปวิเคราะห์ USDJPY
จุดน่าเข้า Buy
- Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 147.14 – 147.32 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 147.32 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 147.52 และ SL ที่ประมาณ 147.05 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 147.52 – 147.70 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 147.85 และ SL ที่ประมาณ 147.23 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดน่าเข้า Sell
- Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 147.52 – 147.70 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 147.52 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 147.26 และ SL ที่ประมาณ 147.79 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 147.14 – 147.32 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 147.01 และ SL ที่ประมาณ 147.61 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
คำเตือน
การให้ข้อมูลการวิเคราะห์คู่เงิน Forex ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค เป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจการลงทุน
สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge
