พบกับวิเคราะห์ USDJPY ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค อีกทั้งแนวทางในการเข้าออกออเดอร์ ไปจนถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการเทรดคู่เงินแบบละเอียด เรียกได้ว่าครบจบในบทความเดียว!
บทวิเคราะห์ Forex วันนี้ : คู่เงิน USDJPY
บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา การเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างรุนแรงในตลาดวอลล์สตรีทได้ลุกลามมาถึงตลาดหุ้นเอเชีย ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนทั่วภูมิภาคเข้าสู่ภาวะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงอย่างกว้างขวางค่ะ เหตุการณ์นี้ได้กระตุ้นให้นักลงทุนหันไปถือครองสกุลเงินปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะเงินเยนของญี่ปุ่น ซึ่งได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมหลังจากรายงานบันทึกการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น ที่บ่งชี้ว่าผู้กำหนดนโยบายเริ่มพิจารณาแนวทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่สกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชียเคลื่อนไหวในกรอบแคบหรืออ่อนค่าลง ภายใต้แรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่ยังคงแข็งแกร่ง และความคาดหวังที่ลดลงว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมนี้ค่ะ
นอกจากนี้ การฟื้นตัวเล็กน้อยของเงินเยนเกิดขึ้นหลังจาก BOJ ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิมเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่ความอ่อนแออย่างต่อเนื่องของเยนทำให้เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นเริ่มแสดงความกังวล โดยรัฐมนตรีคลัง สัตสึกิ คาตายามะ เตือนว่าทางการพร้อมเข้าแทรกแซงค่าเงินได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะเมื่อค่าเงินเข้าใกล้ระดับที่เคยก่อให้เกิดการแทรกแซงในปี 2022 และ 2024 นักวิเคราะห์บางรายมองว่า ญี่ปุ่นอาจต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง หลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เพิ่งออกมาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายที่ทำให้เงินอ่อนค่าระหว่างการเยือนญี่ปุ่นเมื่อเร็ว ๆ นี้
ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ ได้ย้ำว่าญี่ปุ่นยังไม่สามารถบรรลุภาวะเงินเฟ้อที่ยั่งยืน ซึ่งขับเคลื่อนด้วยการเติบโตของค่าจ้างได้อย่างแท้จริง แม้อัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคจะอยู่ใกล้ระดับ 3% โดยทาคาอิจิยังปฏิเสธข้อเสนอให้ลดภาษีการบริโภค และให้เหตุผลว่าเป็นเรื่องที่ซับซ้อนทั้งในเชิงปฏิบัติและอาจกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังในระยะยาว ซึ่งท่าทีของทาคาอิจิในครั้งนี้ อาจมีอิทธิพลต่อการประชุมนโยบายการเงินรอบต่อไปของ BOJ ในวันที่ 18–19 ธันวาคม โดยนักลงทุนบางส่วนคาดว่าอาจมีการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ค่ะ
อย่างไรก็ดี ท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว รัฐบาลทาคาอิจิได้จัดตั้ง “ศูนย์ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ” เพื่อฟื้นฟูฐานอุตสาหกรรมของประเทศผ่านการลงทุนภาครัฐอย่างมีเป้าหมาย โดยมุ่งเน้น 17 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์ การต่อเรือ อวกาศ และการป้องกันประเทศ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทาน เพิ่มรายได้ และปรับปรุงฐานะการคลังโดยไม่ต้องขึ้นภาษีค่ะ
ด้านคณะที่ปรึกษาประกอบด้วยนักเศรษฐศาสตร์สายกระตุ้นเงินเฟ้อชื่อดัง อาทิ ทาคุจิ ไอดะ และโกชิ คาตาโอกะ คาดว่ากลยุทธ์ใหม่นี้จะถือเป็นการเปลี่ยนผ่านจากแนวคิด “ทุนนิยมรูปแบบใหม่” ของอดีตนายกรัฐมนตรี ฟุมิโอะ คิชิดะ มาสู่แนวทางที่เน้นการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันทางอุตสาหกรรม และการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นคาดว่าจะเปิดเผยแผนการเติบโตทางเศรษฐกิจระดับชาติฉบับใหม่ภายในช่วงฤดูร้อนปีหน้าค่ะ
ในทางตรงกันข้าม ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบสี่เดือน หลังจากเกิดความเห็นที่แตกต่างกันภายใน Fed ซึ่งทำให้นักลงทุนเริ่มสงสัยว่าปีนี้จะมีการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมหรือไม่ ส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมากหันกลับมาถือเงินดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางบรรยากาศการลงทุนที่ระมัดระวังมากขึ้น
ในขณะนี้ ตลาดให้น้ำหนักเพียง 65–70% ต่อความเป็นไปได้ของการปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธันวาคม ซึ่งลดลงจากระดับ 94% เมื่อสัปดาห์ก่อนค่ะ ขณะที่การปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งยืดเยื้อมาอย่างยาวนานเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้การเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการต้องหยุดชะงัก ยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับตลาดมากขึ้น นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อโครงการช่วยเหลือด้านอาหารสำหรับชาวอเมริกันรายได้น้อยหลายล้านคน แม้ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มรายได้สูงที่ได้รับประโยชน์จากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้น จะยังคงช่วยพยุงการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมไว้ได้ในระยะสั้น แต่ความไม่แน่นอนทางนโยบายและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับมาตรการภาษีนำเข้า อาจกลายเป็นแรงกดดันต่ออุปสงค์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าได้ค่ะ
ด้านภาคการผลิตของสหรัฐฯ ยังคงเผชิญแรงกดดันจากภาษีศุลกากรและความไม่ราบรื่นของห่วงโซ่อุปทาน โดยข้อมูลจากสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ระบุว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตปรับตัวลดลงในเดือนตุลาคม ซึ่งนับเป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่แปดติดต่อกัน โรงงานหลายแห่งรายงานถึงความต้องการที่อ่อนแอลง ระยะเวลาการส่งมอบสินค้าที่นานขึ้น และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นจากภาษีนำเข้าที่ทำให้ห่วงโซ่อุปทานซับซ้อนยิ่งขึ้น นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า มาตรการภาษีของสหรัฐฯ กำลังบั่นทอนผลผลิตภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในภาวะที่จีนเริ่มจำกัดการส่งออกแร่หายากและเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อผู้ผลิตสหรัฐฯ มากขึ้นค่ะ
นอกจากนี้ การชะลอตัวในภาคการผลิตยังส่งผลต่อการส่งออกสินค้าเกษตร โดยเฉพาะถั่วเหลือง ซึ่งจีนได้ลดการนำเข้าจากสหรัฐฯ ลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ศาลสูงของสหรัฐฯ กำลังเตรียมพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของมาตรการภาษีนำเข้าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ปกป้องว่าเป็นมาตรการจำเป็นเพื่อคุ้มครองอุตสาหกรรมภายในประเทศค่ะ
สำหรับคู่สกุลเงิน USDJPY ปัจจุบันสะท้อนถึงการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อน ท่ามกลางบรรยากาศความเสี่ยงทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์และตลาดการเงินยิ่งเพิ่มแรงซื้อดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้เงินเยนจะได้รับแรงหนุนเป็นระยะจากภาวะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและการคาดการณ์ว่า BOJ อาจขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม แต่แรงฟื้นตัวยังจำกัดจากนโยบายการเงินที่ยังผ่อนคลายอย่างมากและเศรษฐกิจภายในประเทศที่เปราะบาง โดยพื้นฐานแล้ว คุณน้าจึงมองว่าคู่เงิน USDJPY ยังมีแนวโน้มเอนขึ้นในระยะสั้น ตราบใดที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ยังอยู่ในระดับสูง และเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากกระแสการลงทุนที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม หากมีสัญญาณชัดเจนของการขึ้นดอกเบี้ยจาก BOJ หรือการแทรกแซงค่าเงินแบบประสานงาน อาจทำให้เงินเยนแข็งค่าขึ้นในระยะสั้นได้ค่ะ
บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค

ในปัจจุบัน คู่เงิน USDJPY กำลังทดสอบแนวต้านสำคัญ โดยแนวโน้มขาขึ้นล่าสุดของคู่เงินนี้ยังคงแข็งแกร่ง ได้รับแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ทรงตัวในระดับสูง และความต้องการถือครองเงินดอลลาร์ที่ต่อเนื่อง ท่ามกลางภาวะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทั่วโลกค่ะ
อย่างไรก็ตาม ดัชนี RSI ได้เข้าสู่เขตซื้อมากเกินไป ซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่แรงซื้ออาจจะกำลังเริ่มอ่อนแรง และมีความเสี่ยงต่อการปรับฐานระยะสั้นค่ะ
ทั้งนี้ แนวต้านแรกอยู่ที่บริเวณ 154.20–154.50 หากราคาสามารถทะลุผ่านได้อย่างมั่นคง อาจเปิดทางให้ไปสู่ระดับ 155.80 ได้ ส่วนแนวรับแรกอยู่ที่บริเวณ 153.10 ตามด้วย 152.40 หากหลุดลงไปต่ำกว่า 151.80 นั่นจะเป็นสัญญาณของการปรับฐานที่ลึกขึ้น โดยมีแนวรับถัดไปบริเวณ 150.50 อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่ราคายังคงอยู่เหนือระดับ 152 ทำให้โครงสร้างแนวโน้มขาขึ้นในภาพรวมยังคงไม่เสียหายค่ะ
นอกจากนี้ เครื่องชี้วัดโมเมนตัมยังบ่งชี้ว่า การเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 152.50–153.00 อาจเป็นจังหวะที่ดีสำหรับนักลงทุนระยะสั้นที่มีเป้าหมายบริเวณ 154.50–155.00 โดยเฉพาะหากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ยังทรงตัวในระดับสูง และถ้อยแถลงของ BOJ ยังคงมีท่าทีระมัดระวังค่ะ
อย่างไรก็ตาม คุณน้าอยากให้นักลงทุนทางเทคนิคจับตดาดูความผันผวนที่อาจเพิ่มขึ้น เมื่อราคาเข้าใกล้โซนที่ BOJ อาจเข้าแทรกแซง เนื่องจากประเด็นความอ่อนไหวทางการเมืองเกี่ยวกับค่าเงินเยนที่อ่อนค่าเกินไปค่ะ
โดยสรุปแล้ว ถึงแม้แนวโน้มระยะกลางจะยังคงเป็นขาขึ้น แต่คุณน้าเห็นว่าโมเมนตัมของคู่เงินนี้อาจชะลอตัวลงได้ ก่อนการประกาศสัญญาณนโยบายจาก BOJ หรือ Fed ในเดือนธันวาคมนี้ค่ะ
📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค
- แนวรับสำคัญ : 153.27, 152.93, 152.39
- แนวต้านสำคัญ : 154.35, 154.69, 155.23
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลต่อคู่เงิน USDJPY

ที่มา : Forexfactory

⭐ คุณน้าแนะนำโบรกเกอร์คุณสมบัติเด่น!
การเลือกโบรกเกอร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ สำหรับการเทรด Forex ค่ะ
เพราะโบรกเกอร์จะพัฒนาระบบและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเทรดของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นให้ได้มากที่สุด
สำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มั่นใจว่า โบรกเกอร์ Forex แบบไหนดี?
คุณน้าได้รวบรวมการจัดอันดับของโบรกเกอร์ในทุกคุณสมบัติ เช่น สเปรดต่ำ, เทรดทอง หรือโบนัสฟรี

💡 คัมภีร์เริ่มต้น มือใหม่หัดเทรด
มือใหม่หัดเทรดที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? คุณน้าได้รวบรวมเนื้อหาสำคัญที่ถือเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับการเทรด Forex มาไว้ให้แล้วที่นี่!
🔍 ตัวอย่างเนื้อหา มือใหม่หัดเทรดต้องรู้!
สรุปวิเคราะห์ USDJPY
จุดน่าเข้า Buy
- Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 152.47 – 153.27 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 153.27 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 154.67 และ SL ที่ประมาณ 152.07 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 154.35 – 155.15 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 156.09 และ SL ที่ประมาณ 152.87 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดน่าเข้า Sell
- Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 154.35 – 155.15 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 154.35 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 153.25 และ SL ที่ประมาณ 155.55 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 152.47 – 153.27 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 151.83 และ SL ที่ประมาณ 154.75 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
คำเตือน
การให้ข้อมูลการวิเคราะห์คู่เงิน Forex ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค เป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจการลงทุน
สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge








