พบกับวิเคราะห์ EURUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค อีกทั้งแนวทางในการเข้าออกออเดอร์ ไปจนถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการเทรดคู่เงินแบบละเอียด เรียกได้ว่าครบจบในบทความเดียว!
บทวิเคราะห์ Forex วันนี้ : คู่เงิน EURUSD
บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน
ค่าเงินยูโรปรับตัวแข็งค่าขึ้นอีกครั้งในช่วงท้ายสัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนหลักมาจากท่าทีที่แข็งกร้าวของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยต่อไป นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วหลังจากที่มีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากสหรัฐ โดยเฉพาะตัวเลขเงินเฟ้อ และผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่สะท้อนให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอลง และเพิ่มแรงกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ต้องเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ จึงทำให้ EURUSD กลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์เศรษฐกิจล่าสุดสำหรับยูโรโซนมีการปรับตัวดีขึ้น โดย GDP คาดว่าจะเติบโต 1.2% ในปี 2025 จากเดิมที่คาดไว้เพียง 0.9% ในเดือนมิถุนายน แม้ว่าตัวเลขจะยังคงไม่สูงมาก แต่ก็ถือว่าเป็นสัญญาณฟื้นตัวที่สะท้อนถึงความแข็งแรงของเศรษฐกิจในระยะสั้น ขณะที่ปี 2026 คาดว่าการเติบโตจะชะลอตัวลงเหลือ 1.0% และปี 2027 จะปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยไปอยู่ที่ 1.3% สะท้อนถึงการฟื้นตัวที่ค่อยเป็นค่อยไป แต่ยังคงมีความเปราะบางในบางภาคส่วน ด้านเงินเฟ้อมีการปรับคาดการณ์ขึ้นเล็กน้อย โดยปี 2025 อยู่ที่ 2.1% ส่วนปี 2026 อยู่ที่ 1.7% และปี 2027 อยู่ที่ 1.9% ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ECB อาจยังคงเผชิญกับความท้าทายในการดึงอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับเป้าหมายที่ 2% อย่างยั่งยืน
PMI ภาคบริการของยูโรโซนลดลงจากระดับ 51.0 ในเดือนกรกฎาคม มาสู่ 50.5 ในเดือนสิงหาคม โดยตัวเลขดังกล่าวยังคงอยู่เหนือระดับ 50 แม้ว่าจะแสดงให้เห็นถึงการขยายตัว แต่คำสั่งซื้อใหม่ลดลงอย่างชัดเจน ขณะที่ตลาดแรงงานในภาคบริการยังคงแข็งแกร่ง โดยการจ้างงานขยายตัวสูงสุดตั้งแต่เดือนเมษายน สถานการณ์นี้สะท้อนถึงความไม่สมดุลของจำนวนแรงงานที่เพิ่มมากขึ้น และอุปสงค์ใหม่กลับไม่เร่งตัวขึ้นตามไปด้วย
สิ่งที่น่ากังวลสำหรับ ECB คือ แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่กลับมาเพิ่มขึ้น โดยอัตราเงินเฟ้อต้นทุนปัจจัยการผลิตในยูโรโซนพุ่งสูงสุดในรอบ 3 เดือน ปัจจัยเหล่านี้สะท้อนว่า ต้นทุนการดำเนินธุรกิจยังคงเผชิญแรงกดดันจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์และพลังงาน นอกจากนี้ ยังได้รับแรงกดดันจากค่าแรงที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากแรงกดดันยังไม่ชะลอตัวลง อาจกดดันให้ ECB จำเป็นต้องคงอัตราดอกเบี้ยต่อไป ทางด้านความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ลดลง และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว ยิ่งสะท้อนว่าภาคเอกชนกำลังเผชิญความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางในอนาคต
ข้อมูลยอดค้าปลีกในยูโรโซนล่าสุดบ่งชี้ถึงความเปราะบางของอุปสงค์ภายในประเทศ โดยยอดค้าปลีกหดตัวลง 0.5% ในเดือนกรกฎาคม หลังจากเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง 0.6% ในเดือนก่อนหน้า ถือเป็นการลดลงที่รุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี ปัจจัยหลักมาจากการลดลงของยอดขายอาหาร และเครื่องดื่มที่ลดลงถึง 1.1% รวมถึงยอดขายน้ำมันเชื้อเพลิงที่ร่วงลง 1.7% สะท้อนถึงแรงกดดันจากราคาสินค้าที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่กำลังซื้อของครัวเรือนเพิ่มขึ้นไม่มาก เมื่อดูเป็นรายประเทศ พบว่าเยอรมนี ซึ่งเป็นเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยูโรโซนมียอดค้าปลีกหดตัวแรงถึง 1.5% และสเปนที่หดตัวลง 0.4% ในขณะที่ฝรั่งเศสยังคงทรงตัว
ด้านตลาดแรงงาน อัตราการว่างงานโดยรวมในยูโรโซนลดลงเหลือ 6.2% ใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีจำนวนผู้ว่างงานลดลงถึง 170,000 คน เมื่อแบ่งตามประเทศ เยอรมนีและเนเธอร์แลนด์มีอัตราการว่างงานต่ำเพียง 3.7% และ 3.8% ในขณะที่ประเทศอย่างสเปน ฝรั่งเศส และอิตาลียังมีตัวเลขสูงที่ 10.4%, 7.6% และ 6.0% ตามลำดับ
บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค
EURUSD แสดงให้เห็นว่า ราคายังคงเคลื่อนไหวเหนือเส้น MA 50 และ MA 200 อย่างต่อเนื่อง นับว่าเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว อยา่งไรก็ตาม หากราคาหลุดกลับลงมาต่ำกว่า MA 50 จะแสดงให้เห็นถึงแรงขายทำกำไรและกลับมาสู่แนวโน้ม Sideways อีกครั้ง
ทางด้าน Relative Strength Index (RSI) อยู่ในช่วงประมาณ 56 ราคายังคงอยู่ในโมเมนตัมขาขึ้น แต่ยังไม่เข้าสู่ภาวะ Overbought การที่ RSI อยู่ในโซนบวกโดยไม่ร้อนแรงเกินไป บ่งชี้ว่า ยังมีพื้นที่ให้ราคาเคลื่อนไหวต่อได้ ในขณะที่ Volume ล่าสุดบ่งชี้ถึงการเพิ่มขึ้นของแรงซื้อในช่วงที่ราคากลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยปริมาณการซื้อขายที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย 20 วัน ถือเป็นสัญญาณสนับสนุนการปรับตัวขึ้นที่ชัดเจน
นักลงทุนควรจับตาดูการประกาศ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ และการรายงานเศรษฐกิจ ZEW ของยูโรโซน ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อ EURUSD หาก CPI สหรัฐออกมาต่ำกว่าคาด จะเพิ่มแรงกดดันต่อดอลลาร์ และหนุนให้ EURUSD ปรับตัวขึ้นต่อ
📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค
- แนวรับสำคัญ : 1.1681, 1.163, 1.1597
- แนวต้านสำคัญ : 1.1765, 1.1798, 1.1849
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลต่อคู่เงิน EURUSD
ที่มา : Forexfactory
⭐ คุณน้าแนะนำโบรกเกอร์คุณสมบัติเด่น!
การเลือกโบรกเกอร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ สำหรับการเทรด Forex ค่ะ
เพราะโบรกเกอร์จะพัฒนาระบบและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเทรดของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นให้ได้มากที่สุด
สำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มั่นใจว่า โบรกเกอร์ Forex แบบไหนดี?
คุณน้าได้รวบรวมการจัดอันดับของโบรกเกอร์ในทุกคุณสมบัติ เช่น สเปรดต่ำ, เทรดทอง หรือโบนัสฟรี
💡 คัมภีร์เริ่มต้น มือใหม่หัดเทรด
มือใหม่หัดเทรดที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? คุณน้าได้รวบรวมเนื้อหาสำคัญที่ถือเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับการเทรด Forex มาไว้ให้แล้วที่นี่!
🔍 ตัวอย่างเนื้อหา มือใหม่หัดเทรดต้องรู้!
สรุปวิเคราะห์ EURUSD
จุดน่าเข้า Buy
- Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ประมาณ 1.163 – 1.1681 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.163 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.1798 และ SL ที่ประมาณ 1.1597
- Buy/ Long 2 : หากสามารถเบรกแนวต้านที่ประมาณ 1.1765 – 1.1798 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.1849 และ SL ที่ประมาณ 1.163
จุดน่าเข้า Sell
- Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ประมาณ 1.1765 – 1.1798 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.1798 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.163 และ SL ที่ประมาณ 1.1849
- Sell/ Short 2 : หากสามารถเบรกแนวรับที่ประมาณ 1.163 – 1.1681 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.1597 และ SL ที่ประมาณ 1.1798
คำเตือน
การให้ข้อมูลการวิเคราะห์คู่เงิน Forex ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค เป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจการลงทุน
สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge
