วิเคราะห์ GBPUSD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 4 กันยายน 2025

พบกับวิเคราะห์ GBPUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค อีกทั้งแนวทางในการเข้าออกออเดอร์ ไปจนถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการเทรดคู่เงินแบบละเอียด เรียกได้ว่าครบจบในบทความเดียว!

บทวิเคราะห์ Forex วันนี้ : คู่เงิน GBPUSD

บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน

ในสัปดาห์นี้ เงินปอนด์อังกฤษเผชิญแรงกดดัน หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี (gilt) พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1998 ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับสถานะการคลังของสหราชอาณาจักร อย่างไรก็ตาม ING มองว่าการตอบสนองของตลาดในครั้งนี้อาจเกินจริง โดยเชื่อว่าการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนเกิดจากการคาดการณ์เงินเฟ้อและการปรับมุมมองต่อท่าทีที่เข้มงวดของธนาคารกลางอังกฤษ มากกว่าจะมาจากความกังวลด้านการคลังโดยตรงค่ะ

ทางด้านนายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ ระบุว่า การตัดสินใจเรื่องความเร็วในการลดขนาดงบดุล (QT) ยังคงเปิดกว้างอยู่ ขณะนี้ BoE กำลังประเมินผลกระทบจากการขายพันธบัตรระยะยาวในช่วงที่อัตราผลตอบแทนอยู่ในระดับสูง โดยตลอดปีที่ผ่านมา ธนาคารได้ลดการถือครองพันธบัตรไปแล้วกว่า 100 พันล้านปอนด์ แต่นักลงทุนเริ่มคาดว่า BoE อาจชะลอการขายลง เนื่องจากกังวลว่าการขายเพิ่มเติมอาจทำให้รัฐบาลต้องบันทึกขาดทุนทางบัญชีสูงถึง 115 พันล้านปอนด์ค่ะ

ในด้านนโยบายการเงิน เบลีย์เน้นว่าดอกเบี้ยจะทยอยลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้จะยังไม่สามารถระบุกรอบเวลาชัดเจนได้ เนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดยังคงสูงใกล้ 4% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในกลุ่ม G7 และยังสูงกว่าเป้าหมายที่ BoE กำหนดไว้ค่ะ ขณะนี้ตลาดมองว่า โอกาสที่ BoE จะปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมภายในปีนี้มีไม่มากนัก โดยคาดว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งต่อไปอาจต้องรอไปจนถึงปี 2026 ค่ะ

ปัจจัยด้านการคลังยังคงเป็นอีกหนึ่งแรงกดดันที่ฉุดความเชื่อมั่นของตลาด โดยรัฐมนตรีคลัง เรเชล รีฟส์ ยืนยันว่าการแถลงงบประมาณประจำปีจะมีขึ้นในวันที่ 26 พฤศจิกายน พร้อมเน้นย้ำว่าจะรักษาวินัยทางการคลังอย่างเข้มงวด เพื่อควบคุมเงินเฟ้อและลดต้นทุนการกู้ยืมของภาครัฐ โดยรีฟส์กล่าวว่าเศรษฐกิจอังกฤษจำเป็นต้องมีการปฏิรูปเชิงโครงสร้างเพื่อผลักดันการเติบโตและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ พร้อมให้คำมั่นว่าจะไม่ปรับขึ้นภาษีสำคัญก่อนการเลือกตั้งครั้งหน้า อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ประเมินว่า รัฐบาลอาจต้องจัดหาแหล่งรายได้เพิ่มเติมราว 20–40 พันล้านปอนด์ เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยังเปราะบาง ต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น และการยกเลิกแผนตัดลดสวัสดิการบางส่วน ซึ่งอาจนำไปสู่การขึ้นภาษีเฉพาะกลุ่ม

อย่างไรก็ดี ข้อมูลเศรษฐกิจของอังกฤษยังคงแสดงภาพที่หลากหลาย โดยภาคบริการซึ่งเป็นภาคหลักของประเทศขยายตัวเร็วที่สุดในรอบกว่าหนึ่งปีเมื่อเดือนสิงหาคม ได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่ง และความกังวลเรื่องภาษีศุลกากรที่ลดลง ภาคธุรกิจยังคงแสดงความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงความเสี่ยงจากการขึ้นภาษีในอนาคต ขณะที่ภาคการผลิตกลับเข้าสู่ภาวะหดตัว เนื่องจากคำสั่งซื้อใหม่ลดลงอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นผลจากความตึงเครียดทางการค้า ต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้น และอุปสงค์จากต่างประเทศที่อ่อนแอลงค่ะ

ในสหรัฐฯ ตัวเลขตำแหน่งงานว่างในเดือนกรกฎาคมลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน โดยอัตราส่วนของตำแหน่งงานว่างต่อจำนวนผู้ว่างงานลดลงต่ำกว่า 1 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งสะท้อนถึงภาวะตลาดแรงงานที่เริ่มเย็นตัวลง โดยการจ้างงานลดลงอย่างชัดเจนในภาคสุขภาพ ค้าปลีก และสันทนาการ แม้ว่าภาคก่อสร้างและการผลิตจะยังเติบโตเล็กน้อย ขณะที่รายงาน Beige Book ของ Fed ระบุว่ามีผู้สมัครงานมากขึ้น ซึ่งตอกย้ำถึงภาพรวมตลาดแรงงานที่เริ่มผ่อนคลายจากแรงกดดัน แม้ว่าจะยังไม่มีการปลดพนักงานในวงกว้างก็ตามค่ะ

ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวส่งเสริมการคาดการณ์ว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 16–17 กันยายน และอาจมีการลดเพิ่มเติมอีกในช่วงถัดไป โดยเจ้าหน้าที่ Fed หลายรายส่งสัญญาณสนับสนุนนโยบายที่ผ่อนคลายมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตลาดแรงงานทรุดตัวลงมากเกินไป แม้ประเด็นภาษีจะยังผลักดันราคาสินค้าให้สูงขึ้น แต่ประธาน Fed นายเจอโรม พาวเวลล์ ก็ยังเน้นย้ำถึงความเสี่ยงในตลาดแรงงานที่อาจมีน้ำหนักมากกว่าความกังวลเรื่องเงินเฟ้อค่ะ

ด้านตลาดการเงินตอบสนองด้วยการอ่อนค่าลงของดอลลาร์สหรัฐ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ลดลง หลังจากที่ก่อนหน้านี้อัตราผลตอบแทนระยะยาวพุ่งขึ้นเล็กน้อยจากความกังวลด้านการคลังในสหรัฐฯ อังกฤษ และญี่ปุ่น แม้นักลงทุนจะยังคงกังวลกับระดับหนี้ที่เพิ่มขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ Fed ได้เน้นย้ำว่า ความคาดหวังเรื่องเงินเฟ้อยังคงอยู่ในกรอบที่ควบคุมได้ และความเสี่ยงต่อการเติบโตในระยะยาวอาจมาจากภาษีนำเข้ามากกว่าปัญหาความไม่สมดุลเชิงโครงสร้างค่ะ

อย่างไรก็ดี สำหรับคู่เงิน GBPUSD ยังคงเผชิญกับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการคลังของอังกฤษควบคู่ไปกับความไม่แน่นอนด้านนโยบายของ BoE ในทางตรงกันข้าม ดอลลาร์สหรัฐกลับได้รับแรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย รวมถึงแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของ Fed ที่ค่อยเป็นค่อยไปและไม่เร่งรีบ ด้วยเหตุนี้ คุณน้าจึงเห็นว่า GBPUSD อาจยังคงเผชิญแรงกดดันในระยะสั้น และโอกาสที่ราคาจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืนนั้น อาจต้องอาศัยความมั่นคงทางการคลังจากฝั่งสหราชอาณาจักรเป็นหลักค่ะ

บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค

คู่เงิน GBPUSD เพิ่งปรับตัวลง และกำลังอยู่ในช่วงปรับฐานใกล้ระดับ 1.3438 โดยคู่สกุลเงินนี้แสดงสัญญาณการชะลอตัวเมื่อเจอกับแรงต้านสำคัญในช่วง 1.3500–1.3520 ความล้มเหลวในการทะลุผ่านโซนนี้ไปได้อย่างเด็ดขาด บ่งชี้ว่าโมเมนตัมขาขึ้นเริ่มอ่อนแรงลง หากราคาสามารถปิดเหนือระดับ 1.3520 ได้อย่างต่อเนื่อง จะยืนยันสัญญาณขาขึ้น และเปิดทางไปยังระดับ 1.3600 และ 1.3660 ได้ค่ะ

ในทางกลับกัน แนวรับแรกอยู่ที่ 1.3380 หากราคาปิดต่ำกว่าระดับนี้อย่างชัดเจน อาจทำให้เกิดการปรับฐานลึกลงไปยัง 1.3300 และถัดไปยัง 1.3230 โดยหากแรงขายเพิ่มขึ้น ก็ไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ที่ราคาจะลงไปทดสอบแนวรับในช่วง 1.3120–1.3150 ค่ะ

ทั้งนี้ ตัวชี้วัดโมเมนตัมกำลังอ่อนตัวลง โดย RSI ปรับตัวลงจากภาวะซื้อมากเกินไป สะท้อนความเสี่ยงของการปรับฐานในระยะสั้น โดยรวมแล้ว คุณน้าจึงเห็นว่า GBPUSD มีแนวโน้มจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1.3300–1.3520 ในระยะสั้น โดยมีความเสี่ยงที่น้ำหนักจะไปทางด้านลบ เว้นแต่ราคาจะสามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือโซนแนวต้าน 1.3520–1.3550 ได้อย่างมั่นคงค่ะ

ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลต่อคู่เงิน GBPUSD

สรุปวิเคราะห์ GBPUSD

จุดน่าเข้า Buy

• Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3302 – 1.3362 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 1.3362 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3490 และ SL ที่ประมาณ 1.3272 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
• Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3460 – 1.3520 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3618 และ SL ที่ประมาณ 1.3332 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

จุดน่าเข้า Sell

• Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3460 – 1.3520 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้าน 1.3460 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3362 และ SL ที่ประมาณ 1.3550 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
• Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 1.3302 – 1.3362 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3234 และ SL ที่ประมาณ 1.3490 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

คำเตือน

การให้ข้อมูลการวิเคราะห์คู่เงิน Forex ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค เป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจการลงทุน

สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge