พบกับวิเคราะห์ GBPUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค อีกทั้งแนวทางในการเข้าออกออเดอร์ ไปจนถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการเทรดคู่เงินแบบละเอียด เรียกได้ว่าครบจบในบทความเดียว!
บทวิเคราะห์ Forex วันนี้ : คู่เงิน GBPUSD
บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน
ในเดือนกรกฎาคม 2025 เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรหยุดนิ่ง โดย GDP ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้า หลังจากภาคการผลิตหดตัวลงถึง 1.3% ซึ่งถือว่าเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบหนึ่งปี โดยเฉพาะในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ และยารักษาโรค ส่วนภาคบริการมีการขยายตัวเพียงเล็กน้อยที่ 0.1% ค่ะ
การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอลงหลังจากช่วงครึ่งปีแรกที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง โดย GDP เพิ่มขึ้น 0.7% ในไตรมาสแรก และ 0.3% ในไตรมาสที่สอง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ส่งออกเร่งส่งของก่อนที่สหรัฐฯ จะเก็บภาษีนำเข้า สำหรับภาพรวมในช่วงสามเดือนล่าสุด GDP เพิ่มขึ้นเพียง 0.2% และการเติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 1.4% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เล็กน้อยค่ะ
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อ อุปสงค์ที่อ่อนแอ และการสูญเสียงานคาดว่าจะยังเป็นปัจจัยฉุดรั้งเศรษฐกิจไปจนถึงสิ้นปี อัตราการว่างงานยังอยู่ที่ 4.7% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2021 ขณะที่การเติบโตของค่าจ้างชะลอลงเหลือ 4.8% ถึงแม้ว่าตำแหน่งงานว่างจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่การจ้างงานใหม่ยังคงเป็นไปอย่างระมัดระวัง เนื่องจากความไม่แน่นอนเรื่องภาษีค่ะ ขณะเดียวกัน ตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มชะลอตัว ราคาขายที่อยู่อาศัยลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นปี 2024 ท่ามกลางค่าเช่าที่ชะลอตัวลงเช่นกัน
รัฐมนตรีการคลัง ราเชล รีฟส์ ยอมรับว่าเศรษฐกิจสหราชอาณาจักรเหมือนติดหล่ม ขณะเตรียมงบประมาณสำหรับวันที่ 26 พฤศจิกายน โดยมีแผนที่จะปรับปรุงระบบภาษีให้เรียบง่ายขึ้น และผ่อนคลายกฎระเบียบด้านการก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม การลงทุนภาคธุรกิจยังคงซบเซา เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับกฎหมายแรงงานใหม่และแนวโน้มภาษีที่อาจเพิ่มขึ้น ขณะที่ฝ่ายค้านได้ชี้ให้เห็นถึงต้นทุนการกู้ยืมที่พุ่งสูงขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะเวลา 30 ปี อยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1998 ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าการขึ้นภาษีเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ค่ะ
ด้านแนวโน้มการคลังของสหราชอาณาจักรแย่ลง โดยดุลการค้าขาดดุลเพิ่มขึ้นเป็น 22.2 พันล้านปอนด์ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2022 อันเป็นผลจากการนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรปที่เพิ่มขึ้นและการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ที่ลดลง ขณะที่สำนักงานความรับผิดชอบทางการคลัง (OBR) คาดว่าจะปรับลดประมาณการผลิตภาพ (productivity) ซึ่งอาจทำให้เกิดช่องว่างทางการคลังอยู่ระหว่าง 20–50 พันล้านปอนด์ค่ะ
ขณะเดียวกัน อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง โดย Barclays คาดว่า CPI เดือนสิงหาคมจะอยู่ที่ 3.8% เนื่องจากต้นทุนพลังงานและอาหารยังสูง แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อของชำจะลดลงเหลือ 4.9% ผู้ค้าปลีกเตือนว่าแรงกดดันด้านค่าจ้างและกฎระเบียบจะยังทำให้ราคาสินค้าไม่ลดลง ขณะที่ความคาดหวังของประชาชนต่อเงินเฟ้อก็พุ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2019 ค่ะ
ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4% ในเดือนกันยายน หลังจากปรับลดลงเล็กน้อยในเดือนสิงหาคม และยังคงดำเนินมาตรการถอนสภาพคล่อง (QT) มูลค่า 100 พันล้านปอนด์ต่อปี และแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะสูงสุดที่ 4% ตลาดก็ยังไม่เห็นโอกาสของการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปี 2025 โดยคาดว่าน่าจะมีการเลื่อนออกไปถึงปี 2026 ค่ะ
ฝั่งสหรัฐฯ ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดดอกเบี้ย ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า แนวโน้มระยะยาวของดอลลาร์ยังแข็งแกร่ง เพราะตลาดได้สะท้อนการผ่อนคลายทางการเงินไปพอสมควรแล้ว
อย่างไรก็ดี ข้อมูลตลาดแรงงานที่อ่อนแอ และความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นยังคงกดดันค่าเงินดอลลาร์ขณะนี้ แม้ความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจสหรัฐฯ การลงทุนใน AI และเงินเฟ้อที่ยังไม่ลดลงมาก อาจทำให้ Fed ไม่สามารถลดดอกเบี้ยได้มากเท่าที่ตลาดคาดการณ์ค่ะ นอกจากนี้ การเติบโตทั่วโลกที่ชะลอตัวอาจช่วยพยุงค่าเงินดอลลาร์ผ่านความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างประเทศได้เช่นกันค่ะ
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุดสะท้อนภาพที่หลากหลาย โดยยอดขายปลีกในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 0.6% มากกว่าที่คาดไว้สามเท่า ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอีคอมเมิร์ซ ท่ามกลางความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลง ขณะที่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อและภาคการผลิตเริ่มกลับมาอีกครั้ง โดยการผลิตในโรงงานและสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากความต้องการด้าน AI แม้ว่าภาษีจะยังเป็นปัจจัยกดดัน ท่ามกลางราคานำเข้าที่ปรับตัวสูงขึ้น บ่งชี้ว่าเงินเฟ้ออาจยังคงอยู่ แม้ต้นทุนพลังงานและอาหารจะลดลงค่ะ
ทั้งนี้ ตลาดการเงินตอบสนองด้วยความระมัดระวัง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยังมีความผันผวน นักลงทุนขยายอายุพันธบัตร และตลาดสินเชื่อเอกชนได้รับความสนใจมากขึ้น ส่วนเส้นอัตราผลตอบแทนคาดว่าจะชันขึ้นจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและการขาดดุลค่ะ
โดยสรุปแล้ว คู่เงิน GBPUSD ในขณะนี้ได้รับแรงขับเคลื่อนจากความแตกต่างของเศรษฐกิจและนโยบายการเงินระหว่างสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ด้านสหรัฐฯ ตลาดแรงงานที่อ่อนลง และการคาดการณ์ว่า Fed อาจลดดอกเบี้ย ล้วนเป็นปัจจัยกดดันดอลลาร์ ขณะที่สหราชอาณาจักรยังคงเผชิญกับการเติบโตที่ชะลอตัว และท่าทีที่ค่อนข้างระมัดระวังของ BoE ทำให้อัตราดอกเบี้ยระหว่างสองประเทศยังโน้มเอียงไปทางสนับสนุนดอลลาร์ในระยะกลางค่ะด้วยเหตุนี้ แม้ GBPUSD จะมีแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นจากความอ่อนค่าของดอลลาร์ แต่ในระยะยาวอาจเผชิญแรงต้าน หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง และ Fed ลดดอกเบี้ยน้อยกว่าที่ตลาดคาดค่ะ
บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค

เมื่อเร็ว ๆ นี้ คู่เงิน GBPUSD ได้ปรับตัวขึ้นมาทดสอบแนวต้านสำคัญในโซน 1.3640–1.3650 แรงหนุนหลักมาจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ โดยในกราฟรายวัน ราคายังเคลื่อนไหวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน และ 200 วัน ซึ่งเป็นสัญญาณสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้น ขณะที่ RSI กำลังเข้าใกล้เขต overbought บ่งชี้ว่าอาจมีการพักฐานหรือปรับฐานระยะสั้น ก่อนจะกลับขึ้นไปต่อค่ะ
หากแรงซื้อสามารถดันราคาทะลุ 1.3660–1.3700 ได้อย่างมั่นคง คุณน้าเห็นว่า เป้าหมายถัดไปจะอยู่ใกล้บริเวณ 1.3820 และหากผ่านได้ ก็จะไปทดสอบแนวจิตวิทยาสำคัญที่ 1.4000 ค่ะ ในทางกลับกัน ถ้าราคาไม่สามารถยืนเหนือ 1.3650 ได้ ก็อาจมีแรงขายทำกำไรออกมา โดยแนวรับแรกอยู่ที่โซน 1.3520–1.3550 ส่วนแนวรับถัดไปที่แข็งแรงกว่านั้นจะอยู่ที่ 1.3400 ค่ะ
ในภาพรวม คุณน้ามองว่า โมเมนตัมระยะสั้นอาจยังคงสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้น ตราบใดที่ GBPUSD ยังยืนเหนือฐาน 1.3400 ได้ แต่ก็ต้องระวังว่า หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง และ Fed ลดดอกเบี้ยน้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ การขึ้นต่อเนื่องเหนือ 1.3700 อาจทำได้ยากหากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาช่วยหนุนค่ะ
📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค
- แนวรับสำคัญ : 1.3611, 1.3592, 1.3562
- แนวต้านสำคัญ : 1.3671, 1.3690, 1.3720
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลต่อคู่เงิน GBPUSD

ที่มา : Forexfactory

⭐ คุณน้าแนะนำโบรกเกอร์คุณสมบัติเด่น!
การเลือกโบรกเกอร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ สำหรับการเทรด Forex ค่ะ
เพราะโบรกเกอร์จะพัฒนาระบบและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเทรดของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นให้ได้มากที่สุด
สำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มั่นใจว่า โบรกเกอร์ Forex แบบไหนดี?
คุณน้าได้รวบรวมการจัดอันดับของโบรกเกอร์ในทุกคุณสมบัติ เช่น สเปรดต่ำ, เทรดทอง หรือโบนัสฟรี

💡 คัมภีร์เริ่มต้น มือใหม่หัดเทรด
มือใหม่หัดเทรดที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? คุณน้าได้รวบรวมเนื้อหาสำคัญที่ถือเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับการเทรด Forex มาไว้ให้แล้วที่นี่!
🔍 ตัวอย่างเนื้อหา มือใหม่หัดเทรดต้องรู้!
สรุปวิเคราะห์ GBPUSD
จุดน่าเข้า Buy
- Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3551 – 1.3611 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 1.3611 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3687 และ SL ที่ประมาณ 1.3521 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3671 – 1.3731 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3766 และ SL ที่ประมาณ 1.3581 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดน่าเข้า Sell
- Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3671 – 1.3731 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้าน 1.3671 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3608 และ SL ที่ประมาณ 1.3761 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 1.3551 – 1.3611 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3529 และ SL ที่ประมาณ 1.3701 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
คำเตือน
การให้ข้อมูลการวิเคราะห์คู่เงิน Forex ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค เป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจการลงทุน
สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge