รัฐบาลไทยเตรียมเปิดตัว G-Token หรือ Government Token ซึ่งนักลงทุนสามารถลงทุนผ่านระบบดิจิทัลได้ง่ายยิ่งขึ้น นี่ถือเป็นโทเคนดิจิทัลที่ออกโดยรัฐบาลเป็นครั้งแรก เรียกได้ว่าเป็นการแปลงโฉมนวัตกรรมทางการเงินไทยขึ้นไปอีกระดับค่ะ ในบทความนี้ คุณน้าจะพาทุกคนมาเจาะลึกทุกเรื่องเกี่ยวกับ G-Token ว่าคืออะไร? เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการลงทุน ทั้งโอกาสและความท้าทายที่นักลงทุนต้องเผชิญในภายภาคหน้า ห้ามพลาดบทความนี้ค่ะ!
*หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงบทความให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้เป็นการชักชวนเพื่อลงทุนแต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
G-Token คืออะไร?

G-Token หรือ Government Token คือ พันธบัตรรูปแบบดิจิทัลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง ซึ่งจะมีลักษณะสำคัญที่คล้ายกับตราสารหนี้ อย่างพันธบัตรออมทรัพย์รัฐบาล โดยผู้ถือ G-Token จะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของการชำระเงินต้นคืนพร้อมกับอัตราดอกเบี้ยตามเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนดไว้
สำหรับ G-Token จะไม่สามารถใช้ชำระหนี้ตามกฎหมายได้นะคะ เพราะเป็นการนำตราสารหนี้มาแปลงโฉมใหม่ให้อยู่ในรูปแบบของโทเคนดิจิทัล (Digital Token) บนเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูง อย่าง Blockchain เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและกระจายการลงทุนนั่นเอง
“G-Token ไม่ใช่เงินดิจิทัล หรือ Cryptocurrency แบบที่สามารถใช้จ่ายแลกเปลี่ยนสินค้าในร้านค้าหรือบริการทั่วไปได้ อีกทั้งยังไม่เกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล เพราะเป็นเพียงเครื่องมือในการระดมทุนเท่านั้น”
รายละเอียดสำคัญของ G-Token มีอะไรบ้าง?
- สามารถซื้อ G-Token ผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) หรือผู้ให้บริการเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) ที่ได้รับการอนุญาตจาก ก.ล.ต. รวมถึง แอปพลิเคชันของบริษัทหลักทรัพย์ที่เข้าร่วมโครงการ
- ข้อมูลการเป็นเจ้าของและการทำรายการจะถูกบันทึกลงบน Blockchain ซึ่งมีความโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้
- รัฐบาลจะเป็นผู้ค้ำประกันทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ตลอดอายุการลงทุน
- การให้ผลตอบแทนจะดีกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากทั่วไป
- เป็นการลงทุนระยะสั้นประมาณ 1-3 ปี
- สามารถลงทุนได้ทั้งนักลงทุนรายใหญ่และรายย่อย
- เริ่มต้นลงทุนในจำนวนเงินที่ไม่สูงมากนัก
รู้หรือไม่ G-Token ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานใด?
G-Token ได้รับการกำกับดูแลตามกฎหมาย พ.ร.บ. การบริหารหนี้สินสาธารณะ และ พ.ร.ก. การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมี ก.ล.ต. ให้การกำกับดูแล ซึ่งทำงานร่วมกันกับธนาคารแห่งประเทศไทยในการรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินค่ะ โดย G-Token ถูกจัดอยู่ในรูปแบบการลงทุน Investment Token หรือการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน เช่นเดียวกันกับ RealX Token นั่นเอง
5 เหตุผลสำคัญในการออก G-Token ของรัฐบาลไทย
1. เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลได้ง่ายขึ้น
โดยปกติแล้ว การซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะมีข้อจำกัดในเรื่องของระยะเวลาในการลงทุนใช่ไหมคะ แต่ G-Token จะเป็นทางเลือกการลงทุนใหม่ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลได้ง่ายยิ่งขึ้น ผ่านการซื้อขายบนแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ง่าย, มีความสะดวกสบาย อีกทั้งยังเริ่มต้นลงทุนด้วยจำนวนเงินที่ไม่สูงมากนัก
2. ลดขั้นตอนการลงทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
เนื่องจากการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลแบบเดิมค่อนข้างมีต้นทุนสูง ดังนั้น การลงทุนในเทคโนโลยี Blockchain จะช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงาน โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง เช่น ธนาคารหรือสถาบันทางการเงิน ซึ่งทำให้ช่วยลดค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมทางการเงินได้มากขึ้น อีกทั้งยังสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความรวดเร็ว เพราะลดขั้นตอนที่ซับซ้อนลงค่ะ
3. การทำธุรกรรมมีความรวดเร็ว
โดยทั่วไปแล้ว การซื้อขายพันธบัตรออมทรัพย์แบบเดิมจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินการหลายวัน แต่การซื้อขาย G-Token สามารถทำได้แบบเรียลไทม์ค่ะ ทำให้ผู้ถือครอง G-Token สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือในตลาดรองได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น
4. ความปลอดภัย สามารถตรวจสอบได้
อย่างที่เราทราบกันดีว่า เทคโนโลยีบน Blockchain มีความปลอดภัยสูง เพราะข้อมูลและการทำธุรกรรมจะถูกกระจายไปยัง Node หลายจุดในเครือข่าย ซึ่งทุกครั้งที่มีการทำธุรกรรมเกิดขึ้น ระบบจะสร้าง Block ใหม่ที่เชื่อมต่อกับ Block ก่อนหน้าไปเรื่อย ๆ ค่ะ และเมื่อข้อมูลเข้าสู่ Block แล้วก็จะไม่สามารถแก้ไขได้ เพราะหากจะแก้ไขต้องได้รับฉันทามติจาก Node จำนวนมากในเครือข่ายก่อน
ดังนั้น การซื้อขาย G-Token จึงเหมือนกับสมุดบัญชีดิจิทัลที่เราสามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรม และที่สำคัญ ก็คือ ยากต่อการดัดแปลงข้อมูลนั่นเอง
5. การสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัลไทย
G-Token เป็นทางเลือกในการลงทุนรูปแบบใหม่ที่รัฐบาลเล็งเห็นว่า จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลไทยให้ยั่งยืน เพื่อผลักดันให้ไทยก้าวเข้าสู่ศูนย์กลางทางการเงินดิจิทัลในภูมิภาค อีกทั้งยังส่งเสริมให้นักลงทุนไทยรุ่นใหม่ ๆ สามารถเข้าถึงโทเคนดิจิทัลได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งเหมือนกับการส่งเสริมการออมเงินและกระจายการลงทุนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม (Financial Inclusion) นั่นเองค่ะ
นอกจาก G-Token แล้ว รัฐบาลยังให้การสนับสนุนโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน สำหรับการผลักดันอุตสาหกรรม Soft Power ไทย อย่างการสนับสนุน T-Pop อีกด้วยค่ะ
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง G-Token และพันธบัตรรัฐบาล
คุณน้าขอเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง G-Token และพันธบัตรรัฐบาล ทั้งหมด 5 ลักษณะสำคัญ เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. ความหมายของ G-Token และพันธบัตรออมทรัพย์
G-Token | 38433_c017b2-6b> | Saving Bond |
โทเคนดิจิทัลที่การถือครองและการทำธุรกรรมทั้งหมดจะเกิดขึ้นผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งมีวงเงินเสนอขาย 5,000 ล้านบาท 38433_1f3004-d5> | ความหมาย 38433_e2c248-88> | พันธบัตรออมทรัพย์จะอยู่ในรูปแบบของเอกสาร หรือระบบไร้ใบหลักทรัพย์* ที่บันทึกผ่านตัวกลางทางการเงิน ซึ่งมีวงเงินเสนอขาย 30,000-40,000 ล้านบาท 38433_5a1f26-9b> |
เกร็ดความรู้ : ระบบไร้ใบหลักทรัพย์* คืออะไร?
ระบบไร้ใบหลักทรัพย์ คือ ระบบที่ใช้การบันทึกข้อมูลบนคอมพิวเตอร์ เพื่อยืนยันสิทธิในการถือครองหลักทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นหรือพันธบัตร โดยไม่ต้องมีใบหลักทรัพย์ที่เป็นเอกสารจริง ๆ ซึ่งจะช่วยลดการปลอมแปลงข้อมูลและลดความเสียหายจากการสูญเสีย เพราะสามารถทำได้เลยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่จำเป็นต้องส่งมอบใบเอกสารการถือครองสินทรัพย์จริงค่ะ
2. การเข้าถึง (Accessibility)
G-Token | 38433_9eab85-23> | Saving Bond |
สามารถซื้อขายได้ผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล, นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล, ธนาคารตัวแทน และบริษัทหลักทรัพย์บนช่องทางแพลตฟอร์มออนไลน์ 38433_1b9b7e-22> | การเข้าถึง Accessibility 38433_6288fc-6e> | สามารถซื้อผ่านวอลเลต สบม. หรือธนาคารตัวแทน หรือตัวแทนจำหน่าย (Selling Agent) ที่ได้รับการแต่งตั้ง ซึ่งสามารถซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้เช่นกัน 38433_7a7ccd-ee> |
3. การซื้อขายผ่านตลาดรอง
G-Token | 38433_875394-91> | Saving Bond |
สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งใช้เวลาดำเนินการแบบ Real Time (+1) ทำให้มีความสะดวกและรวดเร็วเป็นอย่างมาก 38433_200a26-73> | การซื้อขายผ่านตลาดรอง 38433_0a11b5-f0> | สามารถซื้อผ่านตลาดตราสารหนี้ ซึ่งอาจจะใช้ระยะเวลาดำเนินการนานกว่า 7-10 วันทำการ และอาจจะต้องถือครองจนครบกำหนด 38433_edcaee-2e> |
4. การลงทุนขั้นต่ำ
G-Token | 38433_179e63-f8> | Saving Bond |
ลงทุนขั้นต่ำอยู่ที่หน่วยละ 1-100 บาท ซึ่งถือว่าลงทุนต่ำมาก อีกทั้งยังใช้ระยะเวลาลงทุน 1-3 ปี 38433_4983ce-dc> | การลงทุนขั้นต่ำ 38433_76fa5d-81> | ลงทุนขั้นต่ำอยู่ที่หน่วยละ 100-1,000 บาท ซึ่งถือว่าลงทุนสูง อีกทั้งยังใช้ระยะเวลาลงทุน 3-10 ปี 38433_629c3d-44> |
5. การยืนยันความเป็นเจ้าของ
G-Token | 38433_dc3845-46> | Saving Bond |
เพราะการซื้อขายอยู่บนแพลตฟอร์มดิจิทัล ทำให้การยืนยันความเป็นเจ้าของและสิทธิในการถือครองมีความปลอดภัยและสามารถตรวจสอบได้ง่าย 38433_2ed88f-cf> | การยืนยันความเป็นเจ้าของ 38433_06ca0f-03> | การยืนยันความเป็นเจ้าของจะต้องผ่านระบบทะเบียนกับตัวกลางที่ให้การกำกับดูแล ซึ่งใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบค่อนข้างยุ่งยาก เมื่อมีการตรวจสอบหรือโอนย้าย 38433_10c701-b9> |

นักลงทุนซื้อขาย G-Token ได้ยังไง?

หากนักลงทุนต้องการซื้อขาย G-Token จะต้องเปิดบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับการอนุญาตจาก ก.ล.ต. หรือผ่านแอปพลิเคชันของบริษัทหลักทรัพย์ที่เข้าร่วมโครงการ
โดยในปัจจุบัน เดือนพฤษภาคม 2568 ยังไม่พบรายชื่อของบริษัทหลักทรัพย์ที่เข้าร่วมโครงการค่ะ เนื่องจากคาดการณ์ว่าโครงการนำร่อง G-Token จะเริ่มขายครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2568 แต่จะเปิดทำการอย่างเป็นทางการอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน 2568 ดังนั้น รอติดตามประกาศจากกระทรวงการคลังต่อไปค่ะ
รายละเอียดเกี่ยวกับโครงการนำร่อง G-Token
- การซื้อขาย : แบบ Real Time (+1)
- วัตถุประสงค์ : ระดมเงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ภายใต้แผนการบริหารหนี้สินสาธารณะประจำปีงบประมาณ 2568
- หน่วย : 1 G-Token เท่ากับ 1-100 บาท
- ระยะเวลา (อายุ) : ไม่เกิน 1 ปี ต่อการออก 1 รอบ
- ผลตอบแทน : การให้ผลตอบแทนของอัตราดอกเบี้ยเทียบเคียงกับพันธบัตรออมทรัพย์รัฐบาลรุ่นอายุใกล้เคียงกัน
- ระยะเวลาในการเปลี่ยนมือ : ไม่มี เพราะปกติแล้ว พันธบัตรออมทรัพย์รัฐบาลจะห้ามเปลี่ยนมือ 6 เดือน ทั้งนี้ ระยะเวลาในการเปลี่ยนมืออาจขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของโครงการ
- ช่องทางการจัดจำหน่าย : ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset), นายหน้าที่ทำหน้าที่ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset), ธนาคารตัวแทน หรือบริษัทหลักทรัพย์ที่เข้าร่วมโครงการ
ขั้นตอนการซื้อขาย G-Token
สำหรับขั้นตอนการซื้อขาย G-Token สามารถทำได้ 3 ขั้นตอน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- สมัครเปิดบัญชีกับผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต.
- โอนเงินเข้าบัญชี จากนั้นเลือกซื้อ G-Token ตามที่ต้องการ
- รอรับผลตอบแทนตามระยะเวลาที่กำหนด หรือสามารถขายในตลาดรองได้
Tip! การลงทุน G-Token เหมาะกับนักลงทุนแบบไหน?
- นักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนมือใหม่
- นักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงินทั่วไป
- นักลงทุนที่มองหาตราสารหนี้ที่มีสภาพคล่องมากยิ่งขึ้นในระบบดิจิทัล
- นักลงทุนที่ต้องการสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาลไทย
ข้อดีของการลงทุน G-Token เป็นอย่างไร?
- ทุกคนสามารถเข้าถึงการลงทุนได้สะดวกมากขึ้น
- การทำธุรกรรมมีความโปร่งใส และที่สำคัญ ก็คือ สามารถตรวจสอบได้
- สามารถซื้อขายได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
- รัฐบาลเป็นผู้ออกและค้ำประกันเงินต้นและผลตอบแทน ทำให้มีความเสี่ยงต่ำ
- สามารถเริ่มต้นลงทุนด้วยจำนวนเงินที่ไม่สูงมาก
ความเสี่ยงที่ควรระวังของการลงทุน G-Token มีอะไรบ้าง?
- ราคาในตลาดรองอาจจะผันผวนตามความต้องการของตลาด
- ผลตอบแทนอาจจะไม่ดีเท่าสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง อย่างเช่นคริปโตเคอร์เรนซีหรือหุ้น
- นักลงทุนที่ไม่ถนัดการใช้เทคโนโลยีอาจจะพบความยุ่งยากในการซื้อขายสินทรัพย์ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล
- การเริ่มต้นพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลอาจใช้งบประมาณค่อนข้างสูง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่องบประมาณของภาครัฐได้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการลงทุน G-Token
G-Token คืออะไร?
G-Token หรือ Government Token คือ พันธบัตรรูปแบบดิจิทัลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง ซึ่งจะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของการชำระคืนเงินต้นพร้อมกับอัตราดอกเบี้ยตามเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนดไว้
G-Token ไม่เท่ากับคริปโตเคอร์เรนซี?
G-Token ถูกจัดอยู่ในรูปแบบการลงทุน Investment Token หรือการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน เช่นเดียวกันกับ RealX Token ซึ่งหลักการทำงานจะแตกต่างจากคริปโตเคอร์เรนซี เพราะไม่ได้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการแต่อย่างใด
จุดประสงค์ที่รัฐบาลออก G-Token เพื่ออะไร?
- เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลได้สะดวกขึ้น
- ลดขั้นตอนการลงทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
- การทำธุรกรรมมีความรวดเร็ว
- มีความปลอดภัย สามารถตรวจสอบได้
- การสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัลไทย
สรุป G-Token คืออะไร? โอกาสและความท้าทายในอนาคต
ทั้งหมดนี้ ก็คือ G-Token หรือโทเคนดิจิทัลที่ถูกออกแบบโดยรัฐบาล ซึ่งจะเห็นได้ว่า G-Token จะให้ผลตอบแทนคล้ายคลึงกันกับพันธบัตรออมทรัพย์ เพราะผู้ถือ G-Token จะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของการชำระเงินต้นคืนพร้อมกับดอกเบี้ยตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งการซื้อขายทำได้ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล โดยเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเริ่มต้นลงทุนได้ง่ายยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นการแปลงโฉมนวัตกรรมทางการเงินที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ดี การลงทุนใน G-Token ก็มีความเสี่ยงที่นักลงทุนควรเฝ้าติดตามเช่นกันค่ะ เนื่องจากอาจจะมีความเสี่ยงของสภาพคล่องในตลาดรอง เพราะถือเป็นเรื่องใหม่ที่นักลงทุนยังไม่คุ้นเคย ประกอบกับมีนักลงทุนบางส่วนที่มองเห็นว่าการถือครอง G-Token จะดีกว่าการถือพันธบัตรออมทรัพย์รัฐบาลจริงหรือไม่ ดังนั้น จึงถือเป็นความท้าทายสำคัญที่รัฐบาลควรมีมาตรการและกลไกในการรับรองความเสี่ยงนี้ อีกทั้งยังต้องระมัดระวังเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมดิจิทัลที่มีทั้งความเสี่ยงและความซับซ้อนของระบบเทคโนโลยี ซึ่งนักลงทุนควรติดตามกันต่อไปค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ThaiPBS, Bitkub และฐานเศรษฐกิจ
สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge