พบกับวิเคราะห์ USDCAD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค อีกทั้งแนวทางในการเข้าออกออเดอร์ ไปจนถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการเทรดคู่เงินแบบละเอียด เรียกได้ว่าครบจบในบทความเดียว!
บทวิเคราะห์ Forex วันนี้ : คู่เงิน USDCAD
บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน
ดอลลาร์แคนาดามีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นในช่วงปีหน้า โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มของธนาคารกลางแคนาดาที่คาดว่าจะลดดอกเบี้ยอีกไม่มาก ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยจากผลสำรวจของรอยเตอร์ นักวิเคราะห์คาดว่าดอลลาร์แคนาดาจะแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.36 ต่อดอลลาร์สหรัฐในอีก 3 เดือน และอาจอยู่ที่ประมาณ 1.3415 ภายในหนึ่งปี ขณะที่ปัจจุบัน ตลาดคาดการณ์ว่า BoC จะลดดอกเบี้ยรวมประมาณ 40 จุดพื้นฐานภายในปี 2026 แต่โดยรวมแล้ว นักวิเคราะห์เชื่อว่า รอบการลดดอกเบี้ยน่าจะใกล้จบลงแล้ว ซึ่งต่างจากฝั่ง Fed ที่ยังไม่ได้เริ่มลด จึงอาจทำให้เงินทุนไหลเข้าสู่แคนาดาและช่วยหนุนค่าเงินได้ค่ะ
นอกจากนี้ เนื่องจากกว่า 75% ของการส่งออกของแคนาดาได้มุ่งไปยังสหรัฐฯ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจอเมริกา โดยเฉพาะจากการใช้จ่ายด้านกลาโหมและโครงสร้างพื้นฐาน คาดว่าน่าจะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจแคนาดาเช่นกัน แม้ภาพรวมในประเทศแคนาดาจะยังไม่สดใส โดยในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แคนาดาสูญเสียงานไปถึง 65,500 ตำแหน่ง อัตราการว่างงานขยับขึ้นมาอยู่ที่ 7.1% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดตั้งแต่ปี 2016 และไม่นับช่วงโควิด โดยงานที่หายไปส่วนใหญ่อยู่ในภาคบริการ เช่น วิชาชีพ เทคนิค ขนส่ง และการผลิต ส่วนจำนวนงานในภาคก่อสร้างเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางการมีส่วนร่วมในตลาดแรงงานที่พลิกกลับลดลงต่ำสุดตั้งแต่ช่วงโควิด สะท้อนว่าตลาดแรงงานยังค่อนข้างอ่อนแอ แม้ค่าจ้างจะยังโตต่อเนื่อง ทำให้ตลาดมองว่ามีโอกาสมากกว่า 90% ที่ BoC จะลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนกันยายนค่ะ
ด้านดัชนี Ivey PMI ในเดือนสิงหาคมลดลงมาอยู่ที่ 50.1 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจแทบไม่ขยับ ภาคบริการหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 เพราะอุปสงค์ส่งออกอ่อนแรงและแรงกดดันจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ขณะที่แม้ภาคการผลิตยังหดตัว แต่เริ่มมีสัญญาณฟื้นเล็กน้อย โดยดัชนี PMI การผลิตปรับขึ้นจาก 46.1 มาอยู่ที่ 48.3
ในขณะเดียวกัน ผลิตภาพแรงงานยังเป็นอีกจุดที่น่ากังวล โดยในไตรมาส 2 ลดลง 1% ซึ่งถือว่ามากที่สุดนับตั้งแต่ปลายปี 2022 จากภาคการผลิต การค้าส่ง และสาธารณูปโภคที่ผลิตได้น้อยลง สะท้อนความไม่แน่นอนด้านการค้าและอุปสงค์ที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ค่ะ
อย่างไรก็ดี ตัวเลขขาดดุลการค้าในเดือนกรกฎาคมลดลงเหลือ 4.9 พันล้านดอลลาร์แคนาดา จากการส่งออกพลังงานและรถยนต์ที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะไปยังสหรัฐฯ ท่ามกลางการนำเข้าที่ลดลง และการค้ากับประเทศนอกกลุ่มสหรัฐฯ ที่ยังคงแย่ลง สะท้อนถึงจุดอ่อนเชิงโครงสร้างที่ยังไม่หายไปค่ะ
ด้านงบประมาณ นายกรัฐมนตรีมาร์ก คาร์นีย์ ส่งสัญญาณว่างบประมาณเดือนตุลาคมนี้จะเน้นทั้งวินัยทางการคลังและการลงทุนในโครงการสำคัญ เพื่อลดการใช้จ่ายที่เติบโตเกินตัว แต่ในขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ต้องรับมือกับรายจ่ายด้านกลาโหมที่เพิ่มขึ้น รายได้ภาษีที่ลดลง และมาตรการลดภาษีต่าง ๆ ซึ่งทำให้การบริหารการเงินเป็นเรื่องท้าทายมากขึ้น
ทางฝั่งสหรัฐฯ ดอลลาร์เริ่มอ่อนค่า หลังข้อมูลแรงงานเดือนสิงหาคมออกมาต่ำกว่าคาด โดยมีการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 22,000 ตำแหน่ง เทียบกับที่คาดไว้ 75,000 และมีการปรับลดตัวเลขเดือนก่อน ๆ ลง ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 4.3% สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2021 ส่วนอัตราค่าจ้างเฉลี่ยก็ชะลอลงมาอยู่ที่ 3.7% สะท้อนว่าความต้องการแรงงานกำลังอ่อนตัวค่ะ โดยดัชนีค่าเงินดอลลาร์ลดลงประมาณ 0.7% ซึ่งปัจจุบันตลาดมองว่า Fed น่าจะลดดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐานในการประชุมวันที่ 16–17 กันยายน และยังมีโอกาสเล็กน้อยที่อาจลดถึง 50 จุดค่ะ
ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์จาก Morgan Stanley, CIBC และ Bank of America ส่วนใหญ่คาดว่า Fed จะลดดอกเบี้ยสองครั้งในปีนี้ คือ เดือนกันยายนและธันวาคม หรืออาจลดติดกันในเดือนกันยายนและตุลาคม ขณะที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed ก็ส่งสัญญาณชัดเจนที่งาน Jackson Hole ว่านโยบายการเงินอาจต้องปรับ เพื่อรองรับความเสี่ยงในตลาดแรงงาน แม้อัตราเงินเฟ้อจะยังไม่กลับสู่เป้าหมายก็ตามค่ะ
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจอื่น ๆ ของสหรัฐฯ ยังคงหลากหลาย ซึ่ง PMI ภาคบริการของ ISM เพิ่มขึ้นเป็น 52.0 ในเดือนสิงหาคม แสดงถึงการขยายตัวเล็กน้อย แต่การจ้างงานในภาคบริการยังหดตัวต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และยอดจ้างงานในภาคเอกชนเพิ่มขึ้นแค่ 54,000 ตำแหน่ง อีกทั้ง ยอดขอรับสวัสดิการว่างงานยังคงพุ่งสูง
นอกจากนี้ ยอดขาดดุลการค้าขยายตัวแรงในเดือนกรกฎาคมเป็น 78.3 พันล้านดอลลาร์ จากการนำเข้าที่เพิ่มมากขึ้น ท่ามกลางผลิตภาพแรงงานที่เติบโตขึ้น 3.3% และสูงกว่าคาด ก็ได้ช่วยบรรเทาแรงกดดันด้านต้นทุนแรงงานได้ค่ะ
ทั้งนี้ แม้ตลาดแรงงานจะเริ่มอ่อนตัวลง แต่ Bank of America และหลายสถาบันยังมองภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในเชิงบวกแบบที่ต้องใช้ความระมัดระวัง โดยปรับประมาณการ GDP ไตรมาส 3 เพิ่มเป็น 1.5% จากการบริโภคที่ยังแข็งแรง ขณะที่เงินเฟ้อคาดว่าจะทรงตัวใกล้ 3% และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ลดลง โดยนักลงทุนคาดว่า Fed อาจลดดอกเบี้ยรวม 68–100 จุดพื้นฐานก่อนสิ้นปีค่ะ
โดยรวมแล้ว คุณน้ามองว่าแนวโน้มคู่เงิน USDCAD น่าจะเอียงไปทางที่ดอลลาร์แคนาดาจะแข็งค่าขึ้นในช่วง 12 เดือนข้างหน้า จากความแตกต่างของนโยบายการเงินระหว่างสองประเทศ และแรงส่งจากภาคการค้า โดย BoC มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยน้อยกว่า ขณะที่ Fed กำลังเริ่มลดครั้งใหญ่ ซึ่งจะหนุนการส่งออกของแคนาดา โดยเฉพาะน้ำมันและรถยนต์ที่เป็นสัดส่วนหลักของการค้ากับสหรัฐฯ คุณน้าจึงคาดว่า USDCAD อาจค่อย ๆ ขยับลงมาอยู่ในช่วง 1.34–1.36 ในระยะกลาง แต่การอ่อนค่าอาจถูกจำกัดจากปัจจัยภายในประเทศที่ยังเปราะบาง และความไม่แน่นอนในภาคการค้าระหว่างประเทศค่ะ
บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค

ในมุมมองทางเทคนิค USDCAD กำลังเคลื่อนไหวใกล้แนวต้านสำคัญ หลังล่าสุดราคาทดสอบช่วงแนวต้าน 1.3840–1.3860
เครื่องมือวัดโมเมนตัมเริ่มส่งสัญญาณอ่อนแรง โดย RSI อยู่ใกล้ระดับ Overbought และ MACD เริ่มทรงตัว ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาน่าจะขึ้นไปต่อได้อย่างจำกัด เว้นแต่จะสามารถทะลุ 1.3860 ได้อย่างชัดเจน โดยหากราคาทะลุแนวต้านนี้ไปได้ ก็อาจเห็นการขึ้นต่อไปสู่ระดับ 1.3950 และแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 1.4000 ค่ะ
ในด้านแนวรับ ระดับใกล้เคียง คือ บริเวณ 1.3740–1.3760 หากราคาหลุดต่ำกว่าบริเวณนี้ อาจเปลี่ยนแนวโน้มระยะสั้นเป็นเชิงลบ โดยมีเป้าหมายการย่อตัวที่ระดับ 1.3660 และ 1.3580 ซึ่งหากมีการปรับฐานลึกกว่านั้น อาจขยับลงไปถึงแนวรับบริเวณ 1.3415–1.3450 ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ค่ะ
โดยรวมแล้ว โครงสร้างทางเทคนิคตอนนี้เริ่มเอียงไปทางการพักตัวระยะสั้น หลังจากปรับขึ้นต่อเนื่องมาระยะหนึ่ง ความเสี่ยงยังคงโน้มไปทางขาลง ตราบใดที่ยังไม่สามารถทะลุ 1.3860 ได้อย่างมั่นคง นักลงทุนอาจใช้จังหวะที่ราคาดีดตัวขึ้นแต่ไม่สามารถผ่านแนวต้านได้ เป็นโอกาสในการขาย ขณะที่นักลงทุนระยะกลางควรจับตาความเป็นไปได้ที่ราคาจะค่อย ๆ เคลื่อนไปในกรอบ 1.34–1.36 ตามแรงกดดันพื้นฐานจากการผ่อนคลายของ Fed และความแข็งแกร่งเชิงเปรียบเทียบของเศรษฐกิจแคนาดาค่ะ
📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค
- แนวรับสำคัญ : 1.3824, 1.3822, 1.3819
- แนวต้านสำคัญ : 1.3830, 1.3832, 1.3835
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลต่อคู่เงิน USDCAD

ที่มา : Forexfactory

⭐ คุณน้าแนะนำโบรกเกอร์คุณสมบัติเด่น!
การเลือกโบรกเกอร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ สำหรับการเทรด Forex ค่ะ เพราะโบรกเกอร์จะพัฒนาระบบและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเทรดของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นให้ได้มากที่สุด
สำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มั่นใจว่า โบรกเกอร์ Forex แบบไหนดี? คุณน้าได้รวบรวมการจัดอันดับของโบรกเกอร์ในทุกคุณสมบัติ เช่น สเปรดต่ำ, เทรดทอง หรือโบนัสฟรีมาไว้ให้คุณแล้ว!

💡 คัมภีร์เริ่มต้น มือใหม่หัดเทรด
มือใหม่หัดเทรดที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? คุณน้าได้รวบรวมเนื้อหาสำคัญที่ถือเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับการเทรด Forex มาไว้ให้แล้วที่นี่!
🔍 ตัวอย่างเนื้อหา มือใหม่หัดเทรดต้องรู้!
สรุปวิเคราะห์ USDCAD
จุดน่าเข้า Buy
- Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3819 – 1.3824 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 1.3824 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3830 และ SL ที่ประมาณ 1.3816 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3830 – 1.3835 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3840 และ SL ที่ประมาณ 1.3819 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดน่าเข้า Sell
- Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3830 – 1.3835 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 1.3830 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3822 และ SL ที่ประมาณ 1.3838 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 1.3819 – 1.3824 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3814 และ SL ที่ประมาณ 1.3833 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
คำเตือน
การให้ข้อมูลการวิเคราะห์คู่เงิน Forex ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค เป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจการลงทุน
สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge









