วิเคราะห์ USDCAD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 24 กรกฎาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ USDCAD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค อีกทั้งแนวทางในการเข้าออกออเดอร์ ไปจนถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการเทรดคู่เงินแบบละเอียด เรียกได้ว่าครบจบในบทความเดียว!

บทวิเคราะห์ Forex วันนี้ : คู่เงิน USDCAD

บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน

ธนาคารแห่งอเมริกา (Bank of America – BofA) คาดว่า ธนาคารกลางแคนาดา (BoC) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.75% ในการประชุมวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ โดยให้เหตุผลจากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังคงอยู่ในระดับสูงและข้อมูลตลาดแรงงานในเดือนมิถุนายนที่แข็งแกร่งเกินคาดค่ะ

นักเศรษฐศาสตร์จาก BofA ระบุว่า แคนาดามีการจ้างงานเพิ่มขึ้นถึง 83,100 ตำแหน่ง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคงานพาร์ทไทม์และภาคการผลิต ขณะเดียวกัน เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ก็เร่งตัวขึ้นมาที่ 3.1% แม้ว่าเงินเฟ้อทั่วไปจะชะลอลงเหลือ 1.9% แต่แรงกดดันด้านราคาที่ยังไม่คลี่คลายและตลาดแรงงานที่ยังแกร่ง ทำให้ BoC น่าจะยังไม่พร้อมเริ่มลดดอกเบี้ยในระยะนี้ค่ะ

ขณะเดียวกัน GDP ของแคนาดาหดตัวทั้งในเดือนเมษายนและพฤษภาคม ซึ่งสะท้อนถึงการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี BofA คาดว่า BoC จะยังคงมีท่าทีระมัดระวังในระยะสั้น โดยอาจเริ่มลดดอกเบี้ยในช่วงปลายปี โดยคาดว่าจะลดในเดือนกันยายน ตุลาคม และธันวาคม ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลงเหลือ 2.00% ภายในสิ้นปี ทั้งนี้ มุมมองนี้ยังขึ้นอยู่กับว่าเงินเฟ้อจะชะลอลงตามคาดหรือไม่ค่ะ

ในด้านค่าเงิน BofA ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยคาดว่า USDCAD จะขึ้นไปแตะ 1.38 ในไตรมาส 3 จากแผนนโยบายการเงินที่แตกต่างกันระหว่างสหรัฐฯ กับแคนาดา และจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ยังแข็งแกร่งกว่าค่ะ

ด้านผลสำรวจ Business Outlook Survey ในไตรมาส 2 ของ BoC ยังสะท้อนว่าภาคธุรกิจของแคนาดายังมีความกังวลสูง จากความไม่แน่นอนทางการค้า มาตรการภาษี และภาวะเศรษฐกิจโลกที่เปราะบาง ธุรกิจจำนวนมากรายงานว่า ความต้องการเริ่มชะลอตัว ตัวชี้วัดด้านยอดขายลดลง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ส่งออกค่ะ

ด้วยเหตุนี้ หลายบริษัทจึงชะลอแผนการลงทุน ท่ามกลางแผนการจ้างงานที่ยังคงต่ำ และการคาดการณ์การขึ้นค่าแรงที่เริ่มอ่อนแรงลง ขณะที่แรงกดดันจากการแข่งขันด้านราคาและความต้องการของผู้บริโภคที่ยังคงต่ำ ทำให้ธุรกิจต้องดูดซับต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลต่ออัตรากำไรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ค่ะ

นอกจากนี้ ผลสำรวจอีกชุดเปิดเผยว่า 64.5% ของชาวแคนาดา คาดว่าจะเกิดภาวะถดถอยภายใน 12 เดือนข้างหน้า แม้ตัวเลขนี้จะลดลงเล็กน้อยจากต้นปี แต่ก็สะท้อนว่าผู้บริโภคมีความระมัดระวังมากขึ้น หันมาเลือกใช้สินค้าท้องถิ่นและท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าที่ยังไม่จบสิ้นค่ะ

ทั้งนี้ บนเวทีระหว่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของแคนาดาได้กล่าวในที่ประชุม G20 ว่าไม่ควรปล่อยให้ความไม่แน่นอนกลายเป็นเรื่องปกติของโลก พร้อมเรียกร้องให้มีความร่วมมือในระดับโลกผ่านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การยึดหลักนิติธรรม และการสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกา เพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจในระยะยาวค่ะ

ในฝั่งสหรัฐฯ ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวเมื่อวันพุธ หลังอ่อนค่าต่อเนื่อง 3 วัน แต่ยังอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ โดยความเชื่อมั่นของนักลงทุนฟื้นตัวจากข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ – ญี่ปุ่น ที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นและดันค่าเงินดอลลาร์

ทั้งนี้ แม้จะมีปัจจัยบวกชั่วคราว แต่แนวโน้มของดอลลาร์ก็ยังคงเปราะบาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเส้นตายการเก็บภาษีใหม่ในวันที่ 1 สิงหาคม และความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้าโดยรวม นักวิเคราะห์บางรายมองว่าตลาดได้สะท้อนผลกระทบของภาษีส่วนใหญ่มาแล้ว ทำให้ยากที่จะประเมินผลกระทบของนโยบายนี้ออกจากปัจจัยเศรษฐกิจอื่น ๆ

อีกหนึ่งปัจจัยที่สร้างความกังวล คือ ภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ ที่เริ่มอ่อนแรง ยอดขายบ้านมือสองในเดือนมิถุนายนลดลง 2.7% มาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ขณะที่กิจกรรมก่อสร้างก็ชะลอตัวลง ดอกเบี้ยจำนองที่ยังอยู่ใกล้ระดับ 7% บวกกับตลาดแรงงานที่เริ่มอ่อนตัวและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ความต้องการซื้อบ้านซบเซาลงค่ะ ซึ่งถึงแม้ภาคอสังหาฯ จะคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 5% ของ GDP แต่ผลกระทบทางอ้อมจากการใช้จ่ายเกี่ยวกับบ้านก็ยังคงมีนัยสำคัญค่ะ โดยประธานาธิบดีทรัมป์ได้ตำหนิธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยเฉพาะนายเจอโรม พาวเวลล์ ว่าเป็นต้นเหตุของต้นทุนการกู้ยืมที่สูงเกินไป และเสนอแนวคิดลดภาษีกำไรจากการขายบ้านเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจค่ะ

ในขณะเดียวกัน รัฐบาลทรัมป์ก็เร่งกดดัน Fed มากขึ้น โดยรัฐมนตรีคลัง นายสก็อตต์ เบสเซนต์ กล่าวหาว่า Fed มีอคติทางการเมืองในแง่การคาดการณ์เศรษฐกิจ แม้จะไม่มีหลักฐานสนับสนุน ส่งผลให้ฝ่ายกำหนดนโยบายของ Fed มีความเห็นที่หลากหลาย โดยเจ้าหน้าที่บางคนที่ได้รับการแต่งตั้งจากทรัมป์ยังคงสนับสนุนการลดดอกเบี้ย ขณะที่ประธานพาวเวลล์ยังคงวางตัวเป็นกลาง และย้ำว่า Fed ดำเนินนโยบายโดยยึดตามข้อมูล ไม่ใช่แรงกดดันทางการเมืองค่ะ

บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค

ในเชิงเทคนิค USDCAD ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบขาขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากมุมมองที่แตกต่างกันด้านนโยบายการเงินระหว่าง Fed และ BoC ทำให้ช่องว่างอัตราดอกเบี้ยยังคงหนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในระยะกลางค่ะ

ในด้านกราฟ USDCAD ยังยืนได้เหนือระดับแนวรับ 1.3550 ซึ่งการยืนเหนือแนวนี้ได้อย่างต่อเนื่องยังคงกดดันให้ราคาขยับขึ้น โดยมีแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 1.3665–1.3700 โดยหากสามารถทะลุแนว 1.3700 ได้อย่างชัดเจน ก็มีโอกาสขึ้นไปทดสอบ 1.3800 ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของ BofA ในไตรมาส 3 ค่ะ

ด้านแนวรับสำคัญในระยะสั้นอยู่ที่โซน 1.3520–1.3550 หากยังยืนเหนือโซนนี้ได้ ก็ยังเป็นภาพบวกต่อเนื่อง แต่ถ้าหลุดลงไปต่ำกว่านี้ อาจต้องประเมินแนวโน้มใหม่ และเปิดทางไปสู่แนวรับลึกลงที่ 1.3450 ค่ะ

โดยสรุปแล้ว ด้วยปัจจัยพื้นฐานจากนโยบาย BoC ที่ยังลังเล บวกกับความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ยังอ่อนแอ และความแข็งแกร่งของดอลลาร์สหรัฐ คุณน้ามองว่า USDCAD น่าจะค่อย ๆ ขยับขึ้นได้ในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า โดยหากสามารถทะลุแนวต้านที่ 1.3700 ได้ ก็น่าจะมีแรงส่งไปต่อที่ระดับ 1.38 ค่ะ แต่ถ้าหลุดต่ำกว่า 1.3520 ลงมา ก็อาจต้องปรับมุมมองอีกครั้งค่ะ

ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลต่อคู่เงิน USDCAD

สรุปวิเคราะห์ USDCAD

จุดน่าเข้า Buy

• Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3542 – 1.3582 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 1.3582 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3631 และ SL ที่ประมาณ 1.3522 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
• Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3624 – 1.3664 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3686 และ SL ที่ประมาณ 1.3562 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                      

จุดน่าเข้า Sell

• Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3624 – 1.3664 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 1.3624 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3576 และ SL ที่ประมาณ 1.3684 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
• Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 1.3542 – 1.3582 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3521 และ SL ที่ประมาณ 1.3644 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

คำเตือน

การให้ข้อมูลการวิเคราะห์คู่เงิน Forex ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค เป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจการลงทุน

สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge