วิเคราะห์ USDJPY ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 11 พฤศจิกายน 2025

พบกับวิเคราะห์ USDJPY ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค อีกทั้งแนวทางในการเข้าออกออเดอร์ ไปจนถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการเทรดคู่เงินแบบละเอียด เรียกได้ว่าครบจบในบทความเดียว!

บทวิเคราะห์ Forex วันนี้ : คู่เงิน USDJPY

บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน

เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงเผชิญกับภาวะการเติบโตที่ชะลอตัว ท่ามกลางความเชื่อมั่นที่ลดลงต่อแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้นของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น ขณะเดียวกัน รัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ ได้ดำเนินนโยบายการคลังแบบขยายตัว โดยค่าเงินเยนยังคงถูกกดดันจากความคาดหวังว่านโยบายการเงินแบบผ่อนคลายจะดำเนินต่อไป รวมถึงถ้อยแถลงของทาคาอิจิที่กล่าวถึงการแทนที่เป้าหมายงบประมาณประจำปีด้วยกรอบการใช้จ่ายหลายปี ซึ่งสะท้อนถึงการผ่อนคลายวินัยทางการคลัง ทั้งนี้ รายงานล่าสุดของ BOJ ชี้ว่าแม้เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น แต่ยังคงต้องดำเนินนโยบายอย่างระมัดระวังภายใต้ภาวะความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกค่ะ

ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า ญี่ปุ่นมีแนวโน้มหดตัวในไตรมาส 3 ปี 2025 เป็นครั้งแรกในรอบหกไตรมาส โดยคาดว่า GDP จะลดลง 2.5% แบบรายปี ขณะที่ภาษีของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อการส่งออก โดยเฉพาะภาษีรถยนต์ที่ถูกปรับขึ้นถึง 15% สูงกว่าระดับเดิมที่อยู่เพียง 2.5% ท่ามกลางการลงทุนภายในประเทศที่ชะลอตัวลง ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่าสาเหตุมาจากการเติบโตในอดีตที่ไม่ยั่งยืนและแรงกดดันจากภายนอก ขณะเดียวกัน การบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย โดยการใช้จ่ายของครัวเรือนในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นเพียง 1.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน และลดลง 0.7% เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน ท่ามกลางค่าจ้างที่แท้จริงลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 ค่ะ

ภาคบริการของญี่ปุ่นยังคงแสดงความแข็งแกร่ง โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เดือนตุลาคมขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 แม้ว่าคำสั่งซื้อใหม่จะชะลอตัวและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจะกลับมาเพิ่มขึ้นจากค่าจ้างและต้นทุนปัจจัยการผลิตที่สูงขึ้นก็ตาม ขณะที่ความเชื่อมั่นทางธุรกิจอ่อนตัวลงจากความต้องการที่ลดลงและปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ท่ามกลางภาวะการอ่อนค่าของเงินเยนที่กระตุ้นการคาดการณ์เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการแทรกแซงค่าเงิน ตลาดยังคงประเมินว่ามีโอกาสเกิดขึ้นน้อยก่อนที่ค่าเงินจะอ่อนถึงระดับ 158–160 เยนต่อดอลลาร์ เนื่องจากภาวะตลาดโดยรวมยังมีเสถียรภาพ และความกังวลภายในประเทศอยู่ในระดับจำกัดค่ะ

ด้านทาคาอิจิกำลังเตรียมแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สูงกว่ามูลค่า 92 พันล้านดอลลาร์ของปีที่แล้ว โดยเน้นมาตรการลดภาษีและสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนใน 17 อุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ เช่น AI เซมิคอนดักเตอร์ การต่อเรือ และการป้องกันประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการลงทุนเอกชนในระยะยาวผ่านการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากค่าใช้จ่ายลงทุน ซึ่งถือเป็นการหันไปใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างชัดเจน นอกจากนี้ การแต่งตั้งนักเศรษฐศาสตร์ที่มีความเชื่อมโยงกับนโยบายอาเบโนมิกส์ และการนำกรอบงบประมาณหลายปีมาใช้ ยังสะท้อนถึงการกลับมาของแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงินและการคลังอย่างเข้มข้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่ามาตรการดังกล่าวอาจส่งผลให้ภาระหนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับสูงของญี่ปุ่นเพิ่มมากยิ่งขึ้นค่ะ

ขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ขณะที่นักลงทุนยังจับตาความไม่แน่นอนจากการปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อนานถึง 40 วัน ท่ามกลางตลาดแรงงานซึ่งเริ่มแสดงสัญญาณตึงตัว โดยครัวเรือนคาดว่าอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1980 แม้การเลิกจ้างจริงยังมีจำกัด ทั้งนี้ ความคาดหวังเงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 4.7% สำหรับปีหน้า ขณะที่ความคาดหวังระยะยาวลดลงเหลือ 3.6% ด้านจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์ก ระบุว่า Fed อาจยุติมาตรการลดสภาพคล่องและเริ่มทยอยซื้อพันธบัตรอีกครั้งเพื่อรักษาสภาพคล่องในระบบ โดยอาจเริ่มดำเนินการตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2026 ค่ะ

ทั้งนี้ คู่เงิน USDJPY จึงคาดว่ายังมีแนวโน้มได้รับแรงหนุนในระยะสั้นจากกระแสเงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งหนุนความต้องการดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวม ขณะที่เงินเยนญี่ปุ่นยังขาดแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากภาวะเงินเฟ้อและนโยบายการเงินผ่อนคลายของ BOJ ส่งผลให้โดยรวม USDJPY มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบของการปรับฐาน โดยแรงกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถูกแทนที่ด้วยการที่ญี่ปุ่นยังไม่มีการเข้มงวดทางนโยบายการเงิน ทำให้คู่เงินยังคงทรงตัวใกล้ระดับปัจจุบัน เว้นแต่จะมีการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายสำคัญจาก Fed หรือ BOJ ค่ะ

บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค

คู่เงิน USDJPY ณ ระดับปัจจุบันกำลังแสดงสัญญาณของการพักฐาน หลังจากมีการปรับตัวลงเล็กน้อยจากจุดสูงสุดล่าสุด ซึ่งสะท้อนถึงความไม่แน่นอนของนักลงทุนภายใต้ปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคที่หลากหลาย ในกราฟรายวัน ราคายังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน และ 200 วัน ซึ่งบ่งชี้ว่าแนวโน้มขาขึ้นในภาพรวมยังคงแข็งแรงอยู่ อย่างไรก็ตาม ดัชนีโมเมนตัมอย่าง RSI แสดงให้เห็นว่าคู่เงินนี้เริ่มเข้าใกล้เขตซื้อมากเกินไป ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดการปรับฐานระยะสั้น

ในแง่ของแนวต้านทางเทคนิค ระดับ 155.00 ถือเป็นแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยา หากราคาสามารถทะลุและยืนเหนือระดับนี้ได้อย่างมั่นคง อาจเปิดทางให้ขยับขึ้นต่อไปยังบริเวณ 156.25 และ 157.10 ในทางกลับกัน หากราคาหลุดต่ำกว่า 153.80 การปรับฐานลงมาที่บริเวณ 152.50 ก็มีโอกาสเกิดขึ้น และหากราคาหลุดต่ำกว่าระดับนั้น อาจนำไปสู่การปรับฐานที่ลึกขึ้นไปยังบริเวณ 150.80 ได้ค่ะ

ในระยะสั้น คุณน้าจึงมองว่า USDJPY น่าจะยังเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 153.80 – 155.00 เนื่องจากนักลงทุนยังคงจับตาท่าทีที่ระมัดระวังของ Fed และนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนของญี่ปุ่น หากธนาคารกลางญี่ปุ่นยังไม่ส่งสัญญาณเปลี่ยนนโยบายสู่ภาวะปกติ หรือ Fed ไม่ได้เปลี่ยนท่าทีเป็นผ่อนคลายอย่างชัดเจน แนวโน้มขาลงของคู่เงินนี้ก็น่าจะยังจำกัดอยู่ค่ะ

สำหรับระยะกลาง โครงสร้างทางเทคนิคยังคงสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์อยู่ คุณน้ามองว่าโมเมนตัมเชิงบวกอาจกลับมาอีกครั้ง หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ชะลอตัวลงมากนัก การทะลุและยืนเหนือระดับ 155.00 ได้อย่างชัดเจนจะเป็นสัญญาณยืนยันของแนวโน้มขาขึ้นสู่บริเวณ 157.50 ขณะที่การหลุดต่ำกว่า 152.50 จะบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงของทิศทางตลาด และอาจเปิดทางให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงในกรอบที่กว้างขึ้น นักลงทุนจึงควรติดตามความผันผวนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปัจจัยอย่างสถานการณ์การคลังของสหรัฐฯ และถ้อยแถลงจาก Fed ในระยะถัดไป อาจเป็นตัวกระตุ้นสำคัญต่อทิศทางของตลาดค่ะ

ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลต่อคู่เงิน USDJPY

สรุปวิเคราะห์ USDJPY

จุดน่าเข้า Buy

• Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 153.73 – 154.13 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 154.13 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 154.55 และ SL ที่ประมาณ 153.53 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
• Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 154.47 – 154.87 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 154.99 และ SL ที่ประมาณ 153.93 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

จุดน่าเข้า Sell

• Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 154.47 – 154.87 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 154.47 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 154.11 และ SL ที่ประมาณ 155.07 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
• Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 153.73 – 154.13 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 153.67 และ SL ที่ประมาณ 154.67 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

คำเตือน

การให้ข้อมูลการวิเคราะห์คู่เงิน Forex ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค เป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจการลงทุน

สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge