เปิดบัญชี Forex ยังไง? มือใหม่ทำตามได้ง่าย ๆ ใน 7 ขั้นตอน

เปิดบัญชี Forex ยังไง? มือใหม่ทำตามได้ง่าย ๆ ใน 7 ขั้นตอน
Table of Contents

ปัจจุบันมีโบรกเกอร์ Forex ให้เลือกหลายราย ซึ่งเทรดเดอร์มือใหม่หลาย ๆ คน อาจสงสัยว่าเริ่มต้นเทรด Forex ยังไงดี? เพราะมีประเภทบัญชีให้เลือกเป็นจำนวนมาก แต่ไม่ต้องกังวล ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะในบทความนี้ คุณน้าได้ทำวิธีการเปิดบัญชี Forex ง่าย ๆ ภายใน 7 ขั้นตอน สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่มาไว้ให้แล้ว ไปหาคำตอบกันค่ะ!

*หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงบทความให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้เป็นการชักชวนเพื่อลงทุนแต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

สิ่งสำคัญที่ควรรู้ ก่อนเริ่มสมัครเทรด Forex

ก่อนที่เทรดเดอร์มือใหม่จะไปเรียนรู้กับ 7 ขั้นตอนในการเปิดบัญชี Forex คุณควรทำความรู้จักกับ 3 คำศัพท์พื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับตลาด Forex เพื่อให้เห็นภาพรวมของตลาดได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยมีรายละเอียด ดังนี้ค่ะ

นอกจากคำศัพท์ที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังมีคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับตลาด Forex อีกมากมายที่เทรดเดอร์มือใหม่ควรให้ความสนใจค่ะ โดยคุณน้าได้รวบรวมคำศัพท์ Forex สำคัญมาไว้ให้คุณแล้ว สามารถคลิกอ่านได้ที่บทความด้านล่างเลย


7 ขั้นตอนการเปิดบัญชี Forex สำหรับมือใหม่

สำหรับในบทความนี้ คุณน้าได้รวบรวม 7 ขั้นตอนในการเปิดบัญชี Forex สำหรับมือใหม่ เริ่มต้นเปิดบัญชีอย่างไรให้ปลอดภัย โดยมีรายละเอียด ดังนี้ค่ะ

ขั้นตอนที่ 1 : เลือกโบรกเกอร์ Forex 

อันดับแรกของการสมัครเพื่อเทรด Forex ก็คือ คุณต้องทำการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับตลาดและโบรกเกอร์ Forex ให้ดีเสียก่อนค่ะ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า เทรดเดอร์ไม่สามารถส่งคำสั่งซื้อขายเข้าสู่ตลาด Forex ได้เองโดยตรง ทำให้เทรดเดอร์ต้องทำการซื้อขายผ่านคนกลาง นั่นก็คือ โบรกเกอร์ Forex นั่นเองค่ะ 

ดังนั้นแล้ว เทรดเดอร์จำเป็นต้องเลือกโบรกเกอร์ที่ตอบโจทย์กับความต้องการและสไตล์การเทรดของตนเองให้ได้มากที่สุด เพื่อสิทธิประโยชน์ในการเทรดของคุณค่ะ

เกร็ดความรู้ : การเลือกโบรกเกอร์ Forex เลือกแบบไหนดี?

เนื่องจากในปัจจุบัน มีโบรกเกอร์ที่เปิดให้บริการในการซื้อขาย Forex เป็นจำนวนมาก แล้วอย่างนี้ คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าโบรกเกอร์ที่คุณเลือกนั้นมีความปลอดภัย ดังนั้น คุณน้าได้ทำ 5 เช็กลิสต์ง่าย ๆ มาฝากกันค่ะ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

ความน่าเชื่อถือ : โบรกเกอร์ที่คุณสนใจจะต้องมีความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย โดยเทรดเดอร์สามารถตรวจสอบได้จากใบอนุญาตและหน่วยงานกำกับดูแลที่ทางโบรกเกอร์ระบุไว้ค่ะ

ระบบการฝากถอนเงิน : จะสะท้อนให้เห็นถึงความโปร่งใสในการดำเนินธุรกรรมของโบรกเกอร์และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดให้กับเทรดเดอร์ได้ดียิ่งขึ้น

ค่าธรรมเนียมในการเทรด : ค่าธรรมเนียมในการเทรดที่เหมาะสม จะสะท้อนให้เห็นถึงต้นทุนในการเทรดที่คุณต้องเสียให้ทางโบรกเกอร์ ซึ่งจะส่งผลต่อโอกาสในการทำกำไรของคุณด้วยเช่นกันค่ะ

ระบบเทรด Forex ที่มีเสถียรภาพ : จะสะท้อนให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือของทางโบรกเกอร์ และที่สำคัญก็คือ จะช่วยจับจังหวะในการซื้อขายได้แม่นยำมากขึ้นอีกด้วยค่ะ โดยระบบเทรดที่มีเสถียรภาพสามารถสังเกตได้จาก 5 ข้อสำคัญ ดังนี้

  1. สามารถทำกำไรได้จริงในทุกสภาวะตลาด
  2. สามารถทำ BackTest ได้
  3. อินเทอร์เฟซใช้งานง่ายและไม่ซับซ้อนเกินไป
  4. มีเครื่องมือทางเทคนิคที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเทรด
  5. สามารถดำเนินคำสั่งซื้อขายได้อย่างรวดเร็ว

Customer Support : การบริการลูกค้าที่ดีก็สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจของทางโบรกเกอร์เช่นกันนะคะ เพราะในกรณีที่ลูกค้าเกิดปัญหาเกี่ยวกับการเทรดกะทันหัน การมี Customer Support ที่พร้อมแก้ไขปัญหาตลอดเวลา จะช่วยให้เทรดเดอร์ได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีนั่นเองค่ะ


ขั้นตอนที่ 2 : ทำความคุ้นเคยกับเงื่อนไขการเทรด

หลังจากที่เลือกโบรกเกอร์ที่คุณสนใจได้แล้ว ขั้นตอนต่อมาก็คือ การศึกษาและทำความคุ้นเคยกับเงื่อนไขในการเทรด เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจภาพรวมของการบริการทั้งหมดก่อน โดยโบรกเกอร์แต่ละรายจะมีเงื่อนไขสำคัญที่คล้ายกัน ซึ่งมีรายละเอียดหลัก ดังนี้ค่ะ

Leverage

ในช่วงเวลาที่มีข่าวหรือว่าตลาดมีความผันผวนสูง ทางโบรกเกอร์มักจะมีการปรับ Leverage ให้ลดลงชั่วคราว เนื่องจากในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนอย่างรุนแรงนั้น เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มีโอกาสเกิดการขาดทุนอย่างหนักไปถึงขั้นพอร์ตแตก เพราะระดับมาร์จิ้นไม่เพียงพอ ซึ่งสาเหตุหลักเป็นเพราะราคามีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว จนทำให้เทรดเดอร์ไม่สามารถจับจังหวะในการซื้อขายได้และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ การซื้อขายเกิดความผิดพลาดค่ะ

และด้วยเหตุนี้เอง เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น ทางโบรกเกอร์จึงปรับลดเลเวอเรจลงชั่วคราวเมื่อมีข่าวสารสำคัญ โดยโบรกเกอร์แต่ละรายจะกำหนดการให้เลเวอเรจที่แตกต่างกัน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับนโยบายป้องกันบัญชีติดลบ และมาตรฐานในการบริหารความเสี่ยงภายใต้ใบอนุญาตและหน่วยงานที่กำกับดูแลโบรกเกอร์นั้น ๆ ค่ะ

เวลาเปิด-ปิดในตลาด Forex

เทรดเดอร์หลายคนอาจจะคิดว่าเวลาเปิด-ปิดในตลาด Forex นั้นเหมือนกัน เพราะอิงมาจากไทม์โซนเดียวกัน แต่จริง ๆ แล้ว เวลาเปิด-ปิดของแต่ละโบรกเกอร์จะมีความแตกต่างกันค่ะ เพราะจะขึ้นอยู่กับเวลาของเซิร์ฟเวอร์และสภาพคล่องที่ทางโบรกเกอร์ให้บริการนั่นเอง


ขั้นตอนที่ 3 : กรอกแบบฟอร์มและรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคล

หลังจากที่คุณเลือกโบรกเกอร์ที่สนใจได้แล้ว ขั้นตอนต่อมาก็คือ การเปิดบัญชีกับทางโบรกเกอร์ โดยการกรอกแบบฟอร์มและรายละเอียดส่วนบุคคลค่ะ โดยข้อมูลที่ทางโบรกเกอร์จะให้กรอกก็จะเป็นข้อมูลทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว จะมีรายละเอียด ดังนี้

  • ชื่อ-สกุล
  • อีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์
  • ประเทศที่อยู่อาศัย
  • รหัสผ่าน 6-15 ตัวอักษร

หลายคนอาจจะสงสัยว่า โบรกเกอร์จะเก็บข้อมูลของเราไปทำไม เหตุผลก็เป็นเพราะทางโบรกเกอร์จะพิจารณาคุณสมบัติของลูกค้าจากข้อมูลเบื้องต้นที่แนบมาค่ะ เพราะหากลูกค้าอายุต่ำกว่า 18 ปี หรืออาศัยอยู่ในประเทศที่ไม่ได้รองรับการให้บริการสำหรับโบรกเกอร์นั้น เทรดเดอร์ก็จะไม่สามารถทำการเทรดได้


ขั้นตอนที่ 4 : สร้างโปรไฟล์และส่งเอกสารเพื่อยืนยันตัวตน

หลังจากที่กรอกแบบฟอร์มและรายละเอียดส่วนบุคคลเบื้องต้นไปแล้ว โดยบางโบรกเกอร์จะให้คุณสร้างโปรไฟล์และส่งเอกสารเพื่อยืนยันตัวตนก่อน จึงจะสามารถเริ่มต้นเทรดได้ค่ะ 

ในขณะที่บางโบรกเกอร์ก็จะให้คุณเลือกประเภทบัญชีเทรดก่อน ค่อยทำการยืนยันตัวตนภายหลังค่ะ สำหรับจุดประสงค์ที่ทางโบรกเกอร์ให้ยืนยันตัวตนนั้น ก็เพราะว่าเป็นการบ่งบอกว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง ไม่ได้แอบอ้างข้อมูลของใครขึ้นมา ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการสร้างโปรไฟล์และการส่งเอกสารเพื่อยืนยันตัวตนมีความสำคัญเป็นอย่างมากค่ะ

เอกสารที่ใช้ในการยืนยันตัวตน มีอะไรบ้าง?

สำหรับเอกสารในการยืนยันตัวตนจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ดังนี้ค่ะ

1. เอกสารยืนยัน ID

เอกสารยืนยัน ID ได้แก่ บัตรประชาชน, ใบขับขี่ หรือหนังสือเดินทาง ซึ่งเทรดเดอร์สามารถเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งได้ค่ะ 

2. เอกสารยืนยันที่อยู่

โดยปกติแล้ว เอกสารที่ใช้ยืนยันที่อยู่มักจะเป็นสมุดบัญชีธนาคาร, Statement เงินเดือน และบิลใบแจ้งหนี้ต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น บิลค่าน้ำ, บิลค่าไฟ, บิลค่าโทรศัพท์, บิลค่างวดรถ หรือบิลค่าบัตรเครดิต เป็นต้น

สำหรับเอกสารที่ใช้ในการยืนยันตัวตนนั้น จะต้องมีอายุไม่เกิน 6 เดือนหรือเป็นปัจจุบัน โดยบางโบรกเกอร์จะอนุญาตให้ใช้รูปภาพที่ถ่ายจากกล้องมือถือได้ หรือบางโบรกเกอร์อาจจะให้อัปโหลดไฟล์รูปภาพ ไม่ว่าจะเป็น PDF, PNG หรือ JPG ที่เห็นรายละเอียดของข้อมูลที่ครบถ้วน แต่ทั้งนี้ ก็จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและเกณฑ์การพิจารณาของแต่ละโบรกเกอร์ด้วยนะคะ


ขั้นตอนที่ 5 : กรอกแบบฟอร์มเพื่อประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้

และอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการเปิดบัญชี Forex ก็คือ การกรอกแบบฟอร์มและข้อตกลงในการเปิดเผยความเสี่ยงค่ะ เพราะอย่างที่รู้กันว่าการลงทุนนั้นมีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก เทรดเดอร์จึงจำเป็นต้องรับทราบความเสี่ยงไว้ว่า คุณเป็นผู้ใช้บริการและเต็มใจลงทุนด้วยตนเอง 

โดยโบรกเกอร์จะให้คุณอ่านขอบเขตการให้บริการว่า ทางโบรกจะให้บริการในส่วนไหน มีเงื่อนไขอย่างไร และหากการลงทุนของคุณเกิดข้อผิดพลาดหรือผิดนโยบายแล้วจะมีการจัดการอย่างไร ดังนั้น อย่าลืมอ่านเงื่อนไขการให้บริการให้ครบถ้วน เพื่อป้องกันการตกหล่นหรือผิดพลาดจากข้อมูล ก่อนจะทำการกดยอมรับเงื่อนไขค่ะ

เงื่อนไขการกรอกแบบฟอร์มยอมรับความเสี่ยง มีอะไรบ้าง?

สำหรับสาระสำคัญที่คุณจะต้องกรอกในแบบฟอร์มเพื่อยอมรับความเสี่ยง มีรายละเอียดคร่าว ๆ ดังนี้ค่ะ

การกำหนดเป้าหมายในการลงทุน : การประเมินตนเอง เพื่อให้ทราบว่าคุณเหมาะกับการเป็นเทรดเดอร์ประเภทไหน เช่น เทรดเดอร์ที่ชื่นชอบการเก็งกำไรระยะสั้น, เทรดเดอร์ที่ชื่นชอบการถือออเดอร์ข้ามคืน ไปจนถึงการเทรดระยะยาว เพื่อให้คุณสามารถเลือกเลเวอเรจที่เหมาะสมได้

การประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้ : อย่างที่ทราบกันว่า การเทรด Forex หรือ CFD ล้วนมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะกับสินทรัพย์อย่างคู่เงินและทองคำที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และหากเทรดเดอร์เกิดลงทุนผิดพลาดหรือเกิดการขาดทุนขึ้นมา ทางโบรกเกอร์ไม่ได้มีส่วนในการรับผิดชอบค่ะ เพราะโบรกเกอร์เป็นเพียงคนกลางที่ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้กับเทรดเดอร์ในการส่งคำสั่งซื้อขายเข้าสู่ตลาด Forex เท่านั้น การประเมินจุดเข้าออกจึงเป็นหน้าที่ของทางเทรดเดอร์เอง

ดังนั้นแล้ว จะเห็นได้ว่าการประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้นั้น มีความสำคัญเป็นอย่างมาก และก่อนที่เทรดเดอร์จะเริ่มต้นเทรด อย่าลืมอ่านเงื่อนไขและประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้ให้ละเอียดและรอบคอบ เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์และเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดของคุณให้ได้มากที่สุดค่ะ


ขั้นตอนที่ 6 : เลือกบัญชีและฝากเงิน เพื่อเริ่มต้นเทรด 

หลังจากที่คุณยื่นเอกสารและยอมรับความเสี่ยงเรียบร้อยแล้ว ต่อไปมาเลือกบัญชีและฝากเงินเพื่อเริ่มต้นเทรดกันค่ะ โดยคุณจะต้องเลือกเปิดบัญชีที่สนใจก่อนเป็นอันดับแรก แต่ถ้าใครที่อยากลองเทรดโดยไม่ใช้เงินจริงก็สามารถลองในบัญชี Demo ได้นะคะ 

สำหรับประเภทบัญชี Forex นั้นมีหลายบัญชีด้วยกัน ดังนั้น คุณน้าขอยกตัวอย่าง 5 ประเภทบัญชีที่ได้รับความนิยม โดยมีข้อสังเกตที่แตกต่างกัน ดังนี้ค่ะ

ประเภทบัญชี Forex แบบไหนเหมาะกับคุณ?

ประเภทบัญชีข้อสังเกตสำคัญเหมาะกับใคร
Standard/Classic1. สเปรดต่ำไปถึงปานกลาง
2. มีสภาพคล่องสูง
3. ไม่มีค่าคอมมิชชัน
4. ฝากเงินเริ่มต้นต่ำไปจนถึงปานกลาง
1. มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นเทรด
2. เทรดเดอร์ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการเทรด
Micro และ Mini1. สเปรดค่อนข้างใกล้เคียงกับบัญชี Standard/Cent
2. ให้ Lot ขนาดเล็ก
3. ฝากเงินเริ่มต้นต่ำ
1. เทรดเดอร์ที่มีต้นทุนจำกัด
2. มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นเทรด
ECN/Raw1. สเปรดต่ำ
2. มีการคิดค่าคอมมิชชัน
3. ฝากเงินเริ่มต้นปานกลางไปจนถึงสูง
เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ โดยเฉพาะสายเก็งกำไรระยะสั้น (Scalping Trading)
Cent1. ฝากเงินเริ่มต้นต่ำ
2. ยอดเงินคูณเป็นหน่วย Cent
3. สเปรดสูงกว่าบัญชี Standard และ ECN เล็กน้อย
4. ให้ Lot ขนาดเล็ก
เทรดเดอร์ที่มีต้นทุนจำกัด โดยยอมรับความเสี่ยงในการเทรดได้ต่ำ
Pro1. ฝากเงินเริ่มต้นปานกลางไปจนถึงสูง
2. ค่าสเปรดต่ำ
3. บางโบรกมีการคิดค่าคอมมิชชัน
เทรดเดอร์มืออาชีพหรือเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ และชื่นชอบการเปิด-ปิดออเดอร์หลาย ๆ ครั้ง

ฝากเงินขั้นต่ำเท่าไหร่ดี?

หลังจากที่คุณเลือกบัญชีที่สนใจเรียบร้อยแล้ว การฝากเงินขั้นต่ำก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเป็นข้อถัดไปค่ะ โดยการฝากเงินจะขึ้นอยู่กับแต่ละโบรกเกอร์ ซึ่งมีตั้งแต่ฝากเงินขั้นต่ำ $1 หรือมากกว่านั้น 

อย่างไรก็ดี หากเทรดเดอร์ฝากเงินมากเกินไป ก็มีโอกาสที่พอร์ตจะขาดทุนอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเทรดเดอร์มือใหม่ยังไม่มีความชำนาญในการเทรด ซึ่งอาจจะไม่ได้รู้จักกระบวนการในการเทรดที่มากพอ เพราะถึงแม้ว่าการฝากเงินจำนวนมากจะเพิ่มโอกาสในการทำกำไร แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่มากขึ้น

ดังนั้น คุณน้าขอแนะนำว่าฝากเงินขั้นต่ำ $10 กำลังเหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ เนื่องจากเทรดเดอร์มือใหม่ควรเรียนรู้การจับจังหวะในตลาดให้แม่นยำเสียก่อน เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนให้ได้มากที่สุด หลังจากนั้น หากเริ่มเข้าใจภาพรวมของตลาดแล้ว ค่อยขยับเงินลงทุนเพิ่มขึ้นตามประสบการณ์ในการเทรดก็ไม่เสียหายค่ะ

ข้อควรระวังในการฝากเงิน

  • ชื่อผู้ฝากเงินต้องเป็นชื่อเดียวกับเจ้าของบัญชีเทรด และตอนถอนเงินก็ต้องเป็นชื่อเดียวกัน
  • ไม่ควรฝากแล้วถอนเงินออกมาทันที เพราะโบรกเกอร์อาจจะมองว่าเป็นการฟอกเงิน

ข้อสังเกตสำคัญ : การฝากเงินขั้นต่ำไม่มีกฎตายตัว ซึ่งจะขึ้นอยู่กับต้นทุนในการเทรด, สไตล์การเทรด และความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ ดังนั้น อย่าลืมบริหารพอร์ตการลงทุนให้ดี และที่สำคัญก็คือ อย่าลืมสำรองเงินเย็นไว้ใช้ในยามฉุกเฉินด้วยนะคะ


ขั้นตอนที่ 7 : เลือกแพลตฟอร์มในการซื้อขาย

มาถึงขั้นตอนการเลือกแพลตฟอร์มในการเทรดแล้วค่ะ โดยส่วนใหญ่แล้ว แพลตฟอร์มที่รองรับการเทรดจะใช้เป็น MetaTrader 4 หรือ MetaTrader 5 เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งจะรองรับแทบทุกโบรกเกอร์เลยค่ะ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์มากมายให้เทรดเดอร์เลือกใช้ ทั้งการใช้ Indicator, เส้นแนวรับ–แนวต้าน และเครื่องมืออื่น ๆ อีกมากมาย โดยเทรดเดอร์สามารถประยุกต์ใช้ให้ตรงกับกลยุทธ์ในการเทรดแบบที่ตนเองถนัดได้เลยค่ะ

นอกจากจะใช้แพลตฟอร์ม MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 แล้วนั้น โบรกเกอร์บางรายยังมีแอปพลิเคชันเฉพาะของโบรกเกอร์เอง ซึ่งรวมไปถึงการเทรดบนเว็บไซต์ (WebTerminal) ด้วยเช่นกันค่ะ


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเปิดบัญชีโบรกเกอร์ Forex

โบรกเกอร์ ECN ไหนดีที่สุดในประเทศไทย?

โบรกเกอร์ ECN/Raw ที่ดีที่สุดในประเทศไทย จากการศึกษาและทดลองใช้งานจริงของทีมงานคุณน้าพาเทรด มีทั้งหมด 3 โบรกเกอร์ โดยมีรายชื่อ ดังนี้

  • IUX : ค่าสเปรด 0.0 pips คิดค่าคอมมิชชัน $6/Lot และ Free Swap
  • IC Markets : ค่าสเปรด 0.0 pips คิดค่าคอมมิชชัน $7/Lot และคิดค่า Swap 
  • Pepperstone : ค่าสเปรด 0.0 pips คิดค่าคอมมิชชัน $6/Lot และคิดค่า Swap

เทรด Forex ต้องมีเงินเท่าไหร่?

คุณสามารถเริ่มต้นเทรด Forex ได้ด้วยเงินขั้นต่ำตั้งแต่ $5 เป็นต้นไปค่ะ เพราะจุดเด่นของการเทรด Forex ก็คือ เทรดเดอร์สามารถใช้เงินทุนเริ่มต้นต่ำได้ เนื่องจากโบรกเกอร์หลาย ๆ ราย ให้บริการในด้านการฝากเงินขั้นต่ำ ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน อีกทั้งยังมีการให้เลเวอเรจเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรอีกด้วยค่ะ 

อย่างไรก็ดี การเริ่มต้นเทรด Forex ที่ดีควรใช้เงินที่จะไม่ทำให้คุณเดือดร้อนในอนาคต หรือไม่ใช้เงินฉุกเฉินมาลงทุนค่ะ เพราะการเทรด Forex มีความเสี่ยงสูงนั่นเองค่ะ

บัญชีทดลอง Demo ดียังไง?

บัญชีทดลอง Demo เป็นบัญชีที่จะช่วยฝึกเทรด โดยที่เทรดเดอร์ไม่จำเป็นต้องฝากเงินเข้าไปในบัญชี แต่ก็สามารถฝึกฝนในตลาดจริงได้ ซึ่งประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของบัญชีทดลองก็คือ เทรดเดอร์สามารถทดลองใช้ระบบเทรดของทางโบรกเกอร์เพื่อประกอบการตัดสินใจ ก่อนเริ่มต้นเทรดได้นั่นเอง

⭐ คุณน้าแนะนำโบรกเกอร์คุณสมบัติเด่น!

การเลือกโบรกเกอร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ สำหรับการเทรด Forex ค่ะ เพราะโบรกเกอร์จะพัฒนาระบบและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเทรดของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นให้ได้มากที่สุด

สำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มั่นใจว่า โบรกเกอร์ Forex แบบไหนดี? คุณน้าได้รวบรวมการจัดอันดับของโบรกเกอร์ในทุกคุณสมบัติ เช่น สเปรดต่ำ, เทรดทอง หรือโบนัสฟรีมาไว้ให้คุณแล้ว!


มือใหม่หัดเทรดที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? คุณน้าได้รวบรวมเนื้อหาสำคัญที่ถือเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับการเทรด Forex มาไว้ให้แล้วที่นี่!



สรุปการเปิดบัญชีโบรกเกอร์ Forex สำคัญยังไง

จะเห็นได้ว่าการเปิดบัญชี Forex มีขั้นตอนที่ควรพิจารณา ซึ่งคุณน้าแนะนำว่า อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจเปิดบัญชีเทรดกับโบรกเกอร์ หากยังไม่ได้นำ 7 ขั้นตอนข้างต้นไปใช้ เพราะการไม่ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด อาจจะทำให้คุณก้าวพลาดตั้งแต่เริ่มต้นค่ะ ดังนั้น อย่าลืมศึกษาข้อมูลให้ละเอียดและรอบคอบก่อนตัดสินใจเทรด ด้วยความปรารถนาดีจากทีมงานคุณน้าพาเทรดค่ะ


สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

Picture of คุณน้า
คุณน้า
คุณน้าเป็นเทรดเดอร์ที่คลุกคลีอยู่ในตลาดต่าง ๆ ร่วม 10 ปี จึงอยากนำความรู้ที่มีมาแบ่งปันให้กับทุกคน
Table of Contents
Recent Post
Recent Post
บทวิเคราะห์คู่เงิน EURUSD 25 พฤศจิกายน 2025
บทวิเคราะห์ EURUSD วันที่ 25 พฤศจิกายน 2025

พบกับวิเคราะห์ EURUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

วิเคราะห์ USDCAD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 25 พฤศจิกายน 2025
วิเคราะห์ USDCAD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 25 พฤศจิกายน 2025

พบกับวิเคราะห์ USDCAD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

บทวิเคราะห์คู่เงิน USDCHF 24 พฤศจิกายน 2025
บทวิเคราะห์ USDCHF วันที่ 24 พฤศจิกายน 2025

พบกับวิเคราะห์ USDCHF ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

ทางเว็บไซต์ คุณน้าพาเทรด
ได้มีการใช้คุกกี้เพื่อช่วยปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้เว็บไซต์ของเราดียิ่งขึ้น


Privacy Policy