พบกับวิเคราะห์ [คู่เงิน] ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค อีกทั้งแนวทางในการเข้าออกออเดอร์ ไปจนถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการเทรดคู่เงินแบบละเอียด เรียกได้ว่าครบจบในบทความเดียว!
บทวิเคราะห์ Forex วันนี้ : คู่เงิน USDCAD
บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน
เศรษฐกิจของแคนาดากำลังแสดงสัญญาณตึงตัวชัดเจน โดยอัตราเงินเฟ้อในเดือนพฤษภาคมยังทรงตัวอยู่ที่ 1.7% เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินที่ลดลงช่วยชดเชยแรงกดดันด้านต้นทุนในหมวดที่อยู่อาศัย อาหาร และการขนส่งค่ะ ขณะเดียวกัน GDP ที่แท้จริงหดตัวลง 0.1% ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นการพลิกกลับจากการเติบโตในเดือนมีนาคม และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัว การหดตัวครั้งนี้มีสาเหตุหลักจากอุตสาหกรรมการผลิตสินค้า ซึ่งลดลง 0.6% โดยเฉพาะภาคการผลิต ซึ่งร่วงลงถึง 1.9% ถือเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2021 สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของภาคอุตสาหกรรมต่อภาษีของสหรัฐฯ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ที่หดตัวถึง 3.7% และการค้าส่งเองก็ชะลอลงอย่างมากจากยอดขายรถยนต์ที่อ่อนแอลงค่ะ
ตัวเลขประมาณการเบื้องต้นยังชี้ว่า GDP เดือนพฤษภาคมน่าจะหดตัวอีก 0.1% ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยขนาดย่อม และนำไปสู่การคาดการณ์ว่าอาจมีการลดดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางแคนาดาในเร็ว ๆ นี้ค่ะ ท่ามกลางการลงทุนในภาคธุรกิจที่ชะลอตัว การจ้างงานที่ยังซบเซา และการบริโภคที่เริ่มอ่อนแรง ซึ่งทางธนาคารกลางก็ออกมาเตือนว่าเศรษฐกิจไตรมาสที่สองของปีนี้น่าจะอ่อนแอกว่าที่คาดไว้พอสมควรค่ะ
ทั้งนี้ ข้อมูลแรงงานในเดือนเมษายนชี้ว่าจำนวนการจ้างงานโดยรวมยังค่อนข้างคงที่ค่ะ แต่มีความอ่อนแอในบางภาคธุรกิจ เช่น ภาคการผลิต การบริการที่พักและอาหาร และการค้าปลีก ซึ่งยังคงมีการสูญเสียงานอย่างต่อเนื่อง ในทางตรงกันข้าม ภาคสาธารณสุข การบริหารภาครัฐ และการศึกษา กลับมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้รายสัปดาห์เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 4.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ตำแหน่งงานว่างกลับลดลงสู่ระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2017 บ่งชี้ถึงความต้องการแรงงานที่อ่อนตัวลงโดยรวมค่ะ
ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี มาร์ก คาร์นีย์ ได้ผลักดันกฎหมายสำคัญฉบับหนึ่งที่ถูกขนานนามว่าเป็น “กฎหมายสร้างชาติ” เพื่อเร่งอนุมัติโครงการโครงสร้างพื้นฐานและโครงการทรัพยากรขนาดใหญ่ค่ะ โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันโครงการด้านพลังงาน ท่าเรือ และโครงการสำคัญอื่น ๆ ขณะที่แคนาดากำลังเผชิญกับภูมิทัศน์เศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ
ด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ของแคนาดาเองก็ได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ เช่นกันค่ะ โดยคาดว่าราคาบ้านเฉลี่ยทั่วประเทศจะลดลง 2% ในปีนี้ และจะทรงตัวในปี 2026 ซึ่งถือเป็นการปรับลดคาดการณ์อย่างมีนัยสำคัญจากก่อนหน้า ความเชื่อมั่นของผู้ซื้ออ่อนแรงลงจากความกังวลเรื่องการเลย์ออฟจากงานและอุปทานที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การลดดอกเบี้ยตลอดปีที่ผ่านมาก็ช่วยบรรเทาการชะลอตัวไม่ให้รุนแรงไปกว่านี้ และยังมีความหวังเล็กน้อยว่าตลาดจะฟื้นตัวได้หากความขัดแย้งทางการค้าผ่อนคลายและดอกเบี้ยยังลดลงอย่างต่อเนื่องค่ะ
นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางการค้ายังเพิ่มขึ้นอีกเมื่อแคนาดาถอนภาษีบริการดิจิทัล ซึ่งก่อนหน้านี้เคยใช้ขู่ในการเจรจากับสหรัฐฯ และล้มเหลว ส่งผลให้ประธานาธิบดีทรัมป์ถึงขั้นยุติการเจรจาทันที โดยระบุว่าภาษีดังกล่าวเป็นการโจมตีบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ และขู่จะเก็บภาษีสินค้าแคนาดาเพิ่มเติมค่ะ แคนาดาจึงยอมระงับการจัดเก็บภาษีดังกล่าวและเตรียมยกเลิกกฎหมาย เพื่อเปิดทางให้การเจรจาด้านการค้าและความมั่นคงกลับมาเดินหน้าอีกครั้ง โดยมีเป้าหมายจะบรรลุข้อตกลงใหม่ภายในปลายเดือนกรกฎาคมนี้ค่ะ
ในขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐก็อ่อนค่าลงจนแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2022 โดยนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับร่างกฎหมายการใช้จ่ายขนาดใหญ่ของทรัมป์และความขัดแย้งทางการค้าที่ยังไม่มีทีท่ายุติ โดยนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจเกี่ยวกับแนวโน้มการคลังของสหรัฐฯ หลังร่างกฎหมายของทรัมป์ซึ่งอาจเพิ่มหนี้สาธารณะถึง 3.3 ล้านล้านดอลลาร์ กำลังเผชิญกับความเห็นไม่ลงรอยกันภายในวุฒิสภา ความกังวลเกี่ยวกับอุปทานพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นและความต้องการจากต่างประเทศที่ลดลง ยิ่งตอกย้ำความเสี่ยงมากขึ้น นักวิเคราะห์เตือนว่า สหรัฐฯ ไม่สามารถพึ่งสถานะเงินสำรองของโลกเพื่อมองข้ามความเสี่ยงด้านเครดิตได้อีกต่อไปค่ะ
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังเพิ่มแรงกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ลดดอกเบี้ยอย่างจริงจัง โดยถึงขั้นส่งบันทึกด้วยลายมือเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ กับญี่ปุ่นและเดนมาร์กให้ประธาน Fed เจอโรม พาวเวลล์ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของธนาคารกลางค่ะ ปัจจุบันตลาดจึงคาดการณ์ว่า Fed จะลดดอกเบี้ยมากกว่า 60 จุดพื้นฐานภายในปีนี้ ขณะที่กำหนดเส้นตายวันที่ 9 กรกฎาคมสำหรับการเก็บภาษีชุดใหม่ก็กำลังเข้ามาใกล้ สร้างความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาการค้ากับประเทศต่าง ๆ
ทั้งนี้ ผลสำรวจภาคธุรกิจเตือนว่าภาษีอาจดันราคาสินค้าให้สูงขึ้นในช่วงฤดูร้อนนี้ แม้การใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐฯ จะชะลอลงในเดือนพฤษภาคม หลังแรงกระตุ้นจากการซื้อสินค้าล่วงหน้าค่อย ๆ หมดไปค่ะ อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อยังถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง โดยดัชนีราคาการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งยังสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของ Fed อยู่เล็กน้อย
นักวิเคราะห์ของ JPMorgan คาดว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรและค่าเงินดอลลาร์จะยังคงปรับลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดยังประเมินความเป็นไปได้ของการผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน โดยระบุว่าหากเศรษฐกิจชะลอตัวควบคู่กับแรงกดดันเงินเฟ้อจากภาษี ก็อาจทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอีกค่ะ
อย่างไรก็ดี ในช่วงสัปดาห์ซื้อขายสั้น ๆ เนื่องจากวันหยุดของสหรัฐฯ นักลงทุนยังจับตาดูการถกเถียงในวุฒิสภาเกี่ยวกับร่างกฎหมายใช้จ่ายของทรัมป์ รวมถึงรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะออกในวันพฤหัสบดีนี้ โดยคาดว่าจะสะท้อนการชะลอตัวของตลาดแรงงาน แม้จะมีอุปสรรคหลายประการ แต่ฝ่ายบริหารยังคงผลักดันร่างกฎหมายใหญ่ฉบับนี้ต่อไป ซึ่งรวมถึงการต่ออายุการลดภาษีและเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมและความมั่นคงชายแดน โดยตั้งเป้าจะผ่านให้ทันก่อนวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ค่ะ ขณะที่นักลงทุนยังคงระมัดระวังในช่วงที่ Fed เลือกใช้นโยบายแบบรอดูท่าที โดยคำนึงถึงผลกระทบที่ยังไม่แน่นอนจากภาษีและนโยบายการคลังต่อเงินเฟ้อและการเติบโตค่ะ
บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค

ค่าเงิน USDCAD เคลื่อนไหวอยู่ใกล้ระดับ 1.3639 และเริ่มมีสัญญาณทรงตัวในช่วงกลาง 1.36 หลังจากที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ อ่อนลงเมื่อไม่นานมานี้ค่ะ ในระยะสั้น (1–2 สัปดาห์) คู่นี้ยังเจอแนวต้านแถว 1.3700–1.3725 ส่วนแนวรับอยู่แถว 1.3550 ค่ะ แนวโน้มเศรษฐกิจแคนาดาเองก็อ่อนแอขึ้นชัดเจน ซึ่งจะบั่นทอนความได้เปรียบด้านผลตอบแทนของเงินดอลลาร์แคนาดา และอาจหนุนให้ราคาขยับขึ้นทดสอบโซน 1.3700–1.3725 ได้ถ้าฝ่าแนวต้านไปได้อย่างชัดเจนค่ะ
ในระยะกลาง (1–3 เดือน) คุณน้าคาดว่า USDCAD น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบกว้างแถว 1.35–1.38 โดยมีแนวโน้มปรับขึ้นเล็กน้อยค่ะ แม้ว่าความเชื่อมั่นต่อดอลลาร์สหรัฐ จะถูกกดดันจากความกังวลเรื่องการคลัง แต่พื้นฐานของแคนาดาเองกลับอ่อนแอกว่า และในแง่ของการเติบโตและผลตอบแทนเปรียบเทียบกันแล้ว CAD อาจทำผลงานได้ด้อยกว่า หากราคาฝ่าแนวต้าน 1.3725 ได้อย่างชัดเจน ก็มีโอกาสเปิดทางไปแถว 1.3800–1.3850 ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยเฉพาะถ้าธนาคารกลางแคนาดาเริ่มผ่อนคลายก่อนธนาคารกลางสหรัฐฯ ค่ะ
อย่างไรก็ดี ยังมีความเสี่ยงสำคัญสำหรับทั้งสองทาง โดยถ้าความกังวลเรื่องการคลังของสหรัฐฯ ทวีขึ้นอีก ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลงและกดดันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในวงกว้าง USDCAD อาจกลับตัวลงไปทดสอบแนวรับแถว 1.3500 หรือแม้แต่ 1.3400 ได้เช่นกัน ในทางกลับกัน ถ้าเศรษฐกิจแคนาดามีข่าวดีเหนือคาด หรือสามารถคลี่คลายความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐได้อย่างรวดเร็ว CAD ก็อาจแข็งค่าได้ค่ะ ตรงกันข้าม ถ้าความตึงเครียดทางการค้ากลับมารุนแรงอีก หรือถ้าข้อมูลเศรษฐกิจแคนาดาแย่กว่าคาดมาก ๆ คู่เงินนี้ก็อาจไต่ขึ้นไปแถว 1.39–1.40 ได้เช่นกัน แต่สำหรับตอนนี้ คุณน้ามองว่าฐานแนวโน้มหลักยังเป็นการเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ ที่มีแนวโน้มเอียงขึ้นเล็กน้อย เพราะปัจจัยการเติบโตที่อ่อนแอและความคาดหวังเรื่องการลดดอกเบี้ยในแคนาดาค่ะ
📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค
- แนวรับสำคัญ : 1.3640, 1.3638, 1.3636
- แนวต้านสำคัญ : 1.3644, 1.3646, 1.3648
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลต่อคู่เงิน USDCAD

ที่มา : Forexfactory

⭐ คุณน้าแนะนำโบรกเกอร์คุณสมบัติเด่น!
การเลือกโบรกเกอร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ สำหรับการเทรด Forex ค่ะ
เพราะโบรกเกอร์จะพัฒนาระบบและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเทรดของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นให้ได้มากที่สุด
สำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มั่นใจว่า โบรกเกอร์ Forex แบบไหนดี?
คุณน้าได้รวบรวมการจัดอันดับของโบรกเกอร์ในทุกคุณสมบัติ เช่น สเปรดต่ำ, เทรดทอง หรือโบนัสฟรี

💡 คัมภีร์เริ่มต้น มือใหม่หัดเทรด
มือใหม่หัดเทรดที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? คุณน้าได้รวบรวมเนื้อหาสำคัญที่ถือเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับการเทรด Forex มาไว้ให้แล้วที่นี่!
🔍 ตัวอย่างเนื้อหา มือใหม่หัดเทรดต้องรู้!
สรุปวิเคราะห์ USDCAD
จุดน่าเข้า Buy
- Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3636 – 1.3640 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 1.3640 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3644 และ SL ที่ประมาณ 1.3634 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3644 – 1.3648 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3653 และ SL ที่ประมาณ 1.3638 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดน่าเข้า Sell
- Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3644 – 1.3648 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 1.3644 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3638 และ SL ที่ประมาณ 1.3650 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 1.3636 – 1.3640 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3632 และ SL ที่ประมาณ 1.3646 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
คำเตือน
การให้ข้อมูลการวิเคราะห์คู่เงิน Forex ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค เป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจการลงทุน
สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge