พบกับวิเคราะห์ USDJPY ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค อีกทั้งแนวทางในการเข้าออกออเดอร์ ไปจนถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการเทรดคู่เงินแบบละเอียด เรียกได้ว่าครบจบในบทความเดียว!
บทวิเคราะห์ Forex วันนี้ : คู่เงิน USDJPY
บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน
สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นได้บรรลุข้อตกลงการค้าทวิภาคีครั้งสำคัญ โดยกำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นแบบตอบโต้ที่ 15% ครอบคลุมทั้งรถยนต์และสินค้าเกษตร ซึ่งลดลงจากระดับก่อนหน้านี้ที่ 25% ค่ะ ในทางกลับกัน ญี่ปุ่นให้คำมั่นว่าจะลงทุนในสหรัฐฯ เป็นมูลค่า 550,000 ล้านดอลลาร์ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่าสหรัฐฯ จะได้รับผลตอบแทนถึง 90% จากผลกำไรทั้งหมด ทรัมป์ชื่นชมข้อตกลงนี้ว่า เป็น “ความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์” ที่จะเปิดตลาดญี่ปุ่นให้สินค้าสหรัฐฯ เข้าไปได้มากขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์ รถบรรทุก และข้าวค่ะ ถึงแม้ญี่ปุ่นจะต้องเผชิญกับภาษีนำเข้าใหม่ที่ 15% แต่ก็ถือว่าลดลงจากภาษีรวม 27.5% ที่เคยถูกคาดการณ์ไว้กับรถยนต์ อย่างไรก็ดี ข้อตกลงนี้ยังคงรักษาอัตราภาษีที่ 50% สำหรับเหล็กและอะลูมิเนียมจากญี่ปุ่นไว้อยู่ค่ะ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชิเงรุ อิชิบะ ได้แสดงความยินดีกับข้อตกลงดังกล่าว และเน้นว่าการยอมอ่อนข้อของญี่ปุ่นมีจำกัด โดยเฉพาะในภาคเกษตร ซึ่งการนำเข้าข้าวจากสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น จะยังคงอยู่ภายใต้โควตานำเข้าแบบปลอดภาษีของ WTO ที่ญี่ปุ่นมีอยู่เดิม และไม่มีการตัดลดภาษีสินค้าเกษตรเพิ่มเติมค่ะ อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นอย่างโตโยต้าและฮอนด้า แม้จะมีโรงงานในสหรัฐฯ ก็ยังคงได้รับผลกระทบจากภาษีใหม่ ซึ่งอาจทำให้ราคารถยนต์ในตลาดสหรัฐฯ สูงขึ้นค่ะ
นักเศรษฐศาสตร์มองว่า ข้อตกลงนี้ช่วยลดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น และประเมินว่า โดยรวมแล้วข้อตกลงนี้จะช่วยลดค่าเฉลี่ยของอัตราภาษีต่อการส่งออกของญี่ปุ่นเพียงเล็กน้อย และอาจช่วยให้แนวโน้มเศรษฐกิจของญี่ปุ่นดีขึ้นจนเอื้อต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งโดยธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในช่วงปลายปีนี้ รองผู้ว่าการ BOJ ชินอิจิ อุจิดะ ระบุว่าข้อตกลงนี้ช่วยลดความไม่แน่นอน ซึ่งอาจเปิดทางให้ BOJ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากแรงกดดันเงินเฟ้อยังคงดำเนินต่อไปค่ะ
ทั้งนี้ ข้อตกลงนี้อาจกลายเป็นต้นแบบในการเจรจาการค้ากับประเทศอื่น ๆ เช่น เกาหลีใต้ ซึ่งมีลักษณะความสัมพันธ์ทางการค้าใกล้เคียงกับสหรัฐฯ นักวิเคราะห์มองว่าแม้อัตราภาษี 15% จะถือว่าสูงในเชิงประวัติศาสตร์ แต่ภายใต้นโยบายของทรัมป์ อาจถูกมองว่าเป็น “ภาวะปกติใหม่” สำหรับการค้าระหว่างประเทศค่ะ
สำหรับนายกอิชิบะนั้น ขณะนี้มีการคาดการณ์อย่างกว้างขวางว่า จะลาออกภายในสิ้นเดือนสิงหาคม หลังจากพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) สูญเสียเสียงข้างมากในสภาจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม โดยแม้อิชิบะจะประกาศสนับสนุนข้อตกลงทางการค้าอย่างเปิดเผย แต่ก็ได้เผชิญกับแรงเสียดทานทางการเมืองมาสักพัก จากความไม่พอใจของประชาชนเรื่องเงินเฟ้อ ค่าครองชีพที่สูงขึ้น และความไม่ชัดเจนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะท่าทีลังเลเรื่องการลดภาษีบริโภคที่ปัจจุบันอยู่ที่ 10% ค่ะ ขณะที่ Moody’s Ratings ได้ออกมาเตือนว่า หากญี่ปุ่นลดภาษีบริโภคถาวร ก็อาจส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของหนี้สาธารณะ เนื่องจากญี่ปุ่นมีระดับหนี้สูงที่สุดแห่งหนึ่งในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วค่ะ
อย่างไรก็ดี แม้อิชิบะจะปฏิเสธข่าวลือว่าจะลาออกทันที แต่ตลาดการเงินก็สะท้อนความไม่แน่นอนทางการเมืองออกมา โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 17 ปี และความต้องการซื้อพันธบัตรในการประมูลลดลงอย่างมาก นักวิเคราะห์มองว่า สาเหตุหลักมาจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการคลังของญี่ปุ่น ความเป็นไปได้ที่รัฐบาลใหม่จะใช้นโยบายการคลังที่ขยายตัวมากขึ้น และเส้นทางการเงินของ BOJ ที่ตึงตัวอยู่แล้วค่ะ
ในขณะเดียวกัน ข้อมูลเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ออกมาก็ยังมีความหลากหลาย ภาคการผลิตหดตัวในเดือนกรกฎาคม จากการผลิตที่อ่อนแอและความไม่แน่นอนเรื่องนโยบายการค้าสหรัฐฯ แต่ภาคบริการยังขยายตัวได้ดี โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในประเทศ อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นทางธุรกิจโดยรวมลดลงเพราะความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และข้อกังวลเรื่องภาษีค่ะ
ทั้งนี้ ตลาดกำลังจับตาดูว่า ญี่ปุ่นจะออกงบประมาณเสริมในฤดูใบไม้ร่วงนี้หรือไม่ ซึ่งอาจมีวงเงินมากกว่าชุดปีที่แล้วที่มีมูลค่า 14 ล้านล้านเยน โดยอาจเป็นความพยายามเพื่อเอาใจพรรคฝ่ายค้านที่มีบทบาทในสภามากขึ้น และถึงจะมีความเสี่ยงอยู่หลายด้าน นักวิเคราะห์ก็ยังเชื่อว่า การออมภายในประเทศที่สูงของญี่ปุ่น การลงทุนในต่างประเทศจำนวนมาก และความต้องการพันธบัตรญี่ปุ่นจากต่างประเทศที่ยังต่อเนื่อง จะช่วยบรรเทาผลกระทบทางการเงินได้ค่ะ และถึงแม้การลาออกของอิชิบะดูจะใกล้เข้ามาทุกที แต่เส้นทางเศรษฐกิจในภาพรวมก็จะขึ้นอยู่กับความสามารถในการคลี่คลายปัญหาทางการเมือง ความกล้าตัดสินใจด้านนโยบายการคลัง และท่าทีของ BOJ ว่าจะสามารถคุมเข้มนโยบายการเงินได้โดยไม่กระทบต่อการฟื้นตัวหรือไม่ค่ะ
ทางด้านคู่เงิน USDJPY ยังคงได้รับแรงหนุนให้อยู่เหนือระดับ 147.00 ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองในญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น และแนวโน้มที่แตกต่างกันของนโยบายการเงินระหว่างประเทศค่ะ โดยโมเมนตัมยังคงเอื้อไปในทางขาขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเริ่มสะท้อนความเป็นไปได้ที่ญี่ปุ่นจะมีการเปลี่ยนตัวผู้นำ รวมถึงความคาดหวังที่ BOJ อาจเลื่อนการปรับขึ้นดอกเบี้ยออกไปค่ะ
นอกจากนี้ แรงกดดันทางการเมือง ประกอบกับความไม่พอใจของประชาชนที่สะสมมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เบี้ยความเสี่ยงทางการเมืองของสินทรัพย์ญี่ปุ่นเพิ่มสูงขึ้น เห็นได้จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นที่พุ่งขึ้น สะท้อนความกังวลเกี่ยวกับการขยายงบประมาณและความต่อเนื่องของนโยบายภายใต้ผู้นำคนใหม่ อย่างไรก็ตาม เงินเยนกลับไม่ได้รับประโยชน์จากปัจจัยเหล่านี้ เนื่องจากความผันผวนของตลาดตราสารหนี้ และความไม่แน่นอนในเรื่องวินัยทางการคลังในอนาคต ทำให้เยนอาจสูญเสียความน่าสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยค่ะ
บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค

ในเชิงเทคนิค ตอนนี้ USDJPY เคลื่อนไหวใกล้แนวต้านสำคัญบริเวณ 147.80 หากทะลุระดับนี้ได้ มีโอกาสเปิดทางไปสู่ระดับ 148.50 และอาจไปถึงแนวจิตวิทยาที่ 150.00 ได้ หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ กลับมาขึ้นต่อ ขณะที่แนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 146.80 และแนวรับถัดไปอยู่ที่ 146.00 ค่ะ โดยโอกาสที่ราคาจะหลุดต่ำกว่า 146.00 ลงมา จะต้องอาศัยปัจจัยอย่างการลดคาดการณ์ปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed หรือการส่งสัญญาณเข้มงวดแบบไม่คาดคิดจาก BOJ ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนจะยังไม่เกิดขึ้นค่ะ
ทั้งนี้ ความผันผวนในตลาดอาจจะยังคงสูงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยนักลงทุนจับตาปัจจัยที่กระตุ้นหลัก ๆ 3 อย่าง ได้แก่ การยืนยันข่าวการลาออกของอิชิบะและทิศทางการสืบทอดอำนาจ การประกาศงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และการเปลี่ยนแปลงแนวทางของ BOJ ภายใต้ผลกระทบเงินเฟ้อจากข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ค่ะ
ในภาพรวมภายใต้บริบทเช่นนี้ แนวโน้มของ USDJPY ยังเป็นขาขึ้นในระยะกลาง โดยคุณน้าคาดว่าเป้าหมายระยะสั้นจะอยู่ที่บริเวณ 148.50 หากอัตราผลตอบแทนของสหรัฐฯ ยังคงทรงตัวได้ และ BOJ ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดที่สร้างความประหลาดใจค่ะ
📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค
- แนวรับสำคัญ : 147.23, 147.16, 147.05
- แนวต้านสำคัญ : 147.45, 147.52, 147.63
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลต่อคู่เงิน USDJPY

ที่มา : Forexfactory

⭐ คุณน้าแนะนำโบรกเกอร์คุณสมบัติเด่น!
การเลือกโบรกเกอร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ สำหรับการเทรด Forex ค่ะ
เพราะโบรกเกอร์จะพัฒนาระบบและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเทรดของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นให้ได้มากที่สุด
สำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มั่นใจว่า โบรกเกอร์ Forex แบบไหนดี?
คุณน้าได้รวบรวมการจัดอันดับของโบรกเกอร์ในทุกคุณสมบัติ เช่น สเปรดต่ำ, เทรดทอง หรือโบนัสฟรี

💡 คัมภีร์เริ่มต้น มือใหม่หัดเทรด
มือใหม่หัดเทรดที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? คุณน้าได้รวบรวมเนื้อหาสำคัญที่ถือเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับการเทรด Forex มาไว้ให้แล้วที่นี่!
🔍 ตัวอย่างเนื้อหา มือใหม่หัดเทรดต้องรู้!
สรุปวิเคราะห์ USDJPY
จุดน่าเข้า Buy
- Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 147.09 – 147.23 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 147.23 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 147.52 และ SL ที่ประมาณ 147.02 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 147.45 – 147.59 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 147.81 และ SL ที่ประมาณ 147.16 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดน่าเข้า Sell
- Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 147.45 – 147.59 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 147.45 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 147.23 และ SL ที่ประมาณ 147.66 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 147.09 – 147.23 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 146.94 และ SL ที่ประมาณ 147.52 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
คำเตือน
การให้ข้อมูลการวิเคราะห์คู่เงิน Forex ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค เป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจการลงทุน
สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge