คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 11 สิงหาคม 2025

คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 11 สิงหาคม 2025
Table of Contents

หุ้นสหรัฐถือเป็นหุ้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งการเคลื่อนไหวของหุ้นสหรัฐเพียงหนึ่งครั้งก็สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอื่น ๆ ทั่วโลก ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาคุยหุ้น เจาะลึกปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงและมุมมองในการลงทุน สายวิเคราะห์หุ้นสหรัฐห้ามพลาดบทความนี้!

คุยหุ้นสหรัฐวันนี้ (US30 / DJIA)

บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐานหุ้นสหรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ปิดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยบวกไป 207 จุด หรือ 0.47% เป็นผลจากความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่าเฟดอาจเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยได้เร็วที่สุดในเดือนกันยายนนี้ค่ะ ท่ามกลางความเชื่อมั่นในตลาดก็ยิ่งหนุนแรงขึ้นหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์เสนอชื่อ Stephen Miran ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจให้เข้าร่วมคณะกรรมการเฟด ซึ่งตลาดมองว่าเป็นสัญญาณแบบผ่อนคลาย ส่งผลให้โอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนหน้าเพิ่มขึ้นแตะเกือบ 90% ค่ะ

ทั้งนี้ Apple (AAPL) เป็นหุ้นที่โดดเด่นที่สุดในดัชนีดาวโจนส์ โดยพุ่งขึ้น 4.2% ในวันศุกร์ และปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 13.3% ตลอดทั้งสัปดาห์ ซึ่งถือว่าเป็นสัปดาห์ที่ดีที่สุดของแอปเปิลตั้งแต่ปี 2020 หลังจากประกาศแผนลงทุนในสหรัฐฯ เพิ่มอีก 100 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 4 ปีข้างหน้าค่ะ หุ้นที่ช่วยหนุนดัชนีเพิ่มเติม ได้แก่ Cisco Systems (CSCO) ที่บวกขึ้น 2.7% ทะยานแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี และ UnitedHealth Group (UNH) ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.56% ค่ะ ส่วนหุ้นที่ถ่วงดัชนี ได้แก่ IBM (IBM) ที่ร่วงลง 3.15% McDonald’s (MCD) ที่ลดลง 0.74% และ Walt Disney (DIS) ที่ปรับตัวลดลง 0.4% ค่ะ

ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.3% ซึ่งถือว่าทำผลงานได้ดีกว่าปกติเมื่อเทียบกับแนวโน้มตามฤดูกาลในเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตาม การประกาศตัวเลข CPI (ดัชนีราคาผู้บริโภค) ที่จะมีขึ้นในวันอังคารนี้อาจนำมาซึ่งความผันผวน หากตัวเลขเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าที่คาด อาจทำให้ตลาดต้องทบทวนความหวังเรื่องการลดดอกเบี้ยอีกครั้ง แต่หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด ก็อาจช่วยหนุนโมเมนตัมการฟื้นตัวของตลาดต่อไปค่ะ

นอกเหนือจากดาวโจนส์แล้ว ดัชนี Nasdaq Composite พุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 21,450.02 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.78% โดยได้รับแรงหนุนมาจากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ซึ่งจนถึงตอนนี้ บริษัทใน S&P 500 ที่รายงานผลประกอบการแล้วกว่า 80% สามารถทำกำไรได้สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ค่ะ อย่างไรก็ดี หลาย ๆ ฝ่าย รวมถึงนักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley และ Deutsche Bank ก็เตือนว่าตลาดอาจอยู่ในภาวะร้อนแรงเกินไป โดย S&P 500 ซื้อขายในอัตราส่วน P/E มากกว่า 22 เท่า ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตมาก จึงมีความกังวลเกี่ยวกับมูลค่าหุ้นที่อาจแพงเกินจริง โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงเวลาที่ตลาดมักอ่อนตัวค่ะ

ในตลาดหุ้นกลุ่มอื่น เช่น Gilead Sciences (GILD) ปรับตัวขึ้น 8.3% หลังปรับเพิ่มแนวโน้มผลประกอบการทั้งปี ส่วน Expedia (EXPE) ก็เพิ่มขึ้นกว่า 4% จากการคาดการณ์การจองที่แข็งแกร่ง ในทางกลับกัน Under Armour (UAA) Pinterest (PINS) และ Wendy’s (WEN) กลับลดลงเนื่องจากแนวโน้มยอดขายที่อ่อนแอค่ะ

ในขณะเดียวกัน หุ้นรายตัวบางตัวเคลื่อนไหวรุนแรง เช่น Eli Lilly (LLY) ที่ร่วงกว่า 14% หลังข้อมูลการทดลองยาลดน้ำหนักไม่เป็นที่น่าพอใจ และ The Trade Desk (TTD) ร่วงเกือบ 40% จากการลาออกของ CFO และการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจาก Amazon และ Fortinet (FTNT) ที่ลดลงถึง 26% ตลอดทั้งสัปดาห์จากความกังวลเกี่ยวกับรอบการอัปเกรดระบบไฟร์วอลล์ค่ะ ในขณะที่ Peloton (PTON) กลับดีดตัวขึ้นหลังได้รับการปรับเพิ่มเรตติ้งจาก Goldman Sachs เนื่องจากบริษัทเปลี่ยนกลยุทธ์ไปเน้นเรื่องสุขภาพค่ะ

ทั้งนี้ คุณน้ามองว่า ราคาหุ้นที่สูงเกินพื้นฐาน การอ่อนตัวตามฤดูกาล และความไม่แน่นอนด้านมหภาค เช่น ภาษีนำเข้า และเงินเฟ้อ ทำให้นักวิเคราะห์หลายคนแนะนำให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวังมากขึ้น แม้ว่าตลาดจะยังอยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่การประกาศตัวเลข CPI นโยบายของเฟด และพัฒนาการด้านภูมิรัฐศาสตร์ต่าง ๆ จะเป็นตัวแปรสำคัญที่กำหนดว่าดัชนีดาวโจนส์จะสามารถรักษาแรงส่งต่อไปได้ หรือจะเริ่มปรับฐานลงมาค่ะ

บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิคหุ้นสหรัฐ

คุยหุ้นสหรัฐ วันที่ 11 สิงหาคม 2025

แนวโน้มของดัชนีดาวโจนส์ยังคงแข็งแกร่ง โดยสามารถยืนเหนือแนวรับทางจิตวิทยาที่ 44,000 ได้อย่างมั่นคง แนวต้านระยะสั้นอยู่แถวระดับ 44,300–44,350 จุด หากสามารถทะลุผ่านไปได้ มีโอกาสขึ้นต่อไปยังโซน 44,500–44,650 จุดค่ะ

อินดิเคเตอร์ด้านโมเมนตัมจากกราฟราคาชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มเชิงบวกในระยะสั้น โดยดัชนียังยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน ยืนยันแรงซื้อในตลาด อย่างไรก็ตาม RSI เริ่มเข้าใกล้เขตซื้อมากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่การพักฐาน หากเกิดแรงขายทำกำไร โดยแนวรับแรกอยู่ที่บริเวณ 44,050–44,000 จุด และแนวรับหลักถัดไปอยู่ที่ 43,750 จุดค่ะ

ในระยะสั้น คุณน้าคิดว่า ทิศทางของตลาดยังโน้มเอียงไปทางบวกจากความคาดหวังที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน อย่างไรก็ดี ตัวเลข CPI ที่จะประกาศในเร็ว ๆ นี้อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ หากเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าคาด อาจสร้างแรงกระเพื่อมให้กับตลาดได้อย่างชัดเจน จึงควรระมัดระวังความผันผวนในช่วงนี้นะคะ

📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (US30 / DJIA)

  • แนวรับสำคัญ : 44196.9, 44177.1, 44145.0
  • แนวต้านสำคัญ : 44261.1, 44280.9, 44313.0

ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มหุ้นสหรัฐ

ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มหุ้นสหรัฐ

ที่มา : Forexfactory

กำหนดการรายงานผลประกอบการ

กำหนดการรายงานผลประกอบการ

ที่มา : TradingView

📍หุ้นสหรัฐที่น่าจับตามอง

  • Apple (AAPL) : ขณะนี้มีการซื้อขายที่ต่ำกว่าระดับแนวต้านเล็กน้อย โดยระดับแนวรับอยู่ที่ช่วง 220–225 ดอลลาร์ การฟื้นตัวรอบนี้มีปริมาณการซื้อขายสนับสนุนอย่างชัดเจนค่ะ แต่สัญญาณทางเทคนิคเริ่มบ่งชี้ว่าอาจมีการย่อตัวระยะสั้นก่อนจะปรับขึ้นรอบใหม่ได้อีกครั้ง
  • Cisco Systems (CSCO) : แนวต้านระยะสั้นถัดไปอยู่ที่ 72.30 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับสำคัญอยู่ที่ช่วง 70.25–70.50 ดอลลาร์ การทะลุแนวต้านรอบนี้ถือว่ามีนัยสำคัญทางเทคนิค เพราะมาพร้อมกับแรงซื้อและปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น หากราคายังยืนเหนือ 71 ดอลลาร์ได้ มีโอกาสสูงที่จะต่อยอดขึ้นไปได้ในระยะสั้นค่ะ
  • Gilead Sciences (GILD) : ตอนนี้ราคาหุ้นกำลังเข้าใกล้แนวต้านที่ 121 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ในโซน 115–117 ดอลลาร์ การเคลื่อนไหวยังอยู่ในแนวโน้มบวกค่ะ และถ้าราคายังยืนเหนือ 117 ดอลลาร์ได้ ก็มีโอกาสจะได้เห็นการทดสอบแนวต้านหรือทะลุผ่าน 121 ดอลลาร์ไปได้ค่ะ
  • The Trade Desk (TTD) : ขณะนี้หุ้นอยู่ในภาวะขายมากเกินไป โดยมีแนวรับที่ช่วง 53–54 ดอลลาร์ และเป้าหมายรีบาวด์อยู่ที่ 60 ดอลลาร์ แม้อาจจะมีการดีดตัวระยะสั้นได้ แต่โดยรวมยังอยู่ในแนวโน้มขาลง และต้องการแรงสนับสนุนจากปัจจัยพื้นฐานหรือความเชื่อมั่นที่กลับมาใหม่ค่ะ
  • Eli Lilly (LLY) : แนวต้านอยู่ที่ช่วง 655–660 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับแรกอยู่ที่ 625 ดอลลาร์ และแนวรับจิตวิทยาสำคัญอยู่ที่ 600 ดอลลาร์ แม้แนวโน้มทางเทคนิคยังคงดูอ่อนแอ แต่หากราคาสามารถประคองตัวที่บริเวณนี้ได้ ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการรีบาวด์ระยะสั้น หากแรงขายเริ่มลดลงค่ะ

🔍คุณน้าแนะนำเทรดหุ้น CFD ไปกับโบรกเกอร์ IUX

เทรดหุ้น CFD กับ IUX โบรกเกอร์หุ้นค่าธรรมเนียมถูก

IUX มีการให้บริการซื้อขายหุ้น CFD ประกอบไปด้วยหุ้นกลุ่ม Magnificent Seven (M7) อีกทั้งยังมีหุ้นให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Coca Cola, Adobe, Alibaba, McDonalds Incorporated และ Netflix เป็นต้น ทำให้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และเทรดเดอร์รายย่อยที่มีต้นทุนจำกัดแล้วต้องการซื้อขายหุ้นระดับโลก

สรุปคุยหุ้นสหรัฐและแนวโน้มในการลงทุน (US30 / DJIA)

จุดน่าเข้า Buy

  • Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 44146.9 – 44196.9 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 44196.9 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 44279.5 และ SL ที่ประมาณ 44121.9 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
  • Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 44261.1 – 44311.1 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 44363.5 และ SL ที่ประมาณ 44171.9 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

จุดน่าเข้า Sell

  • Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 44261.1 – 44311.1 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 44261.1 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 44195.5 และ SL ที่ประมาณ 44336.1 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
  • Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 44146.9 – 44196.9 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 44111.5 และ SL ที่ประมาณ 44286.1 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

คำเตือน

บทวิเคราะห์นี้ใช้สำหรับการศึกษาข้อมูลของหุ้นสหรัฐเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลของสินทรัพย์และศึกษาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ประกอบกับศึกษาแนวโน้มหุ้นและข่าวสหรัฐก่อนตัดสินใจลงทุน


สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

Picture of คุณน้า
คุณน้า
Recent Post
บทวิเคราะห์ทองคำ 13 สิงหาคม 2025
บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 13 สิงหาคม 2025

ในบทวิเคราะห์นี้ จะศึกษาภาพรวมปัจจัยพื้นฐานและภาพรวมทางเทคนิคของราคาทองคำ จะมีจุดน่าเข้าซื้อหรือน่าขายจุดไหนบ้าง? บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้มีคำตอบ!

วิเคราะห์ USDJPY ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 13 สิงหาคม 2025
วิเคราะห์ USDJPY ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 13 สิงหาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ USDJPY ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

บทวิเคราะห์คู่เงิน USDCHF 12 สิงหาคม 2025
บทวิเคราะห์ USDCHF วันที่ 12 สิงหาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ USDCHF ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

ทางเว็บไซต์ คุณน้าพาเทรด
ได้มีการใช้คุกกี้เพื่อช่วยปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้เว็บไซต์ของเราดียิ่งขึ้น


Privacy Policy