คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 14 ตุลาคม 2025

คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 14 ตุลาคม 2025
Table of Contents

หุ้นสหรัฐถือเป็นหุ้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งการเคลื่อนไหวของหุ้นสหรัฐเพียงหนึ่งครั้งก็สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอื่น ๆ ทั่วโลก ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาคุยหุ้น เจาะลึกปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงและมุมมองในการลงทุน สายวิเคราะห์หุ้นสหรัฐห้ามพลาดบทความนี้!

คุยหุ้นสหรัฐวันนี้ (US 500/ S&P 500)

บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐานหุ้นสหรัฐ

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในวันจันทร์ที่ผ่านมา พลิกกลับจากการร่วงลงหนักในวันศุกร์ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณท่าทีที่อ่อนลงต่อจีน โดยคำกล่าวของทรัมป์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ว่า “สหรัฐฯ ไม่ต้องการทำร้ายจีน” ช่วยคลายความกังวลเรื่องสงครามการค้ารอบใหม่ ซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้ตลาดในช่วงปลายสัปดาห์ก่อนค่ะ

ทั้งนี้ ดัชนี S&P 500 ได้แรงหนุนหลักจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ AI โดย 10 จาก 11 หมวดอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้นค่ะ ดัชนีกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศพุ่งขึ้นกว่า 2% ขณะที่หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่มขึ้น 2.29% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ (PHLX Semiconductor Index) พุ่งเกือบ 5% สะท้อนความเชื่อมั่นในภาคชิปและ AI ค่ะ

ด้าน Broadcom (AVGO) พุ่งขึ้นเกือบ 10% นำหน้าหุ้นทั้งหมดใน S&P 500 หลังประกาศความร่วมมือระยะยาวกับ OpenAI เพื่อพัฒนาและติดตั้งระบบเร่งความเร็ว AI และระบบคอมพิวเตอร์เฉพาะทาง ซึ่งนักลงทุนมองว่าเป็นการขยายบทบาทของ Broadcom ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ค่ะ ส่วนหุ้นผู้ผลิตชิป AI รายอื่นก็ตอบรับเช่นกัน โดย Nvidia (NVDA) เพิ่มขึ้นเกือบ 3% และ Micron Technology (MU) เพิ่มขึ้นกว่า 6% ค่ะ

ในขณะเดียวกัน Oracle (ORCL) ขยับขึ้น 5.1% ก่อนงานใหญ่ AI Cloud World ที่ลาสเวกัส ซึ่งนักลงทุนคาดว่าจะมีการอัปเดตความคืบหน้าการผสานระบบคลาวด์กับ AI รวมถึงแนวโน้มด้านกำไรค่ะ นอกจากนี้ หุ้น ASML และ TSMC ก็ได้รับความสนใจในสัปดาห์นี้ เนื่องจากทั้งสองบริษัทเตรียมรายงานผลประกอบการ ซึ่งอาจสะท้อนความแข็งแกร่งของอุปสงค์ชิปที่ขับเคลื่อนด้วย AI ค่ะ โดย TSMC คาดว่ารายงานกำไรอาจพุ่งถึง 28% ส่วน ASML ยังมีคำสั่งซื้อเครื่องพิมพ์ลิโธกราฟีแบบ EUV อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีความไม่แน่นอนจากข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ ค่ะ

ในกลุ่มหุ้นที่ไม่เกี่ยวกับเทคโนโลยี Estee Lauder (EL) เพิ่มขึ้น 5.8% หลังจากได้รับการปรับเพิ่มอันดับโดย Goldman Sachs ส่วน Warner Bros Discovery (WBD) ปรับขึ้นเช่นกัน หลังปฏิเสธข้อเสนอซื้อกิจการจาก Paramount-Skydance ที่เสนอราคาหุ้นละ 20 ดอลลาร์ค่ะ

ด้านหุ้นที่ปรับตัวลง Fastenal (FAST) ร่วงลง 7.5% หลังผลประกอบการไตรมาส 3 ออกมาต่ำกว่าคาด ส่วนหุ้นผู้ประกอบกิจการคาสิโนอย่าง Las Vegas Sands (LVS) และ Wynn Resorts (WYNN) ต่างก็ร่วงลงมากกว่า 6% ค่ะ

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley เตือนว่า หากความตึงเครียดทางการค้าไม่คลี่คลายภายในต้นเดือนพฤศจิกายน ดัชนี S&P 500 อาจเผชิญการปรับฐานลงถึง 10–15% โดยอาจทดสอบแนวรับที่บริเวณ 6,027–5,800 จุด ซึ่งตรงกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันค่ะ

ในขณะเดียวกัน ฤดูกาลประกาศผลประกอบการกำลังจะเริ่มต้น โดย JPMorgan Chase (JPM) Goldman Sachs (GS) Citigroup (C) และ Wells Fargo (WFC) มีกำหนดการรายงานในวันอังคารนี้ค่ะ นักวิเคราะห์คาดว่ากำไรของบริษัทในดัชนี S&P 500 จะเติบโต 8.8% เมื่อเทียบปีต่อปี โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารที่น่าจะยังคงแสดงให้เห็นถึงรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่แข็งแกร่งและการซื้อหุ้นคืน อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนจากการที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยังปิดทำการ และข้อมูลเศรษฐกิจล่าช้า ทำให้แนวโน้มยังไม่ชัดเจน นักลงทุนอาจต้องอาศัยคำแถลงจากบริษัทจดทะเบียนเพื่อดูทิศทางเศรษฐกิจโดยรวมค่ะ

บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิคหุ้นสหรัฐ

คุยหุ้นสหรัฐ วันที่ 14 ตุลาคม 2025

ดัชนี S&P 500 (US500) ขยับขึ้นมาอยู่บริเวณโซนทางเทคนิคที่สำคัญและอาจเป็นตัวกำหนดทิศทางใหญ่ของตลาดในรอบถัดไป หลังจากที่ดัชนีดีดตัวแรงจากระดับต่ำสุดช่วงปลายเดือนกันยายนที่บริเวณ 6,400 จุด จากแรงหนุนสำคัญที่มาจากความหวังในภาคเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยี AI ที่ยังคงแข็งแกร่ง รวมถึงสัญญาณผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดโดยรวม

อย่างไรก็ตาม เครื่องชี้วัดทางเทคนิคเริ่มส่งสัญญาณว่าโมเมนตัมขาขึ้นอาจกำลังเข้าสู่ภาวะอ่อนแรง โดย RSI เริ่มเข้าใกล้เขตซื้อมากเกินไป ซึ่งมักเป็นสัญญาณเบื้องต้นของการพักตัวหรือตลาดอาจเริ่มปรับฐานในระยะสั้นก่อนที่จะเดินหน้าขึ้นต่อได้อีกครั้ง

แนวต้านที่สำคัญในช่วงนี้อยู่ระหว่าง 6,700–6,750 จุด ซึ่งถือเป็นโซนที่มีแรงขายสะสมอย่างหนาแน่น หากดัชนีสามารถทะลุและปิดเหนือแนวต้านนี้ได้อย่างชัดเจน อาจเป็นสัญญาณขาขึ้นต่อเนื่อง และมีโอกาสขยับขึ้นไปสู่ระดับจิตวิทยาสำคัญที่ 7,000 จุดได้

ในด้านแนวรับ ระดับ 6,600 จุด เป็นจุดรองรับที่สำคัญในระยะสั้น หากดัชนียังสามารถยืนเหนือบริเวณนี้ได้ มีโอกาสที่ตลาดจะเคลื่อนไหวในลักษณะทรงตัวในกรอบแคบ และเอนเอียงไปทางบวกเล็กน้อย แต่ถ้าราคาปิดต่ำกว่า 6,600 จุดอย่างมีนัยสำคัญ อาจเห็นแรงขายทำกำไรและดัชนีอาจถอยกลับลงไปสู่โซนแนวรับ 6,400–6,500 จุดค่ะ

โดยรวมแล้ว มุมมองทางเทคนิคของ S&P 500 ยังคงเอนเอียงไปทางบวกแบบที่ยังคงต้องใช้ความระมัดระวัง ท่ามกลางแรงขับเคลื่อนของตลาดที่เริ่มชะลอลง และสัญญาณจากหุ้นรายตัวในดัชนีที่เริ่มแสดงถึงโมเมนตัมที่ลดลง ส่งผลให้ช่วงนี้คาดว่าจะเป็นช่วงที่ตลาดเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 6,600–6,750 จุด โดยมีโอกาสขยับขึ้นต่อถึง 7,000 จุด หากปัจจัยมหภาคสนับสนุนต่อเนื่องและผลประกอบการยังคงแข็งแกร่ง ในทางกลับกัน ถ้าหลุดต่ำกว่า 6,600 จุด ตลาดอาจเข้าสู่ช่วงพักฐานลงมาที่โซน 6,400 จุด โดยในระยะนี้ การรอจังหวะให้ทิศทางตลาดมีความชัดเจน อาจเป็นแนวทางที่เหมาะสมกว่าการเข้าซื้อในช่วงที่ตลาดเริ่มเข้าสู่ภาวะพักฐานค่ะ

📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (US 500/ S&P 500)

  • แนวรับสำคัญ : 6622.8, 6609.5, 6587.9
  • แนวต้านสำคัญ : 6666.0, 6679.3, 6700.9

ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มหุ้นสหรัฐ

ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มหุ้นสหรัฐ

ที่มา : Forexfactory

กำหนดการรายงานผลประกอบการ

กำหนดการรายงานผลประกอบการ

ที่มา : TradingView

📍หุ้นสหรัฐที่น่าจับตามอง

  • Broadcom Inc (AVGO): พุ่งขึ้นหลังยืนยันความร่วมมือกับ OpenAI ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มขาขึ้นของกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ที่ได้รับแรงหนุนจากการขยายศูนย์ข้อมูลและความต้องการ Generative AI ค่ะ โดยมุมมองทางเทคนิค ขณะนี้ AVGO ซื้อขายอยู่ต่ำกว่าบริเวณแนวต้านระยะสั้นที่ $370–$375 เล็กน้อย หลังจากทะลุจากแนวรับแถว $330 ด้วยโมเมนตัมที่แข็งแกร่ง RSI เริ่มแสดงภาวะซื้อมากเกินไปเล็กน้อย อาจมีการพักฐานชั่วคราวก่อนปรับตัวขึ้นต่อค่ะ หากยืนเหนือ $350 ได้อย่างมั่นคง เป้าหมายถัดไปอยู่แถว $385 แต่หากหลุด $335 อาจเกิดการย่อตัวในระยะสั้นได้ค่ะ
  • NVIDIA Corp (NVDA): ยังคงเป็นผู้นำหลักในระบบนิเวศ AI โดยเฉพาะในตลาด GPU สำหรับคลาวด์ขนาดใหญ่และองค์กร อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเริ่มระมัดระวังในเรื่องมูลค่าหุ้นมากขึ้น หลังจากการเติบโตแบบก้าวกระโดดในปี 2023–2024 ที่เริ่มชะลอลงค่ะ โดยมุมมองทางเทคนิคตอนนี้ NVDA เคลื่อนไหวใกล้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 วัน ซึ่งยังถือว่ารักษาโครงสร้างขาขึ้นได้ ตราบใดที่ไม่หลุด $180 โดยหากทะลุ $190 ได้อย่างชัดเจน จะเป็นสัญญาณโมเมนตัมขาขึ้นรอบใหม่ ซึ่งมีเป้าหมายบริเวณ $200–$205 ขณะที่ดัชนีโมเมนตัมอยู่ในโซนกลาง แปลว่ายังมีพื้นที่ให้ดีดตัวระยะสั้นได้ แต่อาจเจอแรงขายบริเวณ $192 ค่ะ
  • Oracle Corp (ORCL): กลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนอีกครั้ง จากการรุกตลาดโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างจริงจัง แข่งกับ AWS และ Azure ขณะที่รายได้ประจำจากฐานลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ค่อนข้างมั่นคงค่ะโดยมุมมองทางเทคนิค ORCL สามารถทะลุแนวต้านที่ $300 ได้ พร้อมปริมาณซื้อขายที่แข็งแกร่ง และคาดว่าจะส่งผลให้กลายเป็นแนวรับใหม่ แนวต้านถัดไปจะอยู่ที่ $320 และหากโมเมนตัมยังมีความต่อเนื่อง และอาจไปถึง $335 ได้ โดยระดับ $290 ถือเป็นฐานรับสำคัญสำหรับนักลงทุนระยะกลางค่ะ
  • Fastenal Co. (FAST): เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมรายใหญ่ในสหรัฐฯ ซึ่งสะท้อนแนวโน้มของภาคการก่อสร้างและการผลิต แต่การอ่อนตัวล่าสุดของหุ้น สะท้อนถึงความต้องการที่ชะลอลง และการใช้จ่ายของบริษัทที่ระมัดระวังมากขึ้น ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมที่ยังไม่สดใสนักค่ะ โดยมุมมองทางเทคนิคตอนนี้ FAST กำลังทดสอบแนวรับสำคัญบริเวณ $42 หลังจากไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ $47 ได้ โมเมนตัมอยู่ในทิศทางกลางถึงลบ หากหลุด $41.50 ก็มีโอกาสย่อต่อไปที่ $39–$40 แต่หากสามารถดีดกลับขึ้นเหนือ $45 ได้ อาจเป็นสัญญาณฟื้นตัวระยะแรก โดยสำหรับแนวโน้มตอนนี้ คือ การเคลื่อนไหวในกรอบเพื่อรอปัจจัยพื้นฐานใหม่ค่ะ
  • Las Vegas Sands Corp (LVS): ผู้ให้บริการคาสิโนและรีสอร์ทรายใหญ่ยังเผชิญแรงกดดันจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในมาเก๊า และการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ยังระมัดระวัง อย่างไรก็ตาม งบดุลที่แข็งแกร่งและแนวโน้มการกลับมาจ่ายเงินปันผลยังคงดึงดูดนักลงทุนระยะยาวค่ะ โดยมุมมองทางเทคนิคหุ้นยังอยู่ในแนวโน้มการพักฐาน โดยมีแนวรับแถว $45 และแนวต้านที่ $51 ซึ่งราคายังไม่แสดงสัญญาณกลับตัวขึ้นอย่างชัดเจน และปริมาณซื้อขายยังคงเบาบาง หากราคาสามารถปิดเหนือ $50 ได้ อาจเป็นสัญญาณเบรกเอาต์ ขณะที่ถ้าหลุดต่ำกว่า $45 อาจเห็นแรงขายต่อเนื่องจนถึง $42 ได้ค่ะ

🔍คุณน้าแนะนำเทรดหุ้น CFD ไปกับโบรกเกอร์ IUX

เทรดหุ้น CFD กับ IUX โบรกเกอร์หุ้นค่าธรรมเนียมถูก

IUX มีการให้บริการซื้อขายหุ้น CFD ประกอบไปด้วยหุ้นกลุ่ม Magnificent Seven (M7) อีกทั้งยังมีหุ้นให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Coca Cola, Adobe, Alibaba, McDonalds Incorporated และ Netflix เป็นต้น ทำให้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และเทรดเดอร์รายย่อยที่มีต้นทุนจำกัดแล้วต้องการซื้อขายหุ้นระดับโลก

สรุปคุยหุ้นสหรัฐและแนวโน้มในการลงทุน (US 500/ S&P 500)

จุดน่าเข้า Buy

  • Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 6582.8 – 6622.8 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 6622.8 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6675.7 และ SL ที่ประมาณ 6562.8 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
  • Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 6666.0 – 6706.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6732.0 และ SL ที่ประมาณ 6603.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

จุดน่าเข้า Sell

  • Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 6666.0 – 6706.0 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 6666.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6619.2 และ SL ที่ประมาณ 6726.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
  • Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 6582.8 – 6622.8 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6563.0 และ SL ที่ประมาณ 6686.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

คำเตือน

บทวิเคราะห์นี้ใช้สำหรับการศึกษาข้อมูลของหุ้นสหรัฐเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลของสินทรัพย์และศึกษาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ประกอบกับศึกษาแนวโน้มหุ้นและข่าวสหรัฐก่อนตัดสินใจลงทุน


สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

Picture of คุณน้า
คุณน้า
Recent Post
คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 14 ตุลาคม 2025
คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 14 ตุลาคม 2025

ในบทความนี้เราจะมาคุยหุ้น เจาะลึกปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงและมุมมองในการลงทุน สายหุ้นสหรัฐห้ามพลาดบทความนี้!

บทวิเคราะห์คู่เงิน USDRUB 10 ตุลาคม 2025
บทวิเคราะห์ USDRUB วันที่ 10 ตุลาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ USDRUB ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

วิเคราะห์ GBPUSD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 10 ตุลาคม 2025
วิเคราะห์ GBPUSD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 10 ตุลาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ GBPUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

ทางเว็บไซต์ คุณน้าพาเทรด
ได้มีการใช้คุกกี้เพื่อช่วยปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้เว็บไซต์ของเราดียิ่งขึ้น


Privacy Policy