วิเคราะห์ GBPUSD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 17 ตุลาคม 2025

วิเคราะห์ GBPUSD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 17 ตุลาคม 2025
Table of Contents

พบกับวิเคราะห์ GBPUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค อีกทั้งแนวทางในการเข้าออกออเดอร์ ไปจนถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการเทรดคู่เงินแบบละเอียด เรียกได้ว่าครบจบในบทความเดียว!

บทวิเคราะห์ Forex วันนี้ : คู่เงิน GBPUSD

บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน

เศรษฐกิจของอังกฤษในเดือนสิงหาคม 2025 แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวเพียงเล็กน้อย หลังจากที่ในเดือนกรกฎาคมไม่พบการเติบโต เน้นย้ำถึงความเปราะบางของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าสหราชอาณาจักรจะมีอัตราการเติบโตเป็นอันดับที่สองในกลุ่ม G7 ที่ 1.3% ในปีนี้ แต่ถึงอย่างไร ก็ยังไม่เพียงพอที่จะคลายแรงกดดันทางการคลังหรือฟื้นความเชื่อมั่นในกระบวนการฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ค่ะ

ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ราเชล รีฟส์ กำลังเผชิญกับแรงกดดันเพิ่มขึ้นในขณะที่เตรียมเสนองบประมาณในวันที่ 26 พฤศจิกายน ถึงแม้ว่าจะเคยขึ้นภาษีถึง 40,000 ล้านปอนด์ในชุดนโยบายการคลังแรกเมื่อปีที่แล้ว แต่สถาบัน IFS ประเมินว่าเธอยังต้องเผชิญกับช่องว่างทางงบประมาณระหว่าง 22,000–30,000 ล้านปอนด์ เพื่อให้สามารถรักษาสมดุลระหว่างรายจ่ายประจำวันกับรายได้จากภาษีภายในปี 2030 ค่ะ

นอกจากนี้ แรงกดดันทางการคลังยังถูกซ้ำเติมด้วยต้นทุนการกู้ยืมระยะยาวที่เพิ่มขึ้น โดยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี (gilt yield) แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1998 โดยธนาคารบาร์เคลย์สเตือนว่า หากอัตราผลตอบแทนยังคงสูงและมีการออกพันธบัตรเพิ่มขึ้น อาจทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนสั่นคลอน ซึ่งจะเป็นการทดสอบความน่าเชื่อถือของงบประมาณที่รีฟส์จะเสนอต่อไปค่ะ

ในแง่พฤติกรรมผู้บริโภคและแนวโน้มตลาดแรงงาน การเติบโตของการใช้จ่ายผู้บริโภคในเดือนกันยายนชะลออย่างหนัก เป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบสี่เดือน เนื่องจากค่าพลังงานที่สูงขึ้นและความวิตกกังวลเกี่ยวกับการขึ้นภาษี ขณะที่อัตราการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างในภาคเอกชนลดลงมาอยู่ที่ 4.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2021 และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 4.8% ซึ่งบ่งชี้ถึงการเย็นตัวของตลาดแรงงานค่ะ ส่งผลให้ตลาดคาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษอาจกลับมาลดดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วงต้นปี 2026 ค่ะ

ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษยังคงอยู่ในระดับสูง โดยอยู่ที่ 3.8% ซึ่งเป็นหนึ่งในอัตราที่สูงที่สุดในกลุ่ม G7 ขณะที่ IMF คาดว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยจะอยู่ที่ 3.4% ในปีนี้ และจะลดลงไปอยู่ที่ 2.5% ในปี 2026 ซึ่งยังสูงเมื่อเทียบกับประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้วอื่นๆ ค่ะ โดยอัตราเงินเฟ้อสินค้าอุปโภคบริโภคและของชำ ยังคงบีบคั้นครัวเรือน ท่ามกลางราคาสินค้าอาหารที่เพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน และคาดว่าจะขึ้นถึง 6% ภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ต้นทุนการนำเข้าและภาษีที่นายจ้างต้องแบกรับเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นแรงกดดันต่อธุรกิจ และยิ่งเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวค่ะ

ฝั่งสหรัฐอเมริกา ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงในวันศุกร์ เนื่องจากแรงกดดันจากความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นและสัญญาณใหม่ของความอ่อนแอทางเศรษฐกิจภายในประเทศ ขณะที่การปิดทำการของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อเป็นสาเหตุที่ทำให้การเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญถูกเลื่อนออกไป และด้วยความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น นักลงทุนหลายรายจึงหันไปหาทรัพย์สินทางเลือก เช่น ทองคำและคริปโตเคอร์เรนซี นักวิเคราะห์เตือนว่า ความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของ Fed ความไม่เสถียรทางการเมือง และข้อพิพาททางการค้า ได้กระตุ้นให้เกิดแนวคิดในกลยุทธ์การลงทุนในช่วงที่ค่าเงินถูกลดมูลค่า ซึ่งสะท้อนถึงความกลัวเกี่ยวกับเสถียรภาพระยะยาวของดอลลาร์ค่ะ

ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์บางส่วนก็เริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับบทบาทของดอลลาร์ในฐานะ “สินทรัพย์ปลอดภัย” โดยงานวิจัยชี้ให้เห็นว่า ใน 17 จาก 20 ไตรมาสที่ผ่านมา ทิศทางการเคลื่อนไหวของทุนสำรองดอลลาร์และดัชนีดอลลาร์มีแนวโน้มสวนทางกัน ความไม่มั่นคงทางการเมืองในสหรัฐฯ รวมถึงความตึงเครียดทางการค้าในยุคทรัมป์ ยิ่งส่งผลให้ความเชื่อมั่นระหว่างประเทศต่อสกุลเงินดอลลาร์ลดลงไปประมาณ 9% ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันค่ะ

ด้านเจ้าหน้าที่ของ Fed ยังคงส่งสัญญาณในเชิงผ่อนคลาย โดยอ้างถึงข้อมูลตลาดแรงงานที่มีทั้งสัญญาณบวกและลบ ขณะที่ผู้ว่าการ Fed คนใหม่ สตีเฟน มิแรน ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ผลักดันให้มีการลดดอกเบี้ยมากขึ้น โดยรายงาน Beige Book ของ Fed ยืนยันแนวโน้มดังกล่าว และชี้ให้เห็นถึงการเลิกจ้างที่เพิ่มขึ้นและการใช้จ่ายผู้บริโภคลดลง โดยเฉพาะในกลุ่มครัวเรือนรายได้ต่ำถึงกลาง ยิ่งเพิ่มความคาดหวังว่าจะมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมของ Fed ระหว่างวันที่ 28–29 ตุลาคมค่ะ

ในด้านการคลังของสหรัฐฯ การขาดดุลงบประมาณในปีงบประมาณ 2025 ลดลงเล็กน้อย โดยปัจจัยหลักมาจากรายได้จากศุลกากรที่ทำสถิติสูงถึง 195,000 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่มีการออกภาษีใหม่โดยรัฐบาลทรัมป์ ขณะที่กระทรวงการคลังประเมินอัตราขาดดุลงบประมาณต่อ GDP อยู่ที่ 5.9% ลดลงจาก 6.3% ในปี 2024 ค่ะ

ในภาคที่อยู่อาศัย ความเชื่อมั่นของผู้สร้างบ้านในสหรัฐฯ มีแนวโน้มฟื้นตัวเล็กน้อย โดยยังคงมีความหวังว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยจะลดลง และอาจกระตุ้นความต้องการได้ โดยรายงาน Beige Book ของ Fed ยังระบุถึงอุปสงค์แรงงานที่เบาบางและกิจกรรมเศรษฐกิจโดยรวมที่จำกัด ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยน่าจะเกิดขึ้นได้ยากก่อนกลางปี 2026 ค่ะ

โดยสรุปแล้ว คู่เงิน GBPUSD อาจยังคงได้รับการสนับสนุนเชิงพื้นฐานจากความแตกต่างที่เพิ่มขึ้นระหว่างมุมมองนโยบายการเงินและการคลังของอังกฤษกับสหรัฐฯ ในขณะที่เศรษฐกิจอังกฤษยังค่อนข้างเปราะบาง ธนาคารแห่งอังกฤษจึงยังคงให้ความสำคัญกับเสถียรภาพของราคาเหนือการผ่อนคลายอย่างรวดเร็ว ตรงกันข้ามกับดอลลาร์ที่เผชิญแรงกดดันในแง่ลบจากความตึงเครียดทางการค้า ความไม่เสถียรทางการเมือง และความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนทางการคลัง ก็ได้กัดกร่อนความเชื่อมั่นในดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย นักลงทุนจึงแสวงหาการกระจายการลงทุนไปยังสกุลเงินใหญ่อื่นๆ รวมทั้งเงินปอนด์ค่ะ ส่งผลให้โดยภาพรวมแล้ว คู่เงิน GBPUSD มีแนวโน้มที่จะยังคงได้รับแรงหนุนในระยะกลาง ซึ่งอาจนำไปสู่แนวโน้มบวกอย่างค่อยเป็นค่อยไปสำหรับเงินปอนด์ในช่วงสัปดาห์ข้างหน้าค่ะ

บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค

วิเคราะห์ GBPUSD วันที่ 17 ตุลาคม 2025

คู่เงิน GBPUSD ยังคงแสดงแนวโน้มเชิงบวกอย่างชัดเจน โดยยังรักษาโมเมนตัมเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้ง 50 วันและ 200 วัน ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่สนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งโครงสร้างในระยะสั้นยังบ่งชี้ถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่งเหนือบริเวณ 1.3350 และตัวชี้วัดโมเมนตัม RSI สะท้อนถึงแรงซื้อในระดับปานกลาง โดยยังไม่เข้าสู่เขตซื้อมากเกินไป จึงยังมีพื้นที่สำหรับการปรับตัวขึ้นต่อ ก่อนที่แรงขายเพื่อทำกำไรจะเริ่มเข้ามาค่ะ

แนวต้านระยะสั้นอยู่ที่บริเวณ 1.3480–1.3520 หากสามารถทะลุผ่านได้อย่างชัดเจน อาจกระตุ้นแรงซื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ 1.3600 และอาจขยายตัวขึ้นสู่ 1.3720 หากแรงกดดันฝั่งดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงอยู่

ในทางกลับกัน หากเกิดการย่อตัวต่ำกว่า 1.3350 ในระยะสั้น ก็อาจเปิดทางให้กลับไปทดสอบระดับ 1.3280 ซึ่งคาดว่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามา เนื่องจากส่วนต่างผลตอบแทนพันธบัตรยังอยู่ในระดับที่เอื้อต่อเงินปอนด์ ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เริ่มอ่อนตัวค่ะ

อย่างไรก็ดี แม้แนวโน้มโดยรวมยังคงเป็นขาขึ้น ตราบใดที่ GBPUSD สามารถทรงตัวเหนือระดับ 1.3200 ได้อย่างมั่นคง แต่หากราคาปิดรายวันต่ำกว่าระดับดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นสัญญาณของการปรับฐานลึก โดยมีโอกาสที่ราคาจะอ่อนตัวลงไปทดสอบบริเวณ 1.3050 ได้ค่ะ

ด้วยเหตุนี้ ในเชิงเทคนิค GBPUSD ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อได้ในช่วง 1.3600–1.3800 ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เว้นแต่ BoE จะปรับจุดยืนเป็นเชิงผ่อนคลายแบบไม่คาดคิด หรือผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ กลับมาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจเปลี่ยนทิศทางชั่วคราวได้ค่ะ โดยรวมแล้ว แนวโน้มหลักยังคงเอื้อให้ฝั่งขาขึ้นได้เปรียบ และการย่อตัวลงสู่โซน 1.3300–1.3350 จึงอาจถือเป็นจังหวะในการเข้าซื้อภายในกรอบแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางค่ะ

📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค

  • แนวรับสำคัญ : 1.3407, 1.3391, 1.3367
  • แนวต้านสำคัญ : 1.3455, 1.3471, 1.3495

ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลต่อคู่เงิน GBPUSD

ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลต่อคู่เงิน GBPUSD 17 ตุลาคม 2025

ที่มา : Forexfactory

⭐ คุณน้าแนะนำโบรกเกอร์คุณสมบัติเด่น!

การเลือกโบรกเกอร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ สำหรับการเทรด Forex ค่ะ

เพราะโบรกเกอร์จะพัฒนาระบบและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเทรดของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นให้ได้มากที่สุด

สำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มั่นใจว่า โบรกเกอร์ Forex แบบไหนดี?

คุณน้าได้รวบรวมการจัดอันดับของโบรกเกอร์ในทุกคุณสมบัติ เช่น สเปรดต่ำ, เทรดทอง หรือโบนัสฟรี


มือใหม่หัดเทรดที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? คุณน้าได้รวบรวมเนื้อหาสำคัญที่ถือเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับการเทรด Forex มาไว้ให้แล้วที่นี่!


สรุปวิเคราะห์ GBPUSD

จุดน่าเข้า Buy

  • Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3367 – 1.3407 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 1.3407 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3470 และ SL ที่ประมาณ 1.3347 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
  • Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3455 – 1.3495 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3534 และ SL ที่ประมาณ 1.3387 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

จุดน่าเข้า Sell

  • Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3455 – 1.3495 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้าน 1.3455 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3406 และ SL ที่ประมาณ 1.3515 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
  • Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 1.3367 – 1.3407 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3342 และ SL ที่ประมาณ 1.3475 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

คำเตือน

การให้ข้อมูลการวิเคราะห์คู่เงิน Forex ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค เป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจการลงทุน


สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

Picture of คุณน้า
คุณน้า
Table of Contents
Recent Post
Recent Post
บทวิเคราะห์ทองคำ 17 ตุลาคม 2025
บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 17 ตุลาคม 2025

ในบทวิเคราะห์นี้ จะศึกษาภาพรวมปัจจัยพื้นฐานและภาพรวมทางเทคนิคของราคาทองคำ จะมีจุดน่าเข้าซื้อหรือน่าขายจุดไหนบ้าง? บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้มีคำตอบ!

รีวิว XM ดีไหม? ขั้นตอนฝากเงิน XM ยากหรือเปล่า? ปี 2025
รีวิว XM ดีไหม? ขั้นตอนฝากเงิน XM ยากหรือเปล่า? ปี 2025

รีวิวโบรกเกอร์ XM ทุกคุณสมบัติ ทั้งข้อมูลเบื้องต้น, ค่าสเปรด, ค่า Swap, ระบบการฝากถอน, ความเร็วในการฝากถอนเงิน รวมไปถึงการให้บริการลูกค้า

วิเคราะห์ GBPUSD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 17 ตุลาคม 2025
วิเคราะห์ GBPUSD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 17 ตุลาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ GBPUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

ทางเว็บไซต์ คุณน้าพาเทรด
ได้มีการใช้คุกกี้เพื่อช่วยปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้เว็บไซต์ของเราดียิ่งขึ้น


Privacy Policy