วิเคราะห์ USDCAD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 28 ตุลาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ USDCAD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค อีกทั้งแนวทางในการเข้าออกออเดอร์ ไปจนถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการเทรดคู่เงินแบบละเอียด เรียกได้ว่าครบจบในบทความเดียว!

บทวิเคราะห์ Forex วันนี้ : คู่เงิน USDCAD

บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน

ตลาดคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่าธนาคารกลางแคนาดาจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% ติดต่อกันเป็นครั้งที่สองในวันที่ 29 ตุลาคมนี้ ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.25% และเป็นระดับต่ำสุดของช่วงอัตราดอกเบี้ย “เป็นกลาง” ค่ะ

สาเหตุสำคัญมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อัตราการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น และผลกระทบทางลบจากมาตรการเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่มีต่อสินค้าส่งออกหลักของแคนาดา เช่น เหล็ก อะลูมิเนียม ไม้แปรรูป และรถยนต์ค่ะ ขณะที่ GDP ของแคนาดาหดตัวลงถึง 1.6% ในไตรมาสที่สอง และจากการประเมินเบื้องต้น เศรษฐกิจอาจจะเข้าใกล้การหดตัวอีกครั้งในไตรมาสที่สาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะทรงตัวที่ระดับ 2.25% ตลอดปีหน้า และอาจมีการลดเพิ่มเมื่อความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศรุนแรงขึ้น หรือความตกลง USMCA มีปัญหาค่ะ

ด้านความเชื่อมั่นทางธุรกิจยังคงอ่อนแรงต่อเนื่อง โดยมีทั้งความต้องการสินค้าและบริการที่ซบเซา แผนการจ้างงานที่ลดลง และปริมาณคำสั่งซื้อที่อยู่ในระดับต่ำ ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่เพิ่มขึ้นเป็น 2.3% ในเดือนกันยายน และ เงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังอยู่เหนือระดับ 3% ค่ะ

อย่างไรก็ดี ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดยังพอมีสัญญาณของความยืดหยุ่นอยู่บ้าง โดยยอดขายปลีกเดือนสิงหาคมปรับเพิ่มขึ้นหลังจากที่ลดลงในเดือนกรกฎาคม โดยแรงหนุนหลักมาจากยอดขายรถยนต์ เสื้อผ้า และสินค้าทั่วไป ขณะที่หมวดน้ำมันเชื้อเพลิงและสินค้าที่เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยยังคงอ่อนตัวค่ะ

ด้านภาคการผลิตเริ่มมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น โดยยอดขายจากโรงงานเพิ่มขึ้นในเดือนกันยายน นำโดยภาคการขนส่งและพลังงาน อย่างไรก็ตาม การเติบโตโดยรวมยังอยู่ในระดับต่ำ โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่า GDP ของแคนาดาจะขยายตัวเพียง 1.2% ในช่วงปี 2025–2026 ซึ่งถือว่าอ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่ช่วงโควิด-19 และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวใกล้ระดับ 7.1% ไปจนถึงช่วงปลายปีหน้าค่ะ

อีกด้าน นายกรัฐมนตรีมาร์ก คาร์นีย์ ได้เสนอกรอบงบประมาณกลางประจำปีในวันที่ 4 พฤศจิกายน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดการพึ่งพาทางเศรษฐกิจต่อสหรัฐอเมริกา และเพิ่มมูลค่าส่งออกไปยังประเทศนอกสหรัฐฯ ให้ได้กว่า 300 พันล้านดอลลาร์แคนาดาในช่วง 10 ปีข้างหน้า ขณะที่รัฐบาลตั้งใจจะใช้นโยบายการคลังอย่างระมัดระวัง ควบคู่กับการลงทุนขนาดใหญ่ในด้านกลาโหม ที่อยู่อาศัย และโครงการด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ตัวเลขขาดดุลประจำปีงบประมาณ 2025/26 คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 70–100 พันล้านดอลลาร์แคนาดา ทำให้นายกรัฐมนตรีคาร์นีย์ต้องเผชิญแรงกดดันในการรักษาสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจกับวินัยทางการคลังค่ะ

ในส่วนของตลาดการเงินระหว่างประเทศนั้น ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องจากบรรยากาศการลงทุนทั่วโลกดีขึ้นจากความคาดหวังต่อข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าทั้งสองประเทศ “ใกล้บรรลุข้อตกลง” และมีกำหนดพบกับ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่เกาหลีใต้ภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้สร้างความหวังในตลาดต่อการบรรลุผลเชิงบวกค่ะ

ขณะเดียวกัน ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 3.0% ในรอบ 12 เดือนสิ้นสุดเดือนกันยายน ซึ่งถือว่าต่ำกว่าที่คาดเล็กน้อย สะท้อนแรงกดดันด้านราคาที่เริ่มชะลอตัว ซึ่งอาจเปิดทางให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้งในอนาคตค่ะ

ในฝั่งของนโยบายการเงิน นักลงทุนกำลังจับตาการประชุมของ Fed ในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าจะมีการลดดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ช่วงเป้าหมาย 3.75%–4.00% และจะเป็นการลดต่อเนื่องเป็นครั้งที่สอง ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า Fed จะลดดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งในเดือนธันวาคมค่ะ

อีกด้าน เมื่อสัปดาห์ก่อนพบการซื้อขายพันธบัตรขนาดใหญ่ (block trade) ในตลาดตราสารหนี้สหรัฐฯ ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนคาดว่า Fed อาจประกาศยุติโครงการลดขนาดงบดุล (QT) เพื่อช่วยคลายภาวะตึงตัวของสภาพคล่องในตลาดการเงินค่ะ

ขณะเดียวกัน ภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อ เริ่มส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยอาจส่งผลให้ GDP ลดลงราว 0.1–0.2 จุดเปอร์เซ็นต์ต่อสัปดาห์ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางราว 700,000 คนที่ถูกพักงานชั่วคราวและไม่ได้รับเงินเดือน ทำให้การใช้จ่ายของครัวเรือนลดลง โดยนักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า แม้ผลกระทบนี้จะเป็นเพียงชั่วคราว แต่ยิ่งสถานการณ์ยืดเยื้อ ความเสียหายต่อเศรษฐกิจในระยะยาวก็ยิ่งมากขึ้นค่ะ

โดยพื้นฐานแล้ว คู่เงิน USDCAD ยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายการเงินของสองประเทศกำลังเคลื่อนไปในทิศทางตรงข้ามกันค่ะ แม้ BoC จะปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% แต่ตลาดได้สะท้อนราคาไว้ล่วงหน้าแล้ว ท่ามกลางสัญญาณของการทรงตัวในอุปสงค์ภายในประเทศ ในทางกลับกัน ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงจากเงินเฟ้อที่ชะลอตัว และคาดการณ์ว่า Fed จะลดดอกเบี้ยต่อ รวมถึงบรรยากาศเชิงบวกจากความเป็นไปได้ของข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งช่วยหนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลกค่ะ

ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้นักลงทุนอาจหันมาถือครองสกุลเงินที่เชื่อมโยงกับสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างดอลลาร์แคนาดามากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อราคาน้ำมันเริ่มทรงตัว และนโยบายการคลังของแคนาดามีแนวโน้มขยายตัวจากแผนการลงทุนของรัฐบาลคาร์นีย์ค่ะ

อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้ที่คู่เงิน USDCAD จะอ่อนลงต่อยังมีข้อจำกัด เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจแคนาดายังอ่อนแอ และยังมีการพึ่งพาการค้ากับสหรัฐฯ สูงอยู่ค่ะ ดังนั้น คุณน้าคาดว่าคู่เงินนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบในระยะสั้น และอาจมีการดีดตัวขึ้นชั่วคราวหากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ฟื้นตัว หรือหาก BoC ส่งสัญญาณการผ่อนคลายนโยบายต่อเนื่องค่ะ

บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค

ทางด้านเทคนิค ขณะนี้คู่เงิน USDCAD พบสัญญาณเริ่มต้นของภาวะแรงซื้อเริ่มอ่อนตัวปรากฏให้เห็นค่ะ ขณะที่ตัวชี้วัดโมเมนตัมสะท้อนให้เห็นว่าแรงหนุนฝั่งขาขึ้นเริ่มลดลง หลังจากราคาปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี จากกราฟรายวัน ราคายังคงเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน และเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ซึ่งยืนยันว่าแนวโน้มโดยรวมในระยะกลางยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้นค่ะ

ขณะเดียวกัน ค่า RSI ได้อ่อนตัวลงจากเขตซื้อมากเกินไปที่อยู่เหนือระดับ 70 ลงมาที่ประมาณ 58 ซึ่งสะท้อนว่าแรงซื้อกำลังเริ่มชะลอตัว และอาจมีการปรับฐานทางเทคนิคเกิดขึ้นในระยะสั้นค่ะ

หากราคาหลุดแนวรับระยะสั้นที่ 1.3920 ลงมาอย่างต่อเนื่อง มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลงไปสู่ระดับ 1.3840 และอาจขยายการปรับฐานลงไปถึงโซน 1.3750–1.3780 ในทางกลับกัน หากแรงซื้อสามารถป้องกันแนวรับ 1.3920 ได้สำเร็จ และผลักดันราคาทะลุขึ้นเหนือ 1.4050 ได้อย่างมั่นคง จะเป็นการยกเลิกสัญญาณปรับฐาน และยืนยันแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ 1.4120 และ 1.4185 ค่ะ

ทั้งนี้ จากมุมมองด้านปริมาณการซื้อขาย คุณน้าพบว่าแรงซื้อเริ่มลดลงเรื่อย ๆ เมื่อราคาขยับเข้าใกล้แนวต้าน ซึ่งสะท้อนว่าการปรับขึ้นรอบล่าสุดกำลังสูญเสียแรงขับเคลื่อน ภายใต้ปัจจัยพื้นฐานที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ความคาดหวังว่า Fed จะผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม และกระแสการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่หนุนค่าเงินดอลลาร์แคนาดาให้แข็งค่าขึ้นค่ะ

ในระยะสั้น คุณน้าแนะนำให้นักลงทุนจับตาการปิดตลาดรายวันต่ำกว่า 1.3920 ซึ่งจะเป็นสัญญาณยืนยันการเข้าสู่ช่วงการปรับฐาน ขณะที่ในภาพระยะยาว โครงสร้างแนวโน้มหลักยังคงเป็นขาขึ้น เว้นแต่ราคาจะหลุดต่ำกว่า 1.3700 ซึ่งจะถือเป็นสัญญาณการกลับทิศของแนวโน้มอย่างมีนัยสำคัญค่ะ

โดยสรุปแล้ว มุมมองทางเทคนิคของคุณน้าต่อ USDCAD ในระยะสั้นคือเป็นกลางถึงขาลง โดยมีโอกาสเกิดการปรับฐานลงสู่บริเวณกลางโซน 1.38 ก่อนที่ราคาจะกลับเข้าสู่ภาวะการทรงตัวในกรอบกว้างอีกครั้งค่ะ

ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลต่อคู่เงิน USDCAD

สรุปวิเคราะห์ USDCAD

จุดน่าเข้า Buy

• Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3955 – 1.3975 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 1.3975 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4017 และ SL ที่ประมาณ 1.3945 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
• Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 1.4011 – 1.4031 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4065 และ SL ที่ประมาณ 1.3965 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

จุดน่าเข้า Sell

• Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.4011 – 1.4031 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 1.4011 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3969 และ SL ที่ประมาณ 1.4041 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
• Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 1.3955 – 1.3975 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3921 และ SL ที่ประมาณ 1.4021  หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

คำเตือน

การให้ข้อมูลการวิเคราะห์คู่เงิน Forex ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค เป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจการลงทุน

สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge