คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 17 พฤศจิกายน 2025

คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 17 พฤศจิกายน 2025
Table of Contents

หุ้นสหรัฐถือเป็นหุ้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งการเคลื่อนไหวของหุ้นสหรัฐเพียงหนึ่งครั้งก็สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอื่น ๆ ทั่วโลก ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาคุยหุ้น เจาะลึกปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงและมุมมองในการลงทุน สายวิเคราะห์หุ้นสหรัฐห้ามพลาดบทความนี้!

คุยหุ้นสหรัฐวันนี้ (US 500/ S&P 500)

บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐานหุ้นสหรัฐ

ดัชนี S&P 500 ปิดสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลงเล็กน้อย เนื่องจากมีแรงเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัว โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้น AI และเทคโนโลยีขนาดใหญ่ค่ะ อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังคงเปราะบางหลังจากถ้อยแถลงเชิงเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ความน่าจะเป็นของการลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมลดลงมาเหลือราว 50% ค่ะ โดยความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ, ระดับมูลค่าหุ้น AI ที่สูง และการขาดข้อมูลเศรษฐกิจใหม่ระหว่างการปิดทำการของภาครัฐ ล้วนเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับตลาด

ทั้งนี้ แม้จะมีแรงกดดันในกลุ่มเทคโนโลยีเป็นวงกว้าง แต่หุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI หลายตัวยังช่วยพยุงตลาดไว้ได้ค่ะ โดย Nvidia Microsoft และ Palantir ดีดตัวขึ้นมากกว่า 1% ก่อนการรายงานผลประกอบการไตรมาสของ Nvidia ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อทิศทางระยะสั้นของ S&P 500 ค่ะ ส่วนหุ้นสำคัญอื่น ๆ ในดัชนีก็ช่วยในการฟื้นตัวเช่นกัน โดย Micron เพิ่มขึ้นกว่า 4% นำดัชนี ขณะที่ Warner Bros Discovery ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังมีรายงานว่าบริษัทได้รับความสนใจจาก Paramount Comcast และ Netflix ส่วน Cisco Systems ปรับขึ้นตามผลประกอบการที่แข็งแกร่งกว่าคาด ซึ่งสะท้อนความต้องการด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI ขององค์กรและผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ที่เพิ่มขึ้นค่ะ

ด้านผลประกอบการและข่าวเฉพาะบริษัทยังทำให้ผลตอบแทนของหุ้นในดัชนีแตกต่างกันอย่างชัดเจนค่ะ โดย Applied Materials รายงานผลที่หลากหลาย พร้อมเตือนว่ากฎควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ที่เข้มงวดยิ่งขึ้น จะกดดันความต้องการเครื่องจักรผลิตชิปจากจีนในปีหน้า แต่ในขณะเดียวกันก็ระบุว่า การลงทุนใน AI ที่เร่งตัวขึ้น น่าจะช่วยหนุนยอดขายในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ค่ะ ขณะที่ Walmart อ่อนตัวลง หลังประกาศเปลี่ยนซีอีโอ ขณะที่ StubHub ร่วงลงหลังผู้บริหารไม่ให้คำแนะนำผลประกอบการ ในทางตรงกันข้าม Eli Lilly โดดเด่นในดัชนีโดยเพิ่มขึ้นกว่า 10% จากการปรับเพิ่มราคาเป้าหมายโดยนักวิเคราะห์ ซึ่งสะท้อนการเติบโตอย่างรวดเร็วของกลุ่มยารักษาโรคอ้วนค่ะ ด้านหุ้น On Holding ก็พุ่งกว่า 22% ตลอดสัปดาห์หลังรายงานผลประกอบการแข็งแกร่งและปรับเพิ่มการคาดการณ์ทั้งปี ขณะที่ Oracle ลดลงกว่า 6% หลัง Michael Burry เตือนว่า บริษัทเทคโนโลยีใหญ่บางแห่งอาจกำลังบันทึกกำไรสูงเกินจริงโดยการขยายอายุการใช้งานสินทรัพย์ค่ะ

อย่างไรก็ดี เบื้องหลังการเคลื่อนไหวในตลาดครั้งนี้ คือ การถกเถียงที่มากขึ้นเกี่ยวกับความยั่งยืนของแรงขับเคลื่อนจาก AI ซึ่งเป็นตัวผลักดันหลักของผลตอบแทน S&P 500 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาค่ะ จากการเปิดเผยข้อมูลไตรมาส 3 ของกองทุนเฮดจ์ฟันด์พบว่า บริษัทขนาดใหญ่ เช่น Bridgewater Tiger Global และ Coatue ลดการถือครองหุ้นกลุ่ม Magnificent Seven เช่น Nvidia, Alphabet, Meta และ Amazon พร้อมขยับเข้าสู่หุ้นซอฟต์แวร์ ระบบชำระเงิน อีคอมเมิร์ซ และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล โดยนักวิเคราะห์มองว่าการหมุนพอร์ตดังกล่าวสะท้อนความระมัดระวังที่เพิ่มขึ้นต่อมูลค่าหุ้นกลุ่ม AI ในขณะเดียวกัน งานวิจัยล่าสุดจาก JPMorgan และ Morgan Stanley ก็เตือนถึงความเสี่ยงในการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าในสหรัฐฯ จากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของดาต้าเซ็นเตอร์ โดยคาดว่าอุปสงค์อาจสูงเกินกำลังผลิตภายในปี 2028 ค่ะ

ในปัจจุบัน ตลาดกำลังจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ล่าช้า หลังการปิดทำการของภาครัฐสิ้นสุดลงค่ะ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่า รายงานสำคัญบางฉบับ เช่น อัตราว่างงานเดือนตุลาคมและ CPI อาจไม่ทันใช้ประกอบการประชุม Fed เดือนธันวาคม ซึ่งอาจจะทำให้ S&P 500 ยิ่งอ่อนไหวต่อความคาดหวังด้านนโยบายการเงินและทิศทางการลงทุนด้าน AI ค่ะ

โดยสรุปแล้ว พื้นฐานของ S&P 500 ยังคงได้รับแรงหนุนจากความแข็งแกร่งของผลประกอบการบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ AI และการขยายตัวของดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งช่วยเสริมเสถียรภาพให้ดัชนี แม้ตลาดผันผวนจากความคาดหวังเรื่องดอกเบี้ยและข้อมูลเศรษฐกิจที่ล่าช้าค่ะ อย่างไรก็ดี ตลาดเริ่มมีสัญญาณการหมุนพอร์ต ซึ่งไม่ใช่เพราะพื้นฐานอ่อนลง แต่เพราะมูลค่าที่ปรับขึ้นสูงตลอดหลายปีที่ผ่านมา สะท้อนว่าการเติบโตของ AI อาจเข้าสู่ช่วงที่ต้องรับมือกับต้นทุนที่สูงขึ้นและคอขวดด้านโครงสร้างพื้นฐานค่ะ แต่ถึงอย่างนั้น งบดุลที่แข็งแรงของบริษัท กำไรที่ยังเติบโตได้ และแนวโน้มระยะยาวที่มั่นคงของธุรกิจขนาดใหญ่ ยังคงเป็นแรงพยุงสำคัญของดัชนี แม้ความผันผวนระยะสั้นอาจยังดำเนินต่อไปจนกว่านโยบายการเงินและผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ จะให้ความชัดเจนมากขึ้นค่ะ

บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิคหุ้นสหรัฐ

คุยหุ้นสหรัฐ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2025

ดัชนี US500 ยังคงอยู่ในโครงสร้างขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจังหวะการปรับตัวจะเริ่มชะลอลง เมื่อเข้าใกล้โซนแนวต้านสำคัญที่ 6,760–6,820 ซึ่งเป็นบริเวณที่มักมีแรงขายกลับออกมาบ่อยครั้งในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยราคายังคงทรงตัวยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน และแนวโน้มหลักยังคงเป็นบวกตราบใดที่ US500 ยืนเหนือระดับ 6,600 ค่ะ

ทั้งนี้ เครื่องมือวัดโมเมนตัมเริ่มส่งสัญญาณอ่อนแรงเล็กน้อย บ่งชี้ว่าดัชนีอาจเข้าสู่ภาวะพักฐานในกรอบแคบ หรืออาจมีการย่อตัวแบบตื้น ๆ ก่อนที่จะพยายามเบรกทะลุอีกครั้ง หากสามารถผ่านระดับ 6,820 ไปได้อย่างชัดเจน ก็มีโอกาสเปิดทางขึ้นสู่ 6,900 และต่อเนื่องไปถึง 7,000 โดยอาจได้รับแรงขับเคลื่อนหลักมาจากหุ้นกลุ่มเมกะแคปด้าน AI อย่าง NVDA MSFT และ MU ค่ะ

อย่างไรก็ตาม หากดัชนีไม่สามารถทะลุ 6,820 ได้ ประกอบกับความไม่แน่นอนจากท่าทีของ Fed ที่อาจกลับมาอีกครั้ง ก็อาจทำให้เกิดแรงขายปรับฐานลงสู่โซนรับสำคัญที่ 6,550–6,580 ได้ค่ะ

📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (US 500/ S&P 500)

  • แนวรับสำคัญ : 6723.95, 6699.56, 6660.09
  • แนวต้านสำคัญ : 6802.89, 6827.28, 6866.75

ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มหุ้นสหรัฐ

ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มหุ้นสหรัฐ

ที่มา : Forexfactory

กำหนดการรายงานผลประกอบการ

กำหนดการรายงานผลประกอบการ

ที่มา : TradingView

📍หุ้นสหรัฐที่น่าจับตามอง

  • Nvidia (NVDA): ยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบพร้อมยืนเหนือโซนรับสำคัญที่ $185–$188 ขณะที่ราคาบีบตัวแคบลงต่อเนื่องค่ะ แนวต้านใกล้สุดอยู่ที่ $205–$210 โดยโมเมนตัมที่ชะลอลงจากช่วงก่อนหน้า ทำให้ NVDA มีพื้นที่สำหรับการขึ้นต่อถ้ามีปัจจัยหนุน หากสามารถทะลุเหนือ $210 ได้อย่างชัดเจน จะเปิดทางสู่ช่วง $225–$235 ในทางกลับกัน หากหลุดต่ำกว่า $185 อาจเห็นการถอยลงไปทดสอบบริเวณ $165 ได้ค่ะ แม้โครงสร้างโดยรวมยังเป็นขาขึ้น แต่การไปต่อยังต้องอาศัยแรงกระตุ้นเพิ่มเติมค่ะ
  • Micron (MU): อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นแบบเร่งตัว โดยราคาวิ่งเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 20 และ 50 วันอย่างมั่นคง ขณะที่ระดับ $220 ทำหน้าที่เป็นแนวรับหลัก และ MU ยังคงแสดงโมเมนตัมเชิงบวกต่อเนื่องค่ะ แนวต้านถัดไปอยู่ที่ $255–$260 โดยโมเมนตัมยังแข็งแรง แม้ RSI จะเริ่มมีสัญญาณการพักฐานสั้น ๆ หากราคายืนเหนือ $240 ได้ ภาพรวมแนวโน้มขาขึ้นจะยังคงชัดเจน และหากทะลุผ่าน $260 อาจเห็นการขยับขึ้นต่อสู่โซน $270 ได้ค่ะ
  • Applied Materials (AMAT): ขณะนี้ราคากำลังเข้าใกล้แนวต้านสำคัญที่ $230–$235 โดยแนวโน้มยังได้รับแรงหนุนจากเส้นค่าเฉลี่ย 20 และ 50 วันที่ไต่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนแรงซื้อจากสถาบันที่ยังแข็งแกร่งค่ะ ตัวชี้วัดโมเมนตัมยังเป็นบวกและไม่อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป ทำให้ยังมีพื้นที่สำหรับการปรับตัวขึ้นต่อ โดยหากสามารถทะลุเหนือ $235 ได้ จะเปิดเป้าหมายถัดไปที่ $245–$250 ขณะที่การย่อกลับสู่โซน $218–$220 มีแนวโน้มดึงแรงซื้อกลับเข้ามาในทิศทางขาขึ้นรอบใหญ่ค่ะ
  • Warner Bros. Discovery (WBD): ยังคงสะสมโมเมนตัมต่อเนื่อง หลังจากทะลุเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ซึ่งบ่งชี้ถึงการพลิกกลับแนวโน้มจากขาลงระยะยาวค่ะ ราคากำลังเคลื่อนไปสู่แนวต้านที่ $24.50–$25 และหากทะลุได้อย่างชัดเจน จะเปิดทางไปสู่โซน $27–$28 โดยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นระหว่างการปรับขึ้น สะท้อนถึงความสนใจจากนักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะท่ามกลางกระแสคาดการณ์ดีลควบรวมในกลุ่มสื่อค่ะ แนวรับแรกอยู่ที่ $22.20 และถัดไปที่ $21 ขณะที่ RSI แม้จะสูงขึ้น แต่ก็ยังไม่ถึงระดับที่ร้อนแรงเกินไป ทำให้ราคามีโอกาสเดินหน้าต่อพร้อมการย่อลงเล็กน้อยเป็นช่วง ๆ ค่ะ
  • Eli Lilly (LLY): ยังคงเดินหน้าในแนวโน้มขาขึ้นระยะยาว โดยราคากำลังเข้าใกล้แนวต้านสำคัญที่ $1,050–$1,065 ซึ่งอาจมีแรงขายทำกำไรเข้ามาบ้างค่ะ แนวโน้มโดยรวมยังแข็งแกร่ง โดยราคายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 20 และ 50 วันได้อย่างมั่นคง และตัวชี้วัดโมเมนตัมยังคงบวก แม้ RSI จะใกล้โซนซื้อมากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่การพักฐานก่อนขึ้นต่อ หาก LLY สามารถทะลุเหนือ $1,065 ได้อย่างชัดเจน แนวต้านถัดไปคาดว่าจะอยู่ที่โซน $1,100–$1,120 ค่ะ

🔍คุณน้าแนะนำเทรดหุ้น CFD ไปกับโบรกเกอร์ IUX

เทรดหุ้น CFD กับ IUX โบรกเกอร์หุ้นค่าธรรมเนียมถูก

IUX มีการให้บริการซื้อขายหุ้น CFD ประกอบไปด้วยหุ้นกลุ่ม Magnificent Seven (M7) อีกทั้งยังมีหุ้นให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Coca Cola, Adobe, Alibaba, McDonalds Incorporated และ Netflix เป็นต้น ทำให้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และเทรดเดอร์รายย่อยที่มีต้นทุนจำกัดแล้วต้องการซื้อขายหุ้นระดับโลก

สรุปคุยหุ้นสหรัฐและแนวโน้มในการลงทุน (US 500/ S&P 500)

จุดน่าเข้า Buy

  • Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 6653.95 – 6723.95 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 6723.95 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6802.89 และ SL ที่ประมาณ 6618.95 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
  • Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 6802.89 – 6872.89 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6905.45 และ SL ที่ประมาณ 6688.95 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

จุดน่าเข้า Sell

  • Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 6802.89 – 6872.89 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 6802.89 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6698.79 และ SL ที่ประมาณ 6907.89 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
  • Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 6653.95 – 6723.95 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6595.46 และ SL ที่ประมาณ 6837.89 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

คำเตือน

บทวิเคราะห์นี้ใช้สำหรับการศึกษาข้อมูลของหุ้นสหรัฐเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลของสินทรัพย์และศึกษาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ประกอบกับศึกษาแนวโน้มหุ้นและข่าวสหรัฐก่อนตัดสินใจลงทุน


สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

Picture of คุณน้า
คุณน้า
Table of Contents
Recent Post
Recent Post
คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 17 พฤศจิกายน 2025
คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 17 พฤศจิกายน 2025

ในบทความนี้เราจะมาคุยหุ้น เจาะลึกปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงและมุมมองในการลงทุน สายหุ้นสหรัฐห้ามพลาดบทความนี้!

บทวิเคราะห์คู่เงิน EURUSD 15 พฤศจิกายน 2025
บทวิเคราะห์ EURUSD วันที่ 15 พฤศจิกายน 2025

พบกับวิเคราะห์ EURUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

บทวิเคราะห์คู่เงิน USDRUB 14 พฤศจิกายน 2025
บทวิเคราะห์ USDRUB วันที่ 14 พฤศจิกายน 2025

พบกับวิเคราะห์ USDRUB ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

บทวิเคราะห์คู่เงิน AUDUSD 14 พฤศจิกายน 2025
บทวิเคราะห์ AUDUSD วันที่ 14 พฤศจิกายน 2025

พบกับวิเคราะห์ AUDUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

ทางเว็บไซต์ คุณน้าพาเทรด
ได้มีการใช้คุกกี้เพื่อช่วยปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้เว็บไซต์ของเราดียิ่งขึ้น


Privacy Policy