พบกับวิเคราะห์ GBPUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค อีกทั้งแนวทางในการเข้าออกออเดอร์ ไปจนถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการเทรดคู่เงินแบบละเอียด เรียกได้ว่าครบจบในบทความเดียว!
บทวิเคราะห์ Forex วันนี้ : คู่เงิน GBPUSD
บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน
สถานการณ์เศรษฐกิจของทั้งสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกากำลังเดินหน้าฟื้นตัวอย่างระมัดระวัง แต่ยังถูกขัดขวางด้วยเงินเฟ้อที่ฝังรากลึก อุปสงค์ที่เริ่มอ่อนตัวลง และความท้าทายทางการคลังและการเมืองที่ทวีความรุนแรง โดยทั้งธนาคารกลางของอังกฤษ และธนาคารกลางสหรัฐฯ ต่างก็เผชิญแรงกดดันให้มีการปรับอัตราดอกเบี้ย แต่ทิศทางของทั้งสองฝั่งนั้นยังคงถูกกำหนดด้วยเงื่อนไขภายในประเทศที่แตกต่างกันค่ะ
ในส่วนของอังกฤษนั้น คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้อย่างช้า ๆ แต่มั่นคงในช่วงสองปีข้างหน้า ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ธนาคารกลางอังกฤษค่อย ๆ ลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างระมัดระวัง ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยสองครั้งในปีนี้ ในเดือนสิงหาคมและพฤศจิกายน ทำให้อัตราดอกเบี้ยอาจลดลงมาอยู่ที่ 3.75% ภายในสิ้นปี อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อยังคงเป็นปัญหาหลัก เพราะคาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 3.2% ในปี 2025 และยังสูงกว่ากรอบเป้าหมาย 2% ของ BoE ไปจนถึงปี 2026 ซึ่งสะท้อนถึงแรงกดดันด้านราคาสินค้า บริการ และอาหารที่ยังไม่คลี่คลายค่ะ
อย่างไรก็ดี แม้ช่วงต้นปี 2025 จะมีแรงส่งที่ดี แต่สัญญาณล่าสุดเริ่มบ่งชี้ถึงรอยร้าวของการฟื้นตัวค่ะ GDP หดตัวในเดือนเมษายนและพฤษภาคม ภาคการผลิตก็ยังคงซบเซา แม้ว่าการขอสินเชื่อบ้านและการกู้ยืมของผู้บริโภคจะยังพอไปต่อได้ แต่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับงบประมาณประจำฤดูใบไม้ร่วง แม้ยอดขายปลีกเดือนมิถุนายนจะฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะพยุงตัวเลขในภาพรวมรายไตรมาสได้ค่ะ
ด้านต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก และภาระภาษีที่เพิ่มขึ้นสำหรับนายจ้าง กำลังถูกส่งต่อไปยังผู้บริโภคผ่านราคาสินค้าที่สูงขึ้นค่ะ หลายบริษัทค้าปลีกจึงตอบสนองด้วยการชะลอการจ้างงานหรือเลิกจ้างพนักงาน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าความเครียดในระบบยังคงดำเนินอยู่ ขณะที่ตลาดแรงงานเองก็เริ่มชะลอตัว โดยเฉพาะในภาครัฐที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายเก็บเงินประกันสังคมจากนายจ้าง และแม้ว่าจะมีการฟื้นตัวของผลิตภาพในภาครัฐ แต่ระดับยังต่ำกว่าช่วงก่อนโควิดค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในภาคสาธารณสุขค่ะ
ทั้งนี้ ความมั่นคงทางการคลังของอังกฤษยังน่าเป็นห่วง แม้ IMF จะชื่นชมรัฐมนตรีการคลัง Rachel Reeves ว่าสามารถฟื้นความน่าเชื่อถือของนโยบายการคลังได้ แต่ก็ยังเตือนว่าเศรษฐกิจอังกฤษยังอ่อนไหวต่อแรงกระแทกอยู่ โดยหากการเติบโตชะลอตัวลงมากกว่านี้ อังกฤษอาจละเมิดกฎวินัยการคลังได้ IMF จึงแนะนำให้อังกฤษส่งเสริมนโยบายการคลังที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อป้องกันการปรับเปลี่ยนนโยบายฉับพลันที่อาจกระทบต่อการฟื้นตัวค่ะ
หันมาดูฝั่งสหรัฐฯ กันบ้างนะคะ ธนาคารกลางสหรัฐยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25%–4.50% ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ห้า เพื่อเน้นถึงการใช้ความระมัดระวัง ท่ามกลางสัญญาณเศรษฐกิจที่ขัดแย้งกัน แม้ว่า GDP จะขยายตัวได้ดีถึง 3.0% ในไตรมาสสองของปี 2025 แต่แรงส่งส่วนใหญ่มาจากการนำเข้าที่ลดลง ไม่ใช่จากการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งโตในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบกว่าสองปี ขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคก็เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย และส่วนใหญ่มาจากกลุ่มรายได้สูง รวมถึงการซื้อสินค้าตุนก่อนการปรับขึ้นภาษีศุลกากรค่ะ
ด้านประธาน Fed นาย Jerome Powell แสดงท่าทีระมัดระวังอย่างมาก โดยไม่ยอมตามแรงกดดันทางการเมืองจากประธานาธิบดีทรัมป์ที่ต้องการให้ลดดอกเบี้ยแรง ๆ ในการประชุมล่าสุด ขณะที่มีผู้ว่าการ 2 คน คือ Michelle Bowman และ Christopher Waller ที่ลงคะแนนเสียงเห็นต่าง โดยเสนอให้ลดดอกเบี้ยลง 0.25% ซึ่งถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1993 ที่เกิดความเห็นไม่ตรงกันในคณะกรรมการชุดนี้ค่ะ
ทั้งนี้ Powell ยอมรับว่า แรงงานในตลาดเริ่มชะลอลง แต่ก็ชี้ว่า อุปทานแรงงานที่ลดลงเนื่องจากนโยบายจำกัดการอพยพเข้าเมือง เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้อัตราว่างงานยังต่ำอยู่ค่ะ พร้อมทั้งย้ำว่า Fed จะตัดสินใจตามข้อมูลเศรษฐกิจที่เข้ามา โดยเฉพาะแนวโน้มเงินเฟ้อและการจ้างงาน แม้ว่าเงินเฟ้อจะลดลงจากระดับสูงสุดในปี 2023 แต่ก็ยังอยู่สูงกว่าเป้าหมาย 2% ของ Fed ท่ามกลางการลงทุนในภาคธุรกิจที่เริ่มชะลอลง โดยคำสั่งซื้อสินค้าทุนลดลง และความไม่แน่นอนด้านการค้ากับจีนยังเป็นอุปสรรค แม้จะมีมาตรการลดภาษีเพื่อกระตุ้นการลงทุนก็ตาม
จากปัจจัยพื้นฐานในปัจจุบัน คุณน้าเห็นว่า แนวโน้มของ GBPUSD ยังมีความผันผวนสูงในระยะกลางถึงยาวค่ะ ทางฝั่งอังกฤษ แม้มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่การที่เงินเฟ้อยังสูงเกินเป้าหมายและเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว อาจทำให้ BoE ดำเนินนโยบายผ่อนคลายแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งจำกัด Upside ของค่าเงินปอนด์ ในขณะที่ฝั่งสหรัฐฯ นั้น แม้ว่า Fed จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย แต่ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนของการลดอัตราดอกเบี้ยเร็ว ๆ นี้ และเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงมีภาพรวมที่แข็งแกร่งกว่าอังกฤษในหลายมิติ โดยเฉพาะดุลการค้าและการบริโภคภาคครัวเรือนระดับบน ทำให้ดอลลาร์ยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัยค่ะ
ด้วยเหตุนี้ คุณน้ามองว่า GBPUSD อาจมีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบที่จำกัด โดยมีแรงกดดันต่อค่าเงินปอนด์จากความไม่แน่นอนด้านการคลังและแนวโน้มเงินเฟ้อที่ยังไม่ลดลงอย่างชัดเจน ขณะที่ดอลลาร์อาจยังได้เปรียบในช่วงที่ตลาดรอความชัดเจนจาก Fed และข้อมูลเศรษฐกิจรอบใหม่ ซึ่งหากข้อมูลในไตรมาสถัดไปสะท้อนถึงการฟื้นตัวที่ชัดเจนในฝั่งใดฝั่งหนึ่ง อาจนำไปสู่การเบรกกรอบสะสมของ GBPUSD ได้ในช่วงปลายปีค่ะ
บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค

ในแง่ของปัจจัยทางเทคนิค คู่สกุลเงิน GBPUSD ได้ทะลุแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1.3140–1.3180 การทะลุแนวดังกล่าวถือเป็นสัญญาณเชิงบวก โดยราคายังคงอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันและ 200 วัน ซึ่งทั้งสองเส้นมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น แสดงถึงแรงซื้อที่ยังคงแข็งแกร่งค่ะ
นอกจากนี้ ตัวชี้วัดโมเมนตัมยังสนับสนุนมุมมองขาขึ้น โดยดัชนี RSI อยู่ใกล้ระดับ 65 ซึ่งยังไม่เข้าสู่เขตซื้อมากเกินไป (Overbought) บ่งชี้ว่ายังมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นต่อได้ก่อนจะมีการพักฐาน ส่วน MACD ยังคงปรับตัวเหนือระดับศูนย์ บ่งชี้ว่าแนวโน้มยังคงแข็งแกร่งค่ะ
หาก GBPUSD สามารถยืนเหนือระดับ 1.3180 ได้อย่างมั่นคง แนวต้านถัดไปจะอยู่ที่ 1.3325 และหากทะลุขึ้นไปได้ ก็อาจเปิดทางไปสู่ระดับ 1.3500 ได้ค่ะ ทั้งนี้ ต้องติดตามข้อมูลเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะตัวเลขเงินเฟ้อประจำเดือนสิงหาคม และแนวทางนโยบายของ BoE ว่าจะสอดคล้องกับแนวโน้มผ่อนคลายของ Fed หรือไม่ค่ะ
อย่างไรก็ตาม หากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด ก็อาจกดดันให้ GBPUSD ปรับตัวลง โดยมีแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1.3080 และ 1.2950 ค่ะ
โดยสรุป แม้ว่าปัจจัยทางเทคนิคจะยังเอื้อให้ GBPUSD มีโอกาสปรับตัวขึ้นไปยังแนวต้าน 1.3325–1.3500 ได้ แต่คุณน้าอยากแนะนำให้ติดตามการสื่อสารจากธนาคารกลาง และข้อมูลเศรษฐกิจทั้งจากฝั่งอังกฤษและสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิดค่ะ โดยเฉพาะความไม่แน่นอนของทิศทางนโยบาย BoE และความแตกต่างของภาวะเงินเฟ้อระหว่างสองประเทศค่ะ
📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค
- แนวรับสำคัญ : 1.3188, 1.3164, 1.3126
- แนวต้านสำคัญ : 1.3264, 1.3288, 1.3326
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลต่อคู่เงิน GBPUSD

ที่มา : Forexfactory

⭐ คุณน้าแนะนำโบรกเกอร์คุณสมบัติเด่น!
การเลือกโบรกเกอร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ สำหรับการเทรด Forex ค่ะ
เพราะโบรกเกอร์จะพัฒนาระบบและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเทรดของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นให้ได้มากที่สุด
สำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มั่นใจว่า โบรกเกอร์ Forex แบบไหนดี?
คุณน้าได้รวบรวมการจัดอันดับของโบรกเกอร์ในทุกคุณสมบัติ เช่น สเปรดต่ำ, เทรดทอง หรือโบนัสฟรี

💡 คัมภีร์เริ่มต้น มือใหม่หัดเทรด
มือใหม่หัดเทรดที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? คุณน้าได้รวบรวมเนื้อหาสำคัญที่ถือเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับการเทรด Forex มาไว้ให้แล้วที่นี่!
🔍 ตัวอย่างเนื้อหา มือใหม่หัดเทรดต้องรู้!
สรุปวิเคราะห์ GBPUSD
จุดน่าเข้า Buy
- Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3138 – 1.3188 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 1.3188 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3268 และ SL ที่ประมาณ 1.3113 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3264 – 1.3314 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3368 และ SL ที่ประมาณ 1.3163 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดน่าเข้า Sell
- Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3264 – 1.3314 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้าน 1.3264 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3168 และ SL ที่ประมาณ 1.3339 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 1.3138 – 1.3188 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3068 และ SL ที่ประมาณ 1.3289 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
คำเตือน
การให้ข้อมูลการวิเคราะห์คู่เงิน Forex ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค เป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจการลงทุน
สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge