พบกับวิเคราะห์ GBPUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค อีกทั้งแนวทางในการเข้าออกออเดอร์ ไปจนถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการเทรดคู่เงินแบบละเอียด เรียกได้ว่าครบจบในบทความเดียว!
บทวิเคราะห์ Forex วันนี้ : คู่เงิน GBPUSD
บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน
พันธบัตรรัฐบาลอังกฤษ (gilts) เผชิญแรงขายหนักที่สุดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 หลังจากที่รัฐบาลได้พลิกกลับแผนการลดสวัสดิการ ทำให้นักลงทุนกังวลต่อภาวะผู้นำของรัฐมนตรีคลัง Rachel Reeves โดยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นถึง 22 จุดพื้นฐาน สู่ระดับประมาณ 4.68% ซึ่งเป็นการขยับรายวันที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่วิกฤต “mini-budget” สมัย Liz Truss ส่งผลให้เงินปอนด์ร่วงกว่า 1% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ แตะจุดต่ำสุดในรอบหนึ่งสัปดาห์ นักวิเคราะห์มองว่านี่เป็นวิกฤตศรัทธาต่อรัฐบาลแรงงาน ซึ่งยิ่งรุนแรงขึ้นหลัง Reeves ปรากฏตัวในสภาด้วยท่าทีที่ใช้อารมณ์ ก่อนที่สำนักงานของนายกฯ Keir Starmer จะต้องออกมาแถลงสนับสนุนเธอเพื่อลดความกังวลของนักลงทุนค่ะ
ด้านการคลัง Reeves ยังเผชิญกับความท้าทายงบประมาณที่เพิ่มขึ้น โดย Deutsche Bank ประเมินว่าช่องว่างงบประมาณก่อนแถลงการณ์ฤดูใบไม้ร่วงอยู่ระหว่าง 18–32 พันล้านปอนด์ สาเหตุหลักมาจากต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น ผลผลิตที่เติบโตช้าลง และการเปลี่ยนแปลงนโยบายในเรื่องสวัสดิการและค่าเชื้อเพลิงฤดูหนาว ธนาคารเตือนว่าการลดค่าใช้จ่ายอาจถึงขีดจำกัดทางการเมืองแล้ว ทำให้การขึ้นภาษีเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยประเมินว่าภาษีใหม่ขั้นต่ำจะอยู่ที่ 10–15 พันล้านปอนด์ อาจมาจากมาตรการอย่างการปรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีบำนาญ การปฏิรูประบบสภาท้องถิ่น หรือการย้อนกลับการลดประกันสังคมแห่งชาติค่ะ
ยิ่งไปกว่านั้น สำนักงานรับผิดชอบด้านงบประมาณ (OBR) ยอมรับว่าที่ผ่านมาได้ประเมินการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคตในแง่ดีเกินไป โดยคาดการณ์สูงเกินจริงเฉลี่ย 0.7 เปอร์เซ็นต์ต่อปีในช่วงห้าปี ซึ่งหากมีการปรับลดประมาณการอย่างเป็นทางการ จะยิ่งกดดันความสามารถของกระทรวงการคลังในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ทางการคลังโดยไม่ต้องขึ้นภาษีค่ะ
ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ก็แสดงความกังวลต่อเศรษฐกิจเช่นกัน หลังจาก Alan Taylor กรรมการนโยบายการเงินเตือนว่าโอกาสที่เศรษฐกิจจะ “ลงจอดนุ่มนวล” กำลังลดลง เพราะอุปสงค์อ่อนตัวและมีความเสี่ยงจากการหยุดชะงักทางการค้า พร้อมทั้งเสนอว่าควรลดดอกเบี้ย 5 ครั้งในปี 2025 จากเดิมที่คาดไว้ 4 ครั้ง
ด้านผู้ว่าการ Andrew Bailey ก็สะท้อนความกังวลในทำนองเดียวกัน โดยกล่าวว่าตลาดแรงงานกำลังอ่อนตัวลงและความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นกำลังบั่นทอนการลงทุนทางธุรกิจ ส่งผลให้ตลาดกำลังคาดการณ์ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% เพื่อให้ดอกเบี้ยลดลงสู่ 3.75% ภายในสิ้นปีนี้ค่ะ
ทั้งนี้ แรงกดดันด้านค่าจ้างในอังกฤษยังเป็นประเด็นสำคัญค่ะ ผลสำรวจชี้ว่าค่าแรงเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 3.4% ในช่วงสามเดือนถึงพฤษภาคม โดยได้รับแรงหนุนจากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ขณะที่ข้อตกลงค่าจ้างในภาคเอกชนปรับตัวเพิ่มขึ้นยิ่งกว่าเดิม สร้างความกังวลให้กับ BoE เกี่ยวกับแรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ แม้ว่าการเติบโตของค่าแรงโดยรวมจะชะลอลงค่ะ
อย่างไรก็ดี ภาคการผลิตของอังกฤษเริ่มมีสัญญาณทรงตัวในเดือนมิถุนายน โดยดัชนี PMI ปรับขึ้นเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน แต่ยังคงต่ำกว่าระดับ 50.0 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการขยายตัว ขณะที่ความรุนแรงของการหดตัวในด้านการผลิตและคำสั่งซื้อชะลอลง ท่ามกลางธุรกิจที่ยังคงขึ้นราคาสินค้าเพื่อตอบรับต้นทุนแรงงานและวัตถุดิบที่สูงขึ้น และแม้จะมีความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่ความเชื่อมั่นทางธุรกิจแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี และการอนุมัติสินเชื่อที่อยู่อาศัยในเดือนพฤษภาคมก็ออกมาดีกว่าที่คาดไว้ โดยได้แรงหนุนจากต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลงและความคาดหวังว่าจะลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมค่ะ
ทางด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ผันผวนในขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจที่หลากหลายและความคืบหน้าของการเจรจาการค้าก่อนเส้นตายภาษี 9 กรกฎาคมค่ะ ขณะที่ความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นหลังจากประธานาธิบดี Donald Trump ประกาศข้อตกลงการค้ากับเวียดนาม ซึ่งอาจกระตุ้นให้ประเทศอื่นๆ พยายามทำข้อตกลงคล้ายกันเพื่อหลีกเลี่ยงการเก็บภาษีสูง
ในขณะเดียวกัน ตลาดสหรัฐฯ รับข่าวข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชน (ADP) ที่น่าผิดหวัง โดยพบตัวเลขลดลง 33,000 ตำแหน่งในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบกว่าสองปี จุดประกายความกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานท่ามกลางความไม่แน่นอนจากภาษี โดยรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ที่จะออกมาจะถูกจับตาอย่างใกล้ชิดเพื่อดูสัญญาณภาวะถดถอยและแนวทางต่อไปของ Fed ค่ะ
ทั้งนี้ ความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยของ Fed ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยนักลงทุนประเมินโอกาส 25% สำหรับการปรับลดในเดือนกรกฎาคม นักวิเคราะห์จาก UBS คาดว่าดอลลาร์จะยังอ่อนค่าต่อเนื่องในครึ่งหลังของปี 2025 จากการเติบโตของสหรัฐฯ ที่ชะลอและปัญหาการคลัง แม้คาดว่าการอ่อนค่ารอบต่อไปอาจไม่รุนแรงนัก เพราะตลาดได้สะท้อนความเสี่ยงเหล่านี้ไปแล้วส่วนหนึ่งค่ะ
ในเชิงปัจจัยพื้นฐาน ภาพรวมของอังกฤษค่อนข้างเปราะบาง ความเสี่ยงด้านการคลังและการเงินยิ่งตอกย้ำแนวทางการเงินแบบผ่อนคลายมากกว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ แม้ฝั่ง Fed เองก็เริ่มมีแนวโน้มว่าจะลดดอกเบี้ยเช่นกัน แต่ความต่างของแนวโน้มดอกเบี้ยยังเป็นปัจจัยกดดันค่าเงินปอนด์ค่ะ
อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐฯ เองก็ไม่ได้แข็งแกร่งนัก ซึ่งตรงนี้อาจช่วยจำกัดการอ่อนค่าของ GBPUSD ได้บ้าง แม้ค่าเงินปอนด์จะอ่อนตัวในเชิงโครงสร้างค่ะ
บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค

ค่าเงิน GBPUSD ยังอยู่ภายใต้แรงกดดัน หลังจากที่ร่วงลงต่ำกว่า 1.3700 อย่างแรงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จากปัญหาทางการคลังของสหราชอาณาจักรและความเชื่อมั่นนักลงทุนที่สั่นคลอนต่อรัฐบาลแรงงานค่ะ แม้ว่าจะมีการดีดกลับเล็กน้อยในการซื้อขายช่วงเอเชียแถวๆ 1.3660 แต่ก็ยังเจอแนวต้านทางเทคนิคสำคัญแถว 1.3700–1.3720 คุณน้าเห็นว่าหากฝั่งซื้อไม่สามารถยึดโซนนี้กลับมาได้ แนวโน้มในระยะสั้นก็ยังเป็นขาลงต่อค่ะ
ด้านแนวรับใกล้ๆ อยู่แถว 1.3600–1.3580 ถ้าหลุดลงไปต่ำกว่านั้น อาจเจอแรงขายไปจนถึงแนวจิตวิทยา 1.3500 และอาจไหลลงต่อได้ถึง 1.3440 โดย RSI รายวันยังอ่อนตัวแต่ยังไม่เข้าเขต Oversold ซึ่งแปลว่ายังพอมีพื้นที่ให้ร่วงได้อีก หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษ (gilts) ยังคงผันผวนและความไม่แน่นอนทางการเมืองยังยืดเยื้อค่ะ
ทั้งนี้ แนวโน้มการเทรดระยะสั้น คุณน้าแนะนำว่าควรระวังแรงขายเมื่อราคาเข้าใกล้แนวต้าน 1.3700–1.3720 เว้นแต่ว่าสัญญาณทางการเมืองหรือการคลังของอังกฤษจะนิ่งขึ้นจริงๆ เป้าหมายขาลงยังอยู่ที่ 1.3600, 1.3500 และอาจไปถึง 1.3440 หากความเชื่อมั่นยังย่ำแย่ ส่วนถ้าหลุดขึ้นไปเหนือ 1.3720 ได้จริง อาจมีการไล่ปิดสถานะ Short จนถึง 1.3800–1.3850 แต่คุณน้ามองว่าโอกาสยังต่ำอยู่ค่ะ ภายใต้สภาพเศรษฐกิจตอนนี้
ด้านมุมมองระยะกลาง (3–6 เดือน) ความเสี่ยงยังเทไปทางขาลงแถวๆ 1.34–1.35 ตราบใดที่ความน่าเชื่อถือด้านการคลังของสหราชอาณาจักรยังถูกตั้งคำถาม แต่หากดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง ในกรณีที่ Fed ลดดอกเบี้ยแรงๆ ก็อาจพยุงให้ GBPUSD เคลื่อนไหวในกรอบกว้างๆ ประมาณ 1.34–1.38 ได้ค่ะ
📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค
- แนวรับสำคัญ : 1.3471, 1.3376, 1.3223
- แนวต้านสำคัญ : 1.3777, 1.3872, 1.4025
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลต่อคู่เงิน GBPUSD

ที่มา : Forexfactory

⭐ คุณน้าแนะนำโบรกเกอร์คุณสมบัติเด่น!
การเลือกโบรกเกอร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ สำหรับการเทรด Forex ค่ะ
เพราะโบรกเกอร์จะพัฒนาระบบและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเทรดของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นให้ได้มากที่สุด
สำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มั่นใจว่า โบรกเกอร์ Forex แบบไหนดี?
คุณน้าได้รวบรวมการจัดอันดับของโบรกเกอร์ในทุกคุณสมบัติ เช่น สเปรดต่ำ, เทรดทอง หรือโบนัสฟรี

💡 คัมภีร์เริ่มต้น มือใหม่หัดเทรด
มือใหม่หัดเทรดที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? คุณน้าได้รวบรวมเนื้อหาสำคัญที่ถือเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับการเทรด Forex มาไว้ให้แล้วที่นี่!
🔍 ตัวอย่างเนื้อหา มือใหม่หัดเทรดต้องรู้!
สรุปวิเคราะห์ GBPUSD
จุดน่าเข้า Buy
- Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3271 – 1.3471 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 1.3471 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3878 และ SL ที่ประมาณ 1.3171 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3777 – 1.3977 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4425 และ SL ที่ประมาณ 1.3371 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดน่าเข้า Sell
- Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3777 – 1.3977 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้าน 1.3777 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3471 และ SL ที่ประมาณ 1.4077 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 1.3271 – 1.3471 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2823 และ SL ที่ประมาณ 1.3877 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
คำเตือน
การให้ข้อมูลการวิเคราะห์คู่เงิน Forex ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค เป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจการลงทุน
สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge