พบกับวิเคราะห์ GBPUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค อีกทั้งแนวทางในการเข้าออกออเดอร์ ไปจนถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการเทรดคู่เงินแบบละเอียด เรียกได้ว่าครบจบในบทความเดียว!
บทวิเคราะห์ Forex วันนี้ : คู่เงิน GBPUSD
บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นในวันอังคาร โดยได้รับแรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งดำเนินต่อเนื่องเข้าสู่วันที่สองในกรุงลอนดอนค่ะ ประธานาธิบดีทรัมป์แสดงความมั่นใจในการเจรจา โดยระบุว่าได้รับแต่ข่าวดีเท่านั้น ซึ่งช่วยหนุนความหวังว่าจะสามารถลดความตึงเครียดจากสงครามการค้าได้ในที่สุด หลังจากที่ทั้งสองประเทศต่างก็เผชิญแรงกดดันจากมาตรการภาษีที่มีผลบังคับใช้ไปก่อนหน้านี้ ทำให้ทุกความคืบหน้าจากการเจรจาถูกมองว่าเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อเศรษฐกิจโลกค่ะ โดยนักวิเคราะห์จาก ING ให้ความเห็นว่า แม้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (DXY) จะยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ แต่ข่าวดีเกี่ยวกับการค้าก็น่าจะช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นต่อได้ค่ะ
ด้านความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐฯ ก็ได้รับแรงกระตุ้นจากบรรยากาศเชิงบวกเช่นกันค่ะ โดยสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติ (NFIB) รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 98.8 ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมาเลยค่ะ โดยการที่รัฐบาลทรัมป์ประกาศลดภาษีนำเข้าสินค้าจีนจาก 145% เหลือเพียง 30% ก็มีส่วนช่วยเสริมความคาดหวังว่า ยอดขายจะฟื้นตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนยังคงอยู่ค่ะ โดยดัชนีความไม่แน่นอนของ NFIB ปรับตัวขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการหลายรายแสดงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายภาษีของทรัมป์ และความล่าช้าในการผลักดันร่างกฎหมายชุดใหญ่ (“big beautiful bill”) และแม้แนวโน้มสภาพธุรกิจจะดูดีขึ้น แต่หลายบริษัทก็รายงานว่าต้นทุนเพิ่มขึ้น สินค้าคงคลังต่ำ ระยะเวลาการจัดส่งยาวนานขึ้น และตลาดแรงงานเริ่มอ่อนแรงลง ขณะที่ปัญหาด้านคุณภาพแรงงานลดลง และการปรับขึ้นค่าจ้างก็ชะลอลงมาอยู่ในระดับเดียวกับช่วงต้นปี 2021 ค่ะ
ในด้านนโยบายการเงิน เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยังคงมีท่าทีระมัดระวัง ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบด้านเงินเฟ้อจากมาตรการภาษีของทรัมป์ ตามการวิเคราะห์ของ Deutsche Bank ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงเดือนธันวาคม และมีแนวโน้มจะลดอีก 2 ครั้งในต้นปี 2026 โดยจะนำอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับเป็นกลางที่ประมาณ 3.625% ตลาดในขณะนี้ยังคาดว่า Fed จะยังไม่เปลี่ยนนโยบายในการประชุมเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม แต่ความเป็นไปได้ในการลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายนเริ่มเพิ่มขึ้นค่ะ
ทั้งนี้ แม้จะมีความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ แต่ข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งในเดือนพฤษภาคมได้ช่วยสนับสนุนมุมมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีความยืดหยุ่นอยู่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพฤษภาคมซึ่งกำลังจะประกาศเร็ว ๆ นี้ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย และยังมีรายงานอื่น ๆ ทั้งราคาผู้ผลิตและความคาดหวังของผู้บริโภคที่จะช่วยชี้นำทิศทางเงินเฟ้อในอนาคตได้ค่ะ
ในทางกลับกัน ค่าเงินปอนด์อังกฤษอ่อนค่าลง หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงานของสหราชอาณาจักรที่อ่อนแอลงค่ะ อัตราการว่างงานในช่วงสามเดือนถึงเมษายนเพิ่มขึ้นเป็น 4.6% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดตั้งแต่กลางปี 2021 ในขณะที่อัตราการเติบโตของค่าจ้างก็ชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 5.2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ปลายปี 2024 สถานการณ์นี้ได้เพิ่มความคาดหวังว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะต้องลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก โดยนักเศรษฐศาสตร์จาก ING และ HSBC คาดการณ์ว่ามีแนวโน้มที่จะมีการลดดอกเบี้ยในเดือนสิงหาคมและพฤศจิกายนนี้ค่ะ
นอกจากนี้ ข้อมูลเงินเดือนยังเผยให้เห็นสัญญาณเชิงลบมากขึ้น โดยในเดือนพฤษภาคมเพียงเดือนเดียว จำนวนพนักงานที่มีเงินเดือนลดลงถึง 109,000 คน ซึ่งถือว่าเป็นการลดลงรายเดือนครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ช่วงพีคของโควิด ซึ่งโดยรวมแล้วในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา จำนวนการจ้างงานลดลงมากกว่า 276,000 ตำแหน่ง แม้จะมีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในกลุ่มแรงงานอิสระและความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ดีขึ้น แต่ Deutsche Bank ยังเชื่อว่า อัตราการว่างงานจะยังสูงกว่าระดับเป้าหมายของ BoE ไปจนถึงปี 2026 ส่งผลให้นักวิเคราะห์คาดว่า BoE จะทยอยลดดอกเบี้ยทุกไตรมาสจนถึงปลายปี 2025 และอัตราดอกเบี้ยจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 3.25% ในช่วงต้นปี 2026
ด้านข้อมูลค่าจ้างภาคเอกชนในเดือนเมษายนก็สะท้อนถึงภาวะชะลอตัวในตลาดแรงงานเช่นกันค่ะ โดยอัตราการปรับขึ้นค่าจ้างเฉลี่ยลดลงเหลือเพียง 3.4% แม้ว่าจะมีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำก็ตาม และต้นทุนเพิ่มเติมของนายจ้าง เช่น การเพิ่มอัตราสมทบประกันสังคมที่เริ่มใช้ในเดือนเมษายน ก็ยิ่งทำให้การจ้างงานลดลง โดยเฉพาะในภาคการก่อสร้าง ตำแหน่งงานว่างลดลงมาอยู่ในระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2021
ด้านความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและยอดขายค้าปลีกก็ชะลอลงในเดือนพฤษภาคมค่ะ โดยแม้เดือนเมษายนจะมียอดขายที่ดีมาก แต่ยอดขายค้าปลีกในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นเพียง 1% เท่านั้น และข้อมูลของ Barclays ก็แสดงให้เห็นว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคโดยรวมโตเพียง 1.0% โดยผู้บริโภคให้เหตุผลว่า ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ค่าไฟฟ้าแพงขึ้น และความกังวลเรื่องดอกเบี้ย ทำให้ต้องลดการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ขณะที่ความเชื่อมั่นในสถานะทางการเงินของครัวเรือนลดลง และเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า ตั้งใจจะลดการใช้จ่ายลงอีกในระยะต่อไปค่ะ
แม้เศรษฐกิจจะเผชิญกับแรงกดดันหลายด้าน แต่ GDP ของสหราชอาณาจักรในไตรมาสแรกของปี 2025 กลับเติบโตเกินความคาดหมายที่ 0.7% ค่ะ อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า การเติบโตจะชะลอลงในไตรมาสถัด ๆ ไป โดยคาดว่า GDP ตลอดทั้งปีจะโตเพียง 1.0% และจะเร่งตัวเล็กน้อยเป็น 1.2% ในปี 2026 นักวิเคราะห์ยังให้ความเห็นว่า มาตรการภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ไม่น่าจะกระทบต่ออังกฤษมากนัก เนื่องจากการส่งออกไปสหรัฐฯ มีสัดส่วนเพียงประมาณ 2% ของ GDP เท่านั้นค่ะ
ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีคลังราเชล รีฟส์ ก็กำลังจะเปิดเผยแผนการใช้จ่ายของภาครัฐระยะยาว ซึ่งมีมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านปอนด์ ไปจนถึงปี 2030 โดยมีเป้าหมายในการปรับปรุงบริการสาธารณะและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งพรรคแรงงานหวังว่าแผนนี้จะช่วยแสดงให้เห็นถึงลำดับความสำคัญด้านการคลังและช่วยผลักดันการเติบโตในระยะยาวต่อไปค่ะ
ด้วยเหตุนี้ คู่เงิน GBPUSD อาจยังคงเผชิญแรงกดดันฝั่งขาลง โดยมีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อ สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจอังกฤษที่ยังน่ากังวลค่ะ โดยตลาดเริ่มประเมินว่า BoE อาจลดดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 2 ครั้งในปีนี้ ทำให้แรงกดดันต่อปอนด์เพิ่มขึ้นอีกค่ะ
ในฝั่งตรงข้าม ค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งแกร่งจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส แม้ว่า Fed จะยังไม่เร่งลดดอกเบี้ยในระยะสั้น แต่หากข้อมูลเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าคาด หรือการลดดอกเบี้ยล่าช้าไปจากเดิมในเดือนธันวาคม ก็จะเป็นแรงหนุนต่อดอลลาร์เพิ่มเติมค่ะ
บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค

จากมุมมองทางเทคนิค คู่สกุล GBPUSD มีความเสี่ยงที่จะหลุดแนวรับสำคัญที่ 1.3450 ซึ่งหากหลุดลงไปจริง จะเปิดทางให้ไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1.3375 และหากทะลุ 1.3375 ลงไปได้ จะเป็นการยืนยันรูปแบบกลับตัวขาลงอย่างชัดเจน และอาจเห็นระดับ 1.3250 เป็นเป้าหมายถัดไปในระยะกลางค่ะ ในทางกลับกัน แนวต้านอยู่ที่ 1.3580 ซึ่งหากผ่านไปได้ จะช่วยลบล้างภาพขาลงในระยะสั้นค่ะ
เมื่อพิจารณาการแตกต่างของทิศทางนโยบายการเงินและความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ คุณน้าคาดว่า GBPUSD จะยังคงอยู่ในทิศทางขาลงในไตรมาส 3 ปี 2025 โดยมีกรอบเป้าหมายหลักที่ 1.3250–1.3450 ค่ะ ยกเว้นว่าธนาคารกลางอังกฤษจะมีท่าทีแข็งกร้าวกว่าที่ตลาดคาด หรือเศรษฐกิจสหรัฐฯ อ่อนแอกว่าที่คิดไว้ค่ะ
📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค
- แนวรับสำคัญ : 1.3468, 1.3441, 1.3399
- แนวต้านสำคัญ : 1.3552, 1.3579, 1.3621
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลต่อคู่เงิน GBPUSD

ที่มา : Forexfactory

⭐ คุณน้าแนะนำโบรกเกอร์คุณสมบัติเด่น!
การเลือกโบรกเกอร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ สำหรับการเทรด Forex ค่ะ
เพราะโบรกเกอร์จะพัฒนาระบบและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเทรดของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นให้ได้มากที่สุด
สำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มั่นใจว่า โบรกเกอร์ Forex แบบไหนดี?
คุณน้าได้รวบรวมการจัดอันดับของโบรกเกอร์ในทุกคุณสมบัติ เช่น สเปรดต่ำ, เทรดทอง หรือโบนัสฟรี

💡 คัมภีร์เริ่มต้น มือใหม่หัดเทรด
มือใหม่หัดเทรดที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? คุณน้าได้รวบรวมเนื้อหาสำคัญที่ถือเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับการเทรด Forex มาไว้ให้แล้วที่นี่!
🔍 ตัวอย่างเนื้อหา มือใหม่หัดเทรดต้องรู้!
สรุปวิเคราะห์ GBPUSD
จุดน่าเข้า Buy
- Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3388 – 1.3468 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 1.3468 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3565 และ SL ที่ประมาณ 1.3348 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3552 – 1.3632 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3676 และ SL ที่ประมาณ 1.3428 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดน่าเข้า Sell
- Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3552 – 1.3632 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้าน 1.3552 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3454 และ SL ที่ประมาณ 1.3672 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 1.3388 – 1.3468 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3343 และ SL ที่ประมาณ 1.3592 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
คำเตือน
การให้ข้อมูลการวิเคราะห์คู่เงิน Forex ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค เป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจการลงทุน
สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge