พบกับวิเคราะห์ GBPUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค อีกทั้งแนวทางในการเข้าออกออเดอร์ ไปจนถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการเทรดคู่เงินแบบละเอียด เรียกได้ว่าครบจบในบทความเดียว!
บทวิเคราะห์ Forex วันนี้ : คู่เงิน GBPUSD
บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน
เงินปอนด์ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 3 เดือนบริเวณใกล้ 1.3530 ดอลลาร์ และแข็งค่าขึ้นแล้วมากกว่า 8% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ แม้ว่าตลาดจะเริ่มคาดการณ์การผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้น ปัจจุบันนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางอังกฤษมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 และมีความเป็นไปได้ราว 50% ที่จะมีการลดดอกเบี้ยครั้งที่สองภายในสิ้นปีหน้า หลังจากที่ล่าสุด BoE ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาอยู่ที่ 3.75% จากการลงมติที่ค่อนข้างสูสี สะท้อนความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแรงกดดันเงินเฟ้อที่กำลังผ่อนคลาย แม้ว่าผู้กำหนดนโยบายยังคงใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากแรงกดดันด้านค่าจ้างยังอยู่ในระดับสูงค่ะ
ด้านผู้ว่าการ BoE แอนดรูว์ เบลีย์ ระบุว่า ขณะนี้เงินเฟ้อมีแนวโน้มกลับเข้าใกล้เป้าหมาย 2% ภายในเดือนเมษายนหรือพฤษภาคม 2026 ซึ่งเร็วกว่าเดิมที่เคยประเมินไว้ โดยได้รับแรงหนุนจากทั้งอัตราเงินเฟ้อทั่วไปและเงินเฟ้อพื้นฐานที่ชะลอลง มาตรการช่วยลดค่าครองชีพของภาครัฐ รวมถึงผลกระทบจากปัจจัยเงินเฟ้อชั่วคราวในอดีตที่เริ่มจางหายไปค่ะ
ในด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร ยังคงอ่อนแอและไม่สม่ำเสมอ โดย GDP ขยายตัวเพียง 0.1% เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาสในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 สะท้อนการสูญเสียโมเมนตัมในช่วงครึ่งหลังของปีค่ะ อย่างไรก็ดี โครงสร้างของการเติบโตปรับดีขึ้นเล็กน้อย โดยพึ่งพาการใช้จ่ายภาครัฐน้อยลง และมีแรงหนุนมากขึ้นจากการลงทุนภาคธุรกิจและการบริโภคภาคครัวเรือนค่ะ
อย่างไรก็ดี ความยืดหยุ่นของการบริโภคเกิดขึ้นท่ามกลางรายได้ที่แท้จริงของครัวเรือนที่ลดลงและอัตราการออมที่ถดถอย บ่งชี้ว่าครัวเรือนกำลังนำเงินออมออกมาใช้เพื่อพยุงการใช้จ่ายค่ะ ส่งผลให้นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราการเติบโตจะชะลอลงอีก มาอยู่ราว 1.0% ในปี 2026 จากประมาณ 1.4% ในปี 2025 สะท้อนแรงส่งพื้นฐานที่จำกัดเมื่อเศรษฐกิจเข้าสู่ปีใหม่ค่ะ
ขณะเดียวกัน สภาพตลาดแรงงานของสหราชอาณาจักรเริ่มอ่อนแอลง ซึ่งทำให้แนวโน้มนโยบายของ BoE มีความซับซ้อนมากขึ้น โดยจำนวนตำแหน่งงานว่างปรับลดลงอย่างมาก อัตราการว่างงานขยับขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2021 และการจ้างงานชะลอลง ท่ามกลางภาระภาษีของนายจ้างที่สูงขึ้นและความไม่แน่นอนด้านนโยบายการคลังค่ะ อย่างไรก็ดี ค่าจ้าง โดยเฉพาะในภาค IT ยังคงปรับขึ้นในอัตราที่แข็งแกร่ง ทำให้ผู้กำหนดนโยบายยังต้องจับตาความเสี่ยงที่เงินเฟ้ออาจยืดเยื้อกว่าที่คาดไว้ค่ะ ส่งผลให้ความตึงเครียดระหว่างตลาดแรงงานที่เริ่มเย็นลงกับการเติบโตของค่าจ้างที่ยังแข็งแรง ยังคงเป็นข้อจำกัดสำคัญต่อความเร็วในการผ่อนคลายนโยบายของ BoE ค่ะ
นอกจากนี้ ภาคธุรกิจที่พึ่งพาผู้บริโภคเริ่มเผชิญแรงกดดันมากขึ้น โดยยอดค้าปลีกปรับลดลงอย่างไม่คาดคิดเป็นเดือนที่สองติดต่อกันในเดือนพฤศจิกายน แม้จะมีโปรโมชั่นช่วง Black Friday ขณะที่ผลสำรวจจาก CBI และผู้ค้าปลีกชี้ให้เห็นถึงการชะลอตัวก่อนเทศกาลคริสต์มาส และมุมมองที่ซบเซาสำหรับต้นปี 2026 แม้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะขยับดีขึ้นเล็กน้อยหลังการลดดอกเบี้ยของ BoE และความชัดเจนด้านงบประมาณที่มากขึ้น แต่ระดับความเชื่อมั่นโดยรวมยังถือว่าอ่อนแอเมื่อเทียบกับระดับในอดีตค่ะ
ในฝั่งดอลลาร์สหรัฐฯ การเคลื่อนไหวยังค่อนข้างหลากหลาย โดยการเติบโตของ GDP ไตรมาส 3 ที่ออกมาดีกว่าคาด ช่วยจำกัดการอ่อนค่าของดอลลาร์ และตอกย้ำความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะพักการลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมกราคมค่ะ โดย GDP สหรัฐฯ ขยายตัวในอัตราเร่ง 4.3% ต่อปีในไตรมาส 3 สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้มาก โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง การลงทุนภาคธุรกิจที่ดี โดยเฉพาะในด้าน AI และอุปกรณ์ รวมถึงการฟื้นตัวของการส่งออกควบคู่กับการนำเข้าที่ลดลงค่ะ
อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเลขการเติบโตโดยรวมจะดูแข็งแกร่ง แต่เริ่มมีสัญญาณว่าโมเมนตัมของเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังแผ่วลง โดยความแข็งแกร่งในไตรมาส 3 ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยชั่วคราว เช่น การเร่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้าก่อนที่สิทธิประโยชน์ทางภาษีจะหมดลง ขณะที่ข้อมูลด้านอื่นล่าสุดชี้ให้เห็นถึงภาวะที่อ่อนแอ โดยยอดค้าปลีกเริ่มชะงัก ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงในเดือนธันวาคม และครัวเรือน โดยเฉพาะกลุ่มรายได้ต่ำถึงปานกลาง ยังคงเผชิญแรงกดดันจากค่าครองชีพที่สูง ภาษีนำเข้า และการเติบโตของรายได้จริงที่อ่อนแอ ท่ามกลางผลกระทบจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลล่าสุด ที่คาดว่าจะถ่วงการเติบโตในไตรมาส 4 โดยอาจฉุด GDP ลงราว 1–2 เปอร์เซ็นต์ค่ะ
ด้านตลาดแรงงานสหรัฐฯ สะท้อนภาพที่ซับซ้อน โดยเจ้าหน้าที่ Fed เตือนว่าการเติบโตของการจ้างงานอาจใกล้ศูนย์หรือแม้แต่ติดลบ ขณะที่การวิเคราะห์จากภาคเอกชนมองว่าการจ้างงานยังคงขยายตัวเล็กน้อย แม้จะชะลอลงค่ะ ขณะที่ภาคการผลิตส่วนใหญ่หยุดชะงัก โดยผลผลิตโรงงานทรงตัวในเดือนพฤศจิกายน และการจ้างงานลดลงจากแรงกดดันด้านภาษีนำเข้าและการผลิตยานยนต์ที่อ่อนตัวลงหลังสิทธิประโยชน์ EV สิ้นสุดลงค่ะ ในทางกลับกัน การลงทุนภาคธุรกิจยังค่อนข้างแข็งแกร่ง โดยคำสั่งซื้อและการส่งมอบสินค้าทุนพื้นฐานปรับเพิ่มขึ้น จากการใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับ AI อย่างต่อเนื่องค่ะ
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าดอลลาร์อาจยังคงเผชิญแรงกดดัน และมีแนวโน้มทำผลงานรายปีที่อ่อนแอที่สุดในรอบกว่า 20 ปี โดยอ่อนค่าลงเกือบ 10% นับตั้งแต่ต้นปีค่ะ นอกเหนือจากความคาดหวังด้านอัตราดอกเบี้ยแล้ว ความเชื่อมั่นต่อสินทรัพย์สหรัฐฯ ยังถูกบั่นทอนจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้า ความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของ Fed และค่าเบี้ยความเสี่ยงที่ขยายตัวค่ะ แม้ข้อมูล GDP ที่แข็งแกร่งจะช่วยพยุงดอลลาร์ได้ชั่วคราว แต่นักลงทุนยังคงคาดการณ์การลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปี 2026 ส่งผลให้แนวโน้มดอลลาร์ในภาพกว้างคาดว่าจะยังเอนเอียงไปทางอ่อนค่า แม้ระยะสั้นจะยังมีแรงพยุงจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดูดีค่ะ
อย่างไรก็ตาม ในเชิงปัจจัยพื้นฐาน คุณน้ามองว่าคู่เงิน GBPUSD กำลังถูกดึงด้วยแรงเศรษฐกิจมหภาคที่สวนทางกันค่ะ ในระยะสั้น เงินปอนด์อาจยังได้รับแรงสนับสนุนเล็กน้อย แต่ในระยะกลางยังเปราะบาง เนื่องจากการสูญเสียโมเมนตัมภายในประเทศที่จำกัดโอกาสการแข็งค่าของเงินปอนด์ ในทางตรงกันข้าม เศรษฐกิจสหรัฐฯ รายงานการเติบโตที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งหนุนความเชื่อว่า Fed จะพักการลดดอกเบี้ยในเดือนมกราคม และช่วยพยุงดอลลาร์ในระยะสั้น อย่างไรก็ดี ความแข็งแกร่งดังกล่าวมีลักษณะไม่สม่ำเสมอและอิงข้อมูลย้อนหลังเป็นหลัก ทำให้โมเมนตัมอาจเริ่มแผ่ว และกดดันมุมมองระยะยาวของดอลลาร์ได้ค่ะ
ด้วยเหตุนี้ คุณน้ามองว่า GBPUSD อาจมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ โดยเงินปอนด์ยังได้แรงหนุนจากทิศทางเงินเฟ้อที่ดีขึ้นและมุมมองเชิงลบต่อดอลลาร์ในวงกว้าง แต่ยังมีความเสี่ยงต่อการอ่อนค่าลงอีกครั้ง หากเศรษฐกิจสหราชอาณาจักรยังเติบโตต่ำกว่าคาด ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่งพอที่จะเลื่อนจังหวะการผ่อนคลายนโยบายของ Fed ออกไปค่ะ
บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค

ในมุมมองทางเทคนิคของคุณน้า คู่เงิน GBPUSD ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในโครงสร้างขาขึ้นที่แข็งแกร่งในระยะกลางค่ะ ในด้านแนวโน้มและโมเมนตัม ราคาเคลื่อนไหวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันและ 100 วันที่ปรับตัวขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งยืนยันว่าแนวโน้มหลักโดยรวมอาจยังคงเป็นขาขึ้นค่ะ โดยขณะนี้ คู่เงินสามารถยืนเหนือโซนแนวต้านเดิมบริเวณ 1.3300–1.3350 ได้ ซึ่งโซนดังกล่าวได้เปลี่ยนสถานะมาเป็นแนวรับสำคัญในกรอบระยะกลางค่ะ
ด้านค่า RSI อยู่ในระดับค่อนข้างสูง แต่ยังไม่เข้าสู่ภาวะซื้อมากเกินไปในระดับที่รุนแรง แสดงให้เห็นว่าแรงซื้อยังคงอยู่ เพียงแต่เริ่มตึงตัวมากขึ้นค่ะ โดยตราบใดที่ราคายังสามารถยืนเหนือระดับ 1.3400 ได้ การอ่อนตัวลงของราคามีแนวโน้มที่จะดึงดูดแรงซื้อกลับเข้ามาค่ะ
ในส่วนของแนวต้านระยะสั้น ขณะนี้ตลาดกำลังทดสอบโซนอุปทานที่มีแรงขายหนาแน่นในอดีตบริเวณ 1.3550–1.3650 หากราคาสามารถปิดรายวันเหนือ 1.3650 ได้อย่างชัดเจน จะเป็นการยืนยันการเบรกทะลุต่อเนื่อง และเปิดทางให้ราคาขยับขึ้นไปทดสอบ 1.3800 และอาจขยายเป้าหมายในกรอบระยะกลางไปถึง 1.4000 หากโมเมนตัมเร่งตัวและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงในวงกว้างค่ะ อย่างไรก็ตาม หากราคายังไม่สามารถผ่านโซน 1.3550–1.3650 ได้หลายครั้ง มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดแรงขายทำกำไรออกมาค่ะ
สำหรับแนวรับแรกอยู่ที่บริเวณ 1.3450–1.3400 ซึ่งคาดว่าจะมีแรงซื้อระยะสั้นเข้ามาค่ะ หากเกิดการปรับฐานลึกขึ้น ราคาอาจถอยลงมาทดสอบ 1.3300 แต่หากมีการหลุดต่ำกว่า 1.3300 อย่างชัดเจน จะเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแนวโน้มไปสู่การแกว่งตัวสะสม และเพิ่มความเสี่ยงที่ราคาจะอ่อนตัวลงไปทดสอบ 1.3150 หรือแม้แต่ 1.3000 โดยเฉพาะในกรณีที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด และทำให้การคาดหวังการผ่อนคลายนโยบายของ Fed ถูกเลื่อนออกไปค่ะ
โดยสรุป มุมมองทางเทคนิคของคุณน้ายังคงเอนเอียงไปทางฝั่งขาขึ้น โดยเหมาะกับการรอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ตราบใดที่คู่เงินยังสามารถยืนเหนือระดับ 1.3400 ได้ ขณะเดียวกัน นักลงทุนควรตระหนักถึงความเสี่ยงที่ตลาดอาจเข้าสู่ช่วงพักฐานในระยะใกล้นี้ค่ะ โดยทิศทางการเคลื่อนไหวถัดไปมีแนวโน้มจะชัดเจนจากการที่ GBPUSD จะสามารถปรับขึ้นผ่านระดับ 1.3650 ได้อย่างเด็ดขาด หรือกลับอ่อนตัวลงต่ำกว่า 1.3300 ซึ่งถือเป็นเส้นแบ่งสำคัญระหว่างการคงอยู่ของแนวโน้มขาขึ้น กับการเปลี่ยนเข้าสู่การเคลื่อนไหวแบบแกว่งตัวในกรอบกว้างค่ะ
📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค
- แนวรับสำคัญ : 1.3473, 1.3457, 1.3430
- แนวต้านสำคัญ : 1.3527, 1.3543, 1.3570
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลต่อคู่เงิน GBPUSD

ที่มา : Forexfactory

⭐ คุณน้าแนะนำโบรกเกอร์คุณสมบัติเด่น!
การเลือกโบรกเกอร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ สำหรับการเทรด Forex ค่ะ เพราะโบรกเกอร์จะพัฒนาระบบและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเทรดของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นให้ได้มากที่สุด
สำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มั่นใจว่า โบรกเกอร์ Forex แบบไหนดี? คุณน้าได้รวบรวมการจัดอันดับของโบรกเกอร์ในทุกคุณสมบัติ เช่น สเปรดต่ำ, เทรดทอง หรือโบนัสฟรีมาไว้ให้คุณแล้ว!

💡 คัมภีร์เริ่มต้น มือใหม่หัดเทรด
มือใหม่หัดเทรดที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? คุณน้าได้รวบรวมเนื้อหาสำคัญที่ถือเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับการเทรด Forex มาไว้ให้แล้วที่นี่!
🔍 ตัวอย่างเนื้อหา มือใหม่หัดเทรดต้องรู้!
สรุปวิเคราะห์ GBPUSD
จุดน่าเข้า Buy
- Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3413 – 1.3473 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 1.3473 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3544 และ SL ที่ประมาณ 1.3383 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3527 – 1.3587 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3614 และ SL ที่ประมาณ 1.3443 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดน่าเข้า Sell
- Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3527 – 1.3587 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้าน 1.3527 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3473 และ SL ที่ประมาณ 1.3617 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 1.3413 – 1.3473 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3404 และ SL ที่ประมาณ 1.3557 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
คำเตือน
การให้ข้อมูลการวิเคราะห์คู่เงิน Forex ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค เป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจการลงทุน
สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge







