หนึ่งในคำศัพท์ที่เทรดเดอร์และนักลงทุนทุกคนคุ้นหู แต่ไม่อยากพบเจอ นั่นคือคำว่า “ติดดอย” ซึ่งหมายถึงสถานการณ์ที่เราเข้าไปซื้อขายในราคาที่สูงเกินจริง หลังจากนั้นราคาก็เริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องจนเหมือนเราติดอยู่บนยอดเขาสูงนั่นเองค่ะ ที่ไม่ว่าเราจะรอดูราคาปรับตัวขึ้นเท่าไหร่ ราคาก็ยังไม่กลับมายืนในจุดที่เราซื้อไว้ ทำให้เราต้องรอและหวังว่าราคาจะดีดตัวขึ้นเพื่อไม่ให้ขาดทุน สถานการณ์นี้จึงกลายเป็นความท้าทายและบทเรียนที่เจ็บปวดในวงการการลงทุน
ในบทความนี้ คุณน้าจะพาทุกท่านไปรู้จักกับสาเหตุและความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการติดดอย พร้อมแนะนำเทคนิคและกลยุทธ์เพื่อช่วยให้คุณลงจากดอยได้อย่างปลอดภัยแบบมืออาชีพค่ะ
*หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงบทความให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้เป็นการชักชวนเพื่อลงทุนแต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ติดดอยคืออะไร?

ติดดอย คือ การซื้อสินทรัพย์ในราคาสูง แต่หลังจากนั้นราคากลับลดลงต่อเนื่อง เปรียบเสมือนคุณยืนอยู่บนยอดเขาที่สูงชัน แต่แท้จริงแล้วราคากำลังไหลลง ทำให้คุณขาดทุนหรือต้องรอให้ราคากลับขึ้นมาจุดที่ซื้อ เพื่อไม่ให้ขาดทุน สถานการณ์นี้เรียกว่า “ติดดอย” หรือ “ถือของที่ติดราคาสูง” นั่นเองค่ะ
ตัวอย่าง
หากคุณซื้อ Bitcoin ที่ราคา 3,000,000 บาท แล้วราคาตกลงมาที่ 2,000,000 บาท คุณก็ถือว่า “ติดดอย” เพราะราคาที่คุณซื้อสูงกว่าราคาปัจจุบัน ทำให้ยังไม่สามารถขายได้โดยไม่ขาดทุน ต้องรอให้ราคาพุ่งขึ้นมาที่ 3,000,000 บาท อีกครั้งค่ะ
ทำไมนักลงทุนถึงติดดอย

สาเหตุที่ทำให้เทรดเดอร์หรือ นักลงทุนเกิดการติดดอย มีหลายปัจจัยหลัก ๆ ดังนี้ค่ะ
1. ซื้อสินทรัพย์ในช่วงราคาพีค
เมื่อราคาสินทรัพย์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นักลงทุนหลายคนกลัวว่าจะพลาดโอกาสทำกำไร หรือเรียกว่า “กลัวตกขบวน” (Fear of Missing Out – FOMO) จึงรีบเข้าซื้อในราคาที่สูงเกินไปโดยไม่ได้วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานหรือแนวโน้มราคาอย่างรอบด้าน การซื้อในช่วงราคาสูงสุดนี้ที่กำลังจะกลับตัวลง เรียกว่า “ช่วงพีค” และมักเป็นจุดที่ทำให้นักลงทุนเกิดการติดดอย เพราะราคาตกลงหลังการซื้อค่ะ
2. ขาดการวางแผนและวิเคราะห์ตลาด
การลงทุนโดยไม่ได้ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด หรือไม่ใช้การวิเคราะห์ทั้งทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานอย่างเหมาะสม ส่งผลให้นักลงทุนไม่รู้ว่าควรซื้อเมื่อไรและขายเมื่อไร รวมถึงไม่ตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) การไม่มี Stop Loss จะทำให้นักลงทุนไม่มีเกราะป้องกันเมื่อตลาดผันผวน ราคาลดลงอย่างรวดเร็ว เทรดเดอร์จึงขาดทางออกและติดดอยค่ะ
3. อิทธิพลของอารมณ์และความโลภ
นักลงทุนที่ขาดวินัยการลงทุน และตัดสินใจด้วยอารมณ์ เช่นความโลภ อยากได้กำไรอย่างรวดเร็ว อาจซื้อสินทรัพย์ในราคาสูงโดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยงที่แท้จริง ส่งผลให้ราคาอาจลดลงตามหลังการซื้อ ทำให้ติดดอยและต้องรอราคากลับขึ้นอย่างไม่มีกำหนด
4. ตลาดผันผวนสูง
ตลาดการเงิน เช่น Forex, หุ้น หรือคริปโต มีความผันผวนสูง และได้รับผลกระทบจากข่าวสารสำคัญ เช่น การประกาศนโยบายการเงิน, เหตุการณ์ทางการเมือง หรือวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่ทำให้ราคาขยับขึ้นลงอย่างรวดเร็ว หากนักลงทุนไม่พร้อมหรือไม่ทันตั้งรับกับเหตุการณ์เหล่านี้ จะเสี่ยงติดดอยได้ง่าย เพราะราคาที่เคยซื้อเริ่มดิ่งลงอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันตั้งตัว ดังนั้น เทรดเดอร์ควรมีการติดตามข่าวสำคัญจากเว็บไซต์ข่าว Forex สม่ำเสมอนะคะ
5. วิเคราะห์กราฟผิด
เทรดเดอร์ที่ขาดประสบการณ์อาจตีความกราฟผิด เช่น เข้าออเดอร์ซื้อในช่วงใกล้สิ้นสุดของเทรนด์ขาขึ้น ก่อนที่ราคาจะกลับตัวลง ส่งผลให้การเทรดนั้นเกิดการติดดอยเมื่อตลาดปรับตัว หรือเชื่อว่าราคาจะยังพุ่งขึ้นอีกโดยไม่วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานหรือสภาวะตลาดอย่างรอบด้าน ทำให้ซื้อในราคาสูงและไม่ทันสังเกตราคาจริงที่กำลังลดลง
ไม่อยากวิเคราะห์กราฟผิดบ่อย ๆ ต้องไม่พลาดบทความนี้! คุณน้าได้รวบรวมเครื่องมือ Indicator ยอดนิยมที่จะช่วยเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการเทรดไว้ให้ครบ รับรองว่าจะทำให้การเทรดง่ายขึ้นและได้ผลดียิ่งขึ้นแน่นอนค่ะ
วิธีรับมือและป้องกันการติดดอย

5 วิธีจัดการเมื่อติดดอยและเทคนิคป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ
1. ควบคุมอารมณ์และตั้งสติให้มั่นคง
เมื่อติดดอย สิ่งแรกที่ควรทำคือหยุดคิดด้วยอารมณ์ หลีกเลี่ยงความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่าราคาจะพุ่งกลับโดยเร็ว เพราะอาจไม่เป็นเช่นนั้นจริง การตั้งสติ ชั่งน้ำหนักสถานการณ์อย่างมีเหตุผล จะช่วยให้ตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น บางครั้งการยอมรับความเสียหายและตัดขาดทุน (Cut Loss) อย่างรวดเร็วเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการถือครองต่อไปจนทุนหายมากกว่า
2. ใช้กลยุทธ์ทยอยซื้อ (DCA) อย่างระมัดระวัง
การซื้อถัวเฉลี่ย (Dollar Cost Averaging) เป็นวิธีลดต้นทุนเฉลี่ย เพื่อบรรเทาทุนที่ติดดอย แต่ต้องมีเงินทุนเพียงพอและมั่นใจในสินทรัพย์นั้น ๆ เท่านั้น การแบ่งซื้อเป็นงวด ๆ และกำหนดช่วงเวลาหรือระดับราคาที่เข้าซื้อ จะช่วยให้การถัวเฉลี่ยมีประสิทธิภาพและไม่เสี่ยงล้างพอร์ต
3. กำหนดจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) และยึดตามแผน
เพื่อป้องกันติดดอย การตั้ง Stop Loss ในระดับที่ยอมรับได้ เป็นเกราะป้องกันความเสียหายที่สำคัญ อย่าฝืนถือครองเพียงเพราะยากจะยอมรับขาดทุน เพราะการปล่อยให้ติดดอยนานจะทำให้เงินทุนจมและโอกาสฟื้นตัวยากขึ้น
4. ออกจากตลาดชั่วคราวเพื่อทบทวนและวางแผนใหม่
เมื่อสถานการณ์ติดดอยและความเครียดสะสมสูง การถอยห่างจากตลาดชั่วคราวจะช่วยให้รู้สึกสงบ ไม่ยึดติดอารมณ์กับความผันผวนที่เห็นในกราฟ การพักสติช่วยลดความเสี่ยงในการตัดสินใจผิดพลาดและเริ่มต้นวางแผนลงทุนอย่างเป็นระบบใหม่อีกครั้ง
5. กระจายความเสี่ยงและปรับพอร์ตอย่างเหมาะสม
การลงทุนที่ดีต้องมีการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสมทั้งในระดับสินทรัพย์และตลาด เพื่อลดผลกระทบจากการติดดอยในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง อีกทั้งการปรับพอร์ตบ่อย ๆ ช่วยให้พอร์ตของคุณไม่จมอยู่กับสินทรัพย์เสี่ยงเกินไป และพร้อมสำหรับโอกาสลงทุนใหม่ ๆ
สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ที่อยากเริ่มต้นด้วยความมั่นใจและเข้าใจตลาด Forex อย่างแท้จริง ต้องไม่พลาด! บทความรวม 12 คำศัพท์สำคัญที่ช่วยปูพื้นฐานให้คุณเทรดได้อย่างมืออาชีพในอนาคต
คำศัพท์ที่เทรดเดอร์มักได้ยินในตลาด Forex
นอกจากคำว่าติดดอย ยังมีคำศัพท์อื่น ๆ ที่นักลงทุนนิยมใช้กัน ดังนี้ค่ะ
คำศัพท์ | ความหมาย | ตัวอย่างการใช้งาน |
---|---|---|
HODL | มาจากคำว่า “Hold On for Dear Life” ซึ่งหมายถึงการถือสินทรัพย์ไว้ไม่ขายแม้ราคาตก | นักลงทุนถือ Bitcoin ต่อเนื่องแม้ราคาตกหนัก เพราะเชื่อว่าราคาจะฟื้นในระยะยาว |
Moon | ราคาสินทรัพย์ที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วและสูงมาก | “ราคา ETH กำลังจะ Moon แล้วหลังจากได้รับข่าวดีจากตลาดคริปโต” |
Lambo | ย่อมาจาก Lamborghini ใช้เปรียบความร่ำรวยจากการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ | เทรดเดอร์พูดเล่นว่า “ถ้าลงทุนชนะรอบนี้ จะได้ Lambo ขับสักคัน” |
FOMO | ย่อมาจาก Fear Of Missing Out คือกลัวตกขบวน ทำให้รีบซื้อโดยไม่คิด | “ช่วงราคาขึ้นคนเยอะมาก เกิด FOMO จนเทรดเดอร์หน้าใหม่แห่ซื้อกันหมด” |
แบ่งไม้ | การแบ่งจำนวนเงินหรือหุ้นเป็นส่วนย่อย ๆ เพื่อทยอยซื้อขาย | นักลงทุนใช้กลยุทธ์แบ่งไม้ โดยแบ่งเงิน 100,000 บาท ซื้อหุ้น 4 งวด ๆ ละ 25,000 บาท |
ATH | ย่อมาจาก All Time High หมายถึงราคาสินทรัพย์ที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ | “Bitcoin เพิ่งทำ ATH ใหม่ ที่ราคา 1,500,000 บาทต่อเหรียญ” |
FUD | ย่อมาจาก Fear, Uncertainty, Doubt หมายถึงข่าวร้ายหรือข้อมูลที่ทำให้ตลาดหวั่นไหว | “หลังมีข่าว FUD ว่าธนาคารใหญ่จะห้ามซื้อขายคริปโต ราคาจึงดิ่งลงอย่างรวดเร็ว” |
ขายหมู | การขายสินทรัพย์ขาดทุน เพราะยอมแพ้ราคาตก | นักลงทุนที่ติดดอยหนักถึงขั้น “ขายหมู” เพราะไม่อยากขาดทุนมากขึ้น |
วาฬ | ผู้ถือสินทรัพย์จำนวนมาก ๆ ที่สามารถส่งผลต่อราคาตลาดได้ | “วาฬคริปโตทำการเทขายจำนวนมหาศาล ทำให้ราคาตกอย่างรวดเร็ว” |
เม่า | คำเรียกนักลงทุนมือใหม่ที่ขาดความรู้และความชำนาญ | “กลุ่มเม่ากระโดดเข้าไปซื้อหุ้นนี้เพราะได้ข่าวลือ แต่ราคากลับตกหนักในวันถัดไป” |

⭐ คุณน้าแนะนำโบรกเกอร์คุณสมบัติเด่น!
การเลือกโบรกเกอร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ สำหรับการเทรด Forex ค่ะ
เพราะโบรกเกอร์จะพัฒนาระบบและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเทรดของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นให้ได้มากที่สุด
สำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มั่นใจว่า โบรกเกอร์ Forex แบบไหนดี?
คุณน้าได้รวบรวมการจัดอันดับของโบรกเกอร์ในทุกคุณสมบัติ เช่น สเปรดต่ำ, เทรดทอง หรือโบนัสฟรี

💡 คัมภีร์เริ่มต้น มือใหม่หัดเทรด
มือใหม่หัดเทรดที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? คุณน้าได้รวบรวมเนื้อหาสำคัญที่ถือเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับการเทรด Forex มาไว้ให้แล้วที่นี่!
🔍 ตัวอย่างเนื้อหา มือใหม่หัดเทรดต้องรู้!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการติดดอย Forex
ติดดอย คืออะไร?
ติดดอย คือ การซื้อสินทรัพย์ในราคาสูง แล้วราคาปรับตัวลดลงกว่าราคาที่ซื้อมาก ทำให้ขาดทุนและต้องรอให้ราคากลับขึ้นมาใหม่เพื่อไม่ขาดทุน
สาเหตุที่ทำให้ติดดอยมีอะไรบ้าง?
การติดดอยเกิดจากหลายสาเหตุ อาทิ การวิเคราะห์ผิด, การไม่มีการตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) หรือการซื้อสินทรัพย์ช่วงปลายเทรนด์ รวมถึงการตัดสินใจเทรดด้วยอารมณ์แบบ FOMO (กลัวพลาดโอกาส) ค่ะ
ทำอย่างไรถึงจะไม่ติดดอย?
เทรดเดอร์ควรวางแผนลงทุนและศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ รวมถึงตั้งจุดตัดขาดทุนเพื่อจำกัดความเสียหาย ไม่ควรเทรดด้วยอารมณ์หรือรีบตัดสินใจ
วิธีลงจากดอยที่ดีที่สุดคืออะไร?
หนึ่งในวิธีที่นิยมคือการทยอยซื้อเพิ่มเพื่อลดต้นทุนเฉลี่ย (DCA) พร้อมทั้งตั้งสติไม่หวั่นไหวไปกับราคาที่ผันผวนมาก
ถ้าติดดอยนานเกินไปควรทำอย่างไร?
ควรประเมินสถานการณ์และตัดสินใจใหม่ อาจจำเป็นต้องตัดขาดทุน (Cut Loss) เพื่อปกป้องเงินทุนและไม่ให้ขาดทุนลึกขึ้น
การตั้งจุด Stop Loss ช่วยได้อย่างไร?
การตั้งจุด Stop Loss ช่วยจำกัดความเสียหายโดยการขายออกเมื่อราคาร่วงถึงจุดที่กำหนดล่วงหน้า ป้องกันไม่ให้ขาดทุนหนัก
ควรเลือกสินทรัพย์อย่างไรเพื่อลดความเสี่ยงติดดอย?
ควรเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีพื้นฐานดีและเหมาะสมกับความเสี่ยงของตนเอง รวมถึงควรแบ่งซื้อเป็นรอบ ๆ เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของราคา
สรุปการติดดอย
การติดดอย คือ การที่เราเข้าไปซื้อสินทรัพย์ในราคาที่คิดว่าจะขึ้นต่อ แต่กลับเจอราคาตกลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องถือสินทรัพย์ในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดจริง ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เทรดเดอร์หลีกเลี่ยงได้ยาก แต่ถ้าเรามีความรู้ วางแผนการเทรดอย่างรอบคอบ และฝึกฝนวินัยอย่างสม่ำเสมอ เราจะลดผลกระทบจากการติดดอยได้อย่างมาก และยังช่วยให้ก้าวผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้อย่างมั่นคง
อย่าลืมว่า การลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ การเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงนี้โดยการตั้งขอบเขตความเสี่ยง วางแผนจัดการ และใช้เครื่องมือวิเคราะห์อย่างถูกต้อง เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การลงทุนของเราปลอดภัย และได้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวด้วยวิธีนี้ การติดดอยจะไม่กลายเป็นอุปสรรคใหญ่ แต่จะเป็นบทเรียนที่ช่วยให้เราเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง เพื่อให้เทรดได้อย่างมืออาชีพและมั่นใจมากขึ้นค่ะ
สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge