RSI : Indicator ที่ช่วยให้คุณทำกำไรได้มากขึ้น

Table of Contents

วันนี้คุณน้าอยากหยิบยกสาระดี ๆ กับเทคนิควิธีดูกราฟเพื่อทำกำไรด้วยเครื่องมือช่วยวิเคราะห์ที่ชื่อว่า RSI Indicator มาฝากทุกคน เพราะการที่เราสามารถใช้ Indicator ได้นั้นจะช่วยให้เราสามารถหาจุดเข้าออกได้ดียิ่งขึ้น แปลว่าสามารถทำกำไรได้มากขึ้นด้วยเช่นกันค่ะ


Indicator คืออะไร ? 

Indicator เป็นตัวชี้วัดทางเทคนิคสำหรับการเทรดค่ะและสามารถใช้ได้กับ  Forex ด้วย ซึ่งเป็นเครื่องมือทางคณิตศาสตร์ที่จะเข้ามาช่วยวิเคราะห์โดยอิงจาก 5 หลักใหญ่ ๆ  ได้แก่ ราคาเปิด, ราคาสูงสุด, ราคาต่ำสุด, ราคาปิด และปริมาณการซื้อขาย จากการคำนวณ Indicator Forex จะแสดงผลเป็นรูปแบบแผนภูมิหรือกราฟดัชนีต่างๆ ออกมาให้เราค่ะ 

พูดง่าย ๆ ก็คือเครื่องมือที่จะช่วยให้เราวิเคราะห์กราฟและราคาได้ง่ายขึ้น เหมือนมีผู้ช่วยให้ข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจนั่นเองค่ะ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคู่มือสำหรับการเทรด แต่เราจะเลือกใช้หรือไม่ใช้ก็ได้เช่นกันค่ะ 

RSI Indicator คืออะไร ?

ชื่อเต็มคือ Relative Strength Index จะเป็นตัวช่วยที่คอยบ่งชี้ปริมาณการซื้อขายในตลาดค่ะ โดยเราจะกำหนดปริมาณการซื้อขายในตลาดในกรอบระดับ 0 – 100  การซื้อขายปกติให้อยู่ในกรอบราคาช่วง 30 – 70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เกิน 30 – 70 เปอร์เซ็นต์เราจะนับว่าเป็นการซื้อขายแบบมีนัยยะสำคัญ 

ถ้าหากระดับสูงเกิน 70 นั่นแปลว่ามีการซื้อมากเกินไป

ถ้าหากระดับต่ำกว่า 30 นั่นแปลว่ามีการขายมากเกินไป



รูปแบบการใช้ RSI Indicator ทั้ง 4 แบบ


RSI Bullish Convergence

 

รูปแบบที่ 1 : Bullish Convergence

จะมีรูปแบบสังเกตคือ :

  • กราฟจริง ทำ Higher High ขึ้นเรื่อย ๆ
  • และกราฟของ Indicator จะแสดงผลทำ Higher High ขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนกัน
  • ( Higher High คือมีจุดราคาขายสูงสุดและราคาขายต่ำสุดในระดับที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ )

ถ้ามาในรูปแบบนี้แปลว่าราคามีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นต่อค่ะ



RSI Bearish Convergence

รูปแบบที่ 2 : Bearish Convergence

จะมีรูปแบบสังเกตคือ :

  • กราฟจริง ทำ Lower Low ต่ำลงเรื่อย ๆ
  • และกราฟของ Indicator จะแสดงผลทำ Lower Low ในระดับที่ต่ำลงเรื่อย ๆ เหมือนกัน
  • ( Lower Low คือมีจุดราคาขายสูงสุดและราคาขายต่ำสุดในระดับที่ต่ำลงกว่าเดิมเรื่อย ๆ )

ถ้ามาในรูปแบบนี้แปลว่าราคามีแนวโน้มที่จะต่ำลงอีกค่ะ



RSI Bullish Divergence

รูปแบบที่ 3 : Bullish Divergence

จะมีรูปแบบสังเกตคือ :

  • กราฟจริง ทำ Lower Low ต่ำลงเรื่อย ๆ
  • (Lower Low คือจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดต่ำลงเรื่อย ๆ )
  • แต่กราฟของ Indicator จะแสดงผลทำ Higher Low ขึ้น
  • (Higher Low คือมีจุดต่ำสุดสูงขึ้นกว่าเดิม)

ถ้ามาในรูปแบบนี้แปลว่าราคามีแนวโน้มที่จะเป็นขาขึ้นค่ะ



RSI bearish divergence

รูปแบบที่ 4 : Bearish Divergence

จะมีรูปแบบสังเกตคือ :

  • กราฟจริง ทำ Higher High สูงขึ้นเรื่อย ๆ
  • ( Higher High คือมีจุดราคาขายสูงสุดและราคาขายต่ำสุดในระดับที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ )
  • แต่กราฟของ Indicator จะแสดงผลทำ Lower High มากกว่าเดิม
  • (Lower High คือจุดสูงสุดที่ต่ำลงกว่าเดิม)

ถ้ามาในรูปแบบนี้แปลว่าราคามีแนวโน้มที่จะเป็นขาลงแล้วล่ะค่ะ




สำหรับใครที่ยังไม่ค่อยชินกับการใช้Indicator ลองเข้าไปใช้ได้ที่ https://th.tradingview.com ได้นะคะ เพื่อจะได้ทดลองดูกราฟและวิเคราะห์ดูก่อน

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

คุณน้า
คุณน้า
คุณน้าเป็นเทรดเดอร์ที่คลุกคลีอยู่ในตลาดต่าง ๆ ร่วม 10 ปี จึงอยากนำความรู้ที่มีมาแบ่งปันให้กับทุกคน
Recent Post
IB Forex คืออะไร ทำกำไรจากอะไร
IB Forex คืออะไร ? ทำไมหลายคนถึงทำเป็นอาชีพเสริม

IB Forex เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่เป็นที่นิยมมากในยุคนี้ เพราะเป็นอีกวิธีที่สามารถสร้างรายได้เสริมได้ จนบางคนอาจจะทำให้เป็นรายได้หลักเลยทีเดียว

ทำไม ทองคำ ถึงเป็น Safe Haven ปี 2023
ทำไมทองคำถึงเป็น Safe Haven ในปี 2023

Safe Haven ที่เรียกง่าย ๆ ว่า ที่หลบภัยของนักลงทุน เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่มีอัตราผันผวนต่ำเมื่อเศรษฐกิจของโลกเกิดความไม่แน่นอน และสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการลงทุนได้เมื่อเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย

Sillicon Valley Bank ล่มเพราะอะไร
สรุปง่าย ๆ ใน 5 นาที Silicon Valley Bank ล่มเพราะอะไร ?

เป็นข่าวตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วนะคะ สำหรับกรณีการล่มสลายหรือพูดง่าย ๆ ก็คือสั่งปิดจนเจ๊งอย่างธนาคาร Silicon Valley Bank หรือ SVB แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้สาเหตุว่า Sillicon Valley Bank ล่มเพราะอะไร 

Enable Notifications OK No thanks