ค่าใช้จ่ายแฝงในกองทุนรวม สิ่งที่นักลงทุนต้องรู้

ค่าใช้จ่ายแฝงในกองทุนรวม: สิ่งที่นักลงทุนต้องรู้
Table of Contents

กองทุนรวม (Mutual Fund) เป็นการรวบรวมเงินทุนจากนักลงทุน เพื่อนำไปจัดตั้งเป็นกองทุนขึ้นมาและนำไปลงทุนสินทรัพย์ต่าง ๆ ซึ่งประเภทของกองทุนรวมขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงของสินทรัพย์ โดยปกติแล้วนักลงทุนที่สนใจลงทุนกองทุนรวมต้องดูวัตถุประสงค์ของกองทุนและค่าธรรมเนียมที่เราต้องจ่ายให้กับกองทุน แต่คุณน้าเชื่อว่านักลงทุนมือใหม่หลายคนยังไม่รู้ว่าเราต้องจ่ายค่าอะไรให้กับกองทุนบ้าง ดังนั้น คุณน้าจึงได้เขียนบทความเรื่องค่าใช้จ่ายแฝงในกองทุนรวมขึ้นมา เพื่อให้นักลงทุนทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจเลือกลงทุนในกองทุนค่ะ


ค่าใช้จ่ายของกองทุนรวม 


ค่าใช้จ่ายกองทุนรวม เป็นค่าใช้จ่ายที่นักลงทุนต้องจ่ายซึ่งเกี่ยวข้องกับการลงทุนกองทุนรวม ค่าใช้จ่ายเหล่านี้เกิดจากกองทุนและมีการส่งต่อไปยังนักลงทุน ซึ่งสาเหตุที่กองทุนรวมต้องมีการคิดค่าใช้จ่าย เนื่องจากบริหารกองทุนต้องมีการดำเนินการเรื่องต่าง ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทุน เพื่อให้นักลงทุนมีช่องทางการลงทุนที่ง่ายและสะดวกขึ้น  

1. ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย (Front-End Fee, Back-End Fee)

ค่าธรรมเนียมการซื้อขายของกองทุนรวม คือค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นเมื่อซื้อหรือขายกองทุนรวม ซึ่งค่าธรรมเนียมเหล่านี้แตกต่างกันขึ้นอยู่กับกองทุนรวมและผู้จัดการกองทุน ซึ่งแบ่งออกเป็นค่าธรรมเนียมในการซื้อกองทุนจ่ายเมื่อเข้าซื้อกองทุนและหักออกจากเงินลงทุนเริ่มต้น และค่าธรรมเนียมการขายจ่ายเมื่อเราทำการขายกองทุน 

ตัวอย่าง 

นาย A ขายกองทุนรวม 5000 บาท จะโดนหักไปทันที 50 บาท จะได้รับเงินเพียง 4550 บาท ถือว่ามีค่าธรรมเนียมการซื้อที่ 1% ดังนั้นถ้าหากเราขายกองทุนบ่อยก็เสียค่าธรรมเนียมเยอะค่ะ


2. ค่าใช้จ่ายในการซื้อขายหลักทรัพย์ของกองทุน

ค่าใช้จ่ายในการซื้อขายหลักทรัพย์ของกองทุน เป็นค่าธรรมเนียมคล้ายกับค่าธรรมเนียมซื้อขายข้างต้น แต่ค่าธรรมเนียมส่วนนี้จะไปรวมในสินทรัพย์กองทุน เพื่อให้ผู้จัดการกองทุนชำระค่าธรรมเนียมที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อขายหลักทรัพย์ของกองทุน 


3. ภาษีหัก ณ ที่จ่ายของเงินปันผล

เงินปันผลจากกองทุนรวม ต้องจ่ายให้กับรัฐบาลเมื่อกองทุนได้จ่ายเงินปันผล โดยนักลงทุนต้องจ่าย 10% ของเงินปันผลที่ได้รับ ดังนั้นนักลงทุนจึงต้องเลือกลงทุนในกองทุนที่ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล เพื่อให้สามารถนำเงินปันผลที่ต้องจ่ายกลับไปลงทุนต่อได้ 


4. ค่าธรรมเนียมเมื่อเปลี่ยนกองทุน

ค่าธรรมเนียมเมื่อเปลี่ยนกองทุน คือค่าธรรมเนียมที่นักลงทุนต้องจ่ายเมื่อย้ายกองทุนไปยังอีกกองทุนหนึ่งภายในกลุ่มกองทุนหรือแพลตฟอร์มการลงทุนเดียวกัน โดยเราต้องจ่ายให้กับการจัดการที่เกี่ยวข้องกับการโอนกองทุน และอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญ คือเพื่อไม่ให้มีการเปลี่ยนกองทุนบ่อยเกินไป 



สิ่งที่นักลงทุนต้องทำการวิเคราะห์ก่อนซื้อกองทุน 

ปกติแล้ว นักลงทุนซื้อขายกองทุนรวมต้องดูวัตถุประสงค์ของกองทุนรวมแล้ว ยังต้องพิจารณาค่าใช้จ่ายแฝงในกองทุนรวม เริ่มตั้งแต่ค่าธรรมเนียมการซื้อขายกองทุนที่ต้องน้อยที่สุดหรือค่าใช้จ่ายรวมยิ่งต่ำยิ่งดี และเงื่อนไขนโยบายของกองทุนที่เน้นคุณค่าของหุ้นในกองทุน ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรของเราค่ะ 


สรุป

การเลือกกองทุนรวมต้องศึกษาวัตถุประสงค์ของกองทุน, เงื่อนไขค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของกองทุนรวม เพื่อที่เราจะสามารถตัดสินใจเลือกลงทุนกองทุนที่มีค่าใช้จ่ายต่ำและเพิ่มโอกาสการทำกำไรระยะยาว เนื่องจากค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของกองทุนรวมส่งผลต่อผลตอบแทนระยะยาว เมื่อค่าใช้จ่ายสูงทำให้เราได้รับผลตอบแทนน้อยลง ดังนั้นก่อนที่นักลงทุนจะตัดสินใจลงทุนกองทุนรวมอย่าลืมศึกษาเงื่อนไขต่าง ๆ ให้ละเอียดเพื่อที่การลงทุนของเราจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง นักลงทุนจึงต้องยอมรับกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นด้วยค่ะ 


ขอบคุณข้อมูลจาก : InnovestX

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

khunnaphatrade
khunnaphatrade
Recent Post
ส่องเทรนด์ Pop Mart คืออะไร ลงทุนหุ้นของเล่น Art toy น่าสนใจปี 2024
ส่องเทรนด์ Pop Mart คืออะไร ลงทุนหุ้นของเล่น Art toy น่าสนใจปี 2024

เชื่อว่าทุกคนต้องเคยได้ยินคำว่า “กล่องสุ่ม” “Art toy” หรือ “Pop Mart” กระแสที่กำลังในประเทศไทย วันนี้คุณน้าจะพาทุกคนไปรู้จักกับเทรนด์กล่องสุ่มของ Pop Mart ค่ะ

กองทุน Thai ESG ทางเลือกใหม่เพื่อความยั่งยืน ซื้อกองไหนดี? ปี 2024
กองทุน Thai ESG ทางเลือกใหม่เพื่อความยั่งยืน ซื้อกองไหนดี? ผลตอบแทนสูง ปี 2024

คุณน้าพาเทรดจะพาทุกคนมารู้จักกับกองทุน Thai ESG ทางเลือกใหม่เพื่อความยั่งยืน ซื้อกองไหนดี? เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักกับกองทุนประเภทนี้ดียิ่งขึ้น