ลักษณะหุ้น 6 ประเภทฉบับ Peter Lynch ที่รู้ไว้จะช่วยให้ลงทุนง่ายมากขึ้น

Table of Contents

ในโลกของการลงทุน ยิ่งเรามีความรู้เกี่ยวกับข้อมูลหุ้นมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เราได้เปรียบและสร้างโอกาสในการได้กำไรจากการลงทุนมากขึ้นเท่านั้น 

วันนี้น้าเลยอยากจะพาทุกคนมารู้จักลักษณะหุ้น 6 ประเภทแบบฉบับคุณ Peter Lynch ที่เคยจำแนกประเภทหุ้นไว้ ว่ามีลักษณะอย่างไรบ้างกันค่ะ

ประเภทที่ 1 : Slow Growers หุ้นโตช้า ก้าวหน้าอย่างมั่นคง

Slow Growers คือบริษัทขนาดใหญ่ที่อาจจะเติบโตในอัตราที่ต่ำกว่าเศรษฐกิจ ราคาในตลาดมักไม่ค่อยมีความผันผวน ดังนั้นกำไรจึงอาจจะไม่สูงมาก  แต่ข้อดีคือหุ้นเหล่านี้มักให้เงินปัญผลสูง ซึ่งบางครั้งสูงถึง 7-10% 

เหมาะกับนักลงทุนที่ชอบลงทุนแบบความเสี่ยงต่ำ แต่มักได้ผลกำไรค่ะ

วิธีการสังเกต

  • อัตราส่วนราคาต่อกำไรค่อนข้างต่ำ (P/E) 
  • มีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูงโดยอัตราเงินปันผลตอบแทนอาจสูงถึง 7-10% ต่อปี
  • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูง

ประเภทที่ 2 : Stalwarts หุ้นแข็งแกร่ง ทนทุกสถานการณ์

บริษัทในประเภทที่ 2 นี้มักเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ทำให้พวกเขามีความยืดหยุ่นสูงถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะมีความผันผวนก็ตาม เป็นบริษัทที่มักมีความเสี่ยงต่ำและสามารถฟื้นตัวจากภาวะถดถอยได้อย่างรวดเร็ว 

ถึงจะฟังดูคล้ายประเภท Slow Growers แต่สำหรับหุ้นแบบ Stalwarts จะมีกำไรที่สูงกว่า และอัตราปันผลอาจจะไม่สูงเท่าประเภทแรกค่ะ

 วิธีการสังเกต

  • กำไรต่อหุ้นเติบโตอย่างต่อเนื่องในอัตราที่สูงกว่าตลาดเล็กน้อย
  • อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนต่ำ
  • มูลค่าตลาดใหญ่

ประเภทที่ 3 : Fast Growers หุ้นโตไว อยู่ในช่วงเติบโต

บริษัทเหล่านี้อาจไม่ใหญ่หรือแข็งแกร่งเท่าบริษัทอื่น แต่มีศักยภาพที่จะเติบโตอย่างน้อย 15-20% หรือสูงกว่านั้นในแต่ละปี บางคนสามารถสร้างผลตอบแทน 100-200% ในเวลาเพียงไม่กี่ปีได้ด้วยนะคะ  แต่ต้องสังเกตให้ดีว่าเปอร์เซ็นต์การเติบโตเหล่านี้นั้นมาจากรายได้หรือกำไร

 ข้อดีอย่างหนึ่งของการลงทุนในหุ้นแบบนี้คือคุณสามารถถือไว้ได้นานตราบเท่าที่สามารถรักษาอัตราการเติบโตได้เลยทีเดียว

วิธีการสังเกตุ

  • อัตราส่วนราคาต่อกำไรที่สูงและสม่ำเสมอ
  •  กำไรต่อหุ้นเติบโตในอัตรา 15-20%

ประเภทที่ 4 : Cyclicals หุ้นวัฎจักร ขึ้นลงตามเศรษฐกิจ

หุ้นแบบวัฏจักรคือบริษัทที่มียอดขายและผลกำไรเพิ่มขึ้นและลดลงในรูปแบบที่คาดการณ์ได้ตามลักษณะของเศรษฐกิจ อย่างเช่นถ้าหากเศรษฐกิจดี หุ้นก็จะปรับตัวสูงขึ้น และถ้าหากเศรษฐกิจไม่ค่อยดี หุ้นก็จะปรับตัวลง 

หุ้นประเภทนี้นั้นเหมาะกับผู้ที่ชอบศึกษาแนวทางของตลาดและเศรษฐกิจ

วิธีการสังเกต

  • อัตราส่วนราคาต่อกำไรและกำไรต่อหุ้นมีแนวโน้มที่จะเป็นไปลักษณะของเศรษฐกิจ
  • เวลาราคาหุ้นปรับตัวขึ้นสูงก็จะขึ้นไวมาก แต่ถ้าหากขาลงก็ลงแรงมากเหมือนกัน

ประเภทที่ 5 : Turnarounds  หุ้นฟื้นตัว พลิกฟื้นจากการขาดทุน

ประเภทแบบ Turnarounds นั้นจะเป็นบริษัทที่ประสบความสูญเสียหรือขาดทุนอย่างรุนแรงหรือเกือบจะล้มละลายเลยก็ได้เนื่องจากการลงทุนที่ไม่ทำกำไรหรือขาดสภาพคล่อง แต่กำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลง และฟื้นตัวจากการขาดทุน 

หากจับจุดที่หุ้นกำลังพลิกฟื้นได้ หุ้นพวกนี้สามารถสร้างกำไรให้เราได้มากเลยทีเดียว 

วิธีการสังเกต 

  • กำไรสุทธิกลายเป็นบวก
  • อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงอย่างต่อเนื่อง

ประเภทที่ 6 : Asset Plays หุ้นสินทรัพย์แฝง ครองสินทรัพย์มาก

บริษัทเหล่านี้มักเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง เช่น อสังหาริมทรัพย์หรือหุ้นในบริษัทอื่นๆ และถ้าคุณนำเงินไปลงทุนในบริษัทที่เป็น Asset Play ที่มักลงทุนในธุรกิจที่ทำกำไรหรือในอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ มูลค่าของบริษัท Asset Play ก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน นั่นหมายความว่าคุณมีโอกาสที่จะได้รับเงินทุนมหาศาลได้เลยถ้าหากว่าจำนวนสินทรัพย์ที่บริษัทนั้น ๆ ถือครองมีจำนวนมาก

วิธีการสังเกต

  • ตรวจสอบข้อมูลบริษัทเหล่านั้นว่ามีสินทรัพย์อยู่เท่าไหร่ 

และนี่ก็เป็นลักษณะหุ้นทั้งหมด 6 ประเภทในแบบฉบับของ Peter Lynch ค่ะ สามารถนำวิธีสังเกตลักษณะเหล่านี้เพื่อประกอบการพิจารณาก่อนการลงทุนได้เลยย

คุณน้า
คุณน้า
คุณน้าเป็นเทรดเดอร์ที่คลุกคลีอยู่ในตลาดต่าง ๆ ร่วม 10 ปี จึงอยากนำความรู้ที่มีมาแบ่งปันให้กับทุกคน
Recent Post