คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 1 ธันวาคม 2025

คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 1 ธันวาคม 2025
Table of Contents

หุ้นสหรัฐถือเป็นหุ้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งการเคลื่อนไหวของหุ้นสหรัฐเพียงหนึ่งครั้งก็สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอื่น ๆ ทั่วโลก ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาคุยหุ้น เจาะลึกปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงและมุมมองในการลงทุน สายวิเคราะห์หุ้นสหรัฐห้ามพลาดบทความนี้!

คุยหุ้นสหรัฐวันนี้ (US 500/ S&P 500)

บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐานหุ้นสหรัฐ

ดัชนี S&P 500 ฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาท่ามกลางการซื้อขายบางตาเนื่องจากวันหยุด โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 9–10 ธันวาคมนี้ค่ะ ขณะที่สัญญาฟิวเจอร์สยังคงสะท้อนมุมมองเชิงบวก โดยสัญญา S&P 500 ขยับขึ้นเล็กน้อย นักลงทุนประเมินความเป็นไปได้มากกว่า 80% ว่า Fed จะลดดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งเกิดจากท่าทีผ่อนคลายของเจ้าหน้าที่ Fed และตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ แม้ว่าในช่วงก่อนหน้านี้ของเดือนพฤศจิกายน ตลาดจะเผชิญแรงขายนำโดยหุ้นเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นที่เชื่อมโยงกับ AI แต่ดัชนีก็ยังสามารถปิดสัปดาห์ในแดนบวกได้เล็กน้อยค่ะ

ทั้งนี้ หุ้นเทคโนโลยีเป็นแรงขับเคลื่อนหลักในการฟื้นตัวของ S&P 500 แม้ว่าการเคลื่อนไหวภายในกลุ่มจะต่างกันมาก โดย Intel โดดเด่นที่สุด พุ่งขึ้นกว่า 10% หลังมีรายงานจากนักวิเคราะห์ว่าบริษัทอาจเริ่มผลิตชิปตระกูล M ให้ Apple ได้ในปี 2027 ขณะที่กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์อื่น ๆ เช่น AMD Broadcom และ Texas Instruments ต่างปรับตัวขึ้นเช่นกันค่ะ อย่างไรก็ตาม Nvidia ยังเผชิญแรงกดดัน ลดลงราว 1% ท่ามกลางข่าวว่า Google กำลังพัฒนาชิป AI ของตัวเอง และ Meta อาจหันไปสั่งซื้อชิปจาก Google ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงต่อความเป็นผู้นำของ Nvidia ในตลาดศูนย์ข้อมูลค่ะ

นอกเหนือจากกลุ่มชิปแล้ว หุ้นรายตัวที่อยู่ในดัชนี S&P หลายบริษัทก็เคลื่อนไหวโดดเด่นค่ะ Dell Technologies กระโดดขึ้นกว่า 11% หลังรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 แข็งแกร่งกว่าคาดและปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ จากความต้องการเซิร์ฟเวอร์ด้าน AI ที่สูงเกินคาด ส่วน Symbotic พุ่งขึ้นกว่า 56% ตลอดสัปดาห์จากคาดการณ์รายได้ที่แข็งแกร่งและลูกค้าใหม่หลายราย Credo Technology ปรับขึ้นกว่า 35% จากการทำสัญญาอนุญาตใช้สิทธิบัตรสายเคเบิลความเร็วสูง ขณะเดียวกัน Robinhood ก็พุ่งขึ้นเกือบ 20% หลังประกาศเข้าซื้อกิจการ 90% ของตลาดอนุพันธ์ MIAX ซึ่งจะช่วยให้บริษัทขยายไปสู่ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม prediction-market ที่นักลงทุนสามารถเดิมพันหรือคาดการณ์ผลลัพธ์ของเหตุการณ์ต่าง ๆ ค่ะ

ในเชิงกลุ่มอุตสาหกรรม เกือบทุกภาคส่วนในดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น ยกเว้นกลุ่มเฮลท์แคร์ที่อ่อนตัวจากการร่วงลง 2.6% ของ Eli Lilly ขณะที่กลุ่มค้าปลีกเองก็มีส่วนสนับสนุนบรรยากาศเชิงบวก เนื่องจากช่วง Black Friday และ Cyber Monday ถือเป็นจุดเริ่มต้นของฤดูกาลจับจ่ายค่ะ แม้ว่าในตลาดฟิวเจอร์สจะเกิดความขัดข้องชั่วคราวจากปัญหาระบบทำความเย็นของศูนย์ข้อมูล CME แต่โดยรวมแล้วความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังคงแข็งแรงค่ะ

อย่างไรก็ดี แม้ว่า S&P 500 จะดูพร้อมสำหรับการปรับตัวขึ้นในช่วงปลายปี แต่แนวโน้มขาขึ้นนี้ยังคงพึ่งพาปัจจัยหลายด้านค่ะ ดัชนีอาจจะปิดเดือนด้วยแรงหนุนจากความหวังเรื่องการลดดอกเบี้ย แต่ก็ยังถูกกดดันจากความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจ AI และมูลค่าหุ้นเทคโนโลยีที่เริ่มสูงขึ้น หลังจากที่ดัชนีปรับตัวขึ้นประมาณ 16% นับตั้งแต่ต้นปี ในขณะที่การรายงานข้อมูลสำคัญสัปดาห์นี้ ดัชนี PCE จะครอบคลุมแค่ข้อมูลเดือนกันยายน เนื่องจากผลกระทบจากการปิดหน่วยงานของรัฐค่ะ ขณะเดียวกัน เมื่อเข้าใกล้สิ้นปี นักลงทุนยังคงจับตาดูว่าการผ่อนคลายสภาพคล่องทางการเงินจะช่วยขยายแรงซื้อจากหุ้นที่นำตลาดในกลุ่ม AI ไปสู่หุ้นขนาดเล็กและหุ้นในกลุ่มที่ไม่ใช่เทคโนโลยีได้หรือไม่ หากปัจจัยใดสะดุด หรือหากความคาดหวังในเรื่องการลดดอกเบี้ยไม่เป็นไปตามที่คาด ความผันผวนอาจกลับมาได้ เนื่องจากมูลค่าหุ้นหลายตัวในตอนนี้ยังอยู่ในระดับสูง และภาวะการเงินโดยรวมก็เริ่มตึงตัวมากขึ้นค่ะ

บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิคหุ้นสหรัฐ

คุยหุ้นสหรัฐ วันที่ 1 ธันวาคม 2025

ดัชนี S&P 500 ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในโครงสร้างขาขึ้นที่ชัดเจน โดยราคายังทรงตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันและ 100 วันที่มีความชันขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงแรงซื้อระยะกลางที่ยังมั่นคง และสนับสนุนมุมมองพื้นฐานว่าราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 6,900–6,950 ได้ค่ะ

โมเมนตัมยังอยู่ในภาวะเชิงบวก โดย RSI ทรงตัวในโซนบนของระดับกลางและยังไม่เข้าสู่เขตซื้อมากเกินไป หากราคาสามารถปิดเหนือโซน 6,780–6,800 ได้อย่างต่อเนื่อง ดัชนีจะยังคงอยู่ในตำแหน่งที่เอื้อต่อการไต่ระดับขึ้นไปสู่กรอบบนของช่องแนวโน้มขาขึ้นค่ะ

อย่างไรก็ตาม เริ่มมีสัญญาณของการพักฐานให้เห็นบ้าง โดยหลายช่วงการซื้อขายมีปริมาณการซื้อขายลดลงในวันที่ราคาปรับขึ้น ซึ่งทำให้เกิดความเป็นไปได้ที่ดัชนีอาจเคลื่อนไหวในกรอบแคบช่วง 6,700–6,900 ในระยะสั้น

ทั้งนี้ หากดัชนีไม่สามารถยืนเหนือโซนรับ 6,740–6,720 และยืนยันการทะลุลงใต้ระดับดังกล่าว จะเปิดทางไปสู่โซน 6,560–6,500 แต่ไม่ถือว่าเป็นการทำลายแนวโน้มขาขึ้นระยะยาวค่ะ

โดยสรุป ภาพทางเทคนิคของ S&P 500 ยังคงโน้มไปในทางบวก แต่มีความเสี่ยงต่อการพักฐาน คุณน้ามองว่าทิศทางยังคงอยู่ในขาขึ้นสู่ระดับ 6,900–6,950 แต่โอกาสของการย่อตัวมาที่โซน 6,560–6,500 จะเพิ่มขึ้นหากโมเมนตัมอ่อนแรงลงต่อไป ในช่วงสัปดาห์นี้ ปัจจัยต่าง ๆ จะเป็นตัวกำหนดว่าตลาดจะเลือกเดินไปในทิศทางใด แต่ในภาพรวมโครงสร้างระยะยาวยังเป็นขาขึ้นและแนวรับหลักยังคงแข็งแรงค่ะ

📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (US 500/ S&P 500)

  • แนวรับสำคัญ : 6808.9, 6805.8, 6800.6
  • แนวต้านสำคัญ : 6819.3, 6822.4, 6827.6

ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มหุ้นสหรัฐ

ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มหุ้นสหรัฐ

ที่มา : Forexfactory

กำหนดการรายงานผลประกอบการ

กำหนดการรายงานผลประกอบการ

ที่มา : TradingView

📍หุ้นสหรัฐที่น่าจับตามอง

  • NVIDIA (NVDA): ยังคงอยู่ในช่วงการปรับตัว หลังจากไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านที่ 181–185 ได้ ตัวบ่งชี้โมเมนตัมแสดงให้เห็นว่าแรงซื้อเริ่มอ่อนแรงลง โดย RSI เคลื่อนไปที่ระดับกลาง ซึ่งบ่งชี้ว่าแรงสนับสนุนจากฝั่งซื้อเริ่มลดลง โดยหาก NVDA ร่วงต่ำกว่า 175 การถอยลึกลงไปที่ 168–170 ก็อาจเกิดขึ้นได้ ขณะที่การดีดตัวกลับเหนือ 185 จะยืนยันว่าแนวโน้มขาขึ้นยังคงดำเนินต่อไปค่ะ
  • AMD (AMD): ยังคงทำผลงานได้ดีกว่าหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์อื่น ๆ โดยทำลายแนวต้านเดิมที่ 215 และยืนเหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วันที่กำลังปรับขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มยังคงเป็นบวก แนวต้านถัดไปอยู่ที่ 222–225 ซึ่งอาจมีแรงขายเกิดขึ้น ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 210 และการยืนเหนือระดับนี้จะทำให้ AMD อยู่ในโครงสร้างทางเทคนิคที่แข็งแกร่งได้ค่ะ
  • Broadcom (AVGO): กำลังสร้างกรอบพักฐานแคบ ๆ ระหว่าง 395–405 ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการทะลุกรอบเมื่อความผันผวนลดลง โดยราคายังคงอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน และ RSI มีเสถียรภาพที่ระดับกลาง ซึ่งเตรียมพร้อมสำหรับการขยายตัว หากทะลุ 405 ได้ จะเปิดทางไปที่ 418–425 ขณะที่การหลุดต่ำกว่า 392 อาจทำให้ราคาถอยลงไปที่ 380 โดยการปรับตัวลงไปที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันยังคงเป็นโซนที่ดีสำหรับการสะสมหุ้นในแนวโน้มขาขึ้นระยะยาวค่ะ
  • Dell Technologies (DELL): ยังคงมีโครงสร้างการทะลุกรอบขาขึ้นหลังจากพุ่งขึ้นเหนือแนวต้านที่ 130 ได้ โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ราคายังคงอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน และการขยายตัวของปริมาณการซื้อขายในวันที่ราคาปรับตัวขึ้นบ่งชี้ถึงความสนใจจากนักลงทุนสถาบันที่ยังคงอยู่ ขณะที่ RSI ยังคงอยู่ในระดับที่สูง แต่ยังไม่ถึงจุด overbought ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มขาขึ้นที่อาจต่อเนื่อง โดยแนวต้านถัดไปอยู่ที่ 138–140 ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 128–129 หากราคายังคงอยู่เหนือช่วงระดับนี้ได้ จะทำให้ DELL อยู่ในรูปแบบแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องในระยะกลางค่ะ
  • Robinhood Markets (HOOD): แสดงแนวโน้มขาขึ้นในระยะกลางหลังจากที่ทะลุผ่านแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 120 ได้ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นหลังจากข่าวการเข้าซื้อกิจการตลาดอนุพันธ์ โดยราคากำลังรวมตัวอยู่บริเวณ 130–132 หากทะลุผ่านช่วงระดับนี้ไปได้ อาจทำให้ราคาพุ่งไปถึง 138–140 ขณะที่แนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 118–120 หากราคายืนอยู่เหนือระดับนี้ได้ จะทำให้หุ้นยังคงมีโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่งค่ะ

🔍คุณน้าแนะนำเทรดหุ้น CFD ไปกับโบรกเกอร์ IUX

เทรดหุ้น CFD กับ IUX โบรกเกอร์หุ้นค่าธรรมเนียมถูก

IUX มีการให้บริการซื้อขายหุ้น CFD ประกอบไปด้วยหุ้นกลุ่ม Magnificent Seven (M7) อีกทั้งยังมีหุ้นให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Coca Cola, Adobe, Alibaba, McDonalds Incorporated และ Netflix เป็นต้น ทำให้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และเทรดเดอร์รายย่อยที่มีต้นทุนจำกัดแล้วต้องการซื้อขายหุ้นระดับโลก

สรุปคุยหุ้นสหรัฐและแนวโน้มในการลงทุน (US 500/ S&P 500)

จุดน่าเข้า Buy

  • Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 6800.9 – 6808.9 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 6808.9 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6820.7 และ SL ที่ประมาณ 6796.9 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
  • Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 6819.3 – 6827.3 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6834.2 และ SL ที่ประมาณ 6804.9 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

จุดน่าเข้า Sell

  • Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 6819.3 – 6827.3 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 6819.3 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6807.2 และ SL ที่ประมาณ 6831.3 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
  • Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 6800.9 – 6808.9 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6793.7 และ SL ที่ประมาณ 6823.3 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

คำเตือน

บทวิเคราะห์นี้ใช้สำหรับการศึกษาข้อมูลของหุ้นสหรัฐเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลของสินทรัพย์และศึกษาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ประกอบกับศึกษาแนวโน้มหุ้นและข่าวสหรัฐก่อนตัดสินใจลงทุน


สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

Picture of คุณน้า
คุณน้า
Table of Contents
Recent Post
Recent Post
วิเคราะห์ GBPUSD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 1 ธันวาคม 2025
วิเคราะห์ GBPUSD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 1 ธันวาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ GBPUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 1 ธันวาคม 2025
คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 1 ธันวาคม 2025

ในบทความนี้เราจะมาคุยหุ้น เจาะลึกปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงและมุมมองในการลงทุน สายหุ้นสหรัฐห้ามพลาดบทความนี้!

บทวิเคราะห์คู่เงิน EURUSD 29 พฤศจิกายน 2025
บทวิเคราะห์ EURUSD วันที่ 29 พฤศจิกายน 2025

พบกับวิเคราะห์ EURUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

บทวิเคราะห์คู่เงิน AUDUSD 29 พฤศจิกายน 2025
บทวิเคราะห์ AUDUSD วันที่ 29 พฤศจิกายน 2025

พบกับวิเคราะห์ AUDUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

ทางเว็บไซต์ คุณน้าพาเทรด
ได้มีการใช้คุกกี้เพื่อช่วยปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้เว็บไซต์ของเราดียิ่งขึ้น


Privacy Policy