หุ้นสหรัฐถือเป็นหุ้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งการเคลื่อนไหวของหุ้นสหรัฐเพียงหนึ่งครั้งก็สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอื่น ๆ ทั่วโลก ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาคุยหุ้น เจาะลึกปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงและมุมมองในการลงทุน สายวิเคราะห์หุ้นสหรัฐห้ามพลาดบทความนี้!
คุยหุ้นสหรัฐวันนี้ (US30 / DJIA)
บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐานหุ้นสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJIA) และดัชนีอื่น ๆ ในตลาดวอลล์สตรีทปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ออกมาอ่อนแอกว่าที่คาด ซึ่งส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัวและความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยที่เพิ่มสูงขึ้นค่ะ
รายงานการจ้างงานเดือนสิงหาคม ชี้ให้เห็นว่า มีการจ้างงานใหม่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมกับอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น โดยหลายบริษัทกำลังประสบปัญหาจากภาระของภาษีศุลกากรชุดใหม่ที่บังคับใช้ แม้ข้อมูลดังกล่าวจะสร้างความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ตลาดคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน โดยสัญญาฟิวเจอร์สบ่งชี้ถึงโอกาสมากกว่า 90% ที่จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% และยังมีการคาดการณ์บางส่วนถึงความเป็นไปได้ที่จะลดมากถึง 0.50% ค่ะ
โดยในขณะนี้ ความสนใจของตลาดได้เปลี่ยนไปยังข้อมูลเงินเฟ้อที่จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินแรงกดดันด้านราคาที่เกิดจากภาษีศุลกากร แม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้ออาจจะยังไม่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของ Fed ในเดือนกันยายนโดยตรง แต่ก็อาจจะมีอิทธิพลต่อทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน ราคาทองคำเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงค่ะ
ในส่วนของหุ้นกลุ่มค้าปลีก ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของดัชนีดาวโจนส์ ความเห็นจากผู้บริหารของบริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ สะท้อนว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงมีความยืดหยุ่น แม้จะมีความไม่แน่นอนจากสงครามการค้า แต่ Walmart รายงานว่าทิศทางยอดขายยังคงทรงตัว และมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้จ่ายของครัวเรือนเพียงเล็กน้อย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้น้อยถึงปานกลางค่ะ ด้าน Home Depot ยังคงเห็นถึงความแข็งแกร่งของความต้องการสินค้าในการปรับปรุงบ้าน ขณะที่ Lowe’s ระบุว่า ครัวเรือนยังมีสถานะทางการเงินที่แข็งแรง ซึ่งสนับสนุนมุมมองเชิงบวก ท่ามกลาง Best Buy ที่ให้ความเห็นว่า ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความคุ้มค่ามากขึ้น แต่ไม่ได้แสดงสัญญาณของความอ่อนแอทางการเงินอย่างมีนัยสำคัญ และ Dollar General ก็ยังคงเห็นถึงความต้องการสินค้าราคาประหยัด ส่วน Dick’s Sporting Goods แม้จะได้รับผลกระทบจากภาษีศุลกากร แต่ก็ระบุว่าความต้องการของผู้บริโภคยังคงมั่นคงค่ะ
ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งให้มุมมองเชิงบวกอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับหุ้นค้าปลีก โดย Mizuho ยังคงให้คำแนะนำ “ซื้อ” กับ Walmart และ Lowe’s ขณะที่ยังคงสถานะ “เป็นกลาง” กับ Target และหุ้นอื่น ๆ นักวิเคราะห์ชี้ว่า แม้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ก็เตือนว่า ความเสี่ยงอาจเพิ่มขึ้นหากต้นทุนจากภาษีศุลกากรเริ่มสะสมในช่วงปลายปีค่ะ
ในขณะเดียวกัน Raymond James บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุน ได้ให้ความเห็นว่าการฟื้นตัวของตลาดหุ้นในช่วงฤดูร้อน รวมถึงดัชนี DJIA นั้น ได้รับแรงหนุนจากสภาวะที่เรียกว่า “Goldilocks” ซึ่งประกอบด้วยราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลง และตลาดแรงงานที่ยังคงมีเสถียรภาพค่ะ แม้ว่าปัจจัยสนับสนุนเหล่านี้จะเริ่มเผชิญกับแรงกดดันหลังช่วงวันแรงงาน แต่รายได้ของบริษัทที่ยังแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในกลุ่มค้าปลีกและเทคโนโลยี ก็ช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากรในไตรมาสที่สองได้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงจับตาดูสัญญาณของภาวะอ่อนแอในวงกว้างอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินทิศทางตลาดในอนาคตค่ะ
โดยรวมแล้ว ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์กำลังเผชิญกับแนวโน้มที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบเหล่านี้ก็ถูกถ่วงดุลด้วยความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน จึงส่งผลให้ DJIA อาจจะยังได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงิน รายได้บริษัทที่แข็งแกร่ง และการบริโภคภาคครัวเรือนที่ยังคงยืดหยุ่น แม้ว่าความเสี่ยงทางเศรษฐกิจมหภาคจะยังคงมีอยู่ค่ะ
บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิคหุ้นสหรัฐ
ปัจจุบัน US30 กำลังพักฐานล่าสุดที่บริเวณใกล้ระดับสูงสุด หลังจากปรับตัวลงเล็กน้อยจากโซนจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดัชนียังคงทรงตัวอยู่เหนือแนวรับบริเวณ 45,200–45,300 แสดงให้เห็นว่าโมเมนตัมเชิงบวกในระยะสั้นยังคงแข็งแรง โดยหากสามารถยืนเหนือแนวรับนี้ได้อย่างมั่นคง อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการดีดตัวขึ้นรอบใหม่ค่ะ
ทางด้านแนวต้านถัดไปจะอยู่ที่ระดับ 45,800 และแนวต้านจิตวิทยาที่ระดับ 46,000 ซึ่งหากสามารถทะลุผ่านได้อย่างชัดเจน ก็อาจเปิดทางสู่เป้าหมายถัดไปบริเวณ 46,500 ในระยะสั้นค่ะ
เครื่องมือชี้วัดโมเมนตัมยังคงสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้น โดย RSI อยู่บริเวณระดับ 60 กลาง ๆ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในทางบวกโดยยังไม่เข้าสู่ภาวะร้อนแรงเกินไปค่ะ อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถยืนเหนือระดับ 45,200 ได้ ก็อาจมีความเสี่ยงที่จะถอยลงมาสู่แนวรับลึกกว่า เช่น 44,800 และ 44,400 ได้ค่ะ
สรุปภาพรวมทางเทคนิคของ US30 ยังอยู่ในโซนขาขึ้นไปจนถึงทรงตัว แม้โมเมนตัมยังคงเอื้อต่อการขยับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 46,000 ขึ้นไป แต่คุณน้าคิดว่านักลงทุนควรจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าแนวรับที่ระดับ 45,200 จะสามารถประคองราคาไว้ได้หรือไม่ เพราะถ้าหลุดลงไป อาจเป็นสัญญาณของการเข้าสู่ช่วงพักฐานที่ลึกขึ้นค่ะ
📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (US30 / DJIA)
- แนวรับสำคัญ : 45399.4, 45363.0, 45304.2
- แนวต้านสำคัญ : 45517.0, 45553.4, 45612.2
ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มหุ้นสหรัฐ
ที่มา : Forexfactory
กำหนดการรายงานผลประกอบการ
ที่มา : TradingView
📍หุ้นสหรัฐที่น่าจับตามอง
- Walmart (WMT): กำลังทรงตัวใกล้แนวรับบริเวณ $100 ค่ะ แนวต้านแรกอยู่ที่ $103.50 และหากสามารถทะลุขึ้นไปได้ มีโอกาสขยับต่อไปยัง $107–$110 ได้ในระยะถัดไป โดยโมเมนตัมยังค่อนข้างทรงตัว แต่จากลักษณะกราฟ ยังถือว่ามีความน่าสนใจสำหรับการสะสม หากราคายืนเหนือ $98 ได้ค่ะ
- Home Depot (HD): โครงสร้างราคายังคงเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน โดยยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันได้อย่างมั่นคง แนวต้านต่อไปอยู่ที่ $422–$425 หากโมเมนตัมยังต่อเนื่อง อาจมีโอกาสกลับไปทดสอบที่ $439 ได้ ขณะที่แนวรับที่ควรจับตามอง คือ $400 ค่ะ
- Lowe’s (LOW): ราคายังเคลื่อนไหวเหนือแนวรับสำคัญที่ $265 และกำลังมุ่งหน้าสู่แนวต้านที่ $275–$283 ค่ะ โมเมนตัมยังอยู่ในแดนบวก แต่ RSI อยู่ใกล้ระดับ 65 แสดงว่า อาจเริ่มมีแรงขายทำกำไรในระยะสั้นก่อนที่จะไปต่อได้ค่ะ
- Best Buy (BBY): อ่อนตัวลง โดยมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ $74–$75 และถ้าหลุดระดับนี้ อาจเผชิญแรงขายต่อไปสู่ $70 ได้ค่ะ ด้านแนวต้านอยู่ที่ $80 ซึ่งหากยังไม่สามารถกลับมายืนเหนือ $80 พร้อมปริมาณซื้อที่สูง ก็อาจส่งผลให้ยังอยู่ในแนวโน้มขาลงต่อไปค่ะ
- Dollar General (DG): แม้ยังอยู่ในแนวโน้มขาลงระยะยาว แต่กำลังเริ่มแสดงสัญญาณของการตั้งฐานค่ะ แนวรับอยู่ที่ $105 และแนวต้านอยู่ที่ $115 หากสามารถทะลุผ่าน $115 ได้ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการกลับตัวขึ้นได้ค่ะ ขณะที่โมเมนตัมยังอ่อนตัวลง แต่ MACD เริ่มมีแนวโน้มตัดขึ้นเหนือเส้นสัญญาณ ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกในระยะต้นค่ะ
- Dick’s Sporting Goods (DKS): อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งมาก แนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ $225–$228 หากสามารถทะลุผ่านได้ อาจไปต่อถึง $240 ได้ค่ะ ส่วนแนวรับสำคัญ คือ $215 ถ้ายังสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ แนวโน้มเชิงบวกจะยังคงอยู่ ขณะที่ RSI อยู่ที่ประมาณ 68 ซึ่งหมายถึงแรงซื้อยังมีอยู่มาก แต่ก็เริ่มเข้าสู่โซนร้อนแรงเล็กน้อยแล้วค่ะ
🔍คุณน้าแนะนำเทรดหุ้น CFD ไปกับโบรกเกอร์ IUX
IUX มีการให้บริการซื้อขายหุ้น CFD ประกอบไปด้วยหุ้นกลุ่ม Magnificent Seven (M7) อีกทั้งยังมีหุ้นให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Coca Cola, Adobe, Alibaba, McDonalds Incorporated และ Netflix เป็นต้น ทำให้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และเทรดเดอร์รายย่อยที่มีต้นทุนจำกัดแล้วต้องการซื้อขายหุ้นระดับโลก
สรุปคุยหุ้นสหรัฐและแนวโน้มในการลงทุน (US30 / DJIA)
จุดน่าเข้า Buy
- Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 45249.4 – 45399.4 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 45399.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 45555.9 และ SL ที่ประมาณ 45174.4 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 45517.0 – 45667.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 45709.9 และ SL ที่ประมาณ 45324.4 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดน่าเข้า Sell
- Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 45517.0 – 45667.0 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 45517.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 45399.4 และ SL ที่ประมาณ 45742.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 45249.4 – 45399.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 45215.0 และ SL ที่ประมาณ 45592.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
คำเตือน
บทวิเคราะห์นี้ใช้สำหรับการศึกษาข้อมูลของหุ้นสหรัฐเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลของสินทรัพย์และศึกษาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ประกอบกับศึกษาแนวโน้มหุ้นและข่าวสหรัฐก่อนตัดสินใจลงทุน
สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge
