คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 10 พฤศจิกายน 2025

คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 10 พฤศจิกายน 2025
Table of Contents

หุ้นสหรัฐถือเป็นหุ้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งการเคลื่อนไหวของหุ้นสหรัฐเพียงหนึ่งครั้งก็สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอื่น ๆ ทั่วโลก ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาคุยหุ้น เจาะลึกปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงและมุมมองในการลงทุน สายวิเคราะห์หุ้นสหรัฐห้ามพลาดบทความนี้!

คุยหุ้นสหรัฐวันนี้ (US30 / DJIA)

บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐานหุ้นสหรัฐ

สัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวลดลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่ยาวนานเป็นประวัติการณ์ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เปราะบาง และมูลค่าหุ้นเทคโนโลยีที่สูงเกินไปค่ะ

อย่างไรก็ดี แรงดีดตัวในช่วงท้ายของการซื้อขายเกิดขึ้นหลังมีรายงานว่ารัฐสภาสหรัฐฯ มีความคืบหน้าในการยุติภาวะชัตดาวน์ ขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี ท่ามกลางข้อมูลภาคเอกชนที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงอ่อนแอ รวมถึงมีการประกาศเลิกจ้างเพิ่มขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์มากขึ้นว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนหน้า แม้เจ้าหน้าที่จะเตือนว่าการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมยังไม่แน่นอนค่ะ

ทั้งนี้ ในบรรดาหุ้นในดัชนีดาวโจนส์ หุ้นที่ปรับตัวขึ้นนำได้แก่ Coca-Cola (+2.24%) Sherwin-Williams (+1.92%) และ Amgen (+1.43%) ส่วนหุ้นที่ปรับตัวลดลงมากที่สุด ได้แก่ IBM (-2.02%) Nike (-1.6%) และ Caterpillar (-1.23%) ค่ะ

อีกด้าน หุ้น Expedia พุ่งขึ้น 18.8% หลังยอดการจองแบบ B2B ที่แข็งแกร่งช่วยให้ผลประกอบการไตรมาสล่าสุดออกมาดีกว่าที่คาด ขณะที่ Akamai Technologies และ Celanese ต่างก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 14% ค่ะ ในทางตรงกันข้าม Take-Two Interactive ร่วงลง 8% หลังประกาศเลื่อนการเปิดตัวเกม Grand Theft Auto VI ไปเป็นช่วงปลายปี 2026 ส่วน Microchip Technology ลดลง 6.6% หลังให้แนวโน้มยอดขายที่อ่อนแอค่ะ

ในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ลดลง 3.7% หลังผู้ถือหุ้นอนุมัติแพ็กเกจค่าตอบแทนมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ให้ซีอีโอ Elon Musk ส่วน Peloton ปรับขึ้นหลังรายได้ออกมาดีกว่าคาดจากไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ค่ะ

ในขณะเดียวกัน Kenvue พุ่งขึ้นกว่า 18% หลังตกลงให้ Kimberly-Clark เข้าซื้อกิจการมูลค่า 48.7 พันล้านดอลลาร์ และ Yum! Brands เพิ่มขึ้น 7% จากการพิจารณาเชิงกลยุทธ์สำหรับ Pizza Hut ค่ะ

ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าผลประกอบการของบริษัทส่วนใหญ่จะแข็งแกร่ง โดยกว่า 83% ของบริษัทใน S&P 500 ทำผลประกอบการได้ดีกว่าที่คาด แต่นักลงทุนยังคงใช้ความระมัดระวังอยู่มาก นักวิเคราะห์เตือนว่าตลาดหุ้นขาขึ้นในปัจจุบันอาจกำลังเข้าสู่ช่วงที่ผลตอบแทนระยะยาวเริ่มลดลง เนื่องจากมูลค่าหุ้นที่สูง ปัจจัยหนุนทางเศรษฐกิจที่เริ่มอ่อนแรง และสัญญาณการเติบโตที่ชะลอตัวค่ะ

ด้านนักกลยุทธ์ตลาดคาดว่า ความแข็งแกร่งของดาวโจนส์สะท้อนถึงการหมุนเวียนเงินทุนเข้าสู่หุ้นเชิงป้องกันและหุ้นมูลค่า ในขณะที่หุ้นเทคโนโลยียังเผชิญแรงกดดันจากความกังวลเรื่องฟองสบู่ AI อีกทั้ง เนื่องจากภาวะชัตดาวน์ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญไม่ชัดเจน และตลาดแรงงานเริ่มส่งสัญญาณอ่อนแรง นักลงทุนจึงมีแนวโน้มที่จะรักษาท่าทีระมัดระวังต่อไปก่อนการประชุมเฟดครั้งถัดไป รวมถึงก่อนการรายงานผลประกอบการของ Walt Disney Cisco และ Nvidia ค่ะ

อย่างไรก็ดี จากมุมมองพื้นฐาน ดัชนีดาวโจนส์อยู่ในจุดที่ปัจจัยด้านการประเมินมูลค่า ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาค และความคาดหวังต่อผลกำไรของบริษัทมาบรรจบกันค่ะ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ดัชนี US30 อาจมีแนวโน้มได้รับแรงหนุนจากหุ้นเชิงป้องกัน เช่น หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มั่นคง และหุ้นสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน รวมถึงจากการหมุนเวียนเงินทุนออกจากหุ้นเติบโตแรง มากกว่าที่จะได้แรงผลักจากบรรยากาศการลงทุนเชิงรุก เว้นแต่ว่าจะมีปัจจัยภายนอกใหม่ ๆ เข้ามากระตุ้นตลาด เช่น การเร่งตัวของการเติบโตของกำไรบริษัท การยุติภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลกลาง หรือทิศทางนโยบายการเงินจากธนาคารกลางที่ชัดเจนมากขึ้น ดัชนีนี้จึงยังมีความเสี่ยงที่จะเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก หรือผลประกอบการที่ออกมาต่ำกว่าคาด มากกว่าที่จะเห็นการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากระดับปัจจุบันค่ะ

บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิคหุ้นสหรัฐ

คุยหุ้นสหรัฐ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2025

ดัชนี US30 ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบขาขึ้นอย่างมั่นคง โดยสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ EMA 20 วัน และ SMA 50 วัน ค่า RSI แสดงถึงแรงโมเมนตัมเชิงบวกที่ยังดำเนินต่อไป แต่ก็เริ่มเข้าใกล้เขตซื้อมากเกินไปเล็กน้อย ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการพักฐานระยะสั้นค่ะ

ด้านแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่บริเวณ 47,450–47,650 จุด และมีแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 48,000 จุด หากดัชนียังคงยืนเหนือโซน 47,100 จุดได้ต่อเนื่อง มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดการทะลุขึ้นเพื่อทดสอบบริเวณ 48,200–48,500 จุดในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าค่ะ อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถรักษาระดับเหนือ 46,500 จุดได้ อาจมีแรงขายทำให้ดัชนีอ่อนตัวลงมาทดสอบแนวรับที่ 45,900 จุด และหากหลุดระดับดังกล่าว แนวถัดไปจะอยู่ที่ประมาณ 45,300 จุดค่ะ

โดยสรุป คุณน้ามองว่าดัชนี US30 มีแนวโน้มจะคงทิศทางเชิงบวกต่อเนื่องในช่วง 2–4 สัปดาห์ข้างหน้า โดยมีเป้าหมายที่บริเวณ 48,000–48,500 จุด หากสามารถยืนเหนือโซนแนวรับ 46,500 จุดได้ค่ะ แม้โมเมนตัมระยะสั้นอาจชะลอลงจากสัญญาณ overbought แต่โครงสร้างโดยรวมของตลาดยังคงแข็งแรงค่ะ ตราบใดที่ความคาดหวังเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ และผลประกอบการของหุ้นขนาดใหญ่ยังมีความยืดหยุ่น ทิศทางในระยะกลางของดาวโจนส์ยังคงมุ่งสู่การปรับตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยคุณน้ามองว่าช่วงการอ่อนตัวลงระหว่างทางยังคงเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสมภายในแนวโน้มขาขึ้นระยะยาวค่ะ

📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (US30 / DJIA)

  • แนวรับสำคัญ : 47071.0, 47055.9, 47031.6
  • แนวต้านสำคัญ : 47119.6, 47134.7, 47159.0

ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มหุ้นสหรัฐ

ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มหุ้นสหรัฐ

ที่มา : Forexfactory

กำหนดการรายงานผลประกอบการ

กำหนดการรายงานผลประกอบการ

ที่มา : TradingView

📍หุ้นสหรัฐที่น่าจับตามอง

  • Coca-Cola Company (KO): ยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นอย่างมั่นคง โดยซื้อขายอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน ค่า RSI สะท้อนแรงส่งในเชิงบวกในระดับปานกลางโดยยังไม่อยู่ในเขตซื้อมากเกินไป ส่วนเส้น MACD ยังคงอยู่เหนือเส้นสัญญาณ ซึ่งตอกย้ำโมเมนตัมขาขึ้น แต่เริ่มมีสัญญาณบ่งชี้ถึงการพักตัวระยะสั้นค่ะ โดยแนวต้านถัดไปอยู่บริเวณ 71.80–72.50 ดอลลาร์ ขณะที่แนวรับระยะใกล้อยู่ที่ประมาณ 69.00 ดอลลาร์ค่ะ รูปแบบปริมาณการซื้อขายแสดงถึงการสะสมอย่างค่อยเป็นค่อยไป บ่งบอกถึงแรงสนับสนุนจากสถาบันการลงทุนค่ะ โดยรวมแล้ว มุมมองทางเทคนิคของ KO ยังคงสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้น โดยมีแรงจูงใจจากเงินปันผลที่แข็งแกร่งในสภาพแวดล้อมที่อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับสูงค่ะ
  • Microchip Technology Inc. (MCHP): อยู่ในช่วงสร้างฐานระยะสั้นหลังจากการปรับฐานลงมาเล็กน้อย ราคาปัจจุบันเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วันเล็กน้อย แต่ยังอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ซึ่งสะท้อนถึงโครงสร้างระยะยาวที่ยังแข็งแรงค่ะ ค่า RSI อยู่ในโซนเป็นกลางแต่มีโอกาสฟื้นตัวหากแรงส่งเริ่มกลับมา ส่วน MACD ทรงตัวและมีแนวโน้มจะกลับตัวขึ้นเป็นขาขึ้นอีกครั้ง หากราคาทะลุระดับ 57.50 ดอลลาร์ได้ค่ะ โดยการปิดเหนือระดับ 58.00 ดอลลาร์อย่างชัดเจนอาจเปิดทางให้ขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 61.00 ดอลลาร์ ขณะที่หากราคาหลุดแนวรับ 55.00 ดอลลาร์ อาจมีการย่อลงมาทดสอบระดับ 53.50 ดอลลาร์อีกครั้งค่ะ
  • International Business Machines (IBM): ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ราคาปัจจุบันซื้อขายอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยหลักทั้งหมด ค่า RSI สะท้อนแรงส่งที่แข็งแรง แต่เข้าใกล้เขตซื้อมากเกินไป อาจมีการพักฐานหรือย่อตัวเล็กน้อยในระยะสั้นค่ะ โดยหาก IBM สามารถยืนเหนือระดับ 305 ดอลลาร์ได้ต่อเนื่อง เป้าหมายถัดไปจะอยู่ในช่วง 315–320 ดอลลาร์ โดยมีแนวรับเบื้องต้นที่ 298 ดอลลาร์ค่ะ โดยรวมแล้ว รูปแบบทางเทคนิคยังสะท้อนแนวโน้มที่แข็งแรง ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ AI ของภาคองค์กรค่ะ
  • Expedia Group (EXPE): แสดงโครงสร้างแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง สอดคล้องกับความยืดหยุ่นของภาคการท่องเที่ยวและรายได้ที่เติบโตดีค่ะ ราคาซื้อขายอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน และ 100 วัน ซึ่งยืนยันถึงความแข็งแรงในระดับกลาง ค่า RSI แสดงแรงส่งที่ดีโดยยังไม่เข้าสู่เขตซื้อมากเกินไป ส่วน MACD ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางบวก บ่งชี้ถึงโอกาสปรับขึ้นต่อไปสู่แนวต้านบริเวณ 265–270 ดอลลาร์ค่ะ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในช่วงราคาปรับขึ้นล่าสุดสะท้อนแรงซื้อที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางมุมมองทางเทคนิคระยะสั้นยังคงเป็นบวก โดยมีระดับ 250 ดอลลาร์เป็นจุดหมุนสำคัญ หากมีการปิดเหนือระดับ 260 ดอลลาร์จะเป็นสัญญาณยืนยันของการทะลุช่วงถัดไปค่ะ
  • Yum! Brands Inc. (YUM): เพิ่งทะลุเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันขึ้นมาได้ ถือเป็นสัญญาณของแรงส่งใหม่หลังจากผ่านช่วงพักตัวหลายสัปดาห์ค่ะ ค่า RSI บ่งชี้ถึงแรงซื้อที่ต่อเนื่องแต่ยังอยู่ในกรอบจำกัด ส่วน MACD พลิกกลับมาเป็นบวกในสัปดาห์ที่ผ่านมา ยืนยันการเริ่มต้นของรอบขาขึ้นใหม่ค่ะ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายแสดงสัญญาณการสะสม สอดคล้องกับแนวโน้มที่หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคเชิงป้องกันกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งค่ะ โดยแนวต้านถัดไปอยู่ที่ 152.50–154.00 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับสำคัญอยู่ที่ 146.00 ดอลลาร์ ตราบใดที่ราคายังคงยืนเหนือ 145.20 ดอลลาร์ แนวโน้มโดยรวมยังถือว่าอยู่ในทิศทางบวก สนับสนุนการฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปค่ะ

🔍คุณน้าแนะนำเทรดหุ้น CFD ไปกับโบรกเกอร์ IUX

เทรดหุ้น CFD กับ IUX โบรกเกอร์หุ้นค่าธรรมเนียมถูก

IUX มีการให้บริการซื้อขายหุ้น CFD ประกอบไปด้วยหุ้นกลุ่ม Magnificent Seven (M7) อีกทั้งยังมีหุ้นให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Coca Cola, Adobe, Alibaba, McDonalds Incorporated และ Netflix เป็นต้น ทำให้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และเทรดเดอร์รายย่อยที่มีต้นทุนจำกัดแล้วต้องการซื้อขายหุ้นระดับโลก

สรุปคุยหุ้นสหรัฐและแนวโน้มในการลงทุน (US30 / DJIA)

จุดน่าเข้า Buy

  • Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 47001.0 – 47071.0 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 47071.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 47126.6 และ SL ที่ประมาณ 46966.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
  • Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 47119.6 – 47189.6 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 47202.0 และ SL ที่ประมาณ 47036.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

จุดน่าเข้า Sell

  • Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 47119.6 – 47189.6 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 47119.6 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 47062.9 และ SL ที่ประมาณ 47224.6 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
  • Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 47001.0 – 47071.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 46983.0 และ SL ที่ประมาณ 47154.6 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

คำเตือน

บทวิเคราะห์นี้ใช้สำหรับการศึกษาข้อมูลของหุ้นสหรัฐเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลของสินทรัพย์และศึกษาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ประกอบกับศึกษาแนวโน้มหุ้นและข่าวสหรัฐก่อนตัดสินใจลงทุน


สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

Picture of คุณน้า
คุณน้า
Table of Contents
Recent Post
Recent Post
คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 10 พฤศจิกายน 2025
คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 10 พฤศจิกายน 2025

ในบทความนี้เราจะมาคุยหุ้น เจาะลึกปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงและมุมมองในการลงทุน สายหุ้นสหรัฐห้ามพลาดบทความนี้!

บทวิเคราะห์คู่เงิน AUDUSD 9 พฤศจิกายน 2025
บทวิเคราะห์ AUDUSD วันที่ 9 พฤศจิกายน 2025

พบกับวิเคราะห์ AUDUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

บทวิเคราะห์คู่เงิน USDRUB 8 พฤศจิกายน 2025
บทวิเคราะห์ USDRUB วันที่ 8 พฤศจิกายน 2025

พบกับวิเคราะห์ USDRUB ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

ตลาด Forex เปิดกี่โมง
Forex 101 : ตลาด Forex เปิด-ปิดกี่โมง? และเทรดเวลาไหนดีที่สุด

ตลาด Forex เปิด – ปิดกี่โมง เป็นสิ่งที่เทรดเดอร์มือใหม่ควรรู้ เนื่องจากเวลาเปิด-ปิดของแต่ละโซนไม่เหมือนกันซึ่งปกติตลาด Forex 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ทั่วโลก

ทางเว็บไซต์ คุณน้าพาเทรด
ได้มีการใช้คุกกี้เพื่อช่วยปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้เว็บไซต์ของเราดียิ่งขึ้น


Privacy Policy