คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมองวันที่ 14 ธันวาคม 2025

คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 14 ธันวาคม 2025
Table of Contents

หุ้นสหรัฐถือเป็นหุ้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งการเคลื่อนไหวของหุ้นสหรัฐเพียงหนึ่งครั้งก็สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอื่น ๆ ทั่วโลก ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาคุยหุ้น เจาะลึกปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงและมุมมองในการลงทุน สายวิเคราะห์หุ้นสหรัฐห้ามพลาดบทความนี้!

คุยหุ้นสหรัฐวันนี้ (US 500/ S&P 500)

บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐานหุ้นสหรัฐ

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับฐานลงแรงในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยดัชนี S&P 500 ร่วงลง 1.07% ปิดที่ระดับ 6,827 จุด หลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI ถูกเทขายอีกระลอกจนกลบความเชื่อมั่นเชิงบวกต่อภาพเศรษฐกิจในวงกว้างค่ะ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้นได้กดดันมูลค่าหุ้น หลังเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หลายรายซึ่งไม่เห็นด้วยกับการลดดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ ออกมาเตือนว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนกลับมาอยู่ในโหมดระมัดระวัง แม้ว่าตลาดยังคาดหวังการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในปี 2026 ก็ตาม ส่งผลให้นักลงทุนจึงเริ่มหมุนเงินออกจากหุ้นเติบโตสูงไปสู่กลุ่มหุ้นเชิงรับ โดยหุ้นเทคโนโลยีเผชิญการปรับลงรายวันที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมค่ะ

นอกจากนี้ แรงกดดันหลักยังมาจากหุ้น AI และเซมิคอนดักเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นตัวฉุดดัชนี S&P 500 มากที่สุด โดย Broadcom ร่วงลงถึง 11.4% หนักที่สุดในดัชนี หลังออกมาเตือนว่ามาร์จิ้นในอนาคตอาจแคบลง และผลตอบแทนจากโครงการศูนย์ข้อมูล AI ขนาดใหญ่จะใช้เวลานานกว่าคาด ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรของการลงทุน AI มูลค่ามหาศาลกลับมาอีกครั้งค่ะ ขณะที่ Oracle ปรับลงอีก 4.5% ส่งผลให้ในช่วงสองวันราคาร่วงรวมกว่า 15% หลังให้ประมาณการที่อ่อนแอ ซึ่งยิ่งตอกย้ำความกังวลเรื่องมูลค่าหุ้นที่ตึงตัวเกินไปในธุรกิจคลาวด์และโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ส่วน Nvidia ปรับลง 3.3% และดัชนี Philadelphia Semiconductor Index ดิ่งลงมากกว่า 5% สะท้อนแรงขายในวงกว้างของหุ้นชิป ไม่ว่าจะเป็น AMD Micron Lam Research Marvell และรายอื่น ๆ ส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมากมองความเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่าเป็นแรงขายทำกำไรหลังข่าวและความคาดหวังเชิงบวกถูกสะท้อนในราคาหุ้นไปแล้วของธีม AI มากกว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงลบของปัจจัยพื้นฐานระยะยาวค่ะ

นอกเหนือจากกลุ่มเทคโนโลยี หุ้นในดัชนี S&P 500 มีผลการดำเนินงานที่หลากหลายมากขึ้น สะท้อนการโยกย้ายเงินไปสู่หุ้นเชิงรับ โดยกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็นทำผลงานดีกว่าตลาด ขณะที่ Lululemon พุ่งขึ้นราว 9–10% กลายเป็นหนึ่งในหุ้นที่ปรับขึ้นแรงที่สุด หลังปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรทั้งปี และการประกาศการอำลาตำแหน่งของซีอีโอ ซึ่งนักลงทุนมองว่าเป็นปัจจัยบวกค่ะ ส่วน Costco แม้จะรายงานผลประกอบการและรายได้ดีกว่าคาด แต่ราคาหุ้นแทบไม่เปลี่ยนแปลง สะท้อนว่าความระมัดระวังของตลาดยังจำกัดอัพไซด์ แม้ปัจจัยพื้นฐานจะแข็งแกร่งก็ตาม ส่งผลให้โดยรวมแล้ว จำนวนหุ้นที่ปรับลงมีมากกว่าหุ้นที่ปรับขึ้นมากกว่าสองเท่า ยืนยันว่าการอ่อนตัวครั้งนี้เกิดขึ้นในวงกว้างค่ะ

โดยสรุป คุณน้ามองว่าการปรับลงของดัชนี S&P 500 ครั้งนี้ เป็นการปรับฐานจากมูลค่าที่ตึงตัว ซึ่งกระจุกตัวอยู่ในหุ้น AI และหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ประกอบกับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้น และการขายทำกำไรหลังทำจุดสูงสุดใหม่ มากกว่าจะเป็นการเปลี่ยนมุมมองต่อภาพเศรษฐกิจโดยรวมค่ะ แม้ว่าการคาดการณ์ระยะยาวจากธนาคารชั้นนำยังคงเป็นบวก โดยได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มการลดดอกเบี้ย การเติบโตที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการขยายตัวของกำไรจาก AI แต่การซื้อขายล่าสุดสะท้อนว่าทิศทางตลาดระยะสั้นมีความอ่อนไหวมากขึ้นต่อมาร์จิ้น ความชัดเจนของกระแสเงินสด และจังหวะเวลาที่การลงทุน AI จะเริ่มสร้างผลตอบแทน โดยปัจจัยพื้นฐานรายบริษัทจึงมีความสำคัญมากกว่า AI ในภาพรวมค่ะ

ทั้งนี้ จากมุมมองเชิงปัจจัยพื้นฐาน คุณน้าเห็นว่าดัชนี S&P 500 กำลังอยู่ในช่วงปรับมูลค่าระยะสั้น มากกว่าจะเป็นการเสื่อมถอยเชิงโครงสร้างของแนวโน้มในระยะยาว อย่างไรก็ดี ภาพรวมของกำไรบริษัทยังคงสนับสนุนตลาด โดยธนาคารรายใหญ่คาดว่า EPS จะเติบโตในระดับเลขหลักเดียวค่อนข้างสูง ไปจนถึงเลขสองหลักต่ำ ๆ ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2026 จากกิจกรรมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังแข็งแรง ความคาดหวังต่อนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลง และประสิทธิภาพการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากการนำ AI มาใช้งาน ที่สำคัญ แนวโน้มความสามารถในการทำกำไรของบริษัทขนาดใหญ่ในดัชนี เช่น Nvidia Apple Microsoft Alphabet Amazon Meta และ Broadcom ยังคงเป็นตัวกำหนดกำไรโดยรวมของดัชนี ทำให้ความผันผวนระยะสั้นกระจุกตัวอยู่ในหุ้นผู้นำตลาด มากกว่าจะกระจายไปทั่วทั้งตลาดค่ะ แม้ว่ามูลค่าที่ตึงตัวและความไม่แน่นอนของมาร์จิ้นในบางส่วนของห่วงโซ่อุปทาน AI จะยังเป็นความเสี่ยง แต่การหมุนเงินไปสู่หุ้นเชิงรับและหุ้นผู้บริโภคสะท้อนการปรับสมดุลภายในตลาดที่ยังดี ส่งผลให้ S&P 500 ยังคงมีปัจจัยพื้นฐานรองรับ ตราบใดที่โมเมนตัมกำไรและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโดยรวมยังคงอยู่ค่ะ

บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิคหุ้นสหรัฐ

คุยหุ้นสหรัฐ วันที่ 14 ธันวาคม 2025

จากมุมมองการคาดการณ์ทางเทคนิค ดัชนี S&P 500 (US500) กำลังเข้าสู่ช่วงพักฐานไปจนถึงปรับฐานในระยะสั้น ภายใต้แนวโน้มขาขึ้นระยะกลางที่ยังคงสมบูรณ์ หลังดัชนีไม่สามารถรักษาโมเมนตัมฝั่งขาขึ้นเหนือโซนแนวต้าน 6,900–6,950 ได้ ซึ่งเป็นระดับที่สอดคล้องกับสัญญาณโมเมนตัมที่ตึงตัวเกินไป โดย RSI รายวันได้ปรับตัวลงจากเขตซื้อมากเกินไปเข้าสู่โซนกลาง สะท้อนการชะลอตัวของโมเมนตัม มากกว่าจะเป็นสัญญาณกลับทิศของแนวโน้ม ขณะที่ราคายังยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันขาขึ้น ทำให้โครงสร้างขาขึ้นโดยรวมยังไม่ถูกทำลายในระยะนี้ค่ะ

ในระยะสั้น แนวรับทางเทคนิคสำคัญแรกอยู่ที่โซน 6,750–6,700 หากดัชนีหลุดลงต่ำกว่าบริเวณดังกล่าวอย่างชัดเจน มีโอกาสเปิดทางให้เกิดการปรับฐานที่ลึกขึ้นไปสู่โซน 6,550–6,600 อย่างไรก็ดี ตราบใดที่ดัชนียังสามารถยืนเหนือระดับ 6,600 ได้ การอ่อนตัวอาจเป็นเพียงการปรับฐานภายในโครงสร้างขาขึ้น มากกว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาลงค่ะ

ทางด้านฝั่งขาขึ้น การรีบาวด์ใด ๆ มีแนวโน้มเผชิญแรงขายบริเวณใกล้ 6,900 อีกครั้ง ขณะที่แนวต้านที่แข็งแกร่งอยู่ที่ช่วง 7,000–7,050 โดยการปรับตัวขึ้นต่อของดัชนีอาจต้องอาศัยสัญญาณการทรงตัวที่ชัดเจนจากหุ้นเซมิคอนดักเตอร์และหุ้นผู้นำขนาดใหญ่ เช่น NVDA MSFT และ AAPL หากยังไม่เห็นการยืนยันดังกล่าว การฟื้นตัวมีความเสี่ยงที่จะอ่อนแรงลงค่ะ

โดยภาพรวม โครงสร้างทางเทคนิคสะท้อนว่า US500 กำลังเปลี่ยนผ่านจากช่วงขาขึ้นที่ขับเคลื่อนด้วยโมเมนตัม ไปสู่การเคลื่อนไหวในกรอบมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อความผันผวนและการแกว่งตัวของราคาในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า โดยภาพรวมหลักยังคงเป็นการพักตัวในลักษณะไซด์เวย์ถึงอ่อนตัวลงภายในกรอบประมาณ 6,600–7,000 ขณะที่แนวโน้มระยะกลางยังถือว่าเป็นบวก ตราบใดที่แรงกดดันด้านมหภาคหรือผลประกอบการไม่สร้างแรงกระแทกจนดัชนีหลุดต่ำกว่าแนวรับของแนวโน้มหลักอย่างชัดเจนค่ะ

📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (US 500/ S&P 500)

  • แนวรับสำคัญ : 6815.8, 6810.1, 6800.9
  • แนวต้านสำคัญ : 6834.2, 6839.9, 6849.1

ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มหุ้นสหรัฐ

ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มหุ้นสหรัฐ

ที่มา : Forexfactory

กำหนดการรายงานผลประกอบการ

กำหนดการรายงานผลประกอบการ

ที่มา : TradingView

📍หุ้นสหรัฐที่น่าจับตามอง

  • NVIDIA (NVDA): ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นหลักบนกราฟรายสัปดาห์ แม้ขณะนี้เข้าสู่ช่วงปรับฐาน หลังไม่สามารถยืนเหนือจุดสูงสุดล่าสุดได้ ขณะที่โมเมนตัมเริ่มชะลอลง โดย RSI ปรับเข้าสู่โซนกลาง สะท้อนแรงซื้อที่ลดลง แนวรับทางเทคนิคสำคัญกระจุกตัวอยู่บริเวณ 168–170 ขณะที่แนวรับระยะกลางอยู่แถว 160 ส่วนแนวต้านหลักแรกอยู่ที่โซน 182–185 โดยเป็นระดับที่ราคาจำเป็นต้องกลับขึ้นไปยืนเหนือโซนดังกล่าวให้ได้ เพื่อยืนยันการกลับมาของโมเมนตัมฝั่งขาขึ้นค่ะ
  • Broadcom (AVGO): เผชิญความเสียหายทางเทคนิคอย่างชัดเจน หลังเกิดแรงขายหนักพร้อมปริมาณการซื้อขายสูงภายหลังประกาศผลประกอบการ ส่งผลให้ราคาหลุดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน และออกจากกรอบขาขึ้นเดิม แม้ RSI จะปรับลงเข้าสู่ภาวะขายมากเกินไปในช่วงสั้น ๆ ซึ่งอาจเปิดโอกาสให้เกิดการดีดกลับระยะสั้นได้ แต่โครงสร้างภาพรวมยังคงอ่อนแอ โดยแนวรับใกล้ที่สุดอยู่บริเวณ 340–345 ขณะที่โซน 380–390 กลายเป็นแนวต้านหลักในปัจจุบัน สะท้อนว่าการฟื้นตัวที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ยังมีแนวโน้มเป็นเพียงการรีบาวด์เพื่อปรับฐาน เว้นแต่ราคาจะสามารถทะลุผ่านแนวต้านดังกล่าวได้อย่างชัดเจนค่ะ
  • Oracle (ORCL): ได้เปลี่ยนจากแนวโน้มขาขึ้นเข้าสู่ภาวะพักฐานเชิงลบ หลังการเบรกขึ้นล้มเหลวและเกิดการปรับลงแรงต่อเนื่องหลายวัน ราคาซื้อขายอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยทั้งระยะสั้นและระยะกลาง ขณะที่ RSI เคลื่อนไหวต่ำกว่า 50 ยืนยันโมเมนตัมเชิงลบ โดยแนวรับบริเวณ 180 มีความสำคัญอย่างมากต่อการทรงตัวในระยะสั้น ส่วนแนวต้านสำคัญได้ขยับลงมาอยู่ที่ช่วง 195–200 ซึ่งราคาจำเป็นต้องกลับขึ้นไปยืนเหนือระดับดังกล่าวให้ได้ เพื่อช่วยปรับมุมมองทางเทคนิคให้ดีขึ้นค่ะ
  • Microsoft (MSFT): ยังคงแสดงความแข็งแกร่ง และทำหน้าที่เป็นหุ้นผู้นำภายในดัชนี S&P 500 โดยราคายังยืนเหนือทั้งเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน และ 200 วัน โดยการย่อตัวที่ผ่านมา สะท้อนแรงรองรับจากนักลงทุนสถาบัน และโครงสร้างแนวโน้มที่ยังสมบูรณ์ แนวรับทางเทคนิคอยู่ที่บริเวณ 455–460 ขณะที่หากราคาสามารถทะลุผ่านและยืนเหนือโซน 485–490 ได้อย่างต่อเนื่อง มีโอกาสกระตุ้นการเดินหน้าของแนวโน้มขาขึ้น และตอกย้ำบทบาทของ MSFT ในฐานะหุ้นที่ช่วยพยุงเสถียรภาพของตลาดค่ะ
  • Apple (AAPL): ยังคงซื้อขายอยู่ในกรอบแนวโน้มขาขึ้น และมีความผันผวนต่ำกว่าหุ้นกลุ่ม AI โดยตรง โดยราคายังไม่หลุดเส้นแนวโน้มขาขึ้นหลัก และยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยหลักได้อย่างมั่นคง สะท้อนโครงสร้างขาขึ้นที่ยังคงสมบูรณ์  และลักษณะของหุ้นเติบโตเชิงตั้งรับ แนวรับสำคัญอยู่ที่บริเวณ 270–272 ซึ่งมีบทบาทต่อการรักษาโครงสร้างขาขึ้น ส่วนการปรับขึ้นผ่านระดับ 285 ได้อย่างชัดเจน จะเป็นการยืนยันการเข้าสู่ขาขึ้นรอบใหม่ค่ะ

🔍คุณน้าแนะนำเทรดหุ้น CFD ไปกับโบรกเกอร์ IUX

เทรดหุ้น CFD กับ IUX โบรกเกอร์หุ้นค่าธรรมเนียมถูก

IUX มีการให้บริการซื้อขายหุ้น CFD ประกอบไปด้วยหุ้นกลุ่ม Magnificent Seven (M7) อีกทั้งยังมีหุ้นให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Coca Cola, Adobe, Alibaba, McDonalds Incorporated และ Netflix เป็นต้น ทำให้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และเทรดเดอร์รายย่อยที่มีต้นทุนจำกัดแล้วต้องการซื้อขายหุ้นระดับโลก

สรุปคุยหุ้นสหรัฐและแนวโน้มในการลงทุน (US 500/ S&P 500)

จุดน่าเข้า Buy

  • Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 6799.8 – 6815.8 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 6815.8 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6838.9 และ SL ที่ประมาณ 6791.8 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
  • Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 6834.2 – 6850.2 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6863.0 และ SL ที่ประมาณ 6807.8 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้  

จุดน่าเข้า Sell

  • Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 6834.2 – 6850.2 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 6834.2 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6814.8 และ SL ที่ประมาณ 6858.2 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
  • Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 6799.8 – 6815.8 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6790.7 และ SL ที่ประมาณ 6842.2 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

คำเตือน

บทวิเคราะห์นี้ใช้สำหรับการศึกษาข้อมูลของหุ้นสหรัฐเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลของสินทรัพย์และศึกษาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ประกอบกับศึกษาแนวโน้มหุ้นและข่าวสหรัฐก่อนตัดสินใจลงทุน


สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

Picture of คุณน้า
คุณน้า
Table of Contents
Recent Post
Recent Post
วิเคราะห์ GBPUSD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 14 ธันวาคม 2025
วิเคราะห์ GBPUSD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 14 ธันวาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ GBPUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 14 ธันวาคม 2025
คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมองวันที่ 14 ธันวาคม 2025

ในบทความนี้เราจะมาคุยหุ้น เจาะลึกปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงและมุมมองในการลงทุน สายหุ้นสหรัฐห้ามพลาดบทความนี้!

บทวิเคราะห์คู่เงิน EURUSD 12 ธันวาคม 2025
บทวิเคราะห์ EURUSD วันที่ 12 ธันวาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ EURUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

บทวิเคราะห์คู่เงิน USDRUB 12 ธันวาคม 2025
บทวิเคราะห์ USDRUB วันที่ 12 ธันวาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ USDRUB ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

ทางเว็บไซต์ คุณน้าพาเทรด
ได้มีการใช้คุกกี้เพื่อช่วยปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้เว็บไซต์ของเราดียิ่งขึ้น


Privacy Policy