คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 19 สิงหาคม 2025

คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 19 สิงหาคม 2025
Table of Contents

หุ้นสหรัฐถือเป็นหุ้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งการเคลื่อนไหวของหุ้นสหรัฐเพียงหนึ่งครั้งก็สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอื่น ๆ ทั่วโลก ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาคุยหุ้น เจาะลึกปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงและมุมมองในการลงทุน สายวิเคราะห์หุ้นสหรัฐห้ามพลาดบทความนี้!

คุยหุ้นสหรัฐวันนี้ (US 500/ S&P 500)

บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐานหุ้นสหรัฐ

ดัชนี S&P 500 ล่าสุด เผชิญแรงกดดันจากความอ่อนแอของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการเงินรายใหญ่ แม้ว่าตลาดในภาพรวมยังสามารถรักษาผลตอบแทนติดต่อกันไว้ได้เป็นสัปดาห์ที่สอง โดยตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นเกือบ 1% โดยได้รับแรงสนับสนุนจากความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน โดยตลาดฟิวเจอร์สให้น้ำหนักถึง 83% ที่ Fed จะลดดอกเบี้ยลง 0.25 จุด อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาแบบผสมผสาน เช่น ยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งขึ้นแต่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและการผลิตภาคอุตสาหกรรมอ่อนตัวลง ทำให้นักลงทุนยังคงระมัดระวัง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อ ผู้ผลิตที่เร่งตัวขึ้นในสัปดาห์ก่อน ก็ลดทอนความเชื่อมั่นลงบางส่วนด้วยเช่นกันค่ะ

นอกจากนี้ การรายงานผลประกอบการของบริษัทก็มีผลต่อความเคลื่อนไหวของดัชนี S&P 500 ด้วยเช่นกัน ขณะนี้บริษัทที่อยู่ในดัชนีเกือบ 90% ได้รายงานผลประกอบการไตรมาสเดือนมิถุนายนออกมาแล้ว โดย 81% ของบริษัทรายงานผลกำไรที่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งสำหรับสัปดาห์ถัดไป ตลาดจะจับตาผลประกอบการจากค้าปลีกยักษ์ใหญ่อย่าง Walmart, Target, Home Depot, Lowe’s และ TJX ที่จะสะท้อนถึงภาวะการใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐฯ ได้ชัดเจนมากขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากแผนการของประธานาธิบดีทรัมป์ที่จะเก็บภาษีนำเข้ากลุ่มเหล็กและเซมิคอนดักเตอร์ค่ะ

ในด้านการเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวนั้นมีทั้งบวกและลบ โดยหุ้นของ Applied Materials ร่วงลงถึง 14% หลังจากบริษัทประกาศแนวโน้มผลประกอบการที่อ่อนแอ ซึ่งส่งผลกระทบต่อกลุ่มหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ ขณะที่หุ้นของ Intel กลับปรับตัวขึ้น 2.9% จากกระแสข่าวลือว่า รัฐบาลสหรัฐฯ อาจเข้าซื้อหุ้นของบริษัท นอกจากนี้ หุ้นของ Bank of America ยังอ่อนตัวลง 1.6% หลังจาก Berkshire Hathaway ปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นลง ด้านหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานได้รับความสนใจมากขึ้น ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าอาจมีความเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ครั้งใหญ่ในเขตอาร์กติก จากการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียค่ะ

แม้ตลาดจะเผชิญกับแรงขายในช่วงปลายสัปดาห์ แต่นักลงทุนยังคงจับตาไปที่ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed ซึ่งมีกำหนดจะกล่าวสุนทรพจน์ที่งานประชุม Jackson Hole ซึ่งอาจช่วยยืนยันความคาดหวังเกี่ยวกับทิศทางนโยบายผ่อนคลายการเงินในระยะต่อไปได้ค่ะ ส่งผลให้ในช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ฟิวเจอร์สดัชนี S&P 500 ปรับขึ้นเล็กน้อย 0.1% ซึ่งเป็นการต่อยอดจากการปรับขึ้นในสัปดาห์ก่อน และช่วยให้ดัชนียังอยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ทั้งนี้ แม้จะมีแนวโน้มผลประกอบการที่แข็งแกร่งและความคาดหวังต่อนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย แต่ดัชนียังคงเผชิญกับความเสี่ยงจากระดับมูลค่าหุ้นที่ค่อนข้างสูง ความผันผวนของตลาดที่ต่ำผิดปกติ และความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการค้าและพลังงาน งานประชุม Jackson Hole และผลประกอบการของภาคค้าปลีกจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่จะกำหนดทิศทางตลาดในระยะสั้นว่าจะสามารถเดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง หรือจะเผชิญแรงขายรอบใหม่ค่ะ

บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิคหุ้นสหรัฐ

คุยหุ้นสหรัฐ วันที่ 19 สิงหาคม 2025

ดัชนี US500 ยังคงแสดงภาพรวมเชิงบวก หลังจากดีดกลับขึ้นจากแนวรับโซน 6,350–6,370 จุด การเคลื่อนไหวเหนือ MA50 และเส้น MA100 ที่กำลังไล่ระดับขึ้น ยังคงสนับสนุนมุมมองในทิศทางขาขึ้น โดย RSI รายวันปรับตัวกลับขึ้นเหนือโซน 55 สะท้อนถึงแรงซื้อที่เริ่มกลับมาคุมทิศทางได้ค่ะ

ในแนวโน้มระยะสั้น หาก US500 สามารถรักษาฐานเหนือ 6,420 ได้อย่างมั่นคง จะมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 6,500 จุด และหากทะลุผ่านไปได้ จะเปิดทางไปสู่โซน 6,550–6,600 จุด โดยคุณน้าเห็นว่า หากแรงซื้อยังคงหนาแน่น อาจได้เห็นการไล่ระดับไปถึง 6,650 จุด ในรอบถัดไปค่ะ

อย่างไรก็ตาม หากดัชนี US500 หลุดต่ำกว่า 6,400 จุด และปิดต่ำกว่าระดับนี้ โมเมนตัมเชิงบวกอาจเริ่มชะลอตัวลง และมีโอกาสที่ดัชนีจะอ่อนตัวลงไปทดสอบแนวรับบริเวณ 6,350 จุด ในขณะเดียวกัน หากมีการปรับฐานรุนแรงกว่าที่คาดไว้ ก็อาจเห็นการถอยลงมาถึงโซน 6,300 จุดได้เช่นกัน ดังนั้น นักลงทุนอาจเน้นเล่นตามแนวโน้มขาขึ้น แต่ให้ตั้งจุด Stop Loss ไว้ใต้ระดับ 6,400 จุด เพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงค่ะ

📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (US 500/ S&P 500)

  • แนวรับสำคัญ : 6440.0, 6433.4, 6422.8            
  • แนวต้านสำคัญ : 6461.2, 6467.8, 6478.4

ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มหุ้นสหรัฐ

ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มหุ้นสหรัฐ

ที่มา : Forexfactory

กำหนดการรายงานผลประกอบการ

กำหนดการรายงานผลประกอบการ

ที่มา : TradingView

📍หุ้นสหรัฐที่น่าจับตามอง

  • UnitedHealth Group (UNH) : กลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ Berkshire Hathaway เปิดเผยการเข้าลงทุนในบริษัท ซึ่งช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อหุ้นในกลุ่มประกันสุขภาพ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีแรงกดดันด้านต้นทุนเพิ่มขึ้นในภาคการแพทย์โดยรวม และราคาหุ้นของ UnitedHealth ที่ร่วงลงไปกว่า 40% เมื่อต้นปี การเข้าถือหุ้นโดย Berkshire รวมถึงความสนใจจากกองทุนอื่น ๆ ได้เปลี่ยนบรรยากาศการลงทุนใหม่อีกครั้ง ซึ่งคุณน้ามองว่า หากแรงซื้อยังคงมีอย่างต่อเนื่อง UNH ก็อาจกลายเป็นหุ้นฟื้นตัวที่น่าจับตามองค่ะ โดยในมุมมองทางเทคนิค ขณะนี้ราคาหุ้นกำลังทดสอบแนวต้านบริเวณ 310–315 ดอลลาร์ หากสามารถผ่านระดับนี้ไปได้ มีโอกาสขึ้นไปทดสอบโซน 325–330 ดอลลาร์ต่อไป ส่วนแนวรับระยะสั้นอยู่แถว 295 ดอลลาร์ หากยังสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ แนวโน้มการฟื้นตัวก็ยังคงน่าสนใจค่ะ
  • Applied Materials (AMAT) : ประสบปัญหาหลังจากบริษัทประกาศแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4 ที่อ่อนแอกว่าคาดการณ์ การปรับตัวลงของราคาหุ้นสะท้อนถึงความไม่แน่นอนที่ยังคงอยู่ในอุตสาหกรรมเครื่องจักรผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีความผันผวนตามวัฏจักรเศรษฐกิจ และกำลังเผชิญกับแรงกดดันในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม คุณน้ามองว่าแนวโน้มระยะยาวยังคงเป็นบวก เนื่องจากความต้องการชิปทั่วโลกยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะจากการเติบโตของ AI และโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ค่ะ สำหรับในเชิงเทคนิค ราคาหุ้นกำลังทดสอบแนวรับบริเวณ 160 ดอลลาร์ การเคลื่อนไหวระยะสั้นอาจแกว่งตัวในกรอบ 155–165 ดอลลาร์ หากสามารถยืนเหนือระดับ 155 ดอลลาร์ได้ ยังมีโอกาสรีบาวด์กลับขึ้นไปแถว 170–175 ดอลลาร์ แต่หากหลุดแนวดังกล่าว อาจเผชิญแรงขายต่อเนื่อง โดยมีแนวรับสำคัญถัดไปบริเวณ 145–150 ดอลลาร์ค่ะ
  • Intel (INTC) : ได้รับความสนใจจากตลาด หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐฯ อาจพิจารณาเข้าถือหุ้นโดยตรงในบริษัท เพื่อสนับสนุนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศ ซึ่งช่วยหนุนราคาหุ้น Intel ให้ปรับขึ้น และหากการลงทุนดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ก็อาจกลายเป็นปัจจัยขับเคลื่อนที่มีพลังอย่างมากจากนโยบายของรัฐ แม้ว่า Intel จะยังคงเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากคู่แข่งในด้านเทคโนโลยีการผลิตชิปรุ่นใหม่ แต่คุณน้าเห็นว่า หากได้รับการสนับสนุนเชิงยุทธศาสตร์จากรัฐบาล ก็อาจช่วยเปลี่ยนทิศทางธุรกิจให้เติบโตขึ้น พร้อมทั้งดึงดูดเงินทุนจากนักลงทุนได้มากขึ้นด้วยค่ะ โดยในเชิงเทคนิค แนวต้านระยะสั้นอยู่บริเวณ 25.50–26 ดอลลาร์ หากสามารถผ่านไปได้ มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อสู่โซน 28–29 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 23.50 ดอลลาร์ หากหลุดลงไป อาจกลับไปเคลื่อนไหวในกรอบขาลงเดิมค่ะ
  • Bank of America (BAC) : ยังคงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งมากกว่าที่เคยประเมินไว้ แม้ว่าราคาหุ้นจะอ่อนตัวลงเมื่อเร็ว ๆ นี้ หลังจากที่ Berkshire Hathaway ปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นลงประมาณ 4% แต่ยังคงถือครองอยู่ราว 8% ซึ่งสะท้อนถึงการสนับสนุนจากสถาบันรายใหญ่ที่ยังคงอยู่ โดยคุณน้ามองว่า มูลค่าและความสามารถในการทำกำไรของ BAC ยังคงผูกติดอย่างใกล้ชิดกับนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดเริ่มคาดการณ์ถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน นักลงทุนจึงเริ่มประเมินกันใหม่ว่า การลดต้นทุนการกู้ยืมจะมีผลต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin) และแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อของธนาคารต่อไปอย่างไร โดยในเชิงเทคนิค BAC มีแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 48–50 ดอลลาร์ หากสามารถทะลุผ่านได้ อาจเป็นการเปิดภาพแนวโน้มขาขึ้นรอบใหม่ ส่วนแนวรับสำคัญอยู่ที่บริเวณ 45 ดอลลาร์ หากสามารถประคองตัวเหนือระดับนี้ได้ ทิศทางจะยังคงเป็นบวกต่อเนื่องค่ะ

🔍คุณน้าแนะนำเทรดหุ้น CFD ไปกับโบรกเกอร์ IUX

เทรดหุ้น CFD กับ IUX โบรกเกอร์หุ้นค่าธรรมเนียมถูก

IUX มีการให้บริการซื้อขายหุ้น CFD ประกอบไปด้วยหุ้นกลุ่ม Magnificent Seven (M7) อีกทั้งยังมีหุ้นให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Coca Cola, Adobe, Alibaba, McDonalds Incorporated และ Netflix เป็นต้น ทำให้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และเทรดเดอร์รายย่อยที่มีต้นทุนจำกัดแล้วต้องการซื้อขายหุ้นระดับโลก

สรุปคุยหุ้นสหรัฐและแนวโน้มในการลงทุน (US 500/ S&P 500)

จุดน่าเข้า Buy

  • Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 6418.0 – 6440.0 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 6440.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6464.9 และ SL ที่ประมาณ 6407.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
  • Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 6461.2 – 6483.2 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6492.0 และ SL ที่ประมาณ 6429.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                                          

จุดน่าเข้า Sell

  • Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 6461.2 – 6483.2 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 6461.2 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6437.1 และ SL ที่ประมาณ 6494.2 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
  • Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 6418.0 – 6440.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6409.0 และ SL ที่ประมาณ 6472.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

คำเตือน

บทวิเคราะห์นี้ใช้สำหรับการศึกษาข้อมูลของหุ้นสหรัฐเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลของสินทรัพย์และศึกษาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ประกอบกับศึกษาแนวโน้มหุ้นและข่าวสหรัฐก่อนตัดสินใจลงทุน


สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

Picture of คุณน้า
คุณน้า
Recent Post
บทวิเคราะห์คู่เงิน EURUSD 19 สิงหาคม 2025
บทวิเคราะห์ EURUSD วันที่ 19 สิงหาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ EURUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 19 สิงหาคม 2025
คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 19 สิงหาคม 2025

ในบทความนี้เราจะมาคุยหุ้น เจาะลึกปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงและมุมมองในการลงทุน สายหุ้นสหรัฐห้ามพลาดบทความนี้!

วิเคราะห์ USDJPY ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 18 สิงหาคม 2025
วิเคราะห์ USDJPY ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 18 สิงหาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ USDJPY ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

บทวิเคราะห์คู่เงิน USDRUB 15 สิงหาคม 2025
บทวิเคราะห์ USDRUB วันที่ 15 สิงหาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ USDRUB ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

ทางเว็บไซต์ คุณน้าพาเทรด
ได้มีการใช้คุกกี้เพื่อช่วยปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้เว็บไซต์ของเราดียิ่งขึ้น


Privacy Policy