หุ้นสหรัฐถือเป็นหุ้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งการเคลื่อนไหวของหุ้นสหรัฐเพียงหนึ่งครั้งก็สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอื่น ๆ ทั่วโลก ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาคุยหุ้น เจาะลึกปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงและมุมมองในการลงทุน สายวิเคราะห์หุ้นสหรัฐห้ามพลาดบทความนี้!
คุยหุ้นสหรัฐวันนี้ (US30 / DJIA)
บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐานหุ้นสหรัฐ
ดัชนี Dow Jones Industrial Average ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันศุกร์ ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นของนักลงทุน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคมค่ะ
แม้ว่าทาง Fed จะยังคงเน้นการดำเนินนโยบายแบบระมัดระวังและอิงตามข้อมูลเศรษฐกิจ แต่การปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้ก็ช่วยจุดประกายความหวังของตลาดในเรื่องการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ซึ่งทำให้ตลาดเริ่มมองหาแรงขับเคลื่อนใหม่ ๆ โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูกาลประกาศผลประกอบการ
ดัชนีดาวโจนส์ช่วงนี้ หุ้นที่โดดเด่นที่สุด คือ Amgen (AMGN) ที่พุ่งขึ้นถึง 3.47% ปิดที่ $285.41 รองลงมา คือ Apple (AAPL) ซึ่งเพิ่มขึ้น 3.11% ปิดที่ $245.28 จากสัญญาณความต้องการ iPhone 17 ที่แข็งแกร่ง และ Microsoft (MSFT) ที่ปรับตัวขึ้น 1.86% ปิดที่ $517.93 ในทางตรงกันข้าม หุ้นที่กดดันดัชนี ได้แก่ Chevron (CVX) ที่ร่วงลง 1.71% ปิดที่ $156.13 จากราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัว Nike (NKE) ลดลง 1.68% ปิดที่ $70.89 และ Walmart (WMT) ลดลง 1.25% ปิดที่ $102.30 ค่ะ
นอกเหนือจากหุ้นในดัชนีดาวโจนส์ ยังมีแรงขับเคลื่อนจากกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ เช่น ผลประกอบการที่ดีเกินคาดของ FedEx (FDX) ซึ่งช่วยเสริมความเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในขณะที่หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ AI ก็ยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดย Intel (INTC) พุ่งขึ้นถึง 22.8% ปิดที่ $30.57 หลัง Nvidia ประกาศลงทุนมูลค่า 5 พันล้านเหรียญ ส่วน Tesla (TSLA) ก็ปรับตัวขึ้นกว่า 14% ตลอดสัปดาห์ หลัง Elon Musk ซีอีโอของบริษัทเข้าซื้อหุ้นมูลค่าเกือบ 1 พันล้านเหรียญ
นอกจากนี้ ยังพบแรงซื้อในหุ้นพลังงานนิวเคลียร์ โดยเฉพาะ Oklo ที่พุ่งขึ้น 63.7% จากความร่วมมือด้านเทคโนโลยีปรมาณูระหว่างสหรัฐฯ กับสหราชอาณาจักร ในขณะเดียวกัน หุ้น Baidu (BIDU) ก็ปรับตัวขึ้นแรงจากความเชื่อมั่นในธุรกิจ AI และคลาวด์ของบริษัทค่ะ
ในเชิงพื้นฐาน ดัชนี DJIA หรือ US30 ได้แรงหนุนหลักมาจากหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น Apple, Microsoft และ Intel ซึ่งยังคงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนตลาด โดยรวมแล้ว การปรับตัวขึ้นของดัชนี สะท้อนถึงโมเมนตัมระยะสั้นที่ได้รับแรงส่งจากความหวังเรื่องการปรับลดดอกเบี้ย ความแข็งแกร่งของกลุ่มเทคโนโลยี และปัจจัยบวกเฉพาะตัวของหลายบริษัท อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงจับตาถ้อยแถลงจาก Fed รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจที่กำลังจะประกาศ ซึ่งอาจเป็นตัวกำหนดทิศทางต่อไปของตลาดในช่วงข้างหน้า และนักลงทุนยังคงต้องประเมินความเสี่ยงจากภาษีนำเข้า เงินเฟ้อ และการชะลอตัวของการบริโภค ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในช่วงฤดูกาลประกาศผลประกอบการ และอาจเป็นตัวแปรชี้วัดว่า ตลาดจะสามารถรักษาแนวโน้มขาขึ้นต่อไปได้หรือไม่
บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิคหุ้นสหรัฐ

ดัชนี US30 เริ่มแสดงสัญญาณของการพักตัวหลังจากที่ราคาปรับตัวขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้านี้ โดยล่าสุดเคลื่อนไหวและทรงตัวอยู่ในกรอบแคบบริเวณ 46,200–46,300 จุด ซึ่งถือเป็นจุดหมุนระยะสั้นที่น่าสนใจค่ะ ขณะที่ดัชนียังคงยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 20 วันได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งสะท้อนถึงโมเมนตัมเชิงบวกที่ยังคงอยู่
อย่างไรก็ตาม ตัวชี้วัดโมเมนตัมอย่าง RSI ก็เริ่มเข้าใกล้เขตซื้อมากเกินไป (Overbought) ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดพักฐานหรือเคลื่อนไหวในกรอบแคบก่อนจะมีรอบขึ้นต่อไปอีกครั้งค่ะ โดยหากดัชนีสามารถยืนเหนือระดับ 46,500 จุดได้อย่างมั่นคง อาจเป็นการยืนยันแนวโน้มขาขึ้นต่อ ซึ่งมีแนวต้านถัดไปอยู่ที่บริเวณ 46,950–47,100 จุดค่ะ
ในทางกลับกัน แนวรับแรกที่ควรจับตามองอยู่ที่ 45,850–45,900 จุด หากหลุดระดับนี้อย่างมีนัยสำคัญ ก็อาจเปิดทางให้ราคาถอยลงไปยังแนวรับแข็งแกร่งแถว 45,400–45,500 จุดค่ะ
ทั้งนี้ แนวโน้มของปริมาณการซื้อขาย (Volume) ยังคงสนับสนุนฝั่งซื้ออยู่ แต่การชะลอตัวของโมเมนตัมในช่วงล่าสุด ทำให้คุณน้ามองว่าควรระมัดระวังมากขึ้น การพักฐานลงมาใกล้แนวรับอาจเป็นจังหวะเข้าเก็บรอบใหม่สำหรับนักลงทุนสายกลางถึงยาว
โดยรวมแล้ว ถึงแม้แนวโน้มระยะสั้นอาจเอียงไปทางการพักตัว แต่ในเชิงเทคนิคแล้ว โครงสร้างภาพรวมยังคงเอื้อต่อการไต่ระดับขึ้นทำจุดสูงใหม่ หากดัชนีสามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญได้ค่ะ
📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (US30 / DJIA)
- แนวรับสำคัญ : 46222.7, 46209.7, 46188.8
- แนวต้านสำคัญ : 46264.5, 46277.5, 46298.4
ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มหุ้นสหรัฐ

ที่มา : Forexfactory
กำหนดการรายงานผลประกอบการ

ที่มา : TradingView
📍หุ้นสหรัฐที่น่าจับตามอง
- Apple (AAPL): คุณน้ามองว่า Apple ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของดัชนีดาวโจนส์ โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลยอดขายเบื้องต้นของ iPhone 17 ที่ออกมาน่าพอใจ รวมถึงความแข็งแกร่งของระบบบริการ (Services Ecosystem) ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้านเทคนิค AAPL สามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ $240 และกำลังพักตัวในกรอบขาขึ้น โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ $250 และ $258 ส่วนแนวรับใกล้ที่สุดอยู่ที่ $238 ท่ามกลางแนวโน้มปริมาณการซื้อขายที่ยังคงสะท้อนการเข้าซื้อของนักลงทุนสถาบัน สนับสนุนภาพขาขึ้นในระยะกลางค่ะ
- Microsoft (MSFT): ยังคงได้รับแรงหนุนจากบทบาทผู้นำในด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI และรายได้ประจำจาก Azure และ Office ซึ่งทำให้ผลประกอบการมีเสถียรภาพในระยะยาวค่ะ โดยหุ้น MSFT ยังคงมีสถานะเป็นหุ้นเติบโตเชิงป้องกันความเสี่ยง (Defensive Growth) ภายในกลุ่มดาวโจนส์ ทางเทคนิค MSFT ยืนเหนือแนวรับที่ $510 ได้อย่างแข็งแกร่ง และกำลังทดสอบแนวต้านแถว $525 หากสามารถทะลุผ่านได้ เป้าหมายถัดไปจะอยู่ที่ $540–$550 ในขณะที่ตัวชี้วัดโมเมนตัมยังคงเป็นบวก แม้จะเริ่มเข้าเขตซื้อมากเกินไปเล็กน้อย แต่ยังไม่ถึงระดับน่ากังวลค่ะ
- Intel (INTC): ได้แรงหนุนหลักจากข่าว Nvidia ประกาศลงทุน ซึ่งถือเป็นสัญญาณความเชื่อมั่นกลยุทธ์ของ Intel ในทางเทคนิค หุ้นปรับฐานเล็กน้อยจาก $30.57 ลงมาที่ $29.58 แต่ยังคงยืนเหนือแนวต้านเดิมที่ $28 ซึ่งตอนนี้กลายเป็นแนวรับสำคัญ หากแรงซื้อกลับเข้ามาอีกครั้ง เป้าหมายถัดไปของราคาคือ $32–$34 อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงสั้น ๆ คุณน้าคิดว่าหุ้นอาจมีการพักฐานระยะสั้นก่อนขึ้นไปต่อค่ะ
- Tesla (TSLA): พุ่งทะลุระดับสำคัญที่ $400 หลังจาก Elon Musk เข้าซื้อหุ้น ซึ่งเป็นตัวเร่งโมเมนตัมในเชิงบวก โดยการทะลุแนวต้านหลัก ทำให้ภาพเทคนิคเปลี่ยนไปในทางบวกอย่างชัดเจน โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ $435 และ $450 ส่วนแนวรับอยู่ที่ $410 ค่ะ ในเชิงพื้นฐาน ตลาดยังมองบวกต่อจำนวนการส่งมอบรถยนต์ และการพัฒนาเทคโนโลยี Robotaxi แม้จะมีแรงกดดันด้านอัตรากำไรในระยะยาว ขณะที่ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงยังบ่งบอกถึงความสนใจจากนักลงทุนสถาบันค่ะ
- Baidu (BIDU): ปรับตัวขึ้นแรงจากความคาดหวังในธุรกิจ AI และ Cloud ในเชิงพื้นฐาน บริษัทอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านไปสู่ผู้ให้บริการ AI และ Cloud อย่างเต็มรูปแบบ โดยคาดว่า จะกลายเป็นรายได้ส่วนหลักในอนาคต อย่างไรก็ตาม ทางเทคนิค BIDU ได้ปรับตัวลงจากแนวต้านที่ $140 มายืนที่ $135.35 โดยแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ $132–$133 ส่วนแนวต้านหลักยังคงเป็น $140 หากสามารถยืนเหนือ $140 ได้อีกครั้ง จะเป็นสัญญาณเชิงบวกที่อาจพาไปสู่ระดับ $150–$155 แต่หากไม่สามารถรักษาแนวรับไว้ได้ อาจเกิดการพักฐานลึกลงกว่านี้ค่ะ
🔍คุณน้าแนะนำเทรดหุ้น CFD ไปกับโบรกเกอร์ IUX

IUX มีการให้บริการซื้อขายหุ้น CFD ประกอบไปด้วยหุ้นกลุ่ม Magnificent Seven (M7) อีกทั้งยังมีหุ้นให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Coca Cola, Adobe, Alibaba, McDonalds Incorporated และ Netflix เป็นต้น ทำให้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และเทรดเดอร์รายย่อยที่มีต้นทุนจำกัดแล้วต้องการซื้อขายหุ้นระดับโลก
สรุปคุยหุ้นสหรัฐและแนวโน้มในการลงทุน (US30 / DJIA)
จุดน่าเข้า Buy
- Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 46182.7 – 46222.7 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 46222.7 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 46273.7 และ SL ที่ประมาณ 46162.7 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 46264.5 – 46304.5 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 46330.0 และ SL ที่ประมาณ 46202.7 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดน่าเข้า Sell
- Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 46264.5 – 46304.5 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 46264.5 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 46218.9 และ SL ที่ประมาณ 46324.5 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 46182.7 – 46222.7 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 46164.0 และ SL ที่ประมาณ 46284.5 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
คำเตือน
บทวิเคราะห์นี้ใช้สำหรับการศึกษาข้อมูลของหุ้นสหรัฐเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลของสินทรัพย์และศึกษาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ประกอบกับศึกษาแนวโน้มหุ้นและข่าวสหรัฐก่อนตัดสินใจลงทุน
สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge