พบกับวิเคราะห์ USDCAD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค อีกทั้งแนวทางในการเข้าออกออเดอร์ ไปจนถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการเทรดคู่เงินแบบละเอียด เรียกได้ว่าครบจบในบทความเดียว!
บทวิเคราะห์ Forex วันนี้ : คู่เงิน USDCAD
บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน
ธนาคารกลางแคนาดา (BoC) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.75% ต่อเนื่องเป็นครั้งที่สาม ผู้ว่าการธนาคารกลาง Tiff Macklem ระบุว่า การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงพื้นฐานทางเศรษฐกิจของแคนาดาที่มีความแข็งแกร่งในระดับปานกลาง แรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และความไม่แน่นอนจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษีนำเข้าที่อาจสูงถึง 35% สำหรับสินค้าส่งออกของแคนาดาที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ข้อตกลงการค้าในภูมิภาคค่ะ
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจ BoC ไม่ได้ออกประมาณการเศรษฐกิจตามปกติ แต่เลือกนำเสนอ 3 ฉากทัศน์ที่เป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของนโยบายการค้าค่ะ ในกรณีที่ยังคงอัตราภาษีปัจจุบันไว้ BoC คาดว่า GDP ของแคนาดาจะเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปในครึ่งหลังของปี 2025 และขยายตัวได้ 1.8% ภายในปี 2027 พร้อมกับเงินเฟ้อที่คงตัวอยู่ใกล้เป้าหมาย 2% แต่หากภาษีถูกลดลง เศรษฐกิจจะเติบโตได้มากขึ้น และเงินเฟ้อก็จะผ่อนคลายลง ในทางกลับกัน หากภาษีเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะถ้ามีผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานมากขึ้น อาจทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง และเงินเฟ้อกลับมาสูงขึ้นได้ค่ะ
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดก็สะท้อนถึงภาพรวมที่ซบเซา ด้าน GDP แคนาดาหดตัวลง 0.1% ในเดือนเมษายน และมีแนวโน้มจะหดตัวต่ออีก 0.5% ในไตรมาสที่สอง ท่ามกลางความหวังว่าจะฟื้นตัวเล็กน้อยในช่วงปลายปี ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าแคนาดาอาจเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิคในปี 2025 หลังจากยอดขายปลีกเดือนพฤษภาคมลดลง 1.1% โดยยอดขายที่ลดลงส่วนใหญ่อยู่ในหมวดรถยนต์และอาหาร ท่ามกลางข้อมูลเบื้องต้นในเดือนมิถุนายนที่เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวเพียงบางส่วนค่ะ
ด้านการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากเงินเฟ้อและความไม่แน่นอน โดยผู้ค้าปลีกถึง 1 ใน 3 ระบุว่าห่วงโซ่อุปทานและความต้องการซื้อได้รับผลกระทบจากภาษีค่ะ ในขณะเดียวกัน เงินเฟ้อ CPI ทั่วไปขยับขึ้นมาเล็กน้อยอยู่ที่ 1.9% และคาดว่า จะเฉลี่ยใกล้ระดับ 2% ไปจนถึงปี 2027 ซึ่งถือว่าอยู่ในกรอบเป้าหมายของ BoC โดยแรงกดดันด้านราคาส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากราคาสินค้าและค่าที่อยู่อาศัย ซึ่งทำให้ BoC ยังคงระมัดระวังในการดำเนินนโยบาย ทั้งนี้ จากการสำรวจโดย Reuters พบว่าส่วนใหญ่คาดว่า BoC จะลดดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 2 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ โดยมีแนวโน้มจะลดอีก 25 จุดในเดือนกันยายน ขึ้นอยู่กับทิศทางของเงินเฟ้อและนโยบายการค้าค่ะ
ในด้านการคลัง รัฐบาลกลางของแคนาดายังคงต้องเผชิญกับแรงกดดัน รายงานล่าสุดระบุว่ารัฐบาลขาดดุลงบประมาณ 6.5 พันล้านดอลลาร์แคนาดาในช่วงสองเดือนแรกของปีงบประมาณ 2025/26 สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนอย่างมาก จากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นขณะที่รายได้เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย โดยเฉพาะรายได้จากภาษีนำเข้าสูงขึ้นถึง 180% เมื่อเทียบกับปีก่อน อันเป็นผลมาจากภาษีตอบโต้ของแคนาดาต่อสินค้าสหรัฐฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตอบโต้นโยบายการค้าที่ตึงเครียดขึ้น
แม้ว่าความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าจะเริ่มคลี่คลายลงเล็กน้อย แต่การเจรจาระหว่างแคนาดาและสหรัฐฯ ยังคงไม่มีความคืบหน้า ขณะที่เส้นตายวันที่ 1 สิงหาคมใกล้เข้ามา โดยแม้ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ จะดูไม่เร่งรีบในการเจรจา แต่ฝ่ายแคนาดายืนยันว่า จะขอข้อตกลงการค้าที่เป็นธรรม แม้จะต้องรับผลกระทบระยะสั้นก็ตาม ซึ่งสร้างความไม่แน่นอนต่อการวางแผนนโยบายและการลงทุนอย่างมากค่ะ
ในอีกด้านหนึ่ง ธนาคารกลางสหรัฐฯ ก็เลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.25%–4.50% เป็นครั้งที่ห้าติดต่อกัน โดยส่งสัญญาณชัดเจนว่าต้องการเห็นหลักฐานมากกว่านี้ว่าเงินเฟ้อกำลังเคลื่อนตัวลงอย่างยั่งยืนสู่เป้าหมาย 2% ประธาน Jerome Powell กล่าวว่าการตัดสินใจจะยังขึ้นอยู่กับข้อมูลในอนาคต โดยเฉพาะตัวเลขเงินเฟ้อและตลาดแรงงาน ซึ่งแม้เงินเฟ้อจะลดลงบ้างแล้ว แต่ก็ยังสูงเกินกว่าที่จะปรับลดดอกเบี้ยได้ค่ะ
ทั้งนี้ ตลาดการเงินตอบสนองต่อจุดยืนของ Fed อย่างชัดเจน ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นจนเกือบแตะระดับสูงสุดในรอบสองเดือนเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลก็เพิ่มขึ้น โดยพันธบัตรอายุ 10 ปีขยับขึ้นไปที่ 4.37% และพันธบัตรอายุ 2 ปีอยู่ที่ 3.93% ส่งผลให้ตลาดคาดว่า ความเป็นไปได้ที่จะมีการลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ลดลงจาก 65% เหลือประมาณ 46% ค่ะ
โดยรวมแล้ว แนวโน้มของ USDCAD จึงยังคงถูกขับเคลื่อนโดยปัจจัยพื้นฐานที่แตกต่างกันระหว่างนโยบายการเงินของสหรัฐฯ และแคนาดา รวมถึงความเสี่ยงทางการค้าระหว่างสองประเทศ อย่างไรก็ตาม BoC อาจเข้าสู่รอบการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมเร็วกว่าสหรัฐฯ เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มหดตัวและแรงกดดันจากภาษีข้ามพรมแดน ดอลลาร์แคนาดาจึงอาจเผชิญแรงกดดันต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากดอกเบี้ยนโยบายที่สูงกว่าและสถานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก จึงส่งผลให้แนวโน้มระยะสั้นของ USDCAD อาจยังคงแนวโน้มขาขึ้น หากไม่มีความคืบหน้าเชิงบวกในการเจรจาการค้าหรือการฟื้นตัวที่ชัดเจนในเศรษฐกิจแคนาดา นักลงทุนควรจับตาท่าทีของธนาคารกลางทั้งสองประเทศ รวมถึงข้อมูลเงินเฟ้อ การจ้างงาน และผลการเจรจาภาษีในช่วงไตรมาสถัดไปอย่างใกล้ชิดค่ะ
บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค

ในมุมมองทางเทคนิค ขณะนี้คู่เงิน USDCAD ได้ทะลุแนวต้านสำคัญบริเวณ 1.3800 ขึ้นมาแล้ว และกำลังมุ่งหน้าไปยังแนวต้านถัดไปแถว ๆ 1.3920–1.3950 ค่ะ หากสามารถปิดเหนือระดับนี้ได้อย่างต่อเนื่อง ก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบระดับจิตวิทยาที่ 1.4000 ได้เช่นกันค่ะ
อย่างไรก็ดี ยังมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นการย่อตัวระยะสั้นลงมายังแนวรับบริเวณ 1.3750 หรือแม้แต่ 1.3680 โดยเฉพาะถ้าข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ออกมาแผ่วลง หรือมีความคืบหน้าในประเด็นการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับแคนาดาค่ะ
สำหรับตอนนี้ ทิศทางหลักยังคงเป็นบวก ตราบใดที่ USDCAD ยังทรงตัวเหนือระดับ 1.3750 ได้ โดยโมเมนตัมยังคงเอื้อให้ราคาปรับตัวขึ้นต่อ จากแรงหนุนของความแตกต่างด้านนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของทั้งสองประเทศค่ะ
📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค
- แนวรับสำคัญ : 1.3825, 1.3811, 1.3789
- แนวต้านสำคัญ : 1.3869, 1.3883, 1.3905
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลต่อคู่เงิน USDCAD

ที่มา : Forexfactory

⭐ คุณน้าแนะนำโบรกเกอร์คุณสมบัติเด่น!
การเลือกโบรกเกอร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ สำหรับการเทรด Forex ค่ะ
เพราะโบรกเกอร์จะพัฒนาระบบและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเทรดของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นให้ได้มากที่สุด
สำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มั่นใจว่า โบรกเกอร์ Forex แบบไหนดี?
คุณน้าได้รวบรวมการจัดอันดับของโบรกเกอร์ในทุกคุณสมบัติ เช่น สเปรดต่ำ, เทรดทอง หรือโบนัสฟรี

💡 คัมภีร์เริ่มต้น มือใหม่หัดเทรด
มือใหม่หัดเทรดที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? คุณน้าได้รวบรวมเนื้อหาสำคัญที่ถือเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับการเทรด Forex มาไว้ให้แล้วที่นี่!
🔍 ตัวอย่างเนื้อหา มือใหม่หัดเทรดต้องรู้!
สรุปวิเคราะห์ USDCAD
จุดน่าเข้า Buy
- Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3785 – 1.3825 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 1.3825 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3881 และ SL ที่ประมาณ 1.3765 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3869 – 1.3909 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3939 และ SL ที่ประมาณ 1.3805 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดน่าเข้า Sell
- Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3869 – 1.3909 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 1.3869 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3823 และ SL ที่ประมาณ 1.3929 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 1.3785 – 1.3825 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3765 และ SL ที่ประมาณ 1.3889 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
คำเตือน
การให้ข้อมูลการวิเคราะห์คู่เงิน Forex ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค เป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจการลงทุน
สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge