วิเคราะห์ USDJPY ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 6 สิงหาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ USDJPY ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค อีกทั้งแนวทางในการเข้าออกออเดอร์ ไปจนถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการเทรดคู่เงินแบบละเอียด เรียกได้ว่าครบจบในบทความเดียว!

บทวิเคราะห์ Forex วันนี้ : คู่เงิน USDJPY

บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน

ค่าเงินเอเชียส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในกรอบแคบเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อยในช่วงก่อนหน้า เนื่องจากนักลงทุนกำลังรอสัญญาณที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยค่ะ ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่อ่อนแอลงเมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และส่งผลบวกต่อค่าเงินเอเชีย อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์กลับมาฟื้นตัวในวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีนำเข้าชุดใหม่ของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ค่ะ

เงินเยนญี่ปุ่นได้รับแรงหนุนจากดัชนี PMI ภาคบริการของญี่ปุ่นในเดือนกรกฎาคมที่แข็งแกร่ง รายงานการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นในเดือนมิถุนายนยังแสดงให้เห็นถึงความพร้อมที่เพิ่มขึ้นในการปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยเฉพาะหากความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ คลี่คลาย แม้ BOJ จะยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% แต่มีกรรมการบางส่วน รวมถึงผู้ว่าการอุเอดะ ที่สนับสนุนแนวคิดการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต และชี้ถึงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อในทิศทางขาขึ้น รวมทั้งแสดงความเห็นว่าอาจมีการปรับนโยบายเร็วขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยตลาดเริ่มจับตาเดือนตุลาคมว่าอาจเป็นช่วงเวลาที่ BOJ ขยับนโยบายอีกครั้งค่ะ

ทั้งนี้ แรงกดดันเงินเฟ้อยังคงมีอยู่จากราคาสินค้าและอาหารที่สูงขึ้น รวมถึงการเติบโตของค่าจ้าง โดยภาคธุรกิจได้ตกลงปรับขึ้นค่าจ้างเฉลี่ยสูงสุดในรอบ 34 ปี กระทรวงแรงงานของญี่ปุ่นยังเสนอให้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีก 6% ซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2002 ค่ะ

ด้านภาคบริการของญี่ปุ่นขยายตัวอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบ 5 เดือน แต่ปัญหาการขาดแคลนแรงงานและต้นทุนที่สูงยังคงจำกัดการจ้างงาน ขณะที่แรงกดดันด้านต้นทุนและราคาขายได้มีการผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่กิจกรรมภาคการผลิตยังคงอ่อนแอ ซึ่งสะท้อนมุมมองเศรษฐกิจที่ยังค่อนข้างผสมผสานค่ะ

ขณะเดียวกัน ธนาคาร MUFG ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นมีการเปิดเผยว่า ได้สะท้อนอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นไว้ในแผนการลงทุนในตราสารหนี้แล้ว และคาดว่าการปรับนโยบายเข้าสู่ภาวะปกติจะยังคงดำเนินต่อไป ตราบใดที่ความตึงเครียดทางการค้ายังไม่ทวีความรุนแรงขึ้นค่ะ

ในฝั่งสหรัฐฯ ดอลลาร์พยายามฟื้นตัวหลังจากร่วงแรงจากข้อมูลจ้างงานเดือนกรกฎาคมที่อ่อนแอกว่าคาด รวมถึงมีการปรับตัวเลขย้อนหลังลง ซึ่งจุดชนวนให้เกิดการคาดการณ์ว่า Fed อาจเริ่มลดดอกเบี้ยได้เร็วสุดในเดือนกันยายนนี้ ข้อมูลจาก FedWatch ล่าสุดชี้ว่า ความเป็นไปได้ที่ Fed จะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนหน้า พุ่งขึ้นเป็น 91–92% จาก 62% เมื่อสัปดาห์ก่อนค่ะ ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า Fed อาจลดดอกเบี้ยติดต่อกันสามครั้ง เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน และอาจเริ่มด้วยการลด 0.50% หากอัตราการว่างงานเร่งตัวขึ้นอีกค่ะ

นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจจากคำสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ลดลง 4.8% ในเดือนมิถุนายน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการลดลงของคำสั่งซื้อเครื่องบิน และรายงาน ISM ที่เผยว่ากิจกรรมภาคการผลิตในเดือนกรกฎาคมแตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือนค่ะ โดยมาตรการภาษีของทรัมป์ถูกมองว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันภาคการผลิต แม้นักเศรษฐศาสตร์บางรายจะชี้ว่าปัญหาด้านโครงสร้าง เช่น การขาดแคลนแรงงาน ก็เป็นอุปสรรคสำคัญเช่นกันค่ะ

เนื่องด้วยสัปดาห์นี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญมากนัก ตลาดจึงหันไปให้ความสนใจกับดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐฯ เพื่อหาสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจในระยะถัดไป รายงานจ้างงานที่อ่อนแอ บวกกับความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เกี่ยวกับการค้า ทำให้ตลาดขาดความมั่นใจ และตอกย้ำถึงความเปราะบางของสมดุลระหว่างเงินเฟ้อ สภาวะตลาดแรงงาน และทิศทางนโยบายของทั้งฝั่งสหรัฐฯ และญี่ปุ่นค่ะ

โดยรวมแล้ว คู่เงิน USDJPY กำลังอยู่ท่ามกลางแรงกดดันจากความคาดหวังด้านนโยบายการเงินที่สวนทางกัน และความเสี่ยงทางการเมืองกับการค้าระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่พึ่งพาการส่งออกยังคงอ่อนไหวต่อผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังอ่อนแอลงต่อเนื่อง และ Fed ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยอย่างจริงจัง คู่เงิน USDJPY อาจเผชิญแรงกดดันในทิศทางขาลง แต่ถ้าความตึงเครียดทางการค้าทวีความรุนแรงขึ้น หรือ BOJ แสดงท่าทีระมัดระวังมากขึ้น ดอลลาร์ก็อาจได้รับแรงหนุนกลับมาอีกครั้ง ทิศทางของคู่เงินนี้จึงขึ้นอยู่กับสมดุลระหว่างแนวโน้มผ่อนคลายของ Fed กับแนวโน้มเข้มงวดของ BOJ โดยมีความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์เป็นปัจจัยสำคัญที่ตลาดต้องจับตาในช่วงเดือนข้างหน้าค่ะ

บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค

คู่เงิน USDJPY กำลังเคลื่อนไหวในลักษณะทรงตัวเล็กน้อยใต้ระดับ 148.00 หลังจากอ่อนตัวลงจากจุดสูงสุดของสัปดาห์ก่อน ซึ่งสะท้อนถึงการชะลอตัวของโมเมนตัมขาขึ้น ท่ามกลางความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่า Fed อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้นี้

แม้ในระยะสั้นจะมีแรงขายกดดัน แต่คุณน้าสังเกตว่าราคายังคงอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน ซึ่งยังบ่งชี้ว่าทิศทางขาขึ้นในภาพรวมยังไม่เสียรูปแบบค่ะ อย่างไรก็ตาม ตัวชี้วัดโมเมนตัมอย่าง RSI เริ่มมีลักษณะแบนราบใกล้ระดับ 50 ซึ่งอาจสะท้อนถึงแนวโน้มที่เป็นกลาง หรือเริ่มมีความเสี่ยงของการอ่อนตัวในระยะสั้นได้เช่นกันค่ะ

แนวรับสำคัญอยู่ที่ 147.00 และถัดไปคือโซน 146.40–146.20 หากราคาหลุดต่ำกว่าบริเวณนี้ลงไปอย่างต่อเนื่อง อาจเปิดโอกาสให้เกิดการปรับฐานลึกลงสู่ระดับจิตวิทยา 145.00 โดยเฉพาะถ้าข้อมูลดัชนี PMI ภาคบริการ หรือข้อมูลค่าจ้างแรงงานของสหรัฐฯ ที่จะประกาศเร็ว ๆ นี้ สนับสนุนแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของ Fed ในเดือนกันยายนค่ะ

ในทางกลับกัน แนวต้านที่ 148.50 ยังคงเป็นระดับสำคัญที่ตลาดจับตามอง หากราคาปิดรายวันขึ้นมาเหนือระดับนี้ได้ อาจส่งสัญญาณว่ามีโอกาสขยับขึ้นต่อไปที่ 149.30 และอาจมีเป้าหมายถัดไปที่บริเวณ 151.90 หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ฟื้นตัว หรือ BOJ ยังไม่มีความคืบหน้าในการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม คุณน้าเห็นว่าการปรับขึ้นในระยะสั้นอาจเผชิญแรงต้าน หากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์หรือประเด็นทางการค้าเพิ่มความผันผวนให้กับตลาด โดยเฉพาะในภาวะที่ตลาดมีความไวต่อสัญญาณจาก Fed และภาวะเงินเฟ้อของญี่ปุ่นอยู่ในขณะนี้ค่ะ

สรุปได้ว่า ในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ คุณน้าเชื่อว่า USDJPY มีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 146.40 ถึง 148.50 โดยทิศทางในอนาคตจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมา และถ้อยแถลงจาก BOJ หากราคาสามารถทะลุกรอบนี้ขึ้นหรือลงได้ ก็อาจเปิดโอกาสให้เกิดแรงส่งต่อเนื่องในทิศทางนั้น โดยขึ้นอยู่กับว่านโยบายการเงินของทั้งสองธนาคารกลางจะเร่งหรือชะลอการเปลี่ยนแปลงนโยบายในระยะถัดไปค่ะ

ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลต่อคู่เงิน USDJPY

สรุปวิเคราะห์ USDJPY

จุดน่าเข้า Buy

• Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 145.46 – 146.86 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 146.86 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 148.04 และ SL ที่ประมาณ 144.76 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
• Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 147.80 – 149.20 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 150.15 และ SL ที่ประมาณ 146.16 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                      

จุดน่าเข้า Sell

• Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 147.80 – 149.20 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 147.80 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 146.81 และ SL ที่ประมาณ 149.90 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
• Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 145.46 – 146.86 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 145.20 และ SL ที่ประมาณ 148.50 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

คำเตือน

การให้ข้อมูลการวิเคราะห์คู่เงิน Forex ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค เป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจการลงทุน

สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge