การเป็น IB Forex เป็นอีกหนึ่งทางเลือกการสร้างรายได้ที่น่าสนใจของเทรดเดอร์ โดยไม่จำเป็นต้องเทรดเองก็สามารถสร้างรายได้อย่างไม่จำกัดตามจำนวนและปริมาณการเทรดของลูกค้าที่คุณแนะนำให้เปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นผู้แนะนำลูกค้าใหม่ให้เปิดบัญชีกับโบรกเกอร์นั่นเองค่ะ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกว่าการเป็น IB Forex คืออะไร? และทำไมหลายคนถึงสนใจเลือกเดินเส้นทางนี้ค่ะ
*หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงบทความให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้เป็นการชักชวนเพื่อลงทุนแต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
IB Forex คืออะไร?

IB คือ ผู้แนะนำโบรกเกอร์ หรือชื่อเต็มในภาษาอังกฤษก็คือ Introducing Broker นั่นเองค่ะ
IB ไม่ได้ถือว่าเป็นอาชีพที่มีเวลาเข้างานออกงานตรงเวลาแต่อย่างใด ทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละบุคคล แต่ใครที่มีเวลามากพอก็สามารถทำเป็นอาชีพหลักได้เลยทีเดียว แถมผลตอบแทนยังไม่มีเพดานด้วยนะคะ
รู้หรือไม่?
- IB อาจเป็นบุคคลหรือองค์กรที่มอบหมายการดำเนินการซื้อขายหรือดำเนินการด้วยตนเอง
- IB สามารถดำเนินการเป็นพันธมิตร FCM หรือเป็นดำเนินการเดี่ยวๆ หรือความร่วมมือกับโบรกเกอร์ผู้ให้บริการ
- แพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ภารกิจหลักคือการให้บริการลูกค้าเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการลงทุนของลูกค้า ทำให้งาน IB เป็นงานที่ขึ้นอยู่กับลูกค้าเป็นหลัก
IB Forex ทำกำไรอย่างไร ?

จริง ๆ การเป็น IB นั้นไม่ได้ข้อกำหนดแบบตายตัวเท่าไหร่ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง แต่โดยส่วนใหญ่ IB Forex จะต้องแนะนำนักลงทุนเพื่อให้มาสมัครกับโบรกเกอร์ที่เรากำลังเป็น IB ให้อยู่เพื่อจะได้ค่าคอมมิชชันจากการเทรด ค่าเปิดบัญชีของผู้ใช้งานที่แนะนำมาค่ะ
ซึ่งบางครั้งก็จะมีการเปิดการสอนเทรดเพื่อเป็นการเชื้อเชิญให้คนสนใจและสมัครลิงค์ตามที่ IB กำหนด แต่ผู้สมัครก็จะได้การส่งซิกหรือแนวทางการเทรดเป็นการตอบแทน ถือว่าวิน-วินกันทั้งคู่ค่ะ
คุณน้าพารู้จัก EA Trader คืออะไร?
EA Trader ย่อมาจากคำว่า Expert Advisor Trader ค่ะ โดยเป็นตัวช่วยในการเทรดที่จะเปิดออเดอร์ให้เราเอง โดยวิเคราะห์จาก Indicator ที่ EA ตัวนั้นใช้ในการประมวลผล ซึ่งเราสามารถกำหนดเงินทุนเราได้ว่าจะใช้ในการเปิดออเดอร์ครั้งละเท่าไหร่ และ EA ก็จะคำนวณให้เราว่าควรจะออกไม้ในราคาเท่าไหร่เพื่อไม่ให้เสี่ยงเกินไป และจะมีการกำหนดจุดขาดทุนไว้ด้วยเช่นกันค่ะ
อยากเป็น IB Forex ต้องทำอย่างไร ?
1. เรียนรู้และเข้าใจตลาด Forex
ก่อนจะเริ่มเป็น IB ควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับตลาด Forex วิธีการเทรด และแพลตฟอร์มการซื้อขาย เพื่อให้สามารถให้คำแนะนำและช่วยเหลือลูกค้าได้อย่างถูกต้องและมั่นใจ
2. เลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ
ควรเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่มีชื่อเสียง ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ มีโปรแกรม IB ที่เหมาะสม และมีค่าคอมมิชชันหรือผลตอบแทนที่น่าสนใจ

⭐ คุณน้าแนะนำโบรกเกอร์คุณสมบัติเด่น!
การเลือกโบรกเกอร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ สำหรับการเทรด Forex ค่ะ
เพราะโบรกเกอร์จะพัฒนาระบบและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเทรดของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นให้ได้มากที่สุด
สำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มั่นใจว่า โบรกเกอร์ Forex แบบไหนดี?
คุณน้าได้รวบรวมการจัดอันดับของโบรกเกอร์ในทุกคุณสมบัติ เช่น สเปรดต่ำ, เทรดทอง หรือโบนัสฟรี

💡 คัมภีร์เริ่มต้น มือใหม่หัดเทรด
มือใหม่หัดเทรดที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? คุณน้าได้รวบรวมเนื้อหาสำคัญที่ถือเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับการเทรด Forex มาไว้ให้แล้วที่นี่!
🔍 ตัวอย่างเนื้อหา มือใหม่หัดเทรดต้องรู้!
3. สมัครเป็น IB กับโบรกเกอร์
โดยปกติสามารถสมัครผ่านเว็บไซต์โบรกเกอร์ได้เลย โดยจะต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว ส่งเอกสารยืนยันตัวตน และรอการอนุมัติจากโบรกเกอร์
4. สร้างฐานลูกค้าและดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
หลังจากที่ได้รับการอนุมัติจะได้รับลิงก์หรือรหัส IB เพื่อนำไปใช้แนะนำลูกค้าใหม่ จำเป็นต้องมีการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การช่วยเปิดบัญชี แนะนำวิธีการใช้งานแพลตฟอร์ม และติดตามผลการเทรดเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว
5. บริหารจัดการและขยายฐานลูกค้า
การทำ IB สำเร็จต้องอาศัยการสร้างชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือ ร่วมกับการใช้ช่องทางการตลาดออนไลน์ เช่น โซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ หรือชุมชนออนไลน์ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น
ขั้นตอนในการทำ IB กับโบรกเกอร์ Forex
1. ศึกษาข้อมูลและเลือกโบรกเกอร์สำหรับการทำ IB
เปรียบเทียบเงื่อนไข ผลตอบแทน และความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์แต่ละรายเพื่อเลือกพันธมิตรที่ดีที่สุด
2. สมัครโปรแกรม IB ของโบรกเกอร์
ส่งเอกสารและข้อมูลที่จำเป็น ผ่านขั้นตอนสมัครและรอผลอนุมัติ
3. เริ่มแนะนำลูกค้าให้เปิดบัญชีและเทรด
ใช้ลิงก์หรือรหัส IB ที่ได้รับเพื่อแนะนำลูกค้า ใช้เครื่องมือโปรโมทที่โบรกเกอร์จัดให้ เช่น แบนเนอร์ โฆษณา หรือสื่ออื่น ๆ
4. ดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด
ช่วยเหลือลูกค้าในการสมัคร การใช้งานแพลตฟอร์ม และให้คำแนะนำต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความพึงพอใจและรายได้จากค่าคอมมิชชัน
5. ขยายฐานลูกค้าและบริหารจัดการผลตอบแทน
ใช้ช่องทางการตลาดแบบต่าง ๆ เพื่อขยายกลุ่มลูกค้า ให้เกิดรายได้ต่อเนื่องและเติบโตอย่างยั่งยืน
เกล็ดความรู้
การเข้าสู่ธุรกิจ IB Forex ไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตพิเศษในหลายประเทศ (ยกเว้นบางประเทศ เช่น สหรัฐ ออสเตรเลีย หรือแอฟริกาใต้) แต่ควรมีความรู้และเข้าใจในตลาด Forex อย่างแท้จริงเพื่อเสริมความน่าเชื่อถือและประสบความสำเร็จในระยะยาว
ทำไมโบรกเกอร์ต้องจ่ายเงินให้กับ IB (Introducing Broker)
โบรกเกอร์ต้องจ่ายเงินให้กับ IB (Introducing Broker) เพราะ IB เป็นพันธมิตรที่ช่วยขยายฐานลูกค้าและสร้างรายได้ให้กับโบรกเกอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเหตุผลหลัก ๆ ดังนี้
- เป็นช่องทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพและประหยัดต้นทุน: IB ทำหน้าที่เป็นตัวแทนแนะนำลูกค้าใหม่ให้เปิดบัญชีและเทรดกับโบรกเกอร์ ซึ่งโบรกเกอร์ไม่ต้องลงทุนมากในการหาลูกค้าโดยตรง เพราะ IB จะใช้เครือข่ายของตนในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
- สร้างแรงจูงใจให้ IB ช่วยขยายฐานลูกค้า: การจ่ายค่าคอมมิชชันให้ IB ตามปริมาณการเทรดของลูกค้า ทำให้ IB มีแรงผลักดันในการแนะนำและดูแลลูกค้าให้เทรดมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อโบรกเกอร์ที่มีรายได้เพิ่มตามมากขึ้น
- ค่าคอมมิชชันเป็นส่วนแบ่งจากรายได้โบรกเกอร์: โดยปกติค่าคอมมิชชันที่จ่ายให้ IB จะมาจากส่วนแบ่งของสเปรดหรือค่าธรรมเนียมการเทรดที่ลูกค้าเสียให้กับโบรกเกอร์ ซึ่งถือเป็นการจ่ายเงินแลกกับการได้ลูกค้าและปริมาณการเทรดที่เพิ่มขึ้น
- ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน: IB เป็นตัวกลางที่ช่วยดูแลและให้คำปรึกษาลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจในการเทรด และช่วยให้โบรกเกอร์รักษาฐานลูกค้าได้ดีขึ้น
ข้อดี–ข้อเสียของการเป็น IB Forex
ข้อดีของการเป็น IB Forex
- สร้างรายได้แบบ Passive ขึ้นกับปริมาณการเทรดของลูกค้า ยิ่งเทรดมาก รายได้ยิ่งเพิ่ม
- ไม่ต้องลงทุนเทรดเอง ลดความเสี่ยงทางการเงิน
- ทำงานได้ทุกที่ จัดการเวลาตามใจได้
- สร้างเครือข่ายธุรกิจและพัฒนาทักษะด้านการตลาด
- ได้รับสื่อส่งเสริมและเครื่องมือช่วยจากโบรกเกอร์
- มีค่าคอมมิชชันและรายได้หลายช่องทาง
- เหมาะกับมือใหม่และผู้ที่ต้องการรายได้เสริมอย่างยั่งยืน
ข้อเสียของการเป็น IB Forex
- ต้องใช้เวลาและความอดทนในการสร้างฐานลูกค้าและความน่าเชื่อถือ
- รายได้ไม่มั่นคงในช่วงแรก ต้องมีฐานลูกค้าที่เพียงพอ
- รับผิดชอบให้คำแนะนำ ถ้าผิดพลาดอาจเสียชื่อเสียง
- แข่งขันสูง ต้องมีทักษะและกลยุทธ์เฉพาะตัว
- ต้องติดตามและอัปเดตข่าวสารตลาดอย่างต่อเนื่อง
- ต้องมีความรู้ลึกซึ้งในตลาด Forex และการลงทุน
- ต้องบริหารความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าอย่างมืออาชีพ
ข้อดี-ข้อเสียของการเปิดบัญชีผ่าน IB
ข้อดีของการเปิดบัญชีผ่าน IB
- ได้รับคำแนะนำและบริการส่วนตัวตั้งแต่สมัครถึงใช้งานแพลตฟอร์ม
- มีสิทธิพิเศษ เช่น โบนัส ลดค่าธรรมเนียม และสเปรดต่ำ
- ได้รับการอบรมและคำปรึกษาต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาทักษะการเทรด
- ช่วยลดความยุ่งยากในการเปิดบัญชีและจัดการเอกสาร
- มีผู้ช่วยดูแลให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด
- ได้รับโปรโมชั่นและข้อเสนอพิเศษที่โบรกเกอร์จัดให้
- เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการความมั่นใจในการเทรด
ข้อเสียของการเปิดบัญชีผ่าน IB
- อาจต้องแบ่งส่วนกำไรหรือจ่ายค่าคอมมิชชันเพิ่ม ทำให้ต้นทุนดูสูงขึ้น
- เสี่ยงเลือก IB ที่ไม่น่าเชื่อถือ อาจได้คำแนะนำผิดพลาด
- พึ่งพา IB มากเกินไป ทำให้ขาดความรู้และทักษะของตัวเอง
- ค่าคอมมิชชัน IB มาจากส่วนหนึ่งของสเปรดหรือค่าธรรมเนียมการเทรดของลูกค้า
- ค่าคอมมิชชันขึ้นกับปริมาณการเทรดและจำนวนลูกค้าที่แนะนำ
- บางโบรกเกอร์มีเงื่อนไขซับซ้อนก่อนจ่ายค่าคอมมิชชัน IB
- การเลือก IB ที่ดีช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มรายได้ได้
ความแตกต่างระหว่าง IB, Affiliate และ Partner
ประเภท | หน้าที่หลัก | ความสัมพันธ์กับโบรกเกอร์ | รูปแบบรายได้ | ความรับผิดชอบ | ลักษณะการทำงาน |
IB (Introducing Broker) | แนะนำและดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด ให้คำปรึกษาและสนับสนุนลูกค้าตั้งแต่เปิดบัญชีจนถึงการเทรด | มีสัญญาเป็นพันธมิตรกับโบรกเกอร์อย่างเป็นทางการ | ได้ค่าคอมมิชชันจากยอดเทรดและการฝากเงินของลูกค้า | มีความรับผิดชอบในการให้คำแนะนำ และดูแลลูกค้า | สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าและโบรกเกอร์ |
Affiliate | โปรโมทโบรกเกอร์ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น บล็อก โซเชียลมีเดีย เพื่อดึงคนมาสมัคร | ไม่มีสัญญาแน่นอนหรือใกล้ชิดกับโบรกเกอร์มากนัก | รายได้จากค่าคอมมิชชันตามจำนวนผู้สมัครหรือยอดเทรด | ไม่มีความรับผิดชอบต่อการบริการลูกค้าโดยตรง | เน้นการทำตลาดออนไลน์และสร้างทราฟฟิก |
Partner | ร่วมมือทางธุรกิจอย่างใกล้ชิดกับโบรกเกอร์ อาจมีบทบาทหลากหลายรวมทั้ง IB และ Affiliate | มีความร่วมมือที่ลึกซึ้งและเป็นทางการกับโบรกเกอร์ | ได้รับรายได้ในรูปแบบค่าคอมมิชชันและแบ่งผลกำไรตามข้อตกลง | มีส่วนรับผิดชอบทางธุรกิจร่วมกับโบรกเกอร์ | ทำงานในระดับหุ้นส่วนและมีบทบาทในการดำเนินธุรกิจ |
สรุปได้ว่า IB จะมีความใกล้ชิดและให้การดูแลลูกค้าอย่างเป็นรายบุคคล แตกต่างจาก Affiliate ที่เน้นโปรโมทและนำพา Traffic เข้ามาเท่านั้น ส่วน Partner จะเป็นการร่วมมือในเชิงธุรกิจที่ลึกกว่าทั้งสอง โดยมีความรับผิดชอบที่มากขึ้นและรายได้ในรูปแบบที่หลากหลายกว่า
เคล็ดลับการเป็น IB Forex ให้ประสบความสำเร็จ
- มีความรู้และเข้าใจลึกซึ้งในตลาด Forex เพื่อให้คำแนะนำแม่นยำ
- เลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและเหมาะสมกับโปรแกรม IB
- เข้าใจความต้องการและลักษณะการเทรดของลูกค้า
- สื่อสารและให้บริการอย่างมืออาชีพและต่อเนื่อง
- ใช้ช่องทางการตลาดหลากหลายและมีประสิทธิภาพ
- พัฒนาตนเอง อัปเดตความรู้และทักษะอยู่เสมอ
- สร้างเครือข่ายและบริหารจัดการรายได้อย่างมืออาชีพ
แนะนำโบรกเกอร์ที่มี IB
1. โบรกเกอร์ที่มี IB : IUX

- เป็นโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ
- โปรแกรม IB ของ IUX มีค่าคอมมิชชันสูงสุดถึง 45% และมีโปรแกรมแบ่งระดับ (Tier) สูงสุด 2 ระดับ ให้รับค่าคอมมิชชันจากลูกค้าโดยตรงและลูกค้าของ Sub IB
- สนับสนุนเครื่องมือการตลาดและมีผู้จัดการบัญชีส่วนตัวสำหรับ IB
- มีแพลตฟอร์มเทรด MT5 และระบบส่งคำสั่งที่รวดเร็ว
- ค่าเลเวอเรจสูงสุดถึง 1:3000
- ระบบถอนเงินรวดเร็วและไม่มีค่าธรรมเนียม
- อ่านเงื่อนไข Introducing Broker เพิ่มเติมที่นี่

2. โบรกเกอร์ที่มี IB : Tickmill

- มีโปรแกรม IB ที่จ่ายค่าคอมมิชชันตามจำนวนล็อตที่ลูกค้าเทรด
- มีระบบสนับสนุน IB อย่างครบถ้วน เช่น เครื่องมือโปรโมท และบริการลูกค้า
- มีโปรแกรมแบ่งระดับ IB ที่ช่วยเพิ่มรายได้แบบหลายชั้น
- โบรกเกอร์นี้นิยมสำหรับเทรดเดอร์และ IB ในไทยด้วยระบบที่เสถียรและน่าเชื่อถือ
- อ่านเงื่อนไข Introducing Broker เพิ่มเติมที่นี่

3. โบรกเกอร์ที่มี IB : GMI Markets

- โปรแกรม IB โปร่งใสและจ่ายค่าคอมมิชชันตามยอดเทรด
- มีบริการซัพพอร์ตภาษาไทยผ่านช่องทาง Line
- มีการติดตามและรายงานผลค่าคอมมิชชันแบบ Real Time
- เหมาะสำหรับ IB ที่ต้องการระบบสนับสนุนและการบริหารจัดการง่าย
- อ่านเงื่อนไข Introducing Broker เพิ่มเติมที่นี่

4. โบรกเกอร์ที่มี IB : Eightcap

- มีใบอนุญาตที่น่าเชื่อถือ
- โปรแกรม IB เน้นค่าคอมมิชชันที่ดีโดยเฉพาะลูกค้าที่เทรดทองคำ
- มีแพลตฟอร์ม MT4 และ MT5 ที่รองรับเทรดเดอร์
- มีความน่าเชื่อถือและระบบสนับสนุน IB อย่างครบครัน
- อ่านเงื่อนไข Introducing Broker เพิ่มเติมที่นี่

5. โบรกเกอร์ที่มี IB : Exness

- Exness เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมสูงและโปร่งใส
- มีโปรแกรม IB ที่จ่ายค่าคอมมิชชันตามปริมาณการเทรดของลูกค้า
- มีแพลตฟอร์ม MT4, MT5 และโครงสร้างค่าคอมมิชชันที่แข่งขันได้ดี
- อ่านเงื่อนไข Introducing Broker เพิ่มเติมที่นี่

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ IB Forex
1. IB Forex ต้องมีใบอนุญาตหรือไม่?
ในหลายประเทศ การเป็น IB Forex ไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตแยกต่างหาก แต่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับของประเทศนั้น ๆ และขึ้นอยู่กับนโยบายของโบรกเกอร์แต่ละแห่งด้วย
2. รายได้ของ IB Forex มาจากไหน?
รายได้ของ IB Forex มาจากค่าคอมมิชชันที่โบรกเกอร์จ่ายให้ ซึ่งโบรกเกอร์จะจ่ายตามปริมาณการเทรดหรือยอดฝากของลูกค้าที่ IB แนะนำเข้ามา
3. IB Forex ต้องลงทุนเงินเท่าไหร่?
ไม่ต้องมีการลงทุนเงินทุนเริ่มต้น แต่ต้องมีการลงทุนด้านเวลา, ความรู้ และกลยุทธ์การตลาดเพื่อดึงดูดและดูแลลูกค้าให้ได้รายได้อย่างยั่งยืน
4. ทำไมถึงต้องเลือกโบรกเกอร์ที่มีโปรแกรม IB ดี?
โบรกเกอร์ที่มีโปรแกรม IB ดีจะมีเครื่องมือสนับสนุน, อัตราค่าคอมมิชชันที่แข่งขันได้, ระบบติดตามผลและรายงานที่โปร่งใส รวมถึงบริการลูกค้าและช่วยเหลือด้านเทคนิค ซึ่งทำให้ IB ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างรายได้ได้ดี
5. IB Forex ต้องมีทักษะอะไรบ้าง?
IB Forex ควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับตลาด Forex และการเทรด, ทักษะการสื่อสารและการตลาด, ความสามารถในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า และควรเข้าใจพื้นฐานของการบริหารความเสี่ยง รวมถึงมีความอดทนและความจริงใจในการให้คำแนะนำแก่ลูกค้า
6. ต่อ IB ตัวเองได้ไหม?
โดยทั่วไปแล้วโบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะไม่อนุญาตให้ IB ต่อ IB ตัวเอง เนื่องจากระบบต้องการป้องกันความซับซ้อนในการคำนวณค่าคอมมิชชันและการควบคุมคุณภาพลูกค้า
7. IB Forex ย่อมาจากอะไร?
IB Forex ย่อมาจาก Introducing Broker Forex หมายถึงตัวแทนผู้แนะนำหรือนำลูกค้าเข้าสู่ตลาด Forex ผ่านโบรกเกอร์
สรุป IB Forex
อาชีพ IB Forex นั้นถือเป็นอีกอาชีพที่น่าสนใจมากทีเดียว โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ในการเทรดและมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดในระดับลึกซึ้ง เพราะจะสามารถให้คำแนะนำแก่ผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี และถ้าหากเรามีทริกหรือมีการส่งซิกหรือพาเทรดด้วยจะยิ่งทำให้คนให้ความสนใจและมาสมัครโบรกเกอร์ต่าง ๆ ผ่านเราได้มากเลยทีเดียว แต่อย่าลืมว่าหากใครสนใจจะทำอาชีพ IB จะต้องไปสอบเพื่อรับใบอนุญาตก่อนนะคะ ไม่งั้นถือว่าผิดกฎหมายได้เลยนะ เดี๋ยวจะหาว่าคุณน้าไม่เตือนค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : Investopedia
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ: คลิกที่นี่
คลังความรู้จากคุณน้า: คลิกที่นี่