Market Sentiment คืออะไร? ทำไมเทรดเดอร์ควรให้ความสำคัญ

Market Sentiment คืออะไร? ทำไมเทรดเดอร์ควรให้ความสำคัญ
Table of Contents

Market Sentiment (อารมณ์ของตลาด) เป็นสิ่งสำคัญที่นักลงทุนหรือเทรดเดอร์ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากอารมณ์ของตลาดสามารถกำหนดทิศทางของแนวโน้มราคาได้ ดังนั้น ในบทความนี้ คุณน้าจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ Market Sentiment ว่าคืออะไร รวมไปถึงการประยุกต์ใช้ XAUUSD Sentiment ร่วมกับเครื่องมือทางเทคนิคอื่น ๆ เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น ห้ามพลาดบทความนี้นะคะ!

*หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงบทความให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้เป็นการชักชวนเพื่อลงทุนแต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน


คำนิยามของคำว่า Sentiment คืออะไร?

Market Sentiment คืออะไร?

ในบริบทของตลาดการลงทุนนั้น หลายคนคงได้ยินคำว่า “Sentiment” นั่นก็คือ แนวทางความคิดและความรู้สึกของนักลงทุนในตลาด ซึ่งมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินเป็นอย่างมาก เพราะเป็นความรู้สึกหรืออารมณ์ที่เกิดขึ้นในตลาด ไม่ว่าจะเป็นความกลัว, ความตื่นเต้น หรือแม้แต่ความตื่นตระหนก ซึ่งมักส่งผลกระทบต่อความเคลื่อนไหวของราคาอย่างรุนแรงนั่นเองค่ะ

⭐เรียกง่าย ๆ ว่า Market Sentiment (อารมณ์ของตลาด) คือ ความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อตลาด ไม่ว่าจะเป็นความกลัวหรือความตื่นเต้น โดยสามารถบ่งบอกได้ว่านักลงทุนส่วนใหญ่มีมุมมองต่อตลาดในทิศทางใด ซึ่งโดยปกติแล้ว อารมณ์ของตลาดจะแบ่งมุมมองตลาดออกเป็น 3 แนวโน้ม ได้แก่ Uptrend, Downtrend และ Sideway โดยมีรายละเอียด ดังนี้

เชื่อว่าตลาดอยู่ในสภาวะขาขึ้น (Uptrend)

หากนักลงทุนหรือเทรดเดอร์มีความเชื่อมั่นสูงว่า สินทรัพย์นั้น ๆ จะมีการปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต จะส่งผลให้ราคาของสินทรัพย์นั้น ๆ มีแนวโน้มอยู่ในสภาวะขาขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น ปรากฏการณ์ Bitcoin Halving ที่จะเกิดขึ้นในทุก ๆ 4 ปี นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าราคาของ Bitcoin จะพุ่งสูงขึ้นในช่วงที่เกิดการ Halving ค่ะ เนื่องจากรางวัลจากการขุดบิตคอยน์จะลดลงครึ่งหนึ่ง แต่มูลค่าของบิตคอยน์นั้นเท่าเดิม ทำให้ความต้องการหรืออุปสงค์ของนักลงทุนหรือเทรดเดอร์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลให้ราคามีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น

เชื่อว่าตลาดอยู่ในสภาวะขาลง (Downtrend)

หากนักลงทุนแสดงถึงความกังวล โดยคาดการณ์ว่า ราคาสินทรัพย์จะมีราคาลดลงในอนาคต อาจทำให้ราคาสินทรัพย์นั้น ๆ มีแนวโน้มอยู่ในสภาวะขาลงได้เช่นกันค่ะ

ยกตัวอย่างเช่น หุ้นไทย มีแนวโน้มติดลบในรอบ 10 เดือน เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยยังคงมีโมเดลที่คล้ายเดิม คือ เน้นพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยยังไม่เติบโตเพิ่มขึ้น 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดหุ้นไทยจะไม่เติบโตเท่าที่ควร แต่กลับมีสินทรัพย์ประเภทหนึ่งที่ราคามีแนวโน้มสูงขึ้น นั่นก็คือ ทองคำ เพราะเมื่อใดก็ตามที่นักลงทุนเกิดความกังวลต่อทิศทางของเศรษฐกิจ นักลงทุนจะหันไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นนั่นเอง

เชื่อว่าตลาดยังหาทิศทางไม่ได้ (Sideway)

สำหรับแนวโน้ม Sideway ถือเป็นกราฟราคาที่ค่อนข้างอึดอัดหัวใจสำหรับนักลงทุนหรือเทรดเดอร์อยู่หน่อย ๆ ค่ะ เพราะกราฟราคามักจะวิ่งอยู่ในกรอบแคบ  ๆ และมีการสวิงเป็นอย่างมาก ซึ่งที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าอารมณ์ของตลาดจะยังคงหาทิศทางไปต่อไม่ได้ เนื่องจากนักลงทุนเกิดความลังเลในการเข้าซื้อขายสินทรัพย์ เพราะกำลังรอสัญญาณยืนยันจากการประกาศข่าวสารสำคัญก่อนค่ะ

*คำเตือน : ความเชื่อมั่นของตลาดอาจไม่แน่นอนและผันผวนค่อนข้างมาก ซึ่งบางครั้งก็นำไปสู่ความสวิงของกราฟราคา ดังนั้น เทรดเดอร์อย่าลืมตั้ง TP และ SL อยู่เสมอนะคะ

หลักการจำแนวโน้มของตลาดง่าย ๆ จากคุณน้า :

โดยปกติแล้ว นักลงทุนหรือเทรดเดอร์มักจะประเมินอารมณ์ของตลาดออกเป็น 2 แนวโน้มหลัก ได้แก่ แนวโน้มขาขึ้น (ตลาดกระทิง) และแนวโน้มขาลง (ตลาดหมี) ซึ่งมีหลักการจำง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ

  • หากนักลงทุนรู้สึกมั่นคงในสินทรัพย์  นักลงทุนมักจะเข้าซื้อสินทรัพย์เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ตลาดอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
  • หากนักลงทุนรู้สึกไม่มั่นคงในสินทรัพย์ นักลงทุนมักจะเทขายสินทรัพย์เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ตลาดอยู่ในแนวโน้มขาลง


Market Sentiment ในตลาดการเงินและการลงทุนเป็นอย่างไร?

จากที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่า อารมณ์ของตลาดมีผลต่อตลาดหลักทรัพย์ในช่วงเวลานั้น ๆ แล้วอย่างนี้ หลายคนคงเกิดความสงสัยว่า อารมณ์ของตลาดในตลาดการเงินและการลงทุนเป็นอย่างไร โดยคุณน้าขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพ ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้ค่ะ

Market Sentiment ในตลาดการเงินและการลงทุนเป็นอย่างไร?

ที่มารูปภาพ : TradingView

ตลาดหุ้น

อารมณ์ของตลาดเป็นปัจจัยสำคัญในตลาดหุ้นเลยค่ะ เพราะปกติแล้วเทรดเดอร์และนักลงทุนจะตัดสินใจจากการพิจารณาแนวโน้มของหุ้นรายตัว, ตลาดโดยรวม, ข่าวสารสำคัญ และรายงานผลประกอบการในช่วง 5-10 ปี เป็นต้น

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

สำหรับสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ, น้ำมัน และสินค้าเกษตรก็ได้รับอิทธิพลจากความเชื่อมั่นของตลาดเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น พลวัตของอุปสงค์และอุปทาน, เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และแนวโน้มเศรษฐกิจโลกก็เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่มีผลต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

ตลาดอสังหาริมทรัพย์

ในตลาดอสังหาริมทรัพย์อารมณ์ของตลาดก็มีอิทธิพลต่อราคาและอุปสงค์ของอสังหาริมทรัพย์ ยกตัวอย่างเช่น ความเชื่อมั่นในโครงการนั้น ๆ หากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นสูง แน่นอนว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ก็จะมีแนวโน้มสูงขึ้นตามไปด้วย

ตลาดสกุลเงินดิจิทัล

ตลาดสกุลเงินดิจิทัลได้รับอิทธิพลจากอารมณ์ของตลาดค่อนข้างมากค่ะ เพราะตลาดสกุลเงินดิจิทัลไม่ได้มีปัจจัยที่ส่งผลต่อการขึ้น-ลงของราคาแบบตายตัว โดยหลาย ๆ ครั้งราคามักจะผันแปรตามสถาบันทางการเงินหรือนักลงทุนรายใหญ่ค่ะ ยกตัวอย่างเช่น การทวีตของ Elon Musk ส่งผลให้ราคาสกุลเงินดิจิทัลผันผวนเป็นอย่างมาก

ตลาด Forex

ตลาด Forex ถือเป็นอีกหนึ่งในไฮไลต์ของอารมณ์ของตลาดเลยค่ะ เพราะตลาด Forex เป็นตลาดที่เคลื่อนไหวไปตามข่าวสารสำคัญค่อนข้างมาก และในวันที่ธนาคารหยุดทำการหรือเป็นวันที่ไม่มีข่าวสำคัญ เทรดเดอร์มักจะใช้ Sentiment Forex ในการหาแนวโน้มของตลาด โดยอาศัยการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของคู่สกุลเงินนั้น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ จะวิเคราะห์จากปริมาณการซื้อขาย (Volume) ของผู้เล่นในตลาด ณ ขณะนั้นค่ะ

ตลาดตราสารหนี้

แม้แต่ตลาดตราสารหนี้ที่นักลงทุนให้ความสำคัญกับผลตอบแทนและความเสี่ยงมากกว่า อารมณ์ของตลาดก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญค่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย, ความคาดหวังทางเศรษฐกิจ และการรับรู้ความน่าเชื่อถือทางเครดิตสามารถส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาดตราสารหนี้ได้เหมือนกัน


เครื่องมือที่ช่วยวัด Markets Sentiment มีอะไรบ้าง?

อารมณ์ของตลาดถือเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์เป็นอย่างมากค่ะ เพราะสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของราคา ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถจับจังหวะในการซื้อขาย เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ดียิ่งขึ้น

อย่างไรก็ดี คุณควรวิเคราะห์อารมณ์ของตลาดควบคู่ไปกับการวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค (Technical Analysis) และการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) ค่ะ เพราะการวิเคราะห์จากอารมณ์ตลาดเพียงอย่างเดียว ไม่ได้การันตีว่าคุณจะมาถูกทาง เพราะในหลาย ๆ ครั้งที่ FOMO ของผู้เล่น มักจะเป็นแค่สัญญาณหลอก ซึ่งทำให้คุณอาจพลาดโอกาสในการทำกำไรได้เช่นกันค่ะ

ดังนั้นแล้ว คุณน้าขอยกตัวอย่างการวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค (Technical Analysis) และปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) โดยมีรายละเอียด ดังนี้

การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis)

การวิเคราะห์ทางเทคนิคจะช่วยให้นักลงทุนหรือเทรดเดอร์สามารถคาดการณ์แนวโน้มของตลาดในอนาคตได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยมีรายละเอียด ดังนี้

Sentiment Indicator

Sentiment Indicator เป็นเครื่องมือที่ใช้วัดอารมณ์ของนักลงทุน โดยจะนิยมวิเคราะห์จาก COT Report (Commitment of Trader’s Report) ซึ่งเป็นรายงานที่เกี่ยวกับการถือสถานะ Futures ในสหรัฐฯ จัดทำโดย CFTC ซึ่งเป็นข้อมูลที่จะเก็บในวันอังคาร และจะถูกประกาศในวันศุกร์ของทุก ๆ สัปดาห์ค่ะ อีกทั้งการถือครองสถานะ Futures จะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ นักลงทุนรายใหญ่ (Non Commercial), ผู้ใช้สินค้าจริง (Commercial) และนักลงทุนรายย่อย (Non Reportable Positions) 

สำหรับประโยชน์ของ COT Report ก็คือ การทำความเข้าใจพฤติกรรมของนักลงทุนว่ากำลังอยู่ในฝั่ง Buy หรือ Sell มากกว่ากัน ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถเห็นราคาที่แท้จริงของตลาด อีกทั้งยังสามารถคาดการณ์แนวโน้มของตลาดในระยะกลางถึงระยะยาวได้อีกด้วยค่ะ

นอกจาก COT Report แล้ว ยังมี Sentiment Indicator หลายตัวที่น่าสนใจ ยกตัวอย่างเช่น VIX Index หรือที่รู้จักกันดีในคำว่า “ดัชนีความกลัว” เป็นดัชนีที่สะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกของนักลงทุนที่มีต่อความผันผวนในอนาคต โดยวัดจาก Implied Volatility ของ S&P 500 Options ซึ่งหาก VIX Index มีตัวเลขสูงกว่า 30 นั่นแสดงว่า นักลงทุนเกิดความกังวลต่อตลาดเป็นอย่างมากค่ะ

Technical Indicator

การใช้ Sentiment Indicator ให้แม่นยำนั้น จำเป็นต้องใช้ควบคู่กับ Technical Indicator ค่ะ เพราะตัวบ่งชี้ทางเทคนิคจะสะท้อนให้เห็นถึงภาพรวมของตลาด ไม่ว่าจะเป็นปริมาณการซื้อขาย, ราคา หรือข้อมูลทางเทคนิคที่ปรากฏบนกราฟราคา สำหรับตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่นักลงทุนหรือเทรดเดอร์นิยมใช้งาน ก็มีมากมายหลายชนิด ได้แก่ MACD, RSI และ Bollinger Band เป็นต้น

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis)

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน จะช่วยให้นักลงทุนหรือเทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของสินทรัพย์แต่ละตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะจะสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิทยาและความเชื่อมั่นของผู้เล่นในตลาดค่ะ โดยปกติแล้ว ปัจจัยทางพื้นฐานจะปรากฏในข่าวสารสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลข GDP, นโยบายของธนาคารกลาง, อัตราเงินเฟ้อ รวมไปถึงข่าวการเมืองและภัยพิบัติ เป็นต้น


ตัวอย่างการดู XAUUSD Sentiment ในตลาด Forex

และเพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพชัดเจนที่สุด คุณน้าขอยกตัวอย่างการดู XAUUSD ในตลาด Forex เนื่องจากช่วงนี้ ทองคำทำการ New High อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นสินทรัพย์ยอดนิยมที่เทรดเดอร์ให้ความสนใจค่ะ โดยคุณน้าขอยกตัวอย่างเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมของราคา ดังนี้

 Sentiment Indicator

*ข้อมูล XAUUSD Sentiment ณ วันที่ 10 ตุลาคม 2025

สำหรับการดู XAUUSD Sentiment คุณน้าจะวิเคราะห์ข้อมูล Sentiment Indicator จาก Myfxbook ซึ่งจะเห็นได้ว่า ผู้เล่นในตลาดอยู่ฝั่ง Buy (Long) มากกว่าฝั่ง Sell (Short) เพราะ Volume และ Position จากฝั่ง Buy มากกว่าฝั่ง Sell โดยสะท้อนให้เห็นว่า แรงหนุนจากฝั่งซื้อมากกว่าฝั่งขายเล็กน้อย ซึ่งยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าราคาจะมีการปรับฐานใหม่หรือไม่ เพราะดูจากปริมาณการซื้อขาย เห็นได้ว่า ฝั่ง Buy มากกว่าฝั่ง Sell แต่ราคามีการปรับลดลงมา อีกทั้งหาก Sentiment Indicator ฝั่งใดฝั่งหนึ่งมีมากกว่า 70% ผู้เล่นรายใหญ่ (SMC) มักจะเทรดสวนเทรนด์

ด้วยเหตุนี้เอง คุณน้าจะใช้เครื่องมือทางเทคนิคอื่น ๆ รวมกับข่าวสารสำคัญเกี่ยวกับทองคำ เพื่อหาจุดซื้อขายที่แม่นยำมากขึ้นค่ะ ยกตัวอย่างเช่น การใช้ Moving Average และ RSI ควบคู่ไปกับการศึกษาข่าว Forex จาก FXStreet โดยมีรายละเอียด ดังนี้ค่ะ

Moving Average และ RSI

*ข้อมูล XAUUSD Sentiment ณ วันที่ 10 ตุลาคม 2025

จากกราฟราคาจะเห็นได้ว่าเส้นค่าเฉลี่ยทั้ง 2 เส้นของ Moving Average เกิดการ Crossover กันลงมา อีกทั้ง เส้น RSI ปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นการยืนยันว่าราคาอยู่ในแนวโน้มขาลงค่ะ

ข่าวจาก FXStreet

ข่าวจาก FXStreet กล่าวว่าตลาดยังคงป้องกันความเสี่ยง เนื่องจากเป็นช่วงหยุดยาวของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะชะลอความเสี่ยงไปจนถึงอังคารหน้า อีกทั้งยังคาดว่า Fed จะยังคงปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ประกอบกับนักลงทุนหรือเทรดเดอร์กำลังรอข่าว CPI และอัตราเงินเฟ้อ ทำให้ฝั่งผู้ซื้อกำลังเตรียมรับมือกับข่าวที่กำลังมาถึงค่ะ

คุณน้าแนะนำ XAUUSD Sentiment ดูยังไง?

จากที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่า Sentiment Indicator, Technical Indicator และข่าว FXStreet เป็นไปในแนวโน้มเดียวกัน นั่นก็คือ XAUUSD อยู่ในแนวโน้มขาลง เนื่องจากราคามีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากคาดการณ์ว่าตลาดยังเกิดความกังวลจากข่าวที่กำลังจะเกิดขึ้นค่ะ

ด้วยเหตุนี้เอง ราคาจึงหลุดโซนซื้ออย่างรุนแรง ซึ่งคาดว่าฝั่ง Buyer จะยังคงมีกำลังซื้อเต็มที่ ดังนั้น คุณน้าจะเปิด Order Buy และหากราคาสามารถทดสอบแนวต้านขึ้นไป 2% – 3% จากราคาปัจจุบัน จะสะท้อนให้เห็นว่าตลาดมีทำ New High ในแนวโน้มขาขึ้น คุณน้าจะปิดที่ Order Sell เพื่อทำกำไรค่ะ

อย่างไรก็ดี หากราคาทองคำทะลุแนวรับลงมา 2% – 3% จากราคาปัจจุบัน แสดงว่าตลาดอยู่ในแนวโน้มขาลง ซึ่งจะเป็นราคาที่ฝั่ง Seller ให้ความสนใจ ดังนั้นคุณน้าจะรอจังหวะเปิดที่ Order Buy ค่ะ

*หมายเหตุ : ตัวอย่างที่กล่าวไปข้างต้น เป็นเพียงตัวอย่างในการวิเคราะห์เชิงเทคนิคเท่านั้น ไม่ได้ชักชวนการลงทุนแต่อย่างใด อีกทั้งการเลือกจุดซื้อขายก็ขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดของแต่ละคน


วันที่ไม่มีข่าวสำคัญ ควรระวัง Market Sentiment Forex หรือไม่?

ทำไมคุณถึงควรระมัดระวังอารมณ์ของตลาดในวันที่ไม่มีข่าวสำคัญ เพราะอารมณ์ของตลาดยังคงส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาอย่างมีนัยสำคัญค่ะ ทำให้คุณจำเป็นต้องมานั่งคาดการณ์แนวโน้มของตลาดด้วยตัวเอง ลองนึกภาพตามง่าย ๆ ว่า เมื่อข่าวสำคัญอย่าง Nonfarm Payroll ถูกประกาศออกมา และหากตัวเลขการจ้างงานลดลง นั่นแปลว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มตกต่ำ ซึ่งมักส่งผลกระทบให้ตลาดหุ้นและตลาด Forex มีแนวโน้มปรับตัวลงตามไปด้วยนั่นเอง

ยกเว้นก็แต่ราคาทองคำที่จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงกันข้าม เพราะนักลงทุนหันไปให้ความสนใจสินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นค่ะ ซึ่งจะเห็นได้ว่านักลงทุนมักจะใช้ข่าวสารสำคัญในการคาดการณ์อารมณ์ของตลาด รวมไปถึงแนวโน้มของราคาในอนาคต

อย่างไรก็ดี ในวันที่ไม่มีข่าวสำคัญ นักลงทุนหรือเทรดเดอร์ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจค่ะ เพราะอารมณ์ของตลาดโดยรวมยังอยู่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากพฤติกรรมของราคาและสัญญาณหลอกของกราฟ อีกทั้ง ตลาดยังเกิดความผันผวนได้ตลอดเวลา ดังนั้น นักลงทุนหรือเทรดเดอร์หลายคน จึงนิยมใช้ข้อมูลย้อนหลัง รวมไปถึงเครื่องมือทางเทคนิคอื่น ๆ มาพิจารณาร่วมกัน เพื่อคาดการณ์แนวโน้มของราคาในอนาคตนั่นเอง

ทฤษฎี History Repeats Itself กล่าวไว้ว่า

“นักลงทุนมักจะมีการตัดสินใจลงทุนด้วยอารมณ์และประสบการณ์ในอดีต ซึ่งนำไปสู่ความเคลื่อนไหวของราคาในรูปแบบซ้ำ ๆ กัน”


ตัวอย่างเหตุการณ์ที่ควรระวังสำหรับ Market Sentiment

การเทขายเพราะความกังวลของตลาด “Panic Sell”

Panic Sell หมายถึง สถานการณ์ที่เทรดเดอร์หรือนักลงทุนเกิดการเทขายสินทรัพย์ที่ถืออยู่อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเกิดความกลัวและมีทัศนคติเชิงลบเกี่ยวกับสินทรัพย์นั้น ๆ จนทำให้นักลงทุนหลาย ๆ คน รีบเทขายสินทรัพย์ทิ้ง ซึ่งส่งผลกระทบให้มูลค่าของสินทรัพย์ลดลงอย่างมีนัยสำคัญค่ะ

อย่างไรก็ดี Panic Sell มักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้นค่ะ อีกทั้ง นักลงทุนหรือเทรดเดอร์สายการเก็งกำไรจะนิยมฉวยโอกาสจากจังหวะลักษณะนี้ เพื่อหาโอกาสในการเก็งกำไรค่ะ

การเข้าซื้อเพราะมีอุปสงค์สูง “Strong Buy”

Strong Buy หมายถึง สถานการณ์ที่เทรดเดอร์หรือนักลงทุนมีการเข้าซื้ออย่างรวดเร็ว เพราะเกิดความเชื่อมั่นในสินทรัพย์นั้น ๆ ค่ะ ซึ่งเหตุการณ์นี้จะเกิดจากความเชื่อที่ว่า ตลาดหรือสินทรัพย์นั้น ๆ ถูกประเมินต่ำเกินไปหรือเป็นโอกาสที่น่าสนใจในการรีบเข้าซื้อ เพราะราคามีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต ซึ่งลักษณะกราฟจะเป็นเนื้อเทียนสีเขียวขนาดใหญ่ในช่วง Strong Buy นั่นเองค่ะ


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวอารมณ์ของตลาด

Market Sentiment Forex คืออะไร?

Market Sentiment Forex คือ การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาสกุลเงิน โดยมาจากปริมาณการซื้อขายของผู้เล่นในตลาด Forex

Market Sentiment Indicators มีอะไรบ้าง?

คุณน้าขอแนะนำ Indicator ที่ใช้ในการหา Sentiment Forex เช่น MACD, RSI, The VIX, Bullish Percent Index และ Bollinger Band เป็นต้น

วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ เป็นอย่างไร?

ติดตามการวิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ ได้ที่หน้า Signal บนเว็บไซต์ Tradewithauntie เพื่อไม่ให้พลาดการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบเรียลไทม์


สรุป Market Sentiment สำคัญอย่างไร

คุณน้าต้องขอบอกเลยว่า อารมณ์ของตลาดเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เทรดเดอร์หรือนักลงทุนไม่ควรมองข้ามค่ะ เพราะอารมณ์ของตลาดสามารถกำหนดแนวโน้มของราคาได้ ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มขนาดใหญ่หรือแนวโน้มขนาดเล็ก

อย่างไรก็ดี คุณควรใช้อารมณ์ของตลาดควบคู่ไปกับเครื่องมือทางเทคนิคอื่น ๆ และที่สำคัญก็คือ อย่าลืมกำหนดจุด TP และ SL ในการเปิดปิดออเดอร์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร ด้วยความปรารถนาดีจากทีมงานคุณน้าพาเทรดค่ะ


สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

Picture of คุณน้า
คุณน้า
คุณน้าเป็นเทรดเดอร์ที่คลุกคลีอยู่ในตลาดต่าง ๆ ร่วม 10 ปี จึงอยากนำความรู้ที่มีมาแบ่งปันให้กับทุกคน
Table of Contents
Recent Post
Recent Post
บทวิเคราะห์คู่เงิน AUDUSD 31 ตุลาคม 2025
บทวิเคราะห์ AUDUSD วันที่ 31 ตุลาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ AUDUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

บทวิเคราะห์คู่เงิน USDCHF 30 ตุลาคม 2025
บทวิเคราะห์ USDCHF วันที่ 30 ตุลาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ USDCHF ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

บทวิเคราะห์คู่เงิน USDRUB 30 ตุลาคม 2025
บทวิเคราะห์ USDRUB วันที่ 30 ตุลาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ USDRUB ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

บทวิเคราะห์ทองคำ 29 ตุลาคม 2025
บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 29 ตุลาคม 2025

ในบทวิเคราะห์นี้ จะศึกษาภาพรวมปัจจัยพื้นฐานและภาพรวมทางเทคนิคของราคาทองคำ จะมีจุดน่าเข้าซื้อหรือน่าขายจุดไหนบ้าง? บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้มีคำตอบ!

ทางเว็บไซต์ คุณน้าพาเทรด
ได้มีการใช้คุกกี้เพื่อช่วยปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้เว็บไซต์ของเราดียิ่งขึ้น


Privacy Policy