AI กับการวางแผนการลงทุน : มีข้อดีและข้อจำกัดอย่างไร นักลงทุนห้ามพลาด!

AI
Table of Contents

ในปัจจุบันหลายคนคงคุ้นหูกับคำว่า AI กันใช่ไหมคะ ส่วนตัวคุณน้าเองเคยเห็น AI ในการมีส่วนช่วยให้ชีวิตประจำวันของเราสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น เช่น การใช้ Google Map ในการนำทาง, การติดต่อ Call Center บนเว็บไซต์ต่าง ๆ หรือแม้แต่การใช้ ChatGPT ในการค้นหาข้อมูลบนโลกออนไลน์ก็ล้วนแล้วแต่มาจาก AI ทั้งสิ้นค่ะ

สำหรับ AI กับการวางแผนการลงทุนก็ได้เข้ามีบทบาทที่สำคัญเป็นอย่างมากค่ะ ในวันนี้ทีมงานคุณน้าพาเทรดจะพาทุกคนไปรู้จักกับ AI ในการวางแผนการลงทุนให้มากยิ่งขึ้นว่า จุดกำเนิด AI คืออะไร? AI กับการวางแผนการลงทุนทำได้อย่างไร? ไปหาคำตอบกันได้เลยค่ะ

ย้อนรอยจุดกำเนิดของ AI คืออะไร?

AI

ที่มา : Rawpixel.com

หากให้พูดไปถึง AI ขอสรุปให้เห็นภาพชัด ๆ ว่า AI ย่อมาจาก Artificial Intelligence คือ โปรแกรมวิทยาศาสตร์และคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่ได้เหมือนกับมนุษย์นั่นเองค่ะ โดยมีจุดเด่นที่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีฟังก์ชันที่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองอีกด้วย

สำหรับจุดกำเนิดของ AI หรือที่เราสามารถเรียกได้อีกชื่อว่า “ปัญญาประดิษฐ์” นั้น ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาหลายต่อหลายครั้งค่ะ เริ่มกันที่ปีค.ศ. 1943-1950 โดย Warren McCulloch และ Walter Pitts ที่ร่วมกันสร้างแบบจำลองหน่วยประสาทเดี่ยว (Neurons) เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับสมองในเชิงคำนวณและชีวภาพ

AI

Warren McCulloch และ Walter Pitts
ที่มา : Reder.red

ต่อมาในปีค.ศ. 1955 AI ได้ถูกสร้างขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์สัญชาติอเมริกันที่มีชื่อว่า John McCarthy ค่ะ โดยเขาได้ศึกษาเกี่ยวกับความฉลาดของ AI อย่างเต็มตัว

AI

ROOMBA
ที่มา : https://www.engadget.com

หลังจากนั้น AI ได้ถูกพัฒนามาเรื่อย ๆ เพื่อรองรับความต้องการของมนุษย์ในหลาย ๆ อุตสาหกรรมค่ะ เช่น ปี 1964 กับเทคโนโลยีแชทบอทครั้งแรก, ปี 2002 กับ ROOMBA AI หุ่นยนต์ดูดฝุ่นและทำความสะอาดบ้านครั้งแรก, ปี 2011 บริษัท Apple ได้นำการสั่งการด้วยเสียง Siri เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ iPhone หรือในปี 2014 บริษัท Amazon กับการพัฒนา Alexa AI ที่สามารถสั่งการด้วยเสียงตัวช่วยในการชอปปิง เป็นต้น

จากที่กล่าวมาเห็นได้ว่า AI มีการพัฒนามาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และดูเหมือนว่าในอนาคต AI จะถูกนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันของมนุษย์มากยิ่งขึ้นค่ะ

AI กับการวางแผนการลงทุนทำได้อย่างไร?

จากที่กล่าวไปข้างต้นเห็นได้ว่า AI มีส่วนช่วยในการเป็นเครื่องทุ่นแรงให้กับมนุษย์อย่างเรา ๆ เป็นอย่างมากค่ะ ซึ่งในการวางแผนการลงทุนนั้น AI เข้ามามีบทบาทที่สำคัญ 5 อย่าง ดังต่อไปนี้

1. การประเมินความเสี่ยงการลงทุน

AI จะช่วยในการวางแผนการลงทุนที่สามารถวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงการลงทุน (Risk Management) ได้เป็นอย่างดี เพราะ AI ไม่มีอารมณ์ร่วมเหมือนกันกับเราค่ะ ซึ่งจะเหมาะกับนักลงทุนที่ไม่มีเวลาในการติดตามข่าวสารที่สำคัญ อีกทั้งยังช่วยให้นักลงทุนไม่ต้องนั่งเฝ้าพอร์ตตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ

2. EA

EA หรือระบบเทรดอัตโนมัติ เป็น AI ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในวงการการลงทุนหรือการเทรดค่ะ ยกตัวอย่างเช่น การเทรด Forex EA จะเข้ามาช่วยลดความเครียดของเทรดเดอร์ และช่วยให้เทรดเดอร์ไม่จำเป็นต้องเทรดด้วยตัวเองก็สามารถซื้อขายสินทรัพย์ได้ค่ะ

3. การวิเคราะห์และคาดการณ์หุ้น

AI สามารถเข้ามาช่วยในการประเมินและคาดการณ์หุ้นในอนาคตได้ค่ะ โดย AI จะอิงข้อมูลจากผลประกอบและสถิติในอดีตของหุ้นตัวนั้น ๆ เพราะปกติแล้วนักลงทุนจะใช้ข้อมูลเกี่ยวกับเทรนด์ของราคา, รอบไตรมาสของหุ้น และเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อราคาหุ้นในตลาดมาวิเคราะห์และตัดสินใจซื้อหุ้นที่น่าสนใจ

ส่วนใหญ่จะเป็นการคาดการณ์ในลักษณะที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ค่ะ ทำให้ในปัจจุบันนักลงทุนเริ่มใช้ AI เข้ามาช่วยโดยการป้อนข้อมูลย้อนหลัง เพื่อให้ AI สามารถวิเคราะห์หุ้นแทนตัวเองได้

อย่างไรก็ดี AI เป็นเพียงตัวช่วยในการตัดสินใจและช่วยประหยัดเวลาในการเลือกหุ้นเท่านั้นค่ะ แต่ความแม่นยำของ AI ก็ไม่ได้เต็ม 100% ซึ่งส่วนนี้คุณน้าเห็นว่า จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของนักลงทุนแต่ละคนค่ะ

4. การวิเคราะห์ความเชื่อมั่นของบริษัท

หลังจากที่ AI สามารถวิเคราะห์และคาดการณ์หุ้นได้แล้วนั้น AI ยังช่วยให้สามารถวิเคราะห์ความเชื่อมั่นของบริษัทได้อีกด้วยค่ะ โดยสามารถเปรียบเทียบได้จากการใช้ Big Data ของบริษัทนั่นเองค่ะ

5. การตรวจจับการฉ้อโกง

AI สามารถเข้ามาช่วยตรวจจับการฉ้อโกงของนักลงทุนได้ค่ะ โดยจะช่วยให้นักลงทุนมีโอกาสลดการขาดทุนที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

3 ตัวอย่าง AI ที่ถูกนำมาใช้ในการลงทุน

1. Robo Adviser

AI

ที่มา : kjpargeter

มาที่ AI ตัวแรกที่ถูกนำมาใช้ในการลงทุน นั่นก็คือ Robo Adviser ค่ะ โดยจะทำหน้าที่ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนแบบอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็น การช่วยออกแบบพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและการประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้ อีกทั้ง AI ยังช่วยปรับพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดอีกด้วย

2. Algorithmic Trading

AI

ที่มา : Creativeart

มาต่อกันที่ Algorithmic Trading เป็นโปรแกรม AI ที่จะช่วยให้คุณสามารถส่งคำสั่งซื้อขายในการลงทุนอัตโนมัติได้อย่างแม่นยำ, รวดเร็ว และลดโอกาสในการผิดพลาดในการออกคำสั่ง โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องนั่งเฝ้าจอตลอดทั้งวัน

นอกจากนี้ Algorithmic Trading ยังมีรูปแบบคำสั่งอยู่ 2 แบบหลัก ๆ ได้แก่ 1. โปรแกรมสำเร็จรูป เช่น Metatrader (MT4 หรือ MT5) เป็นต้น และ 2. โปรแกรมที่สามารถเขียนคำสั่งจาก AI ได้ด้วยตัวเอง เช่น Python และ VBA เป็นต้น

3. Machine Learning

AI

ที่มา : Freepik.com

สำหรับ Machine Learning เป็น AI ที่เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของหุ้นและกองทุนรวม โดยมันสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณได้ดี ซึ่งจะครอบคลุมไปถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อตลาดหุ้น ไม่ว่าจะเป็นการประเมินมูลค่า, การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ, สภาวะการลงทุน และความเสี่ยงที่นักลงทุนยอมรับได้ค่ะ ซึ่ง Machine Learning จะมีจุดประสงค์เพื่อหาผลตอบแทนในระยะยาวนั่นเอง

ข้อดีของ AI มีอะไรบ้าง?

  • สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง
  • AI ไม่มีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง
  • ลดความผิดพลาดของมนุษย์ได้
  • สามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว
  • ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ข้อจำกัดของ AI มีอะไรบ้าง?

  • AI สามารถใช้ได้กับการวางแผนการลงทุนที่จำกัดและเฉพาะกลุ่มเท่านั้น
  • ไม่สามารถให้คำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงได้
  • ไม่มีความยืดหยุ่นในการซื้อขาย
  • AI ไม่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างครบถ้วน หากข้อมูลนั้นมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

สรุป AI กับการวางแผนการลงทุน

จากที่กล่าวมาข้างต้น สรุปได้ว่า AI หรือปัญญาประดิษฐ์ มีส่วนช่วยในการลงทุนเป็นอย่างมากค่ะ เพราะ AI เข้ามาช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์การเลือกซื้อหุ้นที่น่าสนใจได้ดียิ่งขึ้น หรือช่วยประเมินความเสี่ยงจากการลงทุน โดยที่คุณไม่ต้องกังวลใจจนเกินไปค่ะ 

อย่างไรก็ตาม AI เป็นแค่หนึ่งในตัวช่วยลงทุนเท่านั้น ซึ่งคุณน้าขอแนะนำว่า สิ่งที่คุณทำ คือ การกำหนดเป้าหมายในการลงทุนและศึกษา AI แต่ละประเภทให้ดีก่อนค่ะ เพื่อช่วยเป็นแนวทางในการตัดสินใจว่า AI ประเภทใดเหมาะกับการลงทุนของคุณ ด้วยความห่วงใยจากทีมงานคุณน้าพาเทรดค่ะ


khunnaphatrade
khunnaphatrade
Recent Post
Moving Average คืออะไร? Indicator ตัวดังของเหล่าเทรดเดอร์สายเทคนิค
Moving Average คืออะไร? Indicator ตัวดังของเหล่าเทรดเดอร์สายเทคนิค ห้ามพลาด!

ในวันนี้คุณน้าพาเทรดจะพาทุกคนมารู้จักกับอินดิเคเตอร์พื้นฐานที่ได้รับความนิยมจากเทรดเดอร์เป็นอย่างมาก นั่นก็คือ Moving Average (MA)

วิเคราะห์ราคาทองคำ
คุณน้าพาเทรดทอง : วิเคราะห์ทองคำวันที่ 9 พฤษภาคม 2567

สวัสดีสายเทรดทองทุกท่านนะคะ วันนี้มาติดตามวิเคราะห์ทองคำประจำวันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม 2567 กันค่า

แนวต้าน : 2,320 / 2,325 / 2,345
แนวรับ : 2,307 / 2,290 / 2,275

วิเคราะห์ราคาทองคำ
คุณน้าพาเทรดทอง : วิเคราะห์ทองคำวันที่ 2 พฤษภาคม 2567

สวัสดีสายเทรดทองทุกท่านนะคะ วันนี้มาติดตามวิเคราะห์ทองคำประจำวันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน 2567 กันค่า

แนวต้าน : 2,325 / 2,335 / 2,350
แนวรับ : 2,310 / 2,295 / 2,280