Bid กับ Ask เป็นคำที่เรามักจะเจอเมื่อทำการเทรดในตลาด Forex โดยทั้งสองคำนี้เป็นราคาเสนอซื้อและราคาเสนอขายที่เป็นตัวกำหนดกำไรหรือขาดทุนของเทรดเดอร์ โดยความแตกต่างระหว่าง Bid กับ Ask เรียกว่าค่า Spread ดังนั้นคุณน้าจึงเขียนบทความเรื่อง Bid Ask คืออะไร? ให้กับเทรดเดอร์มือใหม่ได้ทำความเข้าใจก่อนที่จะทำการเทรดในตลาด Forex ค่ะ
*หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงบทความให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้เป็นการชักชวนเพื่อลงทุนแต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
Bid Ask คือ อะไร?

Bid คือ ราคาสูงสุดที่โบรกเกอร์เสนอซื้อสินทรัพย์ให้กับเทรดเดอร์ ณ ช่วงเวลานั้น ๆ ซึ่งเป็นราคาที่ตลาดหรือโบรกเกอร์เสนอให้สำหรับการรับซื้อสินทรัพย์ ทำให้เทรดเดอร์จะได้ราคา Bid เมื่อเปิด Order Sell หรือปิด Order Buy
ในขณะที่ Ask คือ ราคาต่ำสุดที่โบรกเกอร์เสนอขายสินทรัพย์ให้กับเทรดเดอร์ ซึ่งเป็นราคาที่ตลาดหรือโบรกเกอร์เสนอให้สำหรับการขายสินทรัพย์ ทำให้เทรดเดอร์จะได้ราคา Ask เมื่อเปิด Order Buy หรือปิด Order Sell นอกจากนี้ ในบางตลาดโดยเฉพาะตลาดหุ้นมักจะเรียก Ask ว่า Offer ค่ะ
สำหรับราคา Bid Ask สามารถสรุปได้ง่าย ๆ ดังนี้
- ราคา Bid คือ ราคาที่เทรดเดอร์ขายได้ (ราคาที่ตลาดหรือโบรกเกอร์รับซื้อ)
- ราคา Ask คือ ราคาที่เทรดเดอร์ซื้อได้ (ราคาที่ตลาดหรือโบรกเกอร์เสนอขาย)
📢 Tip เกี่ยวกับ Bid Ask หรือ Bid Offer
โดยปกติแล้ว ราคา Bid จะต่ำกว่าราคา Ask เสมอค่ะ และความแตกต่างระหว่างราคา Bid Ask ก็คือ ค่าสเปรด (Spread) หรือค่าธรรมเนียมที่ทางโบรกเกอร์จะเรียกเก็บ เมื่อเทรดเดอร์เริ่มเปิดปิด Order นั่นเอง
ตัวอย่างการคำนวณ Bid Ask เป็นอย่างไร?
ราคา Bid Ask จะถูกคำนวณมาจากการเสนอซื้อและขายของผู้เล่นในตลาด ทำให้ราคาจะขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทาน หรือถ้าอธิบายให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็คือ ผู้ซื้อจะพยายามซื้อให้ได้ราคาที่ต่ำที่สุด ส่วนผู้ขายจะพยายามตั้งราคาขายให้ได้สูงที่สุด เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร ซึ่งราคา Bid Ask จะทำให้เกิดเป็นค่าสเปรดที่สามารถบ่งบอกได้ว่าตลาดมีปริมาณการซื้อขายและสภาพคล่องมากน้อยแค่ไหนค่ะ
คุณน้าขอยกตัวอย่างการคำนวณของ Bid Ask จากภาพประกอบด้านล่างนี้ เพื่อให้เทรดเดอร์สามารถเข้าใจภาพรวมได้มากยิ่งขึ้น โดยมีรายละเอียด ดังนี้

คู่สกุลเงิน GBPUSD ราคา Bid อยู่ที่ 1.32672 และราคา Ask อยู่ที่ 1.32681 โดยมีค่าสเปรดอยู่ที่ 0.9 pips หากคุณน้าเปิด Order Sell หรือ Order Buy สามารถคิดได้ 2 กรณี ดังนี้
- หากคุณน้าต้องการเปิด Order Sell คู่สกุลเงิน GBPUSD คุณน้าจะได้ที่ราคา Bid ซึ่งหมายความว่า คุณน้าได้รับเงิน 1.32672 USD จากการขาย 1 GBP และเมื่อคุณน้าปิด Order Sell คุณน้าจะได้ที่ราคา Ask แทนค่ะ
- หากคุณน้าต้องการเปิด Order Buy คู่สกุลเงิน GBPUSD คุณน้าจะได้ราคา Ask ซึ่งหมายความว่า คุณน้าต้องใช้เงิน 1.32681 USD เพื่อซื้อ 1 GBP และเมื่อคุณน้าปิด Order Buy คุณน้าจะได้ที่ราคา Bid นั่นเอง
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา Bid Ask มีอะไรบ้าง?
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคา Bid Ask มีทั้งหมด 5 ปัจจัยสำคัญ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. สภาพคล่องของตลาด
สินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง อย่างเช่นคู่สกุลเงินยอดนิยมในตลาด Forex จะมีปริมาณการซื้อขายเป็นจำนวนมาก ทำให้ราคา Bid และ Ask ไม่ขยับห่างกันมาก ซึ่งจะส่งผลให้ค่าสเปรดต่ำหรือสเปรดแคบ เพราะการจับคู่ของสกุลเงินจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากตลาดมีสภาพคล่องสูงค่ะ ในขณะที่หากคุณน้าลองเทรดคู่สกุลเงิน Exotic หรือคู่เงินรอง ราคา Bid และ Ask จะขยับห่างกันค่อนข้างมาก ทำให้ค่าสเปรดสูงขึ้นหรือสเปรดถ่าง เพราะเป็นคู่เงินที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม ทำให้ปริมาณการซื้อขายต่ำ ตลาดจึงมีสภาพคล่องต่ำนั่นเอง
2. ความผันผวนของตลาด
โดยปกติแล้ว ตลาดจะมีความผันผวนมาก เมื่อช่วงเวลานั้นมีการประกาศข่าวสารสำคัญ, เกิดภัยพิบัติ หรือเกิดสงคราม เป็นต้น ทำให้ราคา Bid และ Ask ขยับห่างกันมาก ดังนั้น เทรดเดอร์จะหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงเวลาเหล่านี้ เพราะค่าสเปรดจะสูงขึ้น
3. ช่วงเวลาเปิดปิดของตลาด
ช่วงเวลาเปิดปิดของตลาดจะส่งผลกระทบต่อราคา Bid และ Ask เช่นเดียวกันค่ะ เพราะช่วงเวลาเปิดปิดจะแสดงให้เห็นถึงปริมาณการซื้อขายและสภาพคล่องของตลาด โดยปกติแล้ว ช่วงเวลาที่มีปริมาณการซื้อขายมากที่สุด จะเป็นช่วงที่เวลาตลาดคาบเกี่ยวกัน ยกตัวอย่างเช่น ช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวกันของตลาดนิวยอร์กและลอนดอนอยู่ที่เวลา 20:00-23:00 น. (GMT+7) ซึ่งเวลานี้ตลาด Forex จะมีสภาพคล่องสูง ทำให้ราคา Bid และ Ask ไม่ขยับห่างกันมาก ส่งผลให้ค่าสเปรดต่ำหรือสเปรดแคบ
ส่วนช่วงเวลาที่ตลาดมีปริมาณการซื้อขายต่ำมักจะเป็นช่วงเวลาที่ตลาดเพิ่งเปิดหรือกำลังปิดทำการค่ะ ทำให้มีปริมาณการซื้อขายต่ำ ราคา Bid และ Ask จึงขยับห่างกันมาก จนส่งผลกระทบให้ค่าสเปรดสูงหรือสเปรดกว้างนั่นเอง
4. โบรกเกอร์ที่ให้บริการ
โดยปกติแล้ว โบรกเกอร์จะทำหน้าที่เป็นคนกลางในการส่งคำสั่งซื้อขายในตลาด Forex มักมีหลายรายค่ะ ซึ่งโบรกเกอร์แต่ละหลายก็จะแตกต่างกันออกไปตามประเภทที่ให้บริการ ซึ่งการให้บริการของโบรกเกอร์จะส่งผลต่อราคา Bid และ Ask เช่นเดียวกันค่ะ เพราะจะสะท้อนให้เห็นถึงประเภทของการให้บริการ ทั้งประเภทบัญชี, ความเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขาย ไปจนถึงความมีเสถียรภาพของระบบเทรด

⭐ คุณน้าแนะนำโบรกเกอร์คุณสมบัติเด่น!
การเลือกโบรกเกอร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ สำหรับการเทรด Forex ค่ะ
เพราะโบรกเกอร์จะพัฒนาระบบและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเทรดของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นให้ได้มากที่สุด
สำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มั่นใจว่า โบรกเกอร์ Forex แบบไหนดี?
คุณน้าได้รวบรวมการจัดอันดับของโบรกเกอร์ในทุกคุณสมบัติ เช่น สเปรดต่ำ, เทรดทอง หรือโบนัสฟรี

💡 คัมภีร์เริ่มต้น มือใหม่หัดเทรด
มือใหม่หัดเทรดที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? คุณน้าได้รวบรวมเนื้อหาสำคัญที่ถือเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับการเทรด Forex มาไว้ให้แล้วที่นี่!
🔍 ตัวอย่างเนื้อหา มือใหม่หัดเทรดต้องรู้!
5. ข่าวสารสำคัญ
ข่าวสารที่สำคัญไปจนถึงเหตุการณ์เศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ย, รายงาน GDP, ข่าว Non Farm Payroll หรือแม้แต่การกำหนดภาษีทางการค้า ส่งผลกระทบต่อปริมาณการซื้อขายในตลาด Forex เช่นกันค่ะ เพราะข่าวสารสำคัญจะทำให้ตลาดเกิดความผันผวนเป็นอย่างมาก ส่งผลกระทบให้ในช่วงเวลานั้น อาจจะเกิด Slippage บ่อยขึ้นระหว่างการซื้อขาย ซึ่งค่าสเปรดจะสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ดังนั้น เทรดเดอร์บางคนจึงหลีกเลี่ยงการเทรดชนข่าวสารสำคัญนั่นเองค่ะ
ความสัมพันธ์ระหว่างค่า Bid Ask Spread คือ อะไร?
จากที่กล่าวไปข้างต้นจะเห็นได้ว่า ความแตกต่างระหว่างราคา Bid และ Ask ทำให้เกิดเป็นค่าสเปรด ซึ่งค่าสเปรดจะแปรผกผันไปกับปริมาณการซื้อขายที่สะท้อนให้เห็นถึงสภาพคล่องของตลาดค่ะ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเส้น Bid Ask คือ อะไร?
ราคา Bid และ Ask ต่างกันอย่างไร?
ราคา Bid เป็นราคาที่เทรดเดอร์ขายได้ ซึ่งเป็นราคาที่ตลาดหรือโบรกเกอร์รับซื้อ ส่วนราคา Ask เป็นราคาที่เทรดเดอร์ซื้อได้ ซึ่งเป็นราคาที่ตลาดหรือโบรกเกอร์เสนอขาย
ส่วนต่างราคาคืออะไร?
ส่วนต่างราคา คือ ค่าสเปรดซึ่งเกิดจากความแตกต่างระหว่างราคา Bid และ Ask
ราคาเสนอซื้อ คืออะไร?
ราคาเสนอซื้อ คือ ราคาที่ผู้ซื้อยินดีจ่ายเพื่อซื้อสินทรัพย์ ณ ช่วงเวลานั้น ซึ่งเทรดเดอร์หรือนักลงทุนมักเรียกราคาเสนอซื้อว่า ราคา Bid นั่นเอง
สรุป Bid Ask มีความสำคัญอย่างไร?
ทั้งหมดนี้ก็คือ เรื่อง Bid Ask ซึ่งจะเห็นได้ว่าราคา Bid และ Ask เป็นราคาที่แสดงถึงความต้องการซื้อและความต้องการขายในตลาด โดยความแตกต่างระหว่างราคา Bid และ Ask คือ ค่าสเปรด ซึ่งถือเป็นต้นทุนการเทรดที่เทรดเดอร์ควรให้ความสำคัญค่ะ เพราะจะส่งผลโดยตรงต่อโอกาสในการทำกำไรหรือขาดทุนของเทรดเดอร์ ดังนั้น เพื่อให้การเทรดของคุณมีประสิทธิภาพมากที่สุด ควรศึกษารายละเอียดให้รอบคอบและอย่าลืมคำนวณต้นทุนทุกครั้ง ก่อนตัดสินใจเทรด ด้วยความปรารถนาดีจากทีมงานคุณน้าพาเทรดค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Forexlearning
สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge