คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 26 สิงหาคม 2025

คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 26 สิงหาคม 2025
Table of Contents

หุ้นสหรัฐถือเป็นหุ้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งการเคลื่อนไหวของหุ้นสหรัฐเพียงหนึ่งครั้งก็สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอื่น ๆ ทั่วโลก ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาคุยหุ้น เจาะลึกปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงและมุมมองในการลงทุน สายวิเคราะห์หุ้นสหรัฐห้ามพลาดบทความนี้!

คุยหุ้นสหรัฐวันนี้ (US30 / DJIA)

บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐานหุ้นสหรัฐ

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา วอลล์สตรีทพุ่งแรง โดยดัชนีดาวโจนส์กระโดดขึ้นเกือบ 850 จุด หรือประมาณ 1.9% ปิดที่ระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ที่ 45,631.74 จุด ทะลุสถิติเดิมเมื่อเดือนธันวาคม 2024 หลังจาก เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ส่งสัญญาณที่ Jackson Hole ว่าอาจมีการปรับลดดอกเบี้ยได้เร็วที่สุดในเดือนกันยายน ทำให้นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์โอกาสการลดดอกเบี้ยขึ้นเกือบ 90% เลยทีเดียวค่ะ

ด้านดัชนี S&P 500 ปรับขึ้น 1.5% และ Nasdaq พุ่ง 1.9% ช่วยให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวจากแรงขายหุ้นเทคโนโลยีที่กดดันมาตลอดทั้งสัปดาห์ โดยมีถึง 10 จาก 11 กลุ่มอุตสาหกรรมใน S&P 500 ปรับตัวบวก นำโดยกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ขณะที่ดัชนีหุ้นขนาดเล็ก Russell 2000 พุ่งแรงกว่า 4% สะท้อนถึงแรงซื้อที่เข้ามาในหุ้นขนาดเล็กซึ่งอ่อนไหวต่อดอกเบี้ยค่ะ

ขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ก็มีความโดดเด่น โดยดัชนี Philadelphia SE Semiconductor Index ขยับขึ้น 2.7% และ Tesla พุ่งแรงถึง 6.2% ส่วน Intel กระโดดขึ้น 5.5% หลังมีรายงานว่าทำเนียบขาวอาจเข้าซื้อหุ้น 10% ในบริษัท และ Coinbase บวก 6.5% ตามแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มคริปโตที่พุ่งแรงค่ะ

อย่างไรก็ตาม ยังมีหุ้นบางตัวที่เผชิญแรงกดดันจากผลประกอบการ โดย Intuit ร่วงลง 5% หลังส่งสัญญาณแนวโน้มอ่อนตัวในธุรกิจ Mailchimp ขณะที่ Workday ปรับลง 3% แม้ตัวเลขคาดการณ์จะออกมาตามที่ตลาดคาดไว้ ด้านค้าปลีก Walmart ร่วงแรง 4.5% แม้รายได้สูงกว่าคาด แต่กำไรพลาดเป้า ส่วน Target ร่วงเกิน 6% แม้ผลประกอบการออกมาดีกว่าที่คาด แต่ยังเจอแรงกดดันจากการแข่งขันสูงค่ะ

นอกจากนี้ Palantir ดิ่งลงกว่า 10% จากความกังวลด้านมูลค่าที่นักลงทุนฝั่ง Short ยกขึ้นมาโจมตี ในขณะที่ Dayforce พุ่งแรงหลังมีดีลซื้อกิจการมูลค่า 12.3 พันล้านดอลลาร์ ส่วนหุ้น Viking Therapeutics ทรุดหนักถึง 35% หลังผลทดลองยาลดน้ำหนักไม่เป็นไปตามคาดค่ะ

ทั้งนี้ ตลาดกำลังจับตาผลประกอบการของ Nvidia ที่มีมูลค่าตลาดแตะ 4 ล้านล้านดอลลาร์ และถือเป็นศูนย์กลางของกระแส AI นักวิเคราะห์คาดว่างบจะออกมาแข็งแกร่งอีกไตรมาส แต่ก็เตือนว่าอาจเผชิญแนวโน้มที่ระมัดระวังมากขึ้นเพราะข้อจำกัดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน นอกจากนี้ Microsoft ยังคงได้รับความสนใจ หลัง Truist ปรับเป้าราคาเป็น 675 ดอลลาร์ จากความแข็งแกร่งของธุรกิจ Cloud และ AI ขณะที่ Bank of America ได้ปรับเพิ่มอันดับของ Palo Alto Networks หลังรายงานผลประกอบการแข็งแกร่ง ส่วน Snowflake ก็ได้รับการประเมินในเชิงบวกจากแนวโน้มความต้องการที่เพิ่มขึ้นซึ่งได้รับแรงหนุนจากเทคโนโลยี AI ค่ะ

แม้ว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจะมีความผันผวน แต่ทั้ง Dow Jones และ S&P 500 ยังคงปิดบวกตลอดสัปดาห์ สะท้อนแรงหมุนเวียนของการลงทุนไปยังหุ้นในกลุ่มอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม ด้วยสัดส่วนหุ้นเทคโนโลยีที่มีมากถึงหนึ่งในสามของ S&P 500 นักวิเคราะห์เตือนว่าทิศทางของดัชนีในอนาคตยังคงขึ้นอยู่กับความสามารถของหุ้นยักษ์ใหญ่ในกลุ่ม AI อย่าง Nvidia, Microsoft และ Apple ว่าจะรักษาโมเมนตัมได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ค่ะ

ในภาพรวม ดัชนีดาวโจนส์ (US30) กำลังแสดงถึงโมเมนตัมเชิงพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และสะท้อนถึงการคาดการณ์ของนักลงทุนว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีท่าทีผ่อนคลายมากขึ้น โดยปัจจัยมหภาคยังสนับสนุนหุ้นในกลุ่มวัฏจักรและหุ้นที่อ่อนไหวต่อดอกเบี้ย ทำให้ดาวโจนส์สามารถปรับตัวดีกว่า Nasdaq ในรอบล่าสุด

แม้หุ้นในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย และหุ้นขนาดเล็กจะยังคงแข็งแกร่ง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นต่อเศรษฐกิจโดยรวม แต่ในอีกด้านหนึ่ง ผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ ยังมีความหลากหลาย ส่งผลให้ปัจจัยพื้นฐานของดัชนีดาวโจนส์ยังคงได้รับการสนับสนุนจากการเปลี่ยนนโยบายการเงินของเฟด การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยืดหยุ่น และการหมุนเวียนของเงินทุนเข้าสู่หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและบลูชิพ อย่างไรก็ดี ยังมีความเสี่ยงที่ต้องจับตา ได้แก่ คุณภาพกำไรของบริษัทต่าง ๆ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งอาจกดดันโมเมนตัมขาขึ้นของตลาดได้ค่ะ

บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิคหุ้นสหรัฐ

คุยหุ้นสหรัฐ วันที่ 26 สิงหาคม 2025

ดัชนี US30 ภาพทางเทคนิคยังคงแสดงถึงการทรงตัวในแนวโน้มขาขึ้น แต่เริ่มมีสัญญาณการพักฐานระยะสั้นให้เห็นบ้าง ราคายังยืนเหนือแนวรับสำคัญบริเวณ 45,000 จุด หากยังไม่หลุดลงมา จะช่วยคงโมเมนตัมเชิงบวกและเปิดโอกาสให้ดัชนีกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 45,500–45,700 จุดได้ และหากผ่านไปได้อย่างชัดเจน แนวถัดไปจะอยู่ที่ 46,000 จุด ซึ่งเป็นระดับที่ตลาดจับตาอย่างใกล้ชิดค่ะ

อย่างไรก็ตาม หาก US30 หลุดต่ำกว่า 45,000 จุด อาจกระตุ้นแรงขายเพิ่มและกดให้ดัชนีถอยลงสู่โซนแนวรับถัดไปที่ 44,700–44,500 จุด และหากแรงขายรุนแรงต่อเนื่อง ระดับ 44,200 จุดจะเป็นด่านรับสำคัญที่ต้องป้องกันเพื่อไม่ให้แนวโน้มหลักพลิกกลับลง โดยรวมแล้วภาพรวมยังคงเอนเอียงไปทางบวก แต่ตลาดอยู่ในช่วง consolidation ที่ต้องระวังแรงขายทำกำไรในระยะสั้นค่ะ

📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (US30 / DJIA)

  • แนวรับสำคัญ : 45148.5, 45096.6, 45012.8
  • แนวต้านสำคัญ : 45316.1, 45368.0, 45451.8

ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มหุ้นสหรัฐ

ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มหุ้นสหรัฐ

ที่มา : Forexfactory

กำหนดการรายงานผลประกอบการ

กำหนดการรายงานผลประกอบการ

ที่มา : TradingView

📍หุ้นสหรัฐที่น่าจับตามอง

  • Tesla (TSLA): ยังคงแสดงแรงหนุนเชิงบวกอย่างแข็งแกร่งจากตัวชี้วัดทางเทคนิคหลายตัว โดยราคายังยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยสำคัญได้อย่างมั่นคง ขณะที่โครงสร้างราคากำลังสร้างฐาน โดยมีจุดทะลุแนวต้านสำคัญอยู่ใกล้ 367.71 ดอลลาร์ ซึ่งฐานนี้ได้ก่อตัวต่อเนื่องหลายสัปดาห์และพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากหุ้นฟื้นตัวจากความผันผวนที่ผ่านมา ทั้งนี้ ปัจจุบัน Tesla เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบไซด์เวย์ โดยมีแนวต้านสำคัญแถว 380 ดอลลาร์ ขณะที่ RSI อยู่ในโซนบวก บ่งชี้ถึงแรงส่งขาขึ้นต่อเนื่อง โดยเส้นค่าเฉลี่ยทั้งระยะสั้นถึงระยะยาวยังคงสนับสนุนแนวโน้มเชิงบวก หากทะลุและยืนเหนือกรอบ 367–380 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง จะเปิดโอกาสแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • Nvidia (NVDA): ยังคงมีโครงสร้างทางเทคนิคที่แข็งแรง แม้ว่าตัวชี้วัดทางเทคนิคจะอยู่ในโซนกลาง บ่งบอกถึงการพักตัวหรือการแกว่งสะสม โดยระดับสำคัญที่ต้องจับตาคือ 184.48 ดอลลาร์ ขณะที่แรงส่งโดยรวมยังคงอยู่ และความต้องการหุ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม AI ยังคงช่วยหนุนเสถียรภาพและโอกาสการปรับขึ้นของราคา โดยรวมแล้ว NVDA ยังคงอยู่ในจังหวะทางเทคนิคที่ดี หากสามารถทะลุเหนือ 184–185 ดอลลาร์ ได้ จะเปิดทางให้ราคาปรับขึ้นต่อ แต่ถ้าไม่ผ่าน อาจเห็นการพักตัวหรือแกว่งสะสมระยะสั้นค่ะ
  • Microsoft (MSFT): ยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจน ด้านโมเมนตัม RSI ยังคงเคลื่อนตัวในโซนบวก เหนือระดับ 60–65 สะท้อนแรงซื้อที่ยังไม่อ่อนแรง หากราคาสามารถทรงตัวเหนือบริเวณ 500–505 ดอลลาร์ ได้อย่างมั่นคง จะถือเป็นการสร้างฐานแนวรับใหม่ รองรับการขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 520–530 ดอลลาร์ หากสามารถทะลุแนวต้านดังกล่าวได้ มีโอกาสเร่งตัวต่อเนื่องขึ้นไปแถว 545–550 ดอลลาร์ โดยโซน 485–490 ดอลลาร์ จะทำหน้าที่เป็นแนวรับสำคัญที่ต้องติดตามค่ะ
  • Intel (INTC): ราคากำลังเข้าใกล้แนวต้านสำคัญแถว 24–26 ดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ทิศทางการเคลื่อนไหวรอบใหม่ ขณะที่โซน 19 ดอลลาร์ ยังคงทำหน้าที่เป็นแนวรับหลักของกรอบนี้ หากผ่านแนวต้านด้านบนได้อย่างมั่นคง อาจสร้างแรงหนุนต่อเนื่อง แต่ถ้าไม่ผ่าน ก็อาจกลับไปแกว่งในกรอบหรืออ่อนตัวลงอีกครั้งค่ะ
  • Intuit (INTU): โมเมนตัมขาขึ้นยังคงแข็งแรง และมีแนวโน้มขยายเป้าหมายไปยังโซน 675–680 ดอลลาร์ โดยอาจมีโอกาสขึ้นไปทดสอบระดับจิตวิทยาที่ 700 ดอลลาร์ หากราคายังสามารถยืนเหนือแนวรับใหม่บริเวณ 655 ดอลลาร์ ได้อย่างมั่นคง อย่างไรก็ตาม หากเกิดแรงขายทำกำไรและราคาหลุดต่ำกว่า 650 ดอลลาร์ อาจเห็นการพักฐานลงมาที่แนวรับถัดไปในช่วง 630–625 ดอลลาร์ หรือแม้กระทั่งลงลึกถึงโซน 600 ดอลลาร์ ได้อีกครั้ง โดยทิศทางระยะสั้นยังคงเอนเอียงไปทางบวก แต่ควรระมัดระวังแรงขายเมื่อ RSI เข้าใกล้เขต overbought ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับฐานระยะสั้นค่ะ

🔍คุณน้าแนะนำเทรดหุ้น CFD ไปกับโบรกเกอร์ IUX

เทรดหุ้น CFD กับ IUX โบรกเกอร์หุ้นค่าธรรมเนียมถูก

IUX มีการให้บริการซื้อขายหุ้น CFD ประกอบไปด้วยหุ้นกลุ่ม Magnificent Seven (M7) อีกทั้งยังมีหุ้นให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Coca Cola, Adobe, Alibaba, McDonalds Incorporated และ Netflix เป็นต้น ทำให้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และเทรดเดอร์รายย่อยที่มีต้นทุนจำกัดแล้วต้องการซื้อขายหุ้นระดับโลก

สรุปคุยหุ้นสหรัฐและแนวโน้มในการลงทุน (US30 / DJIA)

จุดน่าเข้า Buy

  • Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 45078.5 – 45148.5 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 45148.5 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 45330.1 และ SL ที่ประมาณ 45043.5 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
  • Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 45316.1 – 45386.1 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 45549.0 และ SL ที่ประมาณ 45113.5 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

จุดน่าเข้า Sell

  • Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 45316.1 – 45386.1 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 45316.1 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 45110.6 และ SL ที่ประมาณ 45421.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
  • Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 45078.5 – 45148.5 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 44891.0 และ SL ที่ประมาณ 45351.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

คำเตือน

บทวิเคราะห์นี้ใช้สำหรับการศึกษาข้อมูลของหุ้นสหรัฐเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลของสินทรัพย์และศึกษาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ประกอบกับศึกษาแนวโน้มหุ้นและข่าวสหรัฐก่อนตัดสินใจลงทุน


สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

Picture of คุณน้า
คุณน้า
Recent Post
วิเคราะห์ GBPUSD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 27 สิงหาคม 2025
วิเคราะห์ GBPUSD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 27 สิงหาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ GBPUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

บทวิเคราะห์คู่เงิน EURUSD 26 สิงหาคม 2025
บทวิเคราะห์ EURUSD วันที่ 26 สิงหาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ EURUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

บทวิเคราะห์คู่เงิน AUDUSD 26 สิงหาคม 2025
บทวิเคราะห์ AUDUSD วันที่ 26 สิงหาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ AUDUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

ทางเว็บไซต์ คุณน้าพาเทรด
ได้มีการใช้คุกกี้เพื่อช่วยปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้เว็บไซต์ของเราดียิ่งขึ้น


Privacy Policy