วิเคราะห์ GBPUSD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 2 กันยายน 2025

พบกับวิเคราะห์ GBPUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค อีกทั้งแนวทางในการเข้าออกออเดอร์ ไปจนถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการเทรดคู่เงินแบบละเอียด เรียกได้ว่าครบจบในบทความเดียว!

บทวิเคราะห์ Forex วันนี้ : คู่เงิน GBPUSD

บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน

เงินปอนด์ถอยตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบล่าสุด เนื่องจากตลาดเริ่มประเมินแนวโน้มนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษใหม่อีกครั้ง ทาง ING คาดการณ์ว่าเงินปอนด์จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1.33–1.38 ไปจนถึงสิ้นปี โดยช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน อาจเป็นช่วงที่ค่าเงินเปราะบางที่สุดค่ะ

แม้อัตราเงินเฟ้ออังกฤษยังคงอยู่ในระดับสูงจากราคาสินค้าอาหารที่เพิ่มขึ้นเกิน 5% แต่อัตราเงินเฟ้อในภาคบริการคาดว่าอาจต่ำกว่าที่ BoE คาดการณ์ไว้ เนื่องจากการเติบโตของค่าเช่าที่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ราคาสินค้าอาหารที่เพิ่มขึ้นยังคงเสี่ยงที่จะผลักดันความคาดหวังเรื่องค่าจ้างให้สูงขึ้น ท่ามกลางข้อมูลตลาดแรงงานที่ออกมาค่อนข้างหลากหลาย ขณะที่ผลสำรวจบางฉบับชี้ว่า ตลาดแรงงานอังกฤษยังมีความยืดหยุ่นอยู่ในระดับหนึ่งค่ะ

ทั้งนี้ ING คาดว่าอัตราการเติบโตของค่าจ้างจะลดลงจากระดับ 5% ในปัจจุบัน เหลือ 3.5% ภายในสิ้นปีนี้ค่ะ ตลาดยังคงคาดการณ์ว่า BoE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดในเดือนพฤศจิกายน โดยผลการประชุมอาจขึ้นอยู่กับพัฒนาการด้านการคลังและแนวโน้มเงินเฟ้อในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าค่ะ

ในภาพรวมเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรเริ่มส่งสัญญาณอ่อนแอมากขึ้น โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตในเดือนสิงหาคมลดลงสู่ระดับ 47.0 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 ซึ่งเป็นผลมาจากคำสั่งซื้อใหม่และการส่งออกที่ลดลง ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้า ต้นทุนที่สูงขึ้น และผลกระทบจากการขึ้นภาษีและค่าจ้างในเดือนเมษายน แม้ว่าความเชื่อมั่นของภาคการผลิตจะฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย และมีการปลดพนักงานอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมค่ะ

ในขณะเดียวกัน อัตราเงินเฟ้อของราคาสินค้าผู้ผลิตแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ที่ 1.9% ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อโดยรวม ข้อมูลที่ปรับปรุงใหม่จากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (ONS) ยังยืนยันว่า ราคาผู้ผลิตในอดีตเคยถูกประเมินต่ำกว่าความเป็นจริง ซึ่งสอดคล้องกับคาดการณ์ของ BoE ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะพุ่งขึ้นแตะ 4% ในเดือนกันยายน สูงที่สุดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วค่ะ

ด้านธุรกิจบริการก็เผชิญกับความเชื่อมั่นที่ลดลงและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ซบเซา เนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไม่สามารถส่งผ่านไปยังลูกค้าได้อย่างเต็มที่ สร้างความกังวลเกี่ยวกับการจ้างงาน การลงทุน และความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจ ขณะที่ยอดค้าปลีกยังคงลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 ในเดือนสิงหาคม โดยธุรกิจระบุถึงความต้องการที่อ่อนแอ ต้นทุนแรงงานที่เพิ่มขึ้น และอัตรากำไรที่ถูกบีบให้แคบลง ท่ามกลางราคาขายสินค้าที่ขยับขึ้นเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปลายปี 2023 และนายจ้างยังคงลดการลงทุนและการจ้างงานต่อเนื่องค่ะ

อย่างไรก็ดี งบประมาณฤดูใบไม้ร่วง (Autumn Budget) ที่จะประกาศเร็ว ๆ นี้ อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยง เนื่องจากช่องว่างทางการคลังกว่า 20 พันล้านปอนด์ ได้เพิ่มโอกาสที่รัฐบาลอาจต้องขึ้นภาษี โดย ING ระบุว่า หากวันที่จะประกาศงบประมาณได้รับการยืนยันในสัปดาห์นี้ BoE อาจนำแนวโน้มการคลังที่เข้มงวดมากขึ้นไปพิจารณาในมติการประชุมเดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะยิ่งทำให้การปรับสมดุลระหว่างนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย กับนโยบายการคลังที่เข้มงวด มีความซับซ้อนยิ่งขึ้นค่ะ

ทางด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ จากความสนใจของนักลงทุนที่หันไปจับตาดูข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในระยะต่อไปค่ะ

ปัจจุบันตลาดประเมินว่ามีโอกาสสูงเกือบ 90% ที่ Fed จะลดดอกเบี้ย 25 จุดในเดือนกันยายน แต่นักวิเคราะห์บางส่วนยังมองว่าหากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและข้อมูลแรงงานอื่น ๆ ที่จะประกาศวันศุกร์ออกมาแย่กว่าคาด ก็อาจทำให้ Fed พิจารณาปรับลดดอกเบี้ยมากถึง 50 จุดเลยทีเดียวค่ะ

ทั้งนี้ ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจหลายรายการก็เริ่มสะท้อนความเปราะบาง โดย Barclays ประเมินว่ามีความเสี่ยงถึง 50% ที่สหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยภายใน 2 ปี และระบุว่าขณะนี้เศรษฐกิจกำลังอยู่ในภาวะชะงักงัน จากโมเมนตัมที่เริ่มชะลอลง ขณะที่ภาคการผลิตยังคงอยู่ในแดนหดตัว และการจ้างงานในโรงงานอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี โดยรายงาน Beige Book ของ Fed ที่จะออกวันพุธนี้ คาดว่าจะสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการประชุมนโยบายเดือนกันยายนค่ะ ในขณะเดียวกัน ตลาดยังคงเฝ้าระวังต่อความเสี่ยงเรื่อง “Fiscal Dominance” หรือการที่นโยบายการเงินถูกจำกัดโดยภาระการคลัง แม้ขณะนี้จะยังไม่สะท้อนในตลาดพันธบัตร แต่ความกังวลในเรื่องนี้ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องค่ะ

โดยภาพรวมแล้ว คุณน้าเห็นว่าคู่เงิน GBPUSD ยังคงอยู่ในภาวะเปราะบางระหว่างแรงหนุนจากแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของสหรัฐฯ กับแรงกดดันจากปัจจัยภายในประเทศของสหราชอาณาจักรค่ะ แม้ว่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะช่วยพยุงค่าเงินปอนด์ได้บ้าง แต่คุณน้าคิดว่าโครงสร้างเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรที่ยังอ่อนแอ ก็ยังเป็นข้อจำกัดต่อการปรับตัวขึ้นของ GBPUSD อีกทั้ง แนวโน้มการลดดอกเบี้ยของ BoE ยังจำกัดโอกาสที่ปอนด์จะปรับตัวขึ้นในช่วงข้างหน้าอีกด้วยค่ะ

บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค

จากมุมมองทางเทคนิค คู่เงิน GBPUSD กำลังซื้อขายใกล้ขอบบนของกรอบราคาล่าสุด สะท้อนถึงความอ่อนค่าของดอลลาร์ก่อนที่ข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ จะถูกเปิดเผย ในระยะสั้นนี้ คู่เงินอาจเผชิญกับแนวต้านที่บริเวณ 1.3550–1.3580 หากราคาสามารถทะลุผ่านแนวต้านนี้ไปได้อย่างยั่งยืน จะเป็นการเปิดทางให้ไปทดสอบโซนถัดไปที่ 1.3650–1.3700 ค่ะ

ด้านเครื่องมือวัดโมเมนตัมยังคงส่งสัญญาณสนับสนุนการปรับตัวขึ้น โดย RSI ยังคงลอยตัวอยู่ในโซนกลางถึงขาขึ้น ซึ่งคุณน้ามองว่า หากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาอ่อนแอกว่าคาด และความคาดหวังต่อการผ่อนคลายของ Fed เพิ่มขึ้น ก็ยังมีโอกาสที่ GBPUSD จะปรับตัวขึ้นไปต่อได้ค่ะ

ในทางกลับกัน แนวรับเบื้องต้นอยู่ที่ 1.3480 และถัดไปที่ 1.3420 หากราคาปิดต่ำกว่าบริเวณนี้ จะเป็นสัญญาณว่าโมเมนตัมขาขึ้นเริ่มอ่อนแรง และอาจทำให้ราคาลดลงสู่บริเวณ 1.3350–1.3300 ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีความกังวลเรื่องการเติบโตของสหราชอาณาจักร หรือหากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาดค่ะ

โดยสรุปแล้ว ในระยะสั้นคุณน้าเห็นว่า โมเมนตัมยังคงโน้มเอียงไปทางขาขึ้นเล็กน้อย จากแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าของดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการยืนเหนือแนวต้าน 1.3550–1.3580 ได้อย่างชัดเจน จะเป็นตัวกำหนดความยั่งยืนของแนวโน้มขาขึ้นในระยะต่อไปค่ะ

ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลต่อคู่เงิน GBPUSD

สรุปวิเคราะห์ GBPUSD

จุดน่าเข้า Buy

• Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3460 – 1.3510 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 1.3510 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3566 และ SL ที่ประมาณ 1.3435 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
• Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3552 – 1.3602 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3622 และ SL ที่ประมาณ 1.3485 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

จุดน่าเข้า Sell

• Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3552 – 1.3602 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้าน 1.3552 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3510 และ SL ที่ประมาณ 1.3627 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
• Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 1.3460 – 1.3510 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3450 และ SL ที่ประมาณ 1.3577 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

คำเตือน

การให้ข้อมูลการวิเคราะห์คู่เงิน Forex ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค เป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจการลงทุน

สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge