รู้ให้ลึกจ่ายให้คุ้ม! ประกัน PA คืออะไร คุ้มครองอะไรบ้าง?

รู้ให้ลึกจ่ายให้คุ้ม! ประกัน PA คืออะไร คุ้มครองอะไรบ้าง?

ประกัน PA คืออะไร และคุ้มครองอะไรบ้าง?
Table of Contents

อุบัติเหตุเป็นเรื่องไม่คาดคิดที่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ เพียงกะพริบตาสั้น ๆ การเกิดอุบัติเหตุก็สามารถเปลี่ยนชีวิตของเราไปได้ตลอดกาลค่ะ มีใครคิดเห็นเหมือนกับคุณน้าไหมคะว่า การป้องกันความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่เราสามารถทำได้เลย นั่นก็คือ การทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือประกัน PA เพื่อคุ้มครองเราในยามคับขันนั่นเองค่ะ

สำหรับบทความนี้ คุณน้าจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือประกัน PA คืออะไร ให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง? เช็กให้ชัวร์ก่อนตัดสินใจซื้อ รวมทั้ง 5 เคล็ดลับเลือกซื้อประกัน PA อย่างไรให้คุ้มค่า? ห้ามพลาดบทความนี้ค่ะ!

*หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงบทความให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้เป็นการชักชวนเพื่อลงทุนแต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือประกัน PA คืออะไร?

ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือประกัน PA คืออะไร?

ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือประกัน PA คือ ประกันที่ให้ความคุ้มครองส่วนบุคคล เมื่อผู้เอาประกันเกิดประสบอุบัติเหตุที่เสียหายทางร่างกาย ตั้งแต่บาดเจ็บไปจนถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งบริษัทประกันจะจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้เอาประกันตามเงื่อนไขสัญญาที่ถูกระบุไว้ในกรมธรรม์นั่นเองค่ะ

ประกันอุบัติเหตุ PA คุ้มครองอะไรบ้าง?

ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือประกัน PA ให้ความคุ้มครองเมื่อผู้เอาประกันเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้ค่ะ

  • เงินชดเชยกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะและสายตา
  • เงินชดเชยกรณีทุพพลภาพชั่วคราว, บางส่วน หรือถาวรจากอุบัติเหตุ
  • ค่ารักษาพยาบาล, ค่าทันตกรรม และค่าศัลยกรรม เมื่อเกิดอุบัติเหตุ
  • เงินชดเชยระหว่างพักรักษาตัวในโรงพยาบาลและไม่สามารถทำงานได้ชั่วคราว
  • ค่ารักษาอาการบาดเจ็บเฉพาะจุด เช่น น้ำร้อนลวก, ไฟไหม้ และสูญเสียอวัยวะภายใน
  • ค่าปลงศพ กรณีเสียชีวิต รวมทั้งทายาทผู้เสียชีวิตจะได้รับสินไหมทดแทน

📢 ข้อความรู้ : ความคุ้มครองของประกัน PA จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ระบุในกรมธรรม์ ซึ่งบริษัทประกันแต่ละรายจะให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกันออกไป บางบริษัทอาจจะจ่ายค่ารักษาจากอุบัติเหตุเล็กน้อย หรือบางบริษัทอาจชดเชยค่ารักษาในวันหยุดนักขัตฤกษ์ก็ได้เช่นกันค่ะ


ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือประกัน PA มีกี่รูปแบบ?

ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือประกัน PA มีหลายรูปแบบค่ะ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความต้องการและรูปแบบการใช้ชีวิตของแต่ละคน โดยคุณน้าขอยกตัวอย่างประกัน PA ที่พบเห็นบ่อยครั้งมาทั้งหมด 5 รูปแบบ ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

1. ประกัน PA แบบเดี่ยว

ประกัน PA แบบเดี่ยว เป็นประกันสำหรับบุคคลที่ต้องการความคุ้มครองเฉพาะบุคคลในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุค่ะ ซึ่งประกันประเภทนี้จะให้เงินชดเชยค่ารักษาพยาบาล และเงินชดเชยระหว่างพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหรืออยู่บ้าน เป็นต้น

2. ประกัน PA ระหว่างเดินทาง

ประกัน PA ระหว่างเดินทาง เป็นประกันสำหรับผู้เดินทางทั้งในและต่างประเทศ แล้วเกิดอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง ประกันประเภทนี้จะให้ความคุ้มครองในส่วนนี้ค่ะ อีกทั้งยังครอบคลุมเงินชดเชย กรณีมีการเลื่อนหรือถูกยกเลิกเที่ยวบิน และให้ความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉินอีกด้วยค่ะ

3. ประกัน PA แบบกลุ่ม

ประกัน PA แบบกลุ่ม เป็นประกันที่บริษัททำขึ้นเพื่อให้ความคุ้มครองกับพนักงานภายในบริษัท โดยปกติแล้ว ประกันประเภทนี้จะถือเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ให้กับพนักงาน อย่างไรก็ดี การทำประกัน PA แบบกลุ่มไม่ใช่ในทุกบริษัทจะให้สวัสดิการแก่พนักงานนะคะ เพราะจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและนโยบายของแต่ละบริษัทค่ะ

4. ประกัน PA แบบครอบครัว

ประกัน PA แบบครอบครัว เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองกับสมาชิกในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นคู่สมรส, บุตรหลาน หรือบุพการี เป็นต้น ซึ่งประกันประเภทนี้จะช่วยให้สมาชิกในครอบครัวเกิดความอุ่นใจ เมื่อประสบอุบัติเหตุ ซึ่งการจ่ายเบี้ยของประกัน PA แบบครอบครัวจะค่อนข้างประหยัดกว่าเบี้ยประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลนั่นเองค่ะ

5. ประกัน PA สำหรับนักเรียนและนักศึกษา

ประกัน PA สำหรับนักเรียนและนักศึกษา เป็นประกันที่ทำเพื่อให้ความคุ้มครองนักเรียนและนักศึกษา เมื่อเกิดอุบัติเหตุระหว่างเดินทางไปยังสถานศึกษา หรือหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นภายในสถานศึกษา

วิธีการเลือกซื้อประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือประกัน PA อย่างไรให้คุ้มค่า?

สำหรับมือใหม่ที่กำลังให้ความสนใจประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือประกัน PA แต่ยังไม่แน่ใจว่า แผนประกันอุบัติเหตุไหนที่จะช่วยคลายกังวลให้กับเราและคนที่เรารักได้ ในบทความนี้คุณน้าขอแนะนำ 5 เคล็ดลับในการเลือกซื้อประกันอุบัติเหตุอย่างไรดีให้เกิดความคุ้มค่าที่สุด? เช็กให้ชัวร์ก่อนซื้อทำได้ง่าย ๆ ด้วยตนเอง โดยมีรายละเอียด ดังนี้ค่ะ

1. ประเมินความเสี่ยงและการใช้ชีวิตของคุณ

ประเมินความเสี่ยงและการใช้ชีวิตของคุณ ไม่ว่าจะเป็นรายได้, อายุ, อาชีพ, ร่างกาย ตลอดจนการศึกษากิจกรรมที่ชอบทำเป็นประจำ เพื่อประเมินความต้องการที่เหมาะสมกับการใช้ชีวิตของคุณ

หากคุณชื่นชอบกีฬาเอ็กซ์ตรีม อาจจะเลือกแผนประกันอุบัติเหตุที่ให้ความคุ้มครองกับกีฬาลักษณะนี้ แต่หากคุณเป็นพนักงานออฟฟิศ อาจจะเลือกประกันอุบัติเหตุแผนทั่วไปแทนค่ะ

2. ศึกษากรมธรรม์และเงื่อนไขของประกันอุบัติเหตุให้ครบถ้วน

ศึกษาและตรวจสอบรายละเอียดของกรมธรรม์และเงื่อนไขอื่น ๆ ของประกันอุบัติเหตุที่เราให้ความสนใจว่าให้ความคุ้มครองในด้านไหนบ้าง อีกทั้ง อย่าลืมศึกษาข้อยกเว้นในกรมธรรม์ เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดที่สามารถเกิดขึ้นได้ และที่สำคัญ คือเพื่อให้เราสามารถเลือกซื้อกรมธรรม์ที่ครอบคลุมให้ได้มากที่สุดค่ะ

3. ประเมินความเหมาะสมของเงินผลประโยชน์

ประเมินว่าเงินผลประโยชน์มีความเหมาะสมและครอบคลุมต่อค่าใช้จ่ายของเราหรือไม่ หากเราจำเป็นต้องหยุดงานเป็นเวลานาน เงินผลประโยชน์ที่จะได้รับสามารถช่วยให้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้หรือไม่

4. ประเมินความเหมาะสมของเบี้ยประกัน

ประเมินความเหมาะสมของเบี้ยประกัน โดยเลือกเบี้ยประกันที่เราสามารถจ่ายไหว เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนเงินในเดือนนั้นมากจนเกินไป และที่สำคัญ ไม่เป็นการเพิ่มหนี้สินในระยะยาวนั่นเองค่ะ

5. เปรียบเทียบความน่าเชื่อถือของบริษัทประกัน รวมถึงการทำเรื่องเคลม

เปรียบเทียบความน่าเชื่อถือของบริษัทประกัน ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง, การให้บริการ, ความสะดวกสบายในการซื้อ, มีแอปพลิเคชันที่มีเสถียรภาพ ไปจนถึงเรื่องของการเคลมที่ไม่ยุ่งยากและซับซ้อนจนเกินไป เพราะบางบริษัทประกันไม่จำเป็นต้องสำรองจ่าย เมื่อเกิดอุบัติเหตุ แต่ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกันนะคะ

สำหรับข้อยกเว้นของประกันอุบัติเหตุจะละเว้นความคุ้มครอง เมื่อผู้เอาประกันเกิดการฆ่าตัวตาย หรือพยายามฆ่าตัวตาย, การทำร้ายร่างกายตนเอง, การก่ออาชญากรรม, การเจ็บป่วยทั่วไป, การผ่าตัดที่ไม่ได้มาจากอุบัติเหตุ และการเกิดอุบัติเหตุ ขณะดื่มสุราหรือขับขี่ยานพาหนะที่ไม่ได้จดทะเบียนเพื่อบรรทุกผู้โดยสาร

💡 บทความน่าอ่านเกี่ยวกับประกันเพิ่มเติม :


ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ไหนดี อัปเดตปี 2568

คุณน้าขอยกตัวอย่างประกันอุบัติเหตุ หรือประกัน PA ส่วนบุคคลทั้งหมด 3 บริษัท เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ สำหรับใครที่กำลังมองหาแผนประกันอุบัติเหตุไหนเหมาะกับคุณ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ค่ะ

1. ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล AXA

ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ไหนดี AXA

“ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล AXA” มีแผนประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลหลายแผน ซึ่งสามารถทำประกันได้ตั้งแต่อายุ 1-70 ปี โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพและไม่ต้องสำรองจ่าย ด้วยการรองรับจากโรงพยาบาลเครือข่ายกว่า 500 แห่งทั่วประเทศไทย

ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลที่น่าสนใจของ AXA

  • แผนแอกซ่า สบายใจ มาย คิดส์ : ประกันอุบัติเหตุสำหรับเด็ก ซึ่งจะให้ความคุ้มครองตั้งแต่อายุ 1-17 ปี โดยเบี้ยประกันเริ่มต้นอยู่ที่ 1,000 บาท ต่อปี คุ้มครองสูงสุด 500,000 บาท
  • แผนแอกซ่า สบายใจ มาย ไลฟ์ : ประกันอุบัติเหตุสำหรับผู้ที่มีอายุ 18-65 ปี โดยเบี้ยประกันเริ่มต้น 1,000 บาท ต่อปี คุ้มครองสูงสุด 1,000,000 บาท
  • แผนแอกซ่า สบายใจ มาย พลัส : ประกันอุบัติเหตุสำหรับผู้สูงอายุที่มีอายุ 66-70 ปี โดยเบี้ยประกันเริ่มต้น 1,600 บาท ต่อปี คุ้มครองสูงสุด 1,000,000 บาท
  • แผนแอกซ่า พีเอ เซฟดี : ประกันอุบัติเหตุสำหรับบุคคลทั่วไปที่มีอายุ 1-70 ปี โดยเบี้ยประกันเริ่มต้น 365 ต่อปี คุ้มครองสูงสุด 300,000 บาท

ตัวอย่างความคุ้มครองประกันอุบัติส่วนบุคคลของ AXA

ประกันอุบัติส่วนบุคคลของ AXA ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุจากการถูกฆาตกรรม, ถูกลอบทำร้าย, อุบัติเหตุจากการขับขี่จักรยานยนต์ หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ ตลอด 24 ชั่วโมง

ช่องทางในการซื้อประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลของ AXA

สามารถซื้อประกันอุบัติเหตุผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ : https://direct.axa.co.th/PA


2. ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลไทยประกันชีวิต

ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ไหนดี ไทยประกันชีวิต

“ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลไทยประกันชีวิต” ให้ความคุ้มครองทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมง เบี้ยไม่เสียเปล่า ไม่เคลมมีเงินคืน อีกทั้ง ไม่ต้องตรวจสุขภาพ แต่ต้องแถลงสุขภาพ เพื่อประกอบการพิจารณารับประกันภัย

ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลที่น่าสนใจของไทยประกันชีวิต

  • P.A.Love แฟมิลี่ : ประกันอุบัติเหตุสำหรับบุคคลทั่วไปอายุ 20-60 ปี (ต่อสัญญาได้ถึง 65 ปี) โดยเบี้ยประกันเริ่มต้นอยู่ที่ 3,350 บาท ต่อปี โดยจะให้ความคุ้มครองค่ารักษาและกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ซึ่งหากเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในวันหยุด คุ้มครองสูงสุด 4,000,000 บาท 
  • อีซี แฟมิลี : ประกันอุบัติเหตุสำหรับครอบครัวอายุ 0-55 ปี โดยเบี้ยประกันเริ่มต้นอยู่ที่ 1,1000 บาท ต่อปี คุ้มครองสูงสุด 500,000 บาท นอกจากนี้ อีซี แฟมิลียังสามารถลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
  • อีซี รีฟันด์ : ประกันอุบัติเหตุสำหรับบุคคลทั่วไปอายุ 6-60 ปี (ต่อสัญญาได้ถึง 65 ปี) โดยเบี้ยประกันเริ่มต้นอยู่ที่ 4,000 บาท ต่อปี คุ้มครองสูงสุด 1,000,000 บาท

ตัวอย่างความคุ้มครองประกันอุบัติส่วนบุคคลของไทยประกันชีวิต

ประกันอุบัติส่วนบุคคลของไทยประกันชีวิตให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุในช่วงวันหยุด จะได้รับค่าชดเชยรายได้ระหว่างเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล อีกทั้งบางรายการยังสามารถลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย

ช่องทางในการซื้อประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลของไทยประกันชีวิต

สามารถสอบถามการซื้อประกันอุบัติเหตุได้ที่เว็บไซต์ของไทยประกันชีวิต เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไป (ติดต่อได้ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08:30-17:00 น.)


3. ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลเมืองไทยประกันชีวิต

ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ไหนดี เมืองไทยประกันชีวิต

“ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลเมืองไทยประกันชีวิต” มีเงินชดเชยรายได้ เมื่อนอนโรงพยาบาลจากการเกิดอุบัติเหตุ โดยให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุ ทุกที่ทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมง

ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลที่น่าสนใจของเมืองไทยประกันชีวิต

  • PA Take Care : ประกันอุบัติเหตุสำหรับบุคคลทั่วไปอายุ 30 วัน – 75 ปี โดยเบี้ยประกันเริ่มต้นอยู่ที่ 660 – 2,200 ต่อปี สำหรับกลุ่มอาชีพที่ 1 นั่นก็คือ บุคคลทั่วไปที่มีลักษณะการทำงานอยู่ภายในตัวอาคาร ไม่ทำงานที่มีความเสี่ยงสูง คุ้มครองสูงสุด 1,000,000 บาท
  • โครงการ PA Saved เว่อร์ : ประกันอุบัติเหตุสำหรับบุคคลทั่วไปอายุ 30 วัน – 60 ปี โดยเบี้ยประกันเริ่มต้นอยู่ที่ 1,496-2,858 บาท ต่อปี ซึ่งเบี้ยประกันของผู้ทำประกันเพศชาย-หญิงจะต่างกัน โดยให้ความคุ้มครองสูงสุด 500,000 บาท
  • โครงการ PA Go : ประกันอุบัติเหตุสำหรับนักเดินทางอายุ 20-75 ปี โดยให้ความคุ้มครองสูงสุด 500,000 บาท

ตัวอย่างความคุ้มครองประกันอุบัติส่วนบุคคลของเมืองไทยประกันชีวิต

ประกันอุบัติส่วนบุคคลของเมืองไทยประกันชีวิต ให้เงินชดเชยรายได้ระหว่างเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ให้ความคุ้มครองทุกที่ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งยังสามารถลดหย่อนภาษีได้บางส่วนตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนดไว้อีกด้วย

ช่องทางในการซื้อประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลของเมืองไทยประกันชีวิต 

สามารถสอบถามการซื้อประกันอุบัติเหตุได้ที่เว็บไซต์ของเมืองไทยประกันชีวิต เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไป (ติดต่อได้ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08:30-20:00 น.)

📌 หมายเหตุ : ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือประกัน PA ที่คุณน้ายกมาข้างต้น เป็นเพียงตัวอย่างเพื่อให้มือใหม่ได้ศึกษาเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ซื้อหรือลงทุนแต่อย่างใด เพราะการเลือกประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือประกัน PA ต้องประเมินจากปัจจัยหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงในการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคลก็มีความแตกต่างกันออกไปค่ะ

ดังนั้น อย่าลืมศึกษารายละเอียดของประกันอุบัติเหตุแต่ละรายให้รอบคอบ ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อประกันอุบัติเหตุที่เหมาะสมกับตนเองค่ะ


ไขทุกเคสเกี่ยวกับประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือประกัน PA คืออะไร?

1. ประกัน PA ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลหรือไม่?

โดยปกติแล้ว ประกันอุบัติเหตุไม่จำเป็นต้องสำรองจ่าย หากผู้เอาประกันเข้ารับการรักษากับโรงพยาบาลที่เป็นคู่สัญญากับบริษัทประกัน ซึ่งบริษัทประกันจะเป็นผู้ดำเนินการเรื่องค่าใช้จ่าย (Fax Claim) ให้เราทันทีค่ะ อย่างไรก็ดี วงเงินสำหรับการรักษาจะขึ้นอยู่กับแผนที่ผู้เอาประกันอุบัติเหตุได้ซื้อไว้นะคะ

2. กรณีเข้าทำการรักษากับโรงพยาบาลที่ไม่ได้เป็นคู่สัญญากับบริษัทประกัน เคลมได้ไหม?

ผู้เอาประกันไม่จำเป็นต้องสำรองจ่าย ในกรณีที่รักษาในโรงพยาบาลคู่สัญญาของบริษัทประกัน แล้วอย่างนี้ หากเกิดอุบัติเหตุและไม่ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลคู่สัญญากับบริษัทประกัน เราจะทำอย่างไรดี? 

คุณน้าขอบอกว่า ผู้เอาประกันสามารถแจ้งเคลมย้อนหลังกับบริษัทประกันที่เราทำสัญญาเพื่อรับเงินชดเชยได้ค่ะ โดยจะมีระยะเวลากำหนดไว้ สำหรับการแจ้งเคลมประกันย้อนหลัง รวมทั้งรายละเอียดและเงื่อนไขการเคลมประกันอุบัติเหตุย้อนหลัง จะขึ้นอยู่กับกรมธรรม์ที่เราเลือกทำสัญญานะคะ

3. ประกัน PA ซื้อได้กี่กรมธรรม์?

ประกันอุบัติเหตุสามารถซื้อได้หลายกรมธรรม์ได้เลยค่ะ เพราะขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของผู้เอาประกันว่า ต้องการความคุ้มครองประเภทใดบ้าง

4. ประกัน PA ลดหย่อนภาษีได้ไหม?

ประกัน PA สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้บางส่วนค่ะ ซึ่งในส่วนของการลดหย่อนภาษีจะเป็นเบี้ยประกันที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล แต่หากประกันอุบัติเหตุที่คุ้มครองเฉพาะกรณีเสียชีวิตจะไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ค่ะ

ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า ประกันอุบัติเหตุของเราสามารถลดหย่อนภาษีในกรณีใดได้บ้าง ให้ติดต่อสอบถามกับบริษัทประกันที่เราให้ความสนใจ ก่อนตัดสินใจทำประกันอุบัติเหตุนะคะ

5. ประกัน PA ให้ความคุ้มครองทันทีหรือไม่?

ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือประกัน PA โดยทั่วไปจะให้ความคุ้มครองทันที หลังจากชำระเบี้ยประกันเสร็จค่ะ เพราะประกันอุบัติเหตุไม่จำเป็นต้องตรวจสุขภาพก็สามารถซื้อได้เลย ทำให้ได้รับความคุ้มครองอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดี ประกันอุบัติเหตุอาจจะมีระยะเวลารอคอยในบางกรณีค่ะ ยกตัวอย่างเช่น การเบิกค่าสินไหมทดแทน เมื่อเกิดการสูญเสียอวัยวะ, ทุพพลภาพ และเสียชีวิต โดยจะมีระยะเวลารอคอย 90 วัน


สรุปประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือประกัน PA สำคัญอย่างไร?

จากที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่า การเกิดอุบัติเหตุเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้น การทำประกันอุบัติเหตุ หรือประกัน PA จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ครอบคลุมในเรื่องค่ารักษาพยาบาล และที่สำคัญ คือยังช่วยคลายความกังวล เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อีกด้วยค่ะ 

อย่างไรก็ดี การเลือกแผนประกันอุบัติเหตุจะส่งผลต่อความคุ้มครองและเงินทุนประกันของเราด้วยนะคะ ดังนั้น อย่าลืมศึกษารายละเอียดในกรมธรรม์ของบริษัทประกันแต่ละแห่งให้ดี เพื่อให้สิทธิประโยชน์ของกรมธรรม์ครอบคลุมกับปัจจัยในการใช้ชีวิตประจำวันของเราให้ได้มากที่สุด ด้วยความปรารถนาดีจากทีมงานคุณน้าพาเทรด และในบทความต่อไป คุณน้าจะพาทุกคนไปศึกษาเกี่ยวกับประกันประเภทใด อย่าลืมติดตามกันให้ดีนะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : ธนาคารกสิกรไทย


สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

Picture of khunnaphatrade
khunnaphatrade
Recent Post
แนะนำ 5 โบรกเกอร์ Forex สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ 2025
แนะนำโบรกเกอร์ Forex สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ 2025

อยากเทรด Forex เริ่มต้นยังไงดี มีโบรกไหนเหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่บ้าง วันนี้ คุณน้าจะมาแนะนำโบรกเกอร์ Forex สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ อัปเดต 2025 กันค่ะ

5 โบรกเกอร์ Forex ยอดนิยม ปี 2025
5 อันดับ โบรกเกอร์ Forex ยอดนิยม ปี 2025

5 โบรกเกอร์เทรด Forex ยอดนิยม ปี 2025 ที่คุณน้าได้คัดเลือกมาในบทความนี้ เป็นโบรกเกอร์ที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดจากการใช้งานของทีมงานคุณน้าพาเทรด

[elfsight_cookie_consent id="1"]

ทางเว็บไซต์ คุณน้าพาเทรด
ได้มีการใช้คุกกี้เพื่อช่วยปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้เว็บไซต์ของเราดียิ่งขึ้น


Privacy Policy