หุ้นสหรัฐถือเป็นหุ้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งการเคลื่อนไหวของหุ้นสหรัฐเพียงหนึ่งครั้งก็สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอื่น ๆ ทั่วโลก ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาคุยหุ้น เจาะลึกปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงและมุมมองในการลงทุน สายวิเคราะห์หุ้นสหรัฐห้ามพลาดบทความนี้!
คุยหุ้นสหรัฐวันนี้ (US30 / DJIA)
บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐานหุ้นสหรัฐ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี Dow Jones Industrial Average (DJIA) ร่วงลง 256 จุด หรือคิดเป็น 0.6% ในวันศุกร์ ท่ามกลางความกังวลด้านการค้ารอบใหม่ที่ถูกกระตุ้นโดยโพสต์ของประธานาธิบดีทรัมป์บนสื่อสังคมออนไลน์ค่ะ โดยทรัมป์ขู่จะขึ้นภาษีนำเข้า 50% สำหรับสินค้าจากสหภาพยุโรปตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน โดยกล่าวโทษสหภาพยุโรปที่ทำให้ความสัมพันธ์ทางการค้าลำบากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเล็งเป้าไปที่บริษัท Apple (NASDAQ:AAPL) โดยระบุว่า iPhone ที่ขายในสหรัฐฯ ต้องผลิตภายในประเทศ ไม่เช่นนั้นจะต้องเผชิญกับภาษีนำเข้า 25% ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้น Apple ร่วงลงทันทีค่ะ
ในขณะเดียวกัน การที่ศาลฎีกามีคำสั่งระงับคำตัดสินของศาลล่างในคดี Trump v. Wilcox ยิ่งเพิ่มความไม่สบายใจให้กับตลาดค่ะ เพราะคำสั่งนี้อาจเปิดทางให้เกิดการขยายอำนาจของประธานาธิบดีเกินกว่าที่เคยเป็นมา โดยในคดีนี้มีประเด็นสำคัญเรื่องการตีความว่าประธานาธิบดีมีอำนาจเหนือหน่วยงานอิสระเช่นธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) หรือไม่ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด “Unitary Executive Theory” ที่มองว่าฝ่ายบริหารทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้อำนาจเบ็ดเสร็จของประธานาธิบดีค่ะ ถ้าศาลฎีกาตีความในแนวทางนี้ ก็อาจทำให้ความเป็นอิสระของหน่วยงานอย่าง Fed ถูกบั่นทอนลง และเพิ่มความเสี่ยงเชิงนโยบายให้กับตลาดการเงินค่ะ บริษัท Jefferies จึงเตือนว่าหากแนวคิดนี้ได้รับการยอมรับในวงกว้าง ตลาดก็อาจต้องเพิ่มค่าเบี้ยความเสี่ยง (risk premium) ให้กับสินทรัพย์สหรัฐฯ เพราะความกังวลว่าการขยายอำนาจของประธานาธิบดีจะกระทบต่อความเชื่อมั่นและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาวค่ะ
นอกจากนี้ ตลาดโดยรวมยังต้องรับมือกับความกังวลเกี่ยวกับหนี้สาธารณะสหรัฐฯ หลังจาก Moody’s เพิ่งปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรเพิ่งผ่านร่างกฎหมายลดภาษีและเพิ่มการใช้จ่าย ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มหนี้รัฐบาลกลางอีก 3.8 ล้านล้านดอลลาร์ในทศวรรษหน้า ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ พุ่งขึ้น และยิ่งกระพือความกังวลต่อสุขภาพการคลังของประเทศค่ะ
อย่างไรก็ดี ยังมีหุ้นรายตัวที่เคลื่อนไหวโดดเด่นค่ะ Tesla (NASDAQ:TSLA) ปรับตัวลง หลังจาก BYD คู่แข่งรายสำคัญ มียอดขายในยุโรปแซงหน้า Tesla เป็นครั้งแรกค่ะ Ross Stores (NASDAQ:ROST) และ Deckers Outdoor Corporation (NYSE:DECK) ร่วงลงแรง หลังให้แนวโน้มกำไรที่อ่อนแอ และเผชิญความไม่แน่นอนจากภาษีค่ะ ตรงกันข้าม Intuit (NASDAQ:INTU) ปรับตัวขึ้นหลังประกาศผลประกอบการและแนวโน้มที่แข็งแกร่งค่ะ ส่วน Advance Auto Parts (NYSE:AAP) พุ่งกว่า 34% ในสัปดาห์เดียว หลังทำผลงานได้ดีกว่าที่คาดค่ะ และ CoreWeave ก็ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องกว่า 30% ในสัปดาห์เดียว หลังสร้างความประทับใจด้านรายได้และแนวโน้มการเติบโตค่ะ
ด้านหุ้นอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น Nvidia (NASDAQ:NVDA) ที่เตรียมเปิดตัวชิป AI ราคาย่อมเยาในจีน เพื่อรับมือกับข้อจำกัดการส่งออกค่ะ หุ้นกลุ่มนิวเคลียร์อย่าง Oklo พุ่งขึ้นกว่า 24% หลังมีรายงานว่าทรัมป์อาจลงนามคำสั่งสนับสนุนอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ภายในประเทศ และในทางตรงกันข้าม Sunrun (NASDAQ:RUN) ร่วงลงกว่า 42% ในสัปดาห์นี้ หลังจากร่างกฎหมายภาษีของทรัมป์อาจยกเลิกการอุดหนุนพลังงานแสงอาทิตย์ค่ะ ส่วน Fair Isaac Corporation (NYSE:FICO) ก็ร่วงเกือบ 22% เนื่องจากตลาดกังวลว่าการปรับวิธีคำนวณเครดิตจำนองอาจกระทบต่อธุรกิจค่ะ
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเหล่านี้ ยังมีสัญญาณเชิงบวกจากคำกล่าวของผู้ว่าการ Christopher Waller ที่ยืนยันว่า Fed ยังคงมองเห็นโอกาสปรับลดดอกเบี้ยหากความขัดแย้งทางการค้าสงบลง คุณน้าจึงมองว่าภาพรวมปัจจัยพื้นฐานของ US30 ยังมีความเปราะบาง เนื่องจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และความเสี่ยงด้านการคลัง แต่ในระยะกลางถึงยาว หากดัชนีปรับลงใกล้แนวรับสำคัญและตลาดสามารถคลายความกังวลเรื่องสงครามการค้า ก็อาจเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลางได้ค่ะ
บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิคหุ้นสหรัฐ (US30 / DJIA)

สำหรับดัชนี US30 ตอนนี้กำลังเคลื่อนไหวอยู่บริเวณใกล้กับแนวรับสำคัญที่ 41,500 ซึ่งตรงกับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน (MA) ในกราฟรายวันค่ะ ถ้าดัชนีสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ ก็อาจเกิดการฟื้นตัวกลับไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 42,000 ได้ค่ะ แต่ถ้าดัชนีไม่สามารถป้องกันแนวรับ 41,500 ไว้ได้ ก็มีโอกาสจะเกิดการปรับฐานลึกลงไปถึงระดับจิตวิทยาที่ 41,000 และแนวรับสำคัญถัดไปที่ 40,750 ค่ะ
นอกจากนี้ ดัชนี RSI ขยับลงมาต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงแรงกดดันขาลงเล็กน้อยในระยะสั้นค่ะ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้น (เช่น EMA 9 วัน และ 21 วัน) ก็เริ่มแสดงท่าทีทรงตัว บ่งบอกถึงภาวะลังเลของตลาดค่ะ หากดัชนีหลุดแนวรับ 41,500 อย่างชัดเจน จะเป็นการยืนยันรูปแบบกลับตัวขาลง และอาจทำให้ต้องลงไปทดสอบแนวรับในช่วง 40,750-41,000 อีกครั้งค่ะ
แต่ถ้าฝั่งซื้อสามารถดันดัชนีกลับไปยืนเหนือ 42,000 ได้อย่างมั่นคง ก็จะเปิดโอกาสให้ทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 42,440 ได้อีกครั้งค่ะ คุณน้าสังเกตว่ากราฟรายสัปดาห์ยังคงแสดงแนวโน้มขาขึ้นในภาพรวมอยู่ ดังนั้น การอ่อนตัวลงไปใกล้ 40,750 อาจเป็นจังหวะน่าสนใจสำหรับนักลงทุนสายกลาง หากบรรยากาศการลงทุนในตลาดโดยรวมกลับมามีเสถียรภาพค่ะ
📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (US30 / DJIA)
- แนวรับสำคัญ : 41664.3, 41570.1, 41417.7
- แนวต้านสำคัญ : 41969.1, 42063.3, 42215.7
ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มหุ้นสหรัฐ

ที่มา : Forexfactory
กำหนดการรายงานผลประกอบการ

ที่มา : TradingView
📍หุ้นสหรัฐที่น่าจับตามอง
- Apple (AAPL): หุ้น Apple กำลังเผชิญแรงกดดันจากความตึงเครียดทางการค้าหลังประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีนำเข้า 25% หากสถานการณ์นี้ยืดเยื้อ อาจกระทบต่อยอดขาย iPhone ในสหรัฐฯ ที่ผลิตจากต่างประเทศค่ะ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ราคาหุ้นอยู่ที่ $195.27 ซึ่งสูงกว่าแนวรับเดิม $180-185 พอสมควรค่ะ คุณน้าแนะนำให้จับตาดูว่า หากราคาปรับตัวลงไปใกล้แนวรับเดิม จะเกิดแรงซื้อกลับมาหรือไม่ เพราะบริเวณนั้นอาจเป็นจุดฟื้นตัวที่น่าสนใจค่ะ
- Tesla (TSLA): หุ้น Tesla ปรับตัวลดลง หลังคู่แข่งอย่าง BYD แซงหน้าในการขายรถ EV ในยุโรปเป็นครั้งแรกค่ะ การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างนี้อาจกดดันอัตรากำไรของ Tesla ในตลาดยุโรปอยู่บ้างค่ะ ปัจจุบันราคาหุ้นอยู่ที่ $339.34 แต่คุณน้าก็ยังแนะนำให้ระวังแรงขายทำกำไรหากราคาขึ้นแรงเกินไปค่ะ
- Intuit (INTU): หุ้น Intuit พุ่งขึ้นแรงหลังประกาศผลประกอบการและแนวโน้มรายได้ที่แข็งแกร่งค่ะ ราคาปัจจุบันอยู่ที่ $720.13 ซึ่งทะลุแนวต้านเดิมที่ $670 ไปแล้วค่ะ คุณน้าเห็นว่าหากตลาดยังเชื่อมั่นต่อไป หุ้นนี้น่าจะเป็นผู้นำการฟื้นตัวของกลุ่มเทคโนโลยี โดยแนวรับสำคัญอยู่ใกล้ $630 ส่วนถ้าผ่าน $720 ได้มั่นคง อาจไปต่อได้ถึง $750 ในอนาคตค่ะ
- Advance Auto Parts (AAP): หุ้น AAP พุ่งขึ้นกว่า 34% หลังผลประกอบการแข็งแกร่งค่ะ แต่ปัจจุบันราคาหุ้นอยู่ที่ $48.67 ซึ่งต่ำกว่าแนวต้านเดิม $75-80 อยู่พอสมควรค่ะ คุณน้าแนะนำให้ระวังแรงขายทำกำไรในระยะสั้นหากราคาขึ้นมาใกล้ $55-60 ก่อนค่ะ เพราะแนวโน้มยังไม่ชัดเจนนักว่าโมเมนตัมจะกลับมาเต็มตัวหรือไม่ค่ะ
- Nvidia (NVDA): Nvidia มีแผนเปิดตัวชิป AI ราคาย่อมเยาในจีนเพื่อรับมือกับข้อจำกัดการส่งออกค่ะ ตอนนี้ราคาหุ้นอยู่ที่ $131.29 คุณน้าแนะนำให้ดูว่า หากมีข่าวบวกเพิ่มเติมจากการเปิดตัวชิป AI ใหม่ ราคาหุ้นอาจเกิดโมเมนตัมบวกและกลับมาทดสอบแนวต้านถัดไปได้ค่ะ
สรุปภาพรวม แม้ว่าตลาดโดยรวมจะยังมีบรรยากาศระมัดระวัง แต่คุณน้าเห็นว่าหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งยังคงมีโอกาสดีอยู่ค่ะ โดยเฉพาะถ้าความผันผวนจากการเมืองและการค้าเริ่มคลี่คลายค่ะ
🔍คุณน้าแนะนำเทรดหุ้น CFD ไปกับโบรกเกอร์ IUX

IUX มีการให้บริการซื้อขายหุ้น CFD ประกอบไปด้วยหุ้นกลุ่ม Magnificent Seven (M7) อีกทั้งยังมีหุ้นให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Coca Cola, Adobe, Alibaba, McDonalds Incorporated และ Netflix เป็นต้น ทำให้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และเทรดเดอร์รายย่อยที่มีต้นทุนจำกัดแล้วต้องการซื้อขายหุ้นระดับโลก
สรุปคุยหุ้นสหรัฐและแนวโน้มในการลงทุน (US30 / DJIA)
จุดน่าเข้า Buy
- Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 41324.3 – 41664.3 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 41664.3 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 42054.4 และ SL ที่ประมาณ 41154.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 41969.1 – 42309.1 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 42453.4 และ SL ที่ประมาณ 41494.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดน่าเข้า Sell
- Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 41969.1 – 42309.1 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 41969.1 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 41655.4 และ SL ที่ประมาณ 42480.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 41324.3 – 41664.3 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 41256.4 และ SL ที่ประมาณ 42139.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
คำเตือน
บทวิเคราะห์นี้ใช้สำหรับการศึกษาข้อมูลของหุ้นสหรัฐเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลของสินทรัพย์และศึกษาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ประกอบกับศึกษาแนวโน้มหุ้นและข่าวสหรัฐก่อนตัดสินใจลงทุน
สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge