คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 27 ตุลาคม 2025

คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 27 ตุลาคม 2025
Table of Contents

หุ้นสหรัฐถือเป็นหุ้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งการเคลื่อนไหวของหุ้นสหรัฐเพียงหนึ่งครั้งก็สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอื่น ๆ ทั่วโลก ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาคุยหุ้น เจาะลึกปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงและมุมมองในการลงทุน สายวิเคราะห์หุ้นสหรัฐห้ามพลาดบทความนี้!

คุยหุ้นสหรัฐวันนี้ (US30 / DJIA)

บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐานหุ้นสหรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ยังคงเดินหน้าทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเช่นเดียวกันกับดัชนี S&P 500 และ NASDAQ โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และจากสัญญาณผ่อนคลายของความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ขณะที่สัปดาห์นี้จะเต็มไปด้วยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ และการประชุมเฟดที่อาจกำหนดทิศทางของตลาดในช่วงที่เหลือของปีนี้ค่ะ

แม้ยังมีแรงต้านจากภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนด้านการค้า แต่ตลาดโดยรวมยังคงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา DJIA ปรับขึ้นราว 1% และ S&P 500 ปิดทำสถิติสูงสุดใหม่ ส่งผลให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีเพิ่มขึ้นกว่า 15% อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าตลาดหุ้นอาจกลับมาผันผวนได้ เนื่องจากตลาดปรับตัวขึ้นต่อเนื่องโดยไม่เกิดการพักฐานมานานค่ะ

ขณะนี้สายตานักลงทุนจับจ้องไปที่ผลประกอบการไตรมาส 3 โดยบริษัทในดัชนี S&P 500 กว่า 87% ทำกำไรได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ รายงานผลประกอบการของ Microsoft Apple Alphabet Amazon และ Meta Platforms ซึ่งเป็น 5 ใน “Magnificent Seven” จะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดความแข็งแกร่งของกลุ่มเทคโนโลยีว่าจะยังคงหนุนดัชนีต่อไปได้หรือไม่ โดยคาดว่าบริษัทเหล่านี้จะมีกำไรเติบโตเฉลี่ยราว 16.6% หรือเกือบสองเท่าของตลาดโดยรวม สะท้อนให้เห็นถึงผลเชิงบวกจากการลงทุนใน AI ที่ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญทั้งในด้านผลประกอบการและเศรษฐกิจค่ะ

ทั้งนี้ ภายในกลุ่ม DJIA หุ้น Apple (AAPL) ได้รับแรงหนุน หลังจากที่ Loop Capital ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” พร้อมตั้งราคาเป้าหมายไว้ที่ 315 ดอลลาร์ โดยให้เหตุผลจากความต้องการ iPhone 17 ที่แข็งแกร่งและการเริ่มต้นของวัฏจักรการเติบโตของผลิตภัณฑ์ชุดใหม่ที่จะต่อเนื่องไปถึงปี 2027 โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ายอดส่งมอบ iPhone จะทำสถิติสูงสุดในรอบสามปีข้างหน้า จากยอดขายในจีนที่แข็งแกร่ง และนวัตกรรมใหม่อย่าง “AI Phone” และ iPhone แบบพับได้รุ่น 18 ค่ะ

ด้านหุ้นกลุ่มชิปที่เกี่ยวข้องกับ AI ยังคงเป็นจุดสนใจของนักลงทุน Barclays แสดงมุมมองที่ระมัดระวังมากขึ้น โดยยังคงมองบวกต่อ Nvidia (NVDA), AMD (AMD) และ Broadcom (AVGO) แต่เตือนว่ามูลค่าหุ้นเริ่มตึงตัวหลังจากราคาปรับขึ้นแรง ทั้งนี้ Barclays ได้ปรับลดคำแนะนำของ Marvell (MRVL), Astera Labs (ALAB) และ Lumentum (LITE) เนื่องจากมองว่าความคุ้มค่าระหว่างความเสี่ยงกับผลตอบแทนลดลง ขณะที่การปรับเพิ่มคำแนะนำของ KLA Corp (KLAC) จากคาดการณ์ว่าความต้องการด้านกระบวนการควบคุมคุณภาพจะเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งค่ะ

ในอีกด้านหนึ่ง Mizuho ได้ปรับราคาเป้าหมายของ Broadcom ขึ้นเป็น 435 ดอลลาร์ โดยชี้ให้เห็นถึงข้อตกลงโครงสร้างพื้นฐาน AI รายใหม่กับ Anthropic และ OpenAI ซึ่งอาจสร้างรายได้ถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีภายในปี 2026 และยังมีโอกาสเติบโตเพิ่มเติมจากผลิตภัณฑ์เครือข่ายอย่าง Tomahawk 6-Davisson และ Thor Ultra 800G NIC ค่ะ

นอกเหนือจากกลุ่มเทคโนโลยี Morgan Stanley ได้ยกให้ Spotify (SPOT) เป็นหุ้นเด่น โดยคาดว่าการเติบโตที่เร่งตัวขึ้น การผสานเทคโนโลยี AI และศักยภาพในการปรับราคาจะช่วยให้บริษัทมีกำไรเติบโตเฉลี่ยต่อปี (EBIT CAGR) ราว 40% จนถึงปี 2028 เช่นเดียวกับ Wolfe Research ที่เริ่มให้คำแนะนำ Outperform หรือการคาดว่าจะให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาดกับ SailPoint (SAIL) โดยคาดว่าธุรกิจ SaaS และโซลูชันบริหารจัดการอัตลักษณ์ด้วย AI จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดความปลอดภัยไซเบอร์ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 55,000 ล้านดอลลาร์ค่ะ

โดยรวมแล้ว เมื่อ DJIA และดัชนีหลักทั้งหลายยังคงอยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ ทิศทางระยะสั้นของตลาดจะขึ้นอยู่กับสามปัจจัยสำคัญ คือ แนวโน้มการดำเนินนโยบายของเฟด ผลประกอบการของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI และพัฒนาการทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน หากทั้งสามด้านออกมาในทิศทางบวก ก็จะช่วยหนุนให้ดาวโจนส์ทะยานต่อในช่วงปลายปี แต่หากผลออกมาไม่เป็นไปตามที่คาด ไม่ว่าจะจากทิศทางนโยบายดอกเบี้ยหรือผลประกอบการของบริษัท ก็อาจทำให้ตลาดเข้าสู่ช่วงพักฐาน หลังจากที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องมาหลายเดือนค่ะ

บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิคหุ้นสหรัฐ

คุยหุ้นสหรัฐ วันที่ 27 ตุลาคม 2025

ดัชนีดาวโจนส์ (US30) ยังคงรักษาโครงสร้างขาขึ้นที่แข็งแกร่ง แม้ว่าจะเริ่มเห็นสัญญาณการพักฐานเล็กน้อย หลังจากปรับตัวขึ้นแรง ซึ่งสะท้อนว่านักลงทุนกำลังประเมินมูลค่าหุ้นและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม ภาพรวมทางเทคนิคยังคงเป็นบวกชัดเจน โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม การเงิน และกลุ่มผู้บริโภคขนาดใหญ่ค่ะ

จากมุมมองแนวโน้มทางเทคนิค ดัชนีมีแนวต้านระยะสั้นที่ประมาณ 47,800 จุด และแนวรับสำคัญอยู่แถว 47,000 จุด โดยหากดัชนีสามารถปิดเหนือระดับ 47,800 จุดได้อย่างมั่นคง ก็มีโอกาสที่แรงซื้อจะกลับเข้ามาอีกครั้งและเปิดทางสู่แนวต้านถัดไปบริเวณ 48,250–48,500 จุด แต่หากปิดต่ำกว่า 46,800 จุด อาจเกิดการปรับฐานระยะสั้นลงมาที่บริเวณ 46,200 จุดค่ะ

ด้านสัญญาณโมเมนตัมยังคงสนับสนุนมุมมองบวก โดยค่า RSI อยู่ใกล้ระดับ 63 ซึ่งถือว่าสูง แต่ยังไม่ถึงเขตซื้อมากเกินไป นั่นหมายความว่ายังมีพื้นที่ให้ราคาขยับขึ้นได้อีก ขณะที่ปริมาณการซื้อขายนั้น แม้จะชะลอตัวใกล้แนวต้าน แต่ยังไม่พบสัญญาณการขายทำกำไรขนาดใหญ่หรือแรงขายจากนักลงทุนสถาบันค่ะ

โดยรวมแล้ว การพักฐานในช่วงนี้ คาดว่าอาจเป็นเพียงการหยุดพักภายในแนวโน้มขาขึ้นระยะยาวมากกว่าจะเป็นสัญญาณจบรอบ หากดัชนียังคงรักษาแนวรับเหนือ 47,000 จุดได้ ก็มีโอกาสสูงที่จะกลับมาทดสอบระดับใกล้ 48,500 จุด แต่หากหลุดแนวรับดังกล่าว อาจเกิดการย่อตัวลงเล็กน้อย โดยอาจพบแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วง 46,500–46,200 จุด ซึ่งสัญญาณทางเทคนิคโดยรวมยังคงสนับสนุนความแข็งแกร่งของดาวโจนส์ โดยโมเมนตัมขาขึ้นได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ปรับตัวดีขึ้น ผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และการหมุนเวียนเงินลงทุนเข้าสู่หุ้นเน้นมูลค่าและหุ้นปันผลในกลุ่มอุตสาหกรรมค่ะ

📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (US30 / DJIA)

  • แนวรับสำคัญ : 47440.1, 47430.0, 47413.8
  • แนวต้านสำคัญ : 47472.5, 47482.6, 47498.8

ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มหุ้นสหรัฐ

ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มหุ้นสหรัฐ

ที่มา : Forexfactory

กำหนดการรายงานผลประกอบการ

กำหนดการรายงานผลประกอบการ

ที่มา : TradingView

📍หุ้นสหรัฐที่น่าจับตามอง

  • Apple Inc. (AAPL): ในระยะยาว AAPL ยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากอุปกรณ์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และรายได้จากธุรกิจบริการที่มั่นคงค่ะ ในด้านเทคนิค AAPL ยังคงยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันได้อย่างมั่นคง โดยมีแนวรับสำคัญบริเวณ 260 ดอลลาร์ หากแรงซื้อยังต่อเนื่อง มีโอกาสเห็นการทะลุแนวต้านขึ้นไปที่ช่วง 280–285 ดอลลาร์ ดัชนี RSI ใกล้ระดับ 60 และปริมาณการสะสมหุ้นที่คงที่ บ่งชี้ถึงภาวะสะสมเชิงบวกค่ะ
  • Microsoft Corp. (MSFT): การเติบโตของ Azure และการทำงานร่วมกับ OpenAI ยังคงช่วยให้ไมโครซอฟท์เป็นผู้นำในด้านการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ในภาคธุรกิจ ขณะที่การขยายตัวของกำไรต่อหุ้น (EPS) และกระแสเงินสดอิสระ (FCF) ยังช่วยสนับสนุนมูลค่าหุ้นระดับพรีเมียมของบริษัทค่ะ ทางเทคนิค MSFT กำลังทดสอบแนวต้านบริเวณ 525 ดอลลาร์ หากปิดเหนือระดับนี้ได้ จะเป็นสัญญาณยืนยันการทะลุขึ้น โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ 540 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่แถว 510 ดอลลาร์ และสัญญาณ MACD บ่งชี้ถึงแรงส่งของโมเมนตัมที่เพิ่มขึ้นค่ะ
  • NVIDIA Corp. (NVDA): ยังคงครองความเป็นผู้นำในตลาด GPU ด้าน AI ด้วยความต้องการที่แข็งแกร่งจากดาต้าเซ็นเตอร์ แม้ว่าราคาหุ้นจะอยู่ในระดับสูง แต่แนวโน้มการเติบโตยังคงชัดเจนไปจนถึงปี 2026–2027 โดยเฉพาะในส่วนของงานประมวลผลและเครือข่ายค่ะ ในเชิงเทคนิค NVDA ฟื้นตัวจากแนวรับบริเวณ 180 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านใกล้ 195 ดอลลาร์ หากทะลุระดับนี้ได้อย่างมั่นคง มีโอกาสเห็นราคาขึ้นไปที่ 205 ดอลลาร์ ขณะที่ RSI ใกล้ 55 แสดงถึงโมเมนตัมที่เป็นกลางถึงเชิงบวก พร้อมปริมาณซื้อขายที่เริ่มดีขึ้นค่ะ
  • Broadcom Inc. (AVGO): ความต้องการชิปที่เกี่ยวข้องกับ AI และจากการควบรวมกิจการกับ VMware ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ผลประกอบการของ Broadcom นักวิเคราะห์หลายสำนักได้ปรับราคาเป้าหมายขึ้นไปถึง 435 ดอลลาร์ จากมุมมองการเติบโตที่มั่นคงจนถึงปีงบประมาณ 2026 ค่ะ ในด้านเทคนิค AVGO เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบขาขึ้นแคบ ๆ ระหว่าง 345–360 ดอลลาร์ หากราคาทะลุ 360 ดอลลาร์ได้ จะเปิดทางสู่เป้าหมาย 375–380 ดอลลาร์ โดยแรงซื้อจากสถาบันยังคงต่อเนื่อง เป็นสัญญาณบวกต่อทิศทางระยะกลางค่ะ
  • Spotify Technology (SPOT): Morgan Stanley ยกให้ Spotify เป็นหุ้นเด่นประจำกลุ่ม จากแนวโน้มกำไรที่ดีขึ้นและศักยภาพในการปรับราคาค่าบริการ จุดแข็งสำคัญอยู่ที่เพลย์ลิสต์ที่จัดโดย AI และการขยายระดับสมาชิกแบบพรีเมียม ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ต่อผู้ใช้ค่ะ ทางเทคนิค SPOT ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างแข็งแรง โดยมีแนวรับที่บริเวณ 630 ดอลลาร์ ขณะที่ RSI ใกล้ 65 บ่งชี้ถึงโมเมนตัมที่ดี หากสามารถทะลุระดับ 650 ดอลลาร์ ได้ ราคามีโอกาสขยับต่อไปถึงช่วง 680–700 ดอลลาร์ ค่ะ
  • KLA Corp. (KLAC): ผู้นำในธุรกิจควบคุมกระบวนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ได้รับอานิสงส์จากความต้องการในเทคโนโลยีลิโธกราฟีขั้นสูง และการผลิตชิป AI โดย Barclays ได้ปรับคำแนะนำขึ้นเป็นระดับน่าลงทุน เพราะมองเห็นศักยภาพการเติบโตระยะยาวค่ะ ในเชิงเทคนิค KLAC อยู่ในช่วงพักฐานหลังจากราคาปรับขึ้นแรง โดยแนวรับอยู่แถว 1,150 ดอลลาร์ และหากทะลุขึ้นได้ มีเป้าหมายที่ 1,200–1,230 ดอลลาร์ค่ะ
  • SailPoint Technologies (SAIL): บริษัทด้านความปลอดภัยอัตลักษณ์ (Identity Security) กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น จากการใช้โซลูชันระบบคลาวด์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อบริหารจัดการการเข้าถึงข้อมูล Wolfe Research ได้เริ่มให้คำแนะนำในระดับ “Outperform” พร้อมตั้งราคาเป้าหมายที่ 27 ดอลลาร์ โดยสะท้อนถึงการปรับตัวดีขึ้นของอัตรากำไรในธุรกิจ SaaS ค่ะ ทางเทคนิค SAIL เคลื่อนไหวอยู่ในช่วงสะสมที่คงที่ระหว่าง 21.5–22.5 ดอลลาร์ หากราคาทะลุระดับ 22.70 ดอลลาร์ขึ้นไปได้ อาจเห็นการปรับขึ้นระยะสั้นไปถึง 24 ดอลลาร์ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายเริ่มแสดงสัญญาณการเข้ามาของนักลงทุนสถาบันค่ะ

🔍คุณน้าแนะนำเทรดหุ้น CFD ไปกับโบรกเกอร์ IUX

เทรดหุ้น CFD กับ IUX โบรกเกอร์หุ้นค่าธรรมเนียมถูก

IUX มีการให้บริการซื้อขายหุ้น CFD ประกอบไปด้วยหุ้นกลุ่ม Magnificent Seven (M7) อีกทั้งยังมีหุ้นให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Coca Cola, Adobe, Alibaba, McDonalds Incorporated และ Netflix เป็นต้น ทำให้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และเทรดเดอร์รายย่อยที่มีต้นทุนจำกัดแล้วต้องการซื้อขายหุ้นระดับโลก

สรุปคุยหุ้นสหรัฐและแนวโน้มในการลงทุน (US30 / DJIA)

จุดน่าเข้า Buy

  • Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 47410.1 – 47440.1 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 47440.1 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 47472.5 และ SL ที่ประมาณ 47395.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
  • Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 47472.5 – 47502.5 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 47513.6 และ SL ที่ประมาณ 47425.1 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

จุดน่าเข้า Sell

  • Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 47472.5 – 47502.5 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 47472.5 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 47428.6 และ SL ที่ประมาณ 47517.5 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
  • Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 47410.1 – 47440.1 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 47386.1 และ SL ที่ประมาณ 47487.5 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

คำเตือน

บทวิเคราะห์นี้ใช้สำหรับการศึกษาข้อมูลของหุ้นสหรัฐเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลของสินทรัพย์และศึกษาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ประกอบกับศึกษาแนวโน้มหุ้นและข่าวสหรัฐก่อนตัดสินใจลงทุน


สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

Picture of คุณน้า
คุณน้า
Table of Contents
Recent Post
Recent Post
คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 27 ตุลาคม 2025
คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 27 ตุลาคม 2025

ในบทความนี้เราจะมาคุยหุ้น เจาะลึกปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงและมุมมองในการลงทุน สายหุ้นสหรัฐห้ามพลาดบทความนี้!

บทวิเคราะห์คู่เงิน AUDUSD 25 ตุลาคม 2025
บทวิเคราะห์ AUDUSD วันที่ 25 ตุลาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ AUDUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

บทวิเคราะห์คู่เงิน USDCHF 25 ตุลาคม 2025
บทวิเคราะห์ USDCHF วันที่ 25 ตุลาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ USDCHF ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

Doo Prime ไม่เหมาะกับคนไทย ใช้งานยาก? รีวิวอัปเดตปี 2025
รีวิว Doo Prime (D Prime) ดีไหม? ใช้งานยากจริงไหม? ปี 2025

โบรกเกอร์ที่คุณน้าจะพาไปทำความรู้จักในวันนี้ก็คือ ‘โบรกเกอร์ Doo Prime’ ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่เคยได้ยินชื่อหรือบางคนอาจจะได้ยินชื่อผ่านหูมาบ้าง ดังนั้น หากใครที่กำลังสนใจโบรกเกอร์นี้อยู่ คุณน้าขอบอกว่าห้ามพลาดบทความนี้เลยนะคะ

ทางเว็บไซต์ คุณน้าพาเทรด
ได้มีการใช้คุกกี้เพื่อช่วยปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้เว็บไซต์ของเราดียิ่งขึ้น


Privacy Policy