พบกับวิเคราะห์ USDJPY ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค อีกทั้งแนวทางในการเข้าออกออเดอร์ ไปจนถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการเทรดคู่เงินแบบละเอียด เรียกได้ว่าครบจบในบทความเดียว!
บทวิเคราะห์ Forex วันนี้ : คู่เงิน USDJPY
บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ตามเดิมในการประชุมล่าสุด ซึ่งสะท้อนถึงแนวทางที่ระมัดระวังและขับเคลื่อนโดยข้อมูลเป็นหลัก โดยทั้งสองประเทศกำลังเผชิญความท้าทายซับซ้อนจากเงินเฟ้อ ความตึงเครียดทางการค้า และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ค่ะ
BOJ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% ตามความคาดหมาย พร้อมกับประกาศว่าจะลดการซื้อพันธบัตรอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปีงบประมาณ 2026 โดยจะลดการซื้อเพียง 200 พันล้านเยนต่อไตรมาส จากเดิมที่วางแผนไว้ 400 พันล้านเยนค่ะ ผู้ว่าการคาซึโอะ อุเอดะ เน้นถึงความจำเป็นในการรักษาสมดุลระหว่างความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ เช่น ราคาข้าวและอาหารที่พุ่งสูง กับความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจจากการส่งออกที่ลดลงและผลกระทบจากภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ ที่รุนแรงมากขึ้น หลังจากอัตราเงินเฟ้อในเดือนเมษายนอยู่ที่ 3.6% สูงกว่าเป้าหมายที่ 2% อย่างมาก ขณะที่ราคาข้าวเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า เนื่องจากผลผลิตตกต่ำ ความตื่นตระหนกจากแผ่นดินไหว และความต้องการจากนักท่องเที่ยวที่พุ่งสูงขึ้นค่ะ
นอกจากนี้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเผชิญแรงกดดันจากภาษีนำเข้ารถยนต์ของสหรัฐฯ ที่สูงถึง 25% ซึ่งทำให้การส่งออกรถยนต์ไปยังสหรัฐฯ ลดลงถึง 24.7% ในเดือนพฤษภาคม แม้ว่าการส่งออกโดยรวมลดลงเพียง 1.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน หลังจากผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นดูดซับต้นทุนภาษีแทนที่จะขึ้นราคา แต่ดุลการค้ายังขาดดุลเพิ่มขึ้นเป็น 637.6 พันล้านเยน จากการบริโภคในประเทศที่ซบเซาค่ะ ขณะที่ความพยายามของนายกรัฐมนตรีชิเกรุ อิชิบะ ในการเจรจาการค้ากับประธานาธิบดีทรัมป์ยังไม่ประสบผลสำเร็จ และญี่ปุ่นอาจต้องเผชิญภาษีรอบใหม่ในเดือนกรกฎาคม ในขณะเดียวกัน รัฐมนตรีเกษตรคนใหม่ ชินจิโร่ โคอิซึมิ ก็กำลังเร่งจัดการวิกฤตราคาข้าว โดยปล่อยคลังสำรองฉุกเฉินและสนับสนุนการนำเข้า แม้จะขัดกับแนวโน้มที่ญี่ปุ่นจะรักษาภาษีนำเข้าข้าวในระดับสูงค่ะ
แรงกดดันจากเงินเฟ้อและการค้าเหล่านี้ทำให้ BOJ ต้องดำเนินนโยบายอย่างระมัดระวัง โดยการปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นได้ในช่วงปลายปี 2025 หรือต้นปี 2026 ท่ามกลางผู้ผลิตญี่ปุ่นหลายรายที่ลดการลงทุนลงจากความไม่แน่นอนทางการค้าและดีมานด์จากจีนที่อ่อนแอ ขณะที่ในด้านการเมือง ก็มีการถกเถียงกันมากขึ้นเรื่องการลดภาษีบริโภคชั่วคราวเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค แต่รัฐบาลของอิชิบะยังคงคัดค้าน โดยให้เหตุผลเรื่องความมั่นคงทางการคลังค่ะ
ด้านธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 4.25%–4.50% และยังคาดการณ์ว่าจะลดดอกเบี้ย 2 ครั้งภายในปีนี้ แต่ชี้ว่าจะดำเนินการอย่างช้าลงในปีต่อ ๆ ไป ประธาน Fed เจอโรม พาวเวลล์ เน้นว่านโยบายต่อจากนี้จะขึ้นอยู่กับข้อมูล โดยเตือนว่าภาษีของรัฐบาลทรัมป์จะเริ่มส่งผลต่อราคาผู้บริโภคมากขึ้นในอีกไม่ช้า แม้ตัวเลขเงินเฟ้อในปัจจุบันจะชะลอลงบ้าง แต่ Fed คาดว่าอัตราเงินเฟ้อในปี 2025 จะอยู่ที่ 3.1% และปี 2026 ที่ 2.4% ซึ่งยังสูงกว่าคาดการณ์เดิม ขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2025 คาดว่าจะลดลงเหลือ 1.4% และอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.5% ค่ะ
พร้อมกันนี้ ข้อมูลตลาดแรงงานก็สะท้อนสัญญาณหลากหลายค่ะ จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงเล็กน้อยเหลือ 245,000 ราย แต่ค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์เพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่สิงหาคม 2023 อุตสาหกรรมหลักอย่างขนส่ง การผลิต และก่อสร้างยังคงเผชิญการปลดพนักงานสูง และภาคที่อยู่อาศัยก็ยังชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยใบอนุญาตปลูกสร้างบ้านเดี่ยวในเดือนพฤษภาคมลดลงต่ำสุดในรอบ 2 ปี ขณะที่โครงการเริ่มสร้างบ้านรวมลดลงเกือบ 10% จากผลกระทบของต้นทุนที่เพิ่มจากภาษีและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการลดต่ำที่สุดตั้งแต่ปี 2021 และข้อจำกัดด้านแรงงานจากมาตรการตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มงวดก็ยิ่งเพิ่มความกังวลค่ะ
ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงระมัดระวัง โดยดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังการประชุม Fed แต่กลับอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากนักลงทุนหันไปหาสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะสถานการณ์อิสราเอล–อิหร่าน ท่ามกลางราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นและห่วงโซ่อุปทานที่เปราะบางก็ยิ่งสร้างความกังวลให้ตลาด
ในเชิงพื้นฐาน แม้ Fed จะคงดอกเบี้ย และยังคงคาดว่าจะลดดอกเบี้ยสองครั้งในปี 2025 แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีผ่อนคลายมากพอที่จะทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อพาวเวลล์เตือนถึงแรงกดดันเงินเฟ้อที่อาจเร่งตัวขึ้น ซึ่งอาจทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า Fed จะชะลอการลดดอกเบี้ย ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้นและหนุนดอลลาร์ให้แข็งค่าค่ะ
ในขณะที่ BOJ ยังคงระมัดระวัง โดยคงดอกเบี้ยและชะลอการลดการซื้อพันธบัตร ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลต่อเสถียรภาพของตลาดการเงินมากกว่าการเร่งขึ้นดอกเบี้ยค่ะ อีกทั้งความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจในประเทศ ยังคงกดดัน BOJ ให้ชะลอการขึ้นดอกเบี้ย และทำให้เยนยังมีความน่าดึงดูดในฐานะสกุลเงินที่ใช้เป็นแหล่งเงินทุนในกลยุทธ์ Carry Trade ต่อไปค่ะ
อย่างไรก็ดี ในด้านความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ แม้เยนมักได้ประโยชน์จากความเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ช่วงหลัง ดอลลาร์กลับกลายเป็นที่พึ่งหลักของนักลงทุนแทน โดยเฉพาะในช่วงที่สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ทำให้การแข็งค่าของเยนในช่วง Risk-Off ถูกจำกัดไว้ค่ะ
บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค

สำหรับค่าเงิน USDJPY คุณน้าคาดว่าคู่นี้น่าจะยังคงมีแนวโน้มแข็งค่าในระยะสั้น โดยมีโอกาสทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 147.50–148.00 ค่ะ ซึ่งปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากความแตกต่างของนโยบายการเงินระหว่าง Fed และ BOJ รวมถึงปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคและภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังไม่แน่นอน
ในเชิงเทคนิค ค่าเงิน USDJPY ฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดแถว ๆ 143.50 และขณะนี้ซื้อขายอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน ดัชนี RSI ยังอยู่ในโซนเป็นกลางไปทางบวก แสดงว่ายังมีพื้นที่สำหรับการปรับขึ้นต่อ โดยเป้าหมายแรกคือ ระดับ 148.00 ถ้าฝ่าแนวต้านนี้ไปได้ ก็อาจมีโอกาสไปแตะระดับ 150.00 ได้ แต่ต้องอาศัยแรงหนุนจากปัจจัยภายนอก เช่น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่พุ่งขึ้น หรือข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาดอย่างชัดเจนค่ะ
ด้านแนวรับทางเทคนิค คุณน้าให้แนวรับแรกที่ 144.00 และแนวรับถัดไปที่ 142.80 ซึ่งเป็นระดับของเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน ถ้าไม่มีปัจจัยลบแรง ๆ เช่น ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แย่เกินคาด หรือถ้อยแถลงของ Fed ที่เปลี่ยนไปเป็นแนวผ่อนคลายแบบชัดเจน คุณน้าคิดว่าความเสี่ยงขาลงของ USDJPY ยังมีจำกัดค่ะ
ดังนั้น ในภาพรวม ค่าเงินดอลลาร์ต่อเยนยังอยู่ในขาขึ้นที่ค่อนข้างมั่นคง โดยอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 144.00–148.00 ในระยะสั้น และถ้าผลของภาษีและเงินเฟ้อเริ่มสะท้อนผ่านข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงฤดูร้อน ก็อาจเห็นแรงซื้อดอลลาร์เพิ่มขึ้นได้ค่ะ
📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค
- แนวรับสำคัญ : 144.48, 144.22, 143.79
- แนวต้านสำคัญ : 145.34, 145.60, 146.03
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลต่อคู่เงิน USDJPY

ที่มา : Forexfactory

⭐ คุณน้าแนะนำโบรกเกอร์คุณสมบัติเด่น!
การเลือกโบรกเกอร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ สำหรับการเทรด Forex ค่ะ
เพราะโบรกเกอร์จะพัฒนาระบบและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเทรดของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นให้ได้มากที่สุด
สำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มั่นใจว่า โบรกเกอร์ Forex แบบไหนดี?
คุณน้าได้รวบรวมการจัดอันดับของโบรกเกอร์ในทุกคุณสมบัติ เช่น สเปรดต่ำ, เทรดทอง หรือโบนัสฟรี

💡 คัมภีร์เริ่มต้น มือใหม่หัดเทรด
มือใหม่หัดเทรดที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? คุณน้าได้รวบรวมเนื้อหาสำคัญที่ถือเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับการเทรด Forex มาไว้ให้แล้วที่นี่!
🔍 ตัวอย่างเนื้อหา มือใหม่หัดเทรดต้องรู้!
สรุปวิเคราะห์ USDJPY
จุดน่าเข้า Buy
- Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 143.08 – 144.48 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 144.48 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 145.49 และ SL ที่ประมาณ 142.38 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 145.34 – 146.74 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 147.17 และ SL ที่ประมาณ 143.78 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดน่าเข้า Sell
- Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 145.34 – 146.74 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 145.34 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 144.37 และ SL ที่ประมาณ 147.44 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 143.08 – 144.48 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 142.59 และ SL ที่ประมาณ 146.04 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
คำเตือน
การให้ข้อมูลการวิเคราะห์คู่เงิน Forex ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค เป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจการลงทุน
สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge