Swap เป็นคำที่เทรดเดอร์อาจเคยได้ยินกันมากบ้าง เนื่องจากเป็นคำพื้นฐานที่เทรดเดอร์มือใหม่ต้องรู้ โดยเฉพาะเทรดเดอร์สายเทรดยาวที่ต้องการถือออเดอร์ข้ามคืนค่ะ
สำหรับบทความนี้ คุณน้าจะพาไปรู้จักว่าค่า Swap คืออะไร? ในการเทรด Forex ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ข้อดีข้อเสียของค่า Swap มีอะไรบ้าง? รวมทั้งวิธีการคำนวณคร่าว ๆ เพื่อให้เทรดเดอร์เข้าใจละเอียดมากขึ้นค่ะ ถ้าพร้อมแล้ว…ไปเริ่มกันเลยค่ะ!
*หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงบทความให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้เป็นการชักชวนเพื่อลงทุนแต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ค่า Swap คืออะไร?
Swap คือ ค่าธรรมเนียมหรือผลตอบแทนที่โบรกเกอร์เรียกเก็บจากเทรดเดอร์เมื่อถือออเดอร์ข้ามคืนในตลาด Forex โดยเกิดจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสกุลเงินที่ซื้อและขาย ถ้าส่วนต่างเป็นบวก เทรดเดอร์อาจได้รับเงิน แต่ถ้าเป็นลบก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมนี้
ค่า Swap จะถูกคำนวณทุกครั้งที่มีการถือครองสถานะ (Position) ในการเทรดข้ามคืน ซึ่งแต่ละโบรกเกอร์อาจมีวิธีคำนวณและช่วงเวลาที่แตกต่างกัน และบางโบรกเกอร์ก็อาจไม่มีการคิดค่า Swap เลย ทั้งนี้ อัตรา Swap สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามนโยบายดอกเบี้ยของแต่ละสกุลเงินในแต่ละช่วงเวลา
วิธีคำนวณค่า Swap (สูตรคำนวณสำหรับ Forex)
ค่า Swap สามารถคำนวณได้จากสูตรพื้นฐาน ดังนี้
Swap = ขนาด Lot × อัตรา Swap × จำนวนคืนที่ถือออเดอร์
ความหมายของแต่ละตัวแปรในสูตร
- ขนาด Lot (Lot Size) คือ ปริมาณการซื้อขายในแต่ละออเดอร์ โดย 1 Lot มาตรฐานเท่ากับ 100,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก
- อัตรา Swap (Swap Rate) คือ ค่าธรรมเนียมต่อวัน ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งบวก (รับดอกเบี้ย) หรือเป็นลบ (จ่ายดอกเบี้ย) ขึ้นอยู่กับคู่เงินและทิศทางการเทรด
- จำนวนคืน (Nights) คือ จำนวนวันที่คุณถือออเดอร์ข้ามคืน โดยระบบจะคำนวณ Swap เมื่อผ่านเวลา Cut-off ของโบรกเกอร์
💡 หมายเหตุ: ในวันพุธโดยทั่วไปจะมีการคิดค่า Swap เป็น 3 เท่า เพื่อครอบคลุมดอกเบี้ยในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ตลาดปิดทำการ
ปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราค่า Swap
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราค่า Swap มีหลากหลาย อาทิเช่น
1. อัตราดอกเบี้ยระหว่างสองสกุลเงิน
สกุลเงินที่คุณซื้อและขายมีอัตราดอกเบี้ยแตกต่างกัน จึงจะส่งผลต่อการคำนวณ Swap
2. ทิศทางของการเทรด
หากคุณซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงและขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ คุณอาจได้รับ Swap ในทางบวก แต่หากคุณซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำและขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง คุณอาจต้องจ่าย Swap ในทางลบ
3. ขนาดของตำแหน่ง (Position Size)
ขนาดของการเทรดจะมีผลต่อการคำนวณค่า Swap โดยตำแหน่งที่ใหญ่กว่าจะต้องจ่ายหรือรับ Swap มากกว่าตำแหน่งที่เล็กกว่า
4. เวลาที่เปิดตำแหน่ง
Swap จะถูกคิดในแต่ละวันเวลา 17.00 น. ตามเวลาของนิวยอร์ก ดังนั้น หากคุณถือครองตำแหน่งไปจนถึงเวลานั้น คุณจะต้องชำระค่าธรรมเนียมหรือได้รับ Swap ตามที่กำหนด
Swap Long และ Swap Short คืออะไร?
Swap แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ Swap Long หรือ Swap Short ซึ่งมีความแตกต่างกันดังนี้
| Swap Long | Swap Short |
| ดอกเบี้ยสูงกว่า และขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า คุณอาจได้รับ Swap Positive หรือค่าธรรมเนียมในเชิงบวก โดย Swap Positive สามารถช่วยเพิ่มกำไรให้กับการเทรดของคุณเมื่อถือออเดอร์ข้ามคืน | เมื่อคุณขาย (Short) สกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า และซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า คุณอาจต้องจ่าย Swap Negative หรือค่าธรรมเนียมในเชิงลบ โดย Swap Negative เป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในการถือครองตำแหน่งข้ามคืน |
ทำไมต้องรู้จักค่า Swap?
การรู้จักและเข้าใจค่า Swap มีความสำคัญในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้
การวางแผนการเทรดระยะยาว
หากคุณวางแผนที่จะถือครองตำแหน่งข้ามคืนเป็นระยะเวลานาน การรู้จักการคำนวณ Swap จะช่วยให้คุณสามารถประเมินผลกำไรและขาดทุนจากค่าธรรมเนียมนี้ได้
การจัดการความเสี่ยง
Swap อาจเป็นค่าธรรมเนียมที่สามารถเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ในแต่ละวัน ดังนั้น การเข้าใจวิธีการทำงานของมันก็จะช่วยให้คุณสามารถจัดการความเสี่ยงในการเทรดได้ดีขึ้น
เพิ่มประสิทธิภาพในการเลือกคู่สกุลเงิน
การเลือกคู่สกุลเงินที่มีความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยจะช่วยให้คุณสามารถได้รับ Swap Positive ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสการทำกำไรในการเทรดได้
ข้อควรระวังเกี่ยวกับค่า Swap
การได้รับหรือจ่าย Swap ไม่ใช่เรื่องที่สามารถคาดเดาได้เสมอไป ดังนั้น ผู้เทรดควรระวังและคำนึงถึงปัจจัยหลายๆ ด้าน เช่น ความผันผวนของตลาด อัตราดอกเบี้ยของแต่ละสกุลเงิน และผลกระทบจากการถือครองตำแหน่งข้ามคืน
นอกจากนี้ การตรวจสอบเงื่อนไขของโบรกเกอร์เกี่ยวกับ Swap ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะบางโบรกเกอร์อาจกำหนดอัตรา Swap ที่แตกต่างกันตามเงื่อนไขของตนเอง รวมถึงบางโบรกเกอร์อาจมีค่าธรรมเนียม Swap ที่สูงหรือต่ำกว่าปกติ
รวมทุกข้อที่ควรรู้เกี่ยวกับค่า Swap
Q1: ค่า Swap เกิดขึ้นเมื่อใด?
ค่า Swap จะเกิดขึ้นเมื่อเทรดเดอร์ถือออเดอร์ไว้ข้ามคืน (Overnight) โดยระบบของโบรกเกอร์จะคิดดอกเบี้ยในเวลา Cut-off (ประมาณเที่ยงคืนตามเวลาเซิร์ฟเวอร์ของโบรกเกอร์)
Q2: Swap มีทั้งบวกและลบใช่ไหม?
ใช่ค่ะ ค่า Swap อาจเป็นบวกหรือลบ ขึ้นอยู่กับคู่สกุลเงินที่เทรด ทิศทางของออเดอร์ (Buy/Sell) และอัตราดอกเบี้ยของแต่ละประเทศ ถ้าได้ดอกเบี้ยมากกว่าอีกฝั่ง ก็จะได้ Swap เป็นบวก
Q3: เทรดแบบไม่เสีย Swap ได้หรือไม่?
ได้ค่ะ โบรกเกอร์บางแห่งมีบัญชีที่เรียกว่า “บัญชี Swap-Free” หรือ “บัญชีอิสลาม” สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเสียค่า Swap โดยเฉพาะ
Q4: วันพุธทำไม Swap ถึงถูกคิดมากกว่าปกติ?
เพราะเป็นการชดเชยวันเสาร์-อาทิตย์ที่ตลาด Forex ปิดทำการ โบรกเกอร์จึงคิดค่า Swap 3 เท่าในวันพุธ (บางโบรกอาจเป็นวันอื่น ขึ้นกับระบบของแต่ละแห่ง)
Q5: Swap มีผลต่อกลยุทธ์การเทรดหรือไม่?
มีค่ะ โดยเฉพาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์ถือยาว (Position Trading) หรือเทรดตามแนวโน้ม (Trend Following) หากไม่คำนึงถึง Swap อาจทำให้ต้นทุนสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
สรุป ค่า Swap คืออะไร
ค่า Swap ในการเทรด Forex คือ ค่าธรรมเนียมที่เกิดจากการถือครองตำแหน่งข้ามคืน ซึ่งขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินที่คุณซื้อและขาย การเข้าใจค่า Swap จะช่วยให้ผู้เทรดสามารถบริหารจัดการการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มผลกำไรและลดความเสี่ยงจากค่าธรรมเนียม Swap ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Forexlearning
บทความในด้านเศรษฐกิจที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge
