Swap ถือเป็นหนึ่งในคำศัพท์พื้นฐานที่เทรดเดอร์มือใหม่ต้องรู้จัก เนื่องจากเป็นองค์ประกอบสำคัญของต้นทุนการเทรด ที่อาจส่งผลโดยตรงต่อกำไรหรือขาดทุน โดยเฉพาะเทรดเดอร์สายเทรดยาวข้ามคืนค่ะ
สำหรับบทความนี้ คุณน้าจะพาไปรู้จักว่าค่า Swap คืออะไร? สำคัญอย่างไรกับการเทรด Forex ข้อดีข้อเสียของค่า Swap มีอะไรบ้าง? รวมถึงวิธีการคำนวณคร่าว ๆ เพื่อให้เทรดเดอร์เข้าใจแบบละเอียดมากขึ้นค่ะ ถ้าพร้อมแล้ว…ไปเริ่มกันเลยค่ะ!
*หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงบทความให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้เป็นการชักชวนเพื่อลงทุนแต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ค่า Swap คืออะไร?

Swap คือ ค่าธรรมเนียมหรือผลตอบแทนจากการถือสถานะข้ามคืน (Overnight) โดยเกิดจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสกุลเงินที่ซื้อและสกุลเงินที่ขาย โดยหากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยเป็นบวก (Positive Swap) หมายความว่าเทรดเดอร์จะได้รับค่า Swap จากโบรกเกอร์ แต่หากส่วนต่างเป็นลบ (Negative Swap) เทรดเดอร์จะต้องจ่ายค่า Swap ให้กับโบรกเกอร์นั่นเองค่ะ
ค่า Swap จะถูกคำนวณทุกครั้งที่มีการถือครองสถานะ (Position) ในการเทรดข้ามคืน ซึ่งแต่ละโบรกเกอร์อาจมีวิธีคำนวณและช่วงเวลาที่แตกต่างกัน และบางโบรกเกอร์ก็อาจไม่มีการคิดค่า Swap เลย ทั้งนี้ อัตรา Swap สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามนโยบายดอกเบี้ยของแต่ละสกุลเงินในแต่ละช่วงเวลา
นอกจากคำว่า Swap ยังมีศัพท์ Forex สำคัญอีกมากที่เทรดเดอร์ควรรู้ ซึ่งคุณน้าได้รวบรวมไว้ให้ครบถ้วนในบทความนี้แล้วค่ะ
ปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราค่า Swap
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราค่า Swap มีดังนี้
1. อัตราดอกเบี้ยระหว่างสองสกุลเงิน
สกุลเงินที่คุณซื้อและขายมีอัตราดอกเบี้ยแตกต่างกัน ซึ่งจะส่งผลต่อการคำนวณค่า Swap
2. ทิศทางของการเทรด
หากคุณซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงและขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ คุณอาจได้รับ Swap เมื่อถือออเดอร์ข้ามคืน แต่หากคุณซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำและขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง คุณอาจต้องจ่าย Swap เมื่อถือออเดอร์ข้ามคืน
3. ขนาดของตำแหน่ง (Position Size)
ขนาดของตำแหน่งในการเทรดมีผลต่อการคำนวณค่า Swap โดยขนาดของตำแหน่งที่ใหญ่กว่า จะต้องจ่ายหรือรับค่า Swap มากกว่าขนาดของตำแหน่งที่เล็กกว่า
4. เวลาที่เปิดตำแหน่ง
Swap จะถูกคิดในแต่ละวัน เวลา 17.00 น. ตามเวลาของนิวยอร์ก ดังนั้น หากคุณถือครองตำแหน่งไปจนถึงเวลานั้น คุณจะต้องชำระค่าธรรมเนียมหรือได้รับค่า Swap ตามที่กำหนด
วิธีคำนวณค่า Swap (สูตรคำนวณสำหรับ Forex)
ค่า Swap สามารถคำนวณได้จากสูตรพื้นฐาน ดังนี้
Swap = Lot Size × Swap Rate × จำนวนคืนที่ถือออเดอร์
ความหมายของแต่ละตัวแปรในสูตร
- ขนาด Lot (Lot Size) คือ ปริมาณการซื้อขายในแต่ละออเดอร์ โดย 1 Lot มาตรฐานเท่ากับ 100,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก
- อัตรา Swap (Swap Rate) คือ ค่าธรรมเนียมต่อวัน ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งบวก (Positive Swap) หรือเป็นลบ (Negative Swap) ขึ้นอยู่กับคู่เงินและทิศทางการเทรด
- จำนวนคืน (Nights) คือ จำนวนวันที่คุณถือออเดอร์ข้ามคืน โดยระบบจะคำนวณ Swap เมื่อผ่านเวลา Cut-off ของโบรกเกอร์
ตัวอย่างการคิดค่า Swap
1. คิดค่า Swap สำหรับวันปกติ (ไม่ใช่วันพุธ)
สมมติว่าเปิดสถานะ Long (Buy) คู่เงิน EUR/USD ขนาด 1 Lot โดยโบรกเกอร์กำหนด Swap Rate = -0.5 pips ต่อวัน สามารถคำนวณค่า Swap ได้ดังนี้

ในกรณีที่ค่า Swap เป็นลบ (-) หมายถึงเทรดเดอร์จะต้องจ่ายค่า Swap ให้กับโบรกเกอร์ค่ะ หากต้องการทราบว่าจ่ายเท่าไหร่ในหน่วย USD สามารถแปลงค่าได้ตามสูตรนี้ค่ะ

ดังนั้น คุณต้องเสียค่า Swap 5 USD จากการถือออเดอร์ 1 คืนนั่นเองค่ะ
2. คิดค่า Swap สำหรับวันพุธ
สมมติว่าเปิดสถานะ Long (Buy) คู่เงิน EUR/USD ขนาด 1 Lot โดยโบรกเกอร์กำหนด Swap Rate = -0.5 pips ต่อวัน สามารถคำนวณค่า Swap ได้ดังนี้
โบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะคิด Swap วันพุธเป็น 3 เท่าของค่า Swap ปกติ เพื่อครอบคลุมดอกเบี้ยในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ตลาดปิดทำการ

ในกรณีที่ค่า Swap เป็นลบ (-) หมายถึงเทรดเดอร์จะต้องจ่ายค่า Swap ให้กับโบรกเกอร์ค่ะ หากต้องการทราบว่าจ่ายเท่าไหร่ในหน่วย USD สามารถแปลงค่าได้ตามสูตรนี้ค่ะ

ดังนั้น คุณเสียค่า Swap 15 USD จากการถือออเดอร์ในวันพุธ 1 คืนนั่นเองค่ะ
สำหรับเทรดเดอร์สาย Day Trade ที่ชื่นชอบการเปิดออเดอร์ข้ามคืน อาจไม่เหมาะกับโบรกเกอร์ที่มีค่า Swap เพราะนั่นหมายความว่ายิ่งเทรดเดอร์เปิดออเดอร์มากเท่าไหร่ ยิ่งจะต้องเสียค่า Swap มากขึ้นตามไปด้วยนั่นเองค่ะ

ค่า Swap เป็นบวก คืออะไร?
ค่า Swap เป็นบวก คือ การได้รับค่า Swap เมื่อถือออเดอร์ข้ามคืน
- เกิดขึ้นเมื่อคุณถือสถานะ Buy ในคู่เงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าหรือถือสถานะ Sell ในคู่เงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า ทำให้คุณได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากการถือสถานะนั้น ๆ
ตัวอย่างค่า Swap เป็นบวก (+)
ถ้าคุณถือสถานะ Buy คู่เงิน EUR/USD และอัตราดอกเบี้ยของ EUR สูงกว่า USD คุณจะได้รับค่า Swap เมื่อถือออเดอร์ข้ามคืน
ค่า Swap เป็นลบ คืออะไร?
ค่า Swap เป็นลบ คือ การเสียค่า Swap เมื่อถือออเดอร์ข้ามคืน
- เกิดขึ้นเมื่อคุณถือสถานะ Buy ในคู่เงินที่อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าหรือถือสถานะ Sell ในคู่เงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า ทำให้คุณต้องเสียดอกเบี้ยจากการถือสถานะนั้น ๆ
ตัวอย่างค่า Swap เป็นลบ (-)
หากคุณถือสถานะ Buy คู่เงิน EUR/USD และอัตราดอกเบี้ยของ EUR ต่ำกว่า USD คุณจะต้องจ่ายค่า Swap เมื่อถือออเดอร์ข้ามคืน
Swap Long และ Swap Short คืออะไร?
ค่า Swap แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ Swap Long หรือ Swap Short ซึ่งมีความแตกต่างกันดังนี้
Swap Long | Swap Short |
ค่า Swap Long มีความเกี่ยวข้องกับการถือสถานะ Long Position (Buy) โดยค่า Swap จะเป็นบวก (+) เมื่อถือสถานะ Buy ในคู่เงินที่อัตราดอกเบี้ยสูงกว่า และค่า Swap จะเป็นลบ (-) เมื่อถือสถานะ Buy ในคู่เงินที่อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า | ค่า Swap Short มีความเกี่ยวข้องกับการถือสถานะ Short Position (Sell) โดยค่า Swap จะเป็นบวก (+) เมื่อถือสถานะ Sell ในคู่เงินที่อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า และค่า Swap จะเป็นลบ (-) เมื่อถือสถานะ Sell ในคู่เงินที่อัตราดอกเบี้ยสูงกว่า |
ทำไมต้องรู้จักค่า Swap?
การรู้จักและเข้าใจค่า Swap มีความสำคัญในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้
1. การวางแผนการเทรดระยะยาว
หากคุณวางแผนที่จะถือครองสถานะข้ามคืนเป็นระยะเวลานาน การรู้จักการคำนวณ Swap จะช่วยให้คุณสามารถประเมินผลกำไรและขาดทุนจากค่าธรรมเนียมนี้ได้
2. การจัดการความเสี่ยง
Swap อาจเป็นค่าธรรมเนียมที่สามารถเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ ดังนั้น การเข้าใจวิธีการทำงานของมันก็จะช่วยให้คุณสามารถจัดการความเสี่ยงในการเทรดได้ดีขึ้น
3. เพิ่มประสิทธิภาพในการเลือกคู่สกุลเงิน
การเลือกคู่สกุลเงินที่มีความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ย จะช่วยให้คุณสามารถได้รับ Swap Positive ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสการทำกำไรในการเทรดได้
ข้อควรระวังเกี่ยวกับค่า Swap
การได้รับหรือจ่าย Swap ไม่ใช่เรื่องที่สามารถคาดเดาได้เสมอไป ดังนั้น ผู้เทรดควรระวังและคำนึงถึงปัจจัยหลาย ๆ ด้าน เช่น ความผันผวนของตลาด อัตราดอกเบี้ยของแต่ละสกุลเงิน และผลกระทบจากการถือครองตำแหน่งข้ามคืน
นอกจากนี้ การตรวจสอบเงื่อนไขของโบรกเกอร์เกี่ยวกับ Swap ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะบางโบรกเกอร์อาจกำหนดอัตรา Swap ที่แตกต่างกันตามเงื่อนไขของตนเอง รวมถึงบางโบรกเกอร์อาจมีค่าธรรมเนียม Swap ที่สูงหรือต่ำกว่าปกติ

⭐ คุณน้าแนะนำโบรกเกอร์คุณสมบัติเด่น!
การเลือกโบรกเกอร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ สำหรับการเทรด Forex ค่ะ
เพราะโบรกเกอร์จะพัฒนาระบบและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเทรดของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นให้ได้มากที่สุด
สำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มั่นใจว่า โบรกเกอร์ Forex แบบไหนดี?
คุณน้าได้รวบรวมการจัดอันดับของโบรกเกอร์ในทุกคุณสมบัติ เช่น สเปรดต่ำ, เทรดทอง หรือโบนัสฟรี

💡 คัมภีร์เริ่มต้น มือใหม่หัดเทรด
มือใหม่หัดเทรดที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? คุณน้าได้รวบรวมเนื้อหาสำคัญที่ถือเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับการเทรด Forex มาไว้ให้แล้วที่นี่!
🔍 ตัวอย่างเนื้อหา มือใหม่หัดเทรดต้องรู้!
รวมทุกข้อที่ควรรู้เกี่ยวกับค่า Swap
Q1: ค่า Swap เกิดขึ้นเมื่อใด?
ค่า Swap จะเกิดขึ้นเมื่อเทรดเดอร์ถือออเดอร์ไว้ข้ามคืน (Overnight) โดยระบบของโบรกเกอร์จะคิดดอกเบี้ยในเวลา Cut-off (ประมาณเที่ยงคืนตามเวลาเซิร์ฟเวอร์ของโบรกเกอร์)
Q2: Swap มีทั้งบวกและลบใช่ไหม?
ใช่ค่ะ ค่า Swap อาจเป็นบวกหรือลบ ขึ้นอยู่กับคู่สกุลเงินที่เทรด ทิศทางของออเดอร์ (Buy/Sell) และอัตราดอกเบี้ยของแต่ละประเทศ
Q3: เทรดแบบไม่เสีย Swap ได้หรือไม่?
ได้ค่ะ โบรกเกอร์บางแห่งมีบัญชีที่เรียกว่า “บัญชี Swap-Free” หรือ “บัญชีอิสลาม” สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเสียค่า Swap โดยเฉพาะ
Q4: วันพุธทำไม Swap ถึงถูกคิดมากกว่าปกติ?
เพราะเป็นการชดเชยวันเสาร์-อาทิตย์ที่ตลาด Forex ปิดทำการ โบรกเกอร์จึงคิดค่า Swap 3 เท่าในวันพุธ (บางโบรกอาจจะคิดวันอื่น ขึ้นกับระบบของแต่ละแห่ง)
Q5: Swap มีผลต่อกลยุทธ์การเทรดหรือไม่?
มีค่ะ โดยเฉพาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์ถือยาว (Position Trading) หรือเทรดตามแนวโน้ม (Trend Following) หากไม่คำนึงถึง Swap อาจทำให้ต้นทุนสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
สรุปค่า Swap คืออะไร
ค่า Swap ในการเทรด Forex คือ ค่าธรรมเนียมที่เกิดจากการถือครองสถานะข้ามคืน ซึ่งขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินที่คุณซื้อและขาย การเข้าใจค่า Swap จะช่วยให้ผู้เทรดสามารถบริหารจัดการการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงจากค่าธรรมเนียม Swap ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Forexlearning
บทความในด้านเศรษฐกิจที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge