5 แนวโน้มที่ส่งผลต่อการลงทุนปี 2023

5 แนวโน้มที่ส่งผลต่อการลงทุนปี 2023
Table of Contents

ใกล้จะสิ้นปีแล้ว พอร์ตการลงทุนของทุกคนยังอยู่ดีหรือเปล่าคะ ทางคุณน้านี่เจ็บช้ำน้ำใจพอสมควรเลยค่ะ เพราะการลงทุนในปี 2022 ที่ผ่านมา ถือว่าหนักหน่วงและยับเยินมากทีเดียว หรืออาจเรียกว่า “ปีแห่งการปราบเซียน” ก็ว่าได้ ดังนั้น คุณน้าจะพาทุกคนไปดู 5 แนวโน้มที่ส่งผลต่อการลงทุนปี 2023 กันค่ะ เผื่อจะทำให้ทุกคนมีไอเดียในการลงทุนมากขึ้น


ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2022 – 2023

ก่อนที่เราจะไปดูแนวโน้มที่ส่งผลต่อการลงทุน อันดับแรก เรามาดูภาพรวมเศรษฐกิจไทย รวมถึงปัจจัยที่ส่งผลกระทบของปีนี้จนถึงปีหน้ากันก่อนค่ะ

ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2022 – 2023

เศรษฐกิจไทยปี 2022

หลังผ่อนคลายจากมาตรการควบคุมโรคไป แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปียังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวเร็วเป็นพิเศษ ประกอบกับการอุปโภคบริโภคและการลงทุนจากภาคเอกชน ซึ่งทำให้ GDP ไทยปี 2022 ขยายตัวต่อเนื่องที่ 3.2% จากเดิม 1.5% ในปี 2021 ขณะที่ภาคการก่อสร้างและภาคเกษตรยังคงหดตัว เนื่องจากผลผลิตได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

อย่างไรก็ดี แนวโน้มเศรษฐกิจโลกกลับไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวังมากนัก เนื่องจากหลาย ๆ ประเทศเริ่มเข้าสู่ภาวะชะลอตัวและถดถอยจากวิกฤตเงินเฟ้อ ประกอบกับนโยบายการเงินที่ตึงตัว ทำให้ไทยได้รับอิทธิพลจากพิษเศรษฐกิจโลกด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะด้านการส่งออกค่ะ

ส่วนในภาคการลงทุน ปี 2022 นับเป็นปีที่มีความผันผวนสูง และแทบจะผันผวนตลอดทั้งปีจากปัจจัยต่าง ๆ อีกทั้ง ความผันผวนนั้นยังเกิดขึ้นกับทุกสินทรัพย์ด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น พันธบัตร คริปโทเคอร์เรนซี ทองคำ ตลอดจนค่าเงิน ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า ความผันผวนนี้จะยาวไปจนถึงปี 2023 อีกด้วย


เศรษฐกิจไทยปี 2023

ส่วนเศรษฐกิจไทยในปี 2023 ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (EIC) มองว่า มันอาจจะไม่สดใสมากนัก เนื่องจากไทยได้รับแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ประกอบกับความไม่แน่นอนรอบด้าน ทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจอเมริกา จีน และประเทศคู่ค้าอื่น ๆ รวมถึงปัจจัยเสี่ยงทั้งในด้านวิกฤติราคาพลังงาน วิกฤติอาหารโลก วิกฤติความขัดแย้ง การปรับขึ้นดอกเบี้ย รวมถึงการอ่อนค่าของเงินบาท

ด้วยสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ทำให้ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมต้องเตรียมพร้อมรับมืออย่างหนัก โดยเฉพาะในส่วนที่มีการพึ่งพาตลาดต่างประเทศ เพราะข้อจำกัดทางการคลังที่ทำให้รัฐบาลต้องระมัดระวังการใช้จ่ายในการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นค่ะ


แนวโน้มที่ส่งผลต่อการลงทุนปี 2023

แนวโน้มที่ส่งผลต่อการลงทุนปี 2023

1. นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมามากขึ้น

หลังไทยเริ่มผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศ ก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น โดยจากสถิติ 9 เดือนแรก พบว่า มีนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 6 ล้านคน และหากปีหน้าภาคการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวอย่างเต็มที่ จะกระตุ้นให้เศรษฐกิจกลับมาคึกคักอีกครั้ง เพราะแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจ คือ ภาคการท่องเที่ยว ซึ่งคิดเป็น 15% ของ GDP ไทย

ดังนั้น ภาคท่องเที่ยวและบริการ จึงเป็นธีมที่สำคัญในการลงทุน ทั้งธุรกิจโรงแรม คมนาคม ร้านอาหาร รวมถึงของฝาก ก็จะได้รับอานิสงค์ไปด้วยเช่นกันค่ะ


แนวโน้มที่ส่งผลต่อการลงทุนปี 2023

2. นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาลงทุนในไทย

หลังเปิดประเทศ นักลงทุนต่างชาติก็เริ่มกลับมาลงทุนในไทยอีกครั้ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้บ่งชี้ถึงการ ‘เป็นฐานการผลิตที่ยังคงมีความสำคัญ’ โดยเห็นได้จากข่าว BYD บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของจีน ตัดสินใจซื้อที่ดินเพื่อตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า หรือแม้กระทั่ง AWS ผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ในเครือ Amazon ที่ตัดสินลงทุนครั้งสำคัญด้วยการตั้ง Cloud Region ในไทย

แม้ว่าก่อนหน้านี้ ความนิยมในไทยอาจจะไม่ค่อยหวือหวาเท่าประเทศอื่น ๆ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า คุณสมบัติในการเป็นฐานการผลิตของเราก็มีอย่างครบถ้วน ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมา หลังจากความขัดแย้งระหว่างนานาประเทศที่ทวีความรุนแรงขึ้น ไทยจึงเริ่มกลับมาเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอีกครั้ง ดังนั้น ธีมการลงทุนที่เกี่ยวกับการลงทุนจากต่างชาติ รวมถึงธุรกิจในไทยที่ได้รับการเกื้อหนุนก็นับว่า มีความสนใจไม่แพ้กันค่ะ


แนวโน้มที่ส่งผลต่อการลงทุนปี 2023

3. ดอกเบี้ยขาขึ้น

ในช่วงปีที่ผ่านมา เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เศรษฐกิจทั่วโลกค่อนข้างชะลอตัวจากวิกฤตเงินเฟ้อค่ะ ดังนั้น สิ่งที่ตามมาก็คือ การปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลาง ซึ่งเกิดขึ้นทั้งในอเมริกา ยุโรป อังกฤษ รวมถึงไทยด้วยเช่นกัน โดยการปรับขึ้นดอกเบี้ยนี้จะยังคงอยู่ต่อไป จนกว่าเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจค่ะ และจากการคาดการณ์ ระดับดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะสูงถึง 5 – 6% ในช่วงต้นปี 2023

ดังนั้น ระดับดอกเบี้ยที่ค่อนข้างน่ากังวลนี้ จะส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์หลายตลาดยาวไปจนถึงปีหน้าค่ะ แม้ว่าไทยอาจไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะแบงก์ชาติปรับดอกเบี้ยเพียงเล็กน้อย แต่ธุรกิจจากต่างชาติ หรือธุรกิจที่มีการดำเนินการกับต่างชาติก็จะได้รับผลกระทบไปไม่น้อยเลยค่ะ


แนวโน้มที่ส่งผลต่อการลงทุนปี 2023

4. เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะชะลอตัว – ถดถอย

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2023 จะเติบโตประมาณ 2.7% ซึ่งเป็นการเติบโตที่อ่อนแอที่สุด นับตั้งแต่ปี 2001 โดยเฉพาะตลาดใหญ่อย่างอเมริกาและยุโรป ขณะที่ตลาดเอเชียอยู่ในระดับที่ยังพอไปได้ ด้านประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจปีหน้ามีความท้าทายเป็นพิเศษ เพราะจะเริ่มติดลบ และเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย

ดังนั้น ภูมิภาคเอเชียจึงเป็นตลาดที่น่าจับตามอง เพราะทนรับแรงกระแทกได้ เสียหายน้อยกว่าตลาดอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลาดอาเซียนที่กลายเป็น Safe Haven ของนักลงทุน


แนวโน้มที่ส่งผลต่อการลงทุนปี 2023

5. ตลาดหมีและตลาดกระทิง

ตั้งแต่ต้นปี 2022 ตลาดหุ้น Nasdaq ปรับตัวลงมาแล้วกว่า 30% ซึ่งคาดว่า การปรับตัวนี้จะยังไม่จบ เพราะตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 3 ของทั้ง Google, Meta, Snap และ Amazon ออกมาต่ำกว่าคาด รวมไปถึงการเลิกจ้างงานของบริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Amazon ที่กดดันตลาดให้เข้าสู่ภาวะ “ตลาดหมี” อย่างเต็มตัว และอาจเกิดเศรษฐกิจถดถอยร่วมด้วย แม้จะฟังดูน่ากลัว แต่หากผ่านไปได้ ตลาดก็จะกลับตัวมาเป็นขาขึ้น หรือ “ตลาดกระทิง” นั่นเองค่ะ

ดังนั้น ก่อนที่จะถึงตลาดกระทิงตามที่เฝ้าหวัง คุณน้าก็ขอให้ทุกคนเตรียมรับมือกับตลาดหมีในปีหน้ากันก่อนนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการกระจายความเสี่ยง และการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย เพื่อเซฟเงินทุนของเราไว้ไปลงทุนในตลาดกระทิงค่ะ และอย่าลืมหาธีมการลงทุนที่น่าสนใจหากพ้นตลาดหมีไว้ด้วยนะคะ การช้อนซื้อในช่วงราคาต่ำ ๆ ก็นับว่าน่าสนใจมากทีเดียวค่ะ


โดยสรุปแล้ว ภาพรวมเศรษฐกิจปี 2022 – 2023 ยังคงน่าเป็นห่วงอยู่ เพราะยังไม่พ้นจากระดับเงินเฟ้อ อีกทั้งยังเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอยด้วย ดังนั้น นอกจากการหาธีมลงทุนที่น่าสนใจแล้ว ทุกคนอาจจะต้องเตรียมรับมือกับวิกฤตในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยค่ะว่า มันจะจบลงเมื่อใด

ดังนั้น คุณน้าก็ขอให้ทุกคนตั้งสติและอย่าประมาทกับการลงทุนเด็ดขาดนะคะ รวมถึงอย่าลืมบริหารจัดการความเสี่ยง และบริหารเงินในกระเป๋าให้ดีด้วยนะคะ โปรดจำไว้ว่า แม้เศรษฐกิจจะถดถอย แต่มันก็สามารถกลับมาดีขึ้นได้อย่างแน่นอนค่ะ หวังว่า แนวโน้มที่นำเสนอไปจะทำให้ทุกคนมีไอเดียในการลงทุนปี 2023 ค่ะ


ขอบคุณข้อมูลจาก : SET Invest Now, Kasikorn Research, The Standard, Thairath, สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

khunnaphatrade
khunnaphatrade
Recent Post
วิเคราะห์ทองคำวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567
วิเคราะห์ทองคำวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 By คุณน้าพาเทรด

วิเคราะห์ทองคำวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งมีข่าวสำคัญ สำหรับวันนี้คาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวลงไปที่บริเวณ 2,610-2,590 ดอลลาร์

3 สินทรัพย์น่าลงทุน หลังโดนัลด์ ทรัมป์คว้าชัย!
3 สินทรัพย์น่าลงทุน หลังโดนัลด์ ทรัมป์คว้าชัยในสมัยที่ 2

คุณน้าจะพาทุกคนมาส่อง 3 สินทรัพย์น่าลงทุนในยุคของโดนัลด์ ทรัมป์ จะมีสินทรัพย์ไหนเข้าตาบ้าง และผลกระทบของเศรษฐกิจไทยจะรุนแรงมากแค่ไหน เพื่อให้ทุกคนสามารถปรับพอร์ตลงทุนได้อย่างทันท่วงที

วิเคราะห์ทองคำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567
วิเคราะห์ทองคำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 By คุณน้าพาเทรด

วิเคราะห์ทองคำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งไม่มีมีข่าวสำคัญ สำหรับวันนี้คาดการณ์ว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปที่บริเวณ 2,660-2,670 ดอลลาร์