ตลาดกระทิง คือ ? พร้อมกับ Checklist 5 ข้อก่อนทำการเทรด

ตลาดกระทิง คือ ? พร้อมกับ Checklist 5 ข้อก่อนทำการเทรด
Table of Contents

ตลาดขาขึ้นหรือตลาดที่มีเอื้ออำนวยในการทำกำไรที่สุดของเทรดเดอร์ คือ ตลาดกระทิง (Bull Market) ซึ่งถึงแม้ว่าเราอาจไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าในท้ายที่สุดแล้วการ Breakout ทำ New High ของ SET Index ในแต่ละครั้งจะจบลงด้วยการที่มันจะกลายเป็นขาขึ้นไปตลอดรอดฝั่งหรือเป็นเพียง Whipsaw โดยทั่วไป แต่สัญญาณของตลาดกระทิงคือสัญญาณที่เราไม่สามารถปล่อยโอกาสในการทำกำไรได้

ตลาดกระทิง คือ ?

ตลาดกระทิง คือ

ตลาดกระทิง คือ ช่วงเวลาหนึ่งที่ตลาดกำลังปรับราคาสูงขึ้น ปริมาณซื้อขายเพิ่มมากขึ้น หรือช่วงที่อุปสงค์มากกว่าอุปทาน ซึ่งเศรษฐกิจมีสภาพคล่องสูง ถือว่าเป็นทิศทางที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ เนื่องจากนักลงทุนกำลังเริ่มมองโลกการลงทุนในแง่ดี เป็นการสะท้อนตลาดในแง่บวก

ตลาดกระทิง ต่างจาก ตลาดหมีอย่างไร ?

ตลาดกระทิง (Bull Market) คือ ราคาของสินทรัพย์มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และปริมาณอุปสงค์มากกว่าอุปทาน ส่วน ตลาดหมี (Bear Market) คือ ราคาสินทรัพย์ที่มีการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง และอุปสงค์น้อยกว่าอุปทาน ซึ่งลักษณะทั้ง 2 ตลาดจะมีความแตกต่างกัน

Checklist 5 ข้อก่อนทำการเทรดช่วง ตลาดกระทิง

1. พยายามทำให้พอร์ตมีแต่หุ้นที่เป็นขาขึ้น

ข้อแรกนี้เป็นสิ่งที่ควรจะทำอยู่อย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว อย่างไรก็ตามในตลาดขาขึ้นนั้นนี่คือสิ่งที่สำคัญมากๆเลยทีเดียว นั่นก็เพราะการที่หุ้นของคุณนั้นมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นในขณะเดียวกับที่ตลาดเป็นขาขึ้น มันคือหลักประกันว่าอย่างน้อยๆที่สุดแล้ว พวกมันก็ได้หันหัวไปในทางเดียวกับกระแสของตลาดโดยรวมนั่นเอง นี่ทำให้เรามีแรงส่งจาก 2 หลักคือทั้งตัวของหุ้นเองและจากตลาด ซึ่งแน่นอนว่าหุ้นที่อยู่ในขาขึ้นเมื่อตลาดเป็นขาขึ้นคือหุ้นที่มีโอกาสจะโบยบินไปได้ไกลที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

2. หุ้นของเรา “นำ” หรือ “ตาม” ตลาด

คนส่วนใหญ่มักทำใจไม่ได้ที่จะต้องซื้อหุ้นนำตลาดเมื่อตลาดเป็นขาขึ้น พวกเขามักให้ข้อแก้ตัวที่ว่าพวกมันได้วิ่งขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว …แต่นีคือสิ่งที่ผิดพลาดอย่างมหันต์!! นั่นก็เพราะตามสถิติแล้วหุ้นนำตลาดคือหุ้นที่จะให้ผลตอบแทนเป็นอย่างสูงเมื่อตลาดเป็นขาขึ้น นอกจากนี้แล้วผลการทดสอบยังได้บ่งชี้ว่าในระยะยาวแล้วการเข้าซื้อหุ้นนำตลาดเมื่อตลาดกลายเป็นขาขึ้นนั้น (ถึงแม้ว่ามันจะได้วิ่งขึ้นมาก่อนแล้ว) จะสามารถช่วยให้พอร์ทของเราเติบโตเหนือกว่าการซื้อหุ้นตามตลาดอย่างมากมาย ดังนั้นแล้วลองตรวจสอบดูว่าหุ้นแต่ละตัวในพอร์ทของคุณแข็งแกร่งกว่าตลาดอยู่หรือไม่อย่างไร และคุณควรพยายามปรับพอร์ทให้มีหุ้นพวกนี้เอาไว้เป็นประจำด้วย

3. ปรับ Stop อย่าให้แคบเกินไป

ไม่ว่าคุณจะเล่นหุ้นตัวเล็กหรือตัวใหญ่และผันผวนมากน้อยแค่ไหน ในช่วงที่ตลาดเป็นขาขึ้นคุณควรที่จะถ่างจุด Stop ออกมาอย่าให้แคบเกินไป นั่นก็เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งเมื่อตลาดเป็นขาขึ้นก็คือ คุณต้องรู้จักการ Let Profits Run ไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้นั่นเอง เราต้องรู้จักตักตวงผลกำไรก้อนใหญ่ที่สุดเมื่อตลาดเป็นแบบนี้ อย่าได้พยายามกระโดดเข้าๆออกๆ หรือนั่งจ้องตลาดทุกวันเวลา คุณต้องรู้จักนั่งนิ่งๆให้นานที่สุดจนกว่างานเลี้ยงจะจบลงโดนท่องเอาไว้ว่า “It’s a Bull Market!”

4. กระจายความเสี่ยงเท่ากับการรับประกันโอกาสในการทำกำไร

“เมื่อตลาดเป็นขาขึ้นขี้หมายังกลายเป็นทอง” นี่คือประโยคที่คุณต้องจำเอาไว้ สถิติว่าไว้ว่า 3 ใน 4 ของหุ้นในตลาดมักวิ่งขึ้นไปไม่ว่ามันจะดีหรือร้ายแค่ไหน ลองคิดดูนะครับกลยุทธ์การลงทุนส่วนใหญ่มักทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำเมื่อตลาดมีแนวโน้มขาขึ้นเป็นชัดเจนแทบทั้งสิ้น และจะเกิดอะไรขึ้นหากว่าคุณถือหุ้นอยู่เพียง 2-3 ตัวในพอร์ตด้วยความคาดหวังอย่างเต็มเปี่ยมแต่กลับไม่ใช่เวลาของพวกมัน … นี่คือสิ่งที่คุณไม่อาจรับได้!! คุณอาจจำเป็นต้องรอไปถึงรอบใหญ่รอบหน้าหากพวกมันพลาดเป้าไปอยู่ในกลุ่ม 1 ใน 4 ที่ไม่วิ่งขึ้นไป ดังนั้นแล้ว การกระจายความเสี่ยงจึงเท่ากับการรับประกันโอกาสในการทำกำไรของคุณ พยายามปรับพอร์ทให้กระจายออกไปแต่ไม่ถึงกับเหวี่ยงแห การมีหุ้น 10 – 15 ตัวเป็นกลยุทธ์การรับประกันกำไรที่ง่ายที่สุดเมื่อตลาดเป็นขาขึ้น

5. อย่าสวนตลาด

หลายๆคนเป็นโรคชอบค้านตลาด!! นี่เป็นสิ่งที่อันตรายเลยทีเดียว คุณไม่ควรเป็นฝ่ายค้านกับตลาดโดยเฉพาะเมื่อตลาดอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นใหญ่ เมื่อตลาดเป็นขาขึ้นนั้นหากคุณติด Short Position อยู่จงรู้จัก Cover Position ปกป้องตัวเองซะ และหากไม่มีก็อย่าได้พยายาม Short สวนตลาดและสวนแนวโน้ม สถิติและการทดสอบได้บ่งชี้อย่างชัดเจนว่านี่คือหนทางในการหมดตัวในระยะยาวด้วย Degree ที่สูงมาก ๆ จำเอาไว้ว่าเมื่อต้องเล่นกับตลาดแล้ว “ถ้าไม่ตามใจมันก็อย่าไปขัดใจมัน”

สรุป

ตลาดกระทิงเป็นช่วงที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ เนื่องจากถือว่าเป็นช่วงตลาดขาขึ้น คุณน้าจึงได้มี 5 ข้อเอาไว้เช็คก่อนที่จะทำการเทรดในช่วง Bull Market ค่ะ คือการพยายามกระจายความเสี่ยงที่ถือว่าเป็นโอกาสในการทำกำไร, การปรับพอร์ตให้มีแต่สินทรัพย์ที่เป็นขาขึ้น, ปรับช่วง Stop อย่าให้แคบเกินไป และอย่าพยายามสวนแนวโน้มของตลาด โดยเฉพาะเมื่อตลาดมีแนวโน้มขาขึ้นใหญ่ ซึ่งเทรดเดอร์สามารถนำกลยุทธ์ที่คุณน้าแนะนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับกลยุทธ์การเทรดของตนเอง และอย่าลืมการเทรดย่อมมีความเสี่ยงเสมอ ดังนั้นอย่าลืมเตรียมความพร้อมรับมือกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นด้วยนะคะ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Finxpd

บทความในด้านเศรษฐกิจที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

คุณหลาน
คุณหลาน
Recent Post
5 โบรกเกอร์ Forex ไม่มีค่า Swap 2024
โบรกเกอร์ Forex ไม่มีค่า Swap (Free Swap) แห่งปี 2024

โบรกเกอร์ Forex ไม่มี ค่า Swap (Free Swap) แห่งปี 2024 จะมีโบรกเกอร์ไหนที่น่าสนใจบ้างนะ? ในวันนี้คุณน้าจะพาทุกคนไปรู้จัก 5 โบรกเกอร์ Forex Free Swap  ได้แก่ IUX, Octa, GMI Markets, FBS และ XM